วันนี้มาระบาย เป็นความรู้สึกที่มีตอนนี้ ยาวครับอ่านใหม?
ผมเคยมีแฟนครับไม่ได้หล่ออันนี้รู้ตัวแต่นิสัยผมก็ไม่ได้แย่ครับ
หลายๆเรื่องครับที่ทำให้ผมรู้สึกแย่กับเขาจนทุกวันนี้
- แม่เขาขาหักเขากลับบ้านเย็นทุกวันกลัวแม่เขาหิว ผมเลยบอกว่าผมจะเอาข้าวไปให้เองก็ได้
บางวันผมก็ไปทำกับข้าวให้เองเลยแล้วแวะนั้งคุย ถ้าไปไม่ได้ผมจะฝากแมสที่รู้จักกันเอาข้าวไปส่งให้
ทำแบบนี้ประมาณ 11 เดือนจนแม่เขาตัดเผือกเดินได้ปกติ
- เขาบอกว่าเขาอยากให้ผมเลิกเหล้าและลดน้ำหนักหน่อยเพราะห่วงสุขภาพ(เขาทำงานสายสุขภาพเลยอาจจะขัดตา)
ผมก็เลิกเหล้าให้เลยเพราะผมก็คิดจะเลิกนานแล้ว ผมก็เลยเลิกเหล้า เลิกไปนั้งกินเหล้า หันมาออกกำลังกาย
ตอนนั้นไม่แน่ใจน้ำหนักเท่าไรแต่น่าจะ 130+ ตอนนี้เหลือ 107 กิโล สูง 183 โชคดีที่ตัวเองสูงเลยไม่ตุ้ต้ะ
จริงๆก่อนหน้านี้เคยลดไปถึง 98 ละแต่มีปัญหานิดหน่อยเลยขึ้นมา110 แต่พอจบก็มาเริ่มลดใหม่คุมอาหารใหม่ ตอนนี้ก็มา107 ละ จะพยายามเรื่อยๆ
ตอนนั้นเขาว่างเมื่อไรเราก็จะไปฟิตเนตกัน ถ้าไม่ว่างผมก็จะไปคนเดียวหรือไม่ก็ไปปั่นจักรยาน วิ่งๆเดินๆสวนแถวบ้าน
ตอนนี้ผ่านมา 8 ปี ผมเลิกเหล้าได้ละไม่กินและกินไม่ได้เลย เลิกเที่ยวร้านเหล้า ผับ บาร์ถาวรได้ละ
- นิสัยส่วนตัวไม่เจ้าชู้เลย มีข้อพิสูจน์หลายอย่าง เอาง่ายๆแฟนเก่าไม่หึงไม่หวงไม่ตามอะไรเลยเพราะรู้ว่าผมไม่มีอะไรแย่ๆ
คบกันมา4ปีไม่ได้ทะเลาะอะไรเลยเพราะแฟนผมก็ไม่งี่เง่า มีเหตุผล เราคบแบบคนโตแล้ว ว่างก็เจอไม่ว่างก็ส่งกำลังใจเรื่องงานกัน
เวลานัดกันก็ค่อยไปเจอกัน ผมไม่เคยผิดนัด แล้วก็ผมไม่เคยด่าแรงๆ ค่อนข้างเป็นคนใจเย็น ผมไม่เคยบอกว่าผมจะไปใหนผมว่ามันน่ารำคาญ
ที่ต้องมาบอก แฟนผมก็ไม่ค่อยสนใจอะไรมากมายแต่ถ้าถามมาเมื่อไรผมจะบอกว่าอยู่ใหนไม่เคยโกหกแม้สักครั้งเดียว
- เรื่องการงานผมยอมรับว่าเธออาจจะหาได้เยอะกว่าผม2-3เท่าแต่ผมก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเงินของเขาหรอก เขาก็ไม่มายุ่งอะไรกับผม
เพราะว่าผมเคยเล่าให้ฟังว่าผมอะเก็บเงินราวๆ 30%ของรายได้ทุกเดือน มีสลากออมสินเพราะเคยถูกหลักหมื่นพาเธอไปเที่ยวทะเลมา
การงานผมก็โอเคนะ
- พ่อเขามีธุรกิจ ผมก็เคยช่วยเขาทำงานบ้างพ่อเขาก็ชอบผมเพราะว่างานเราคล้ายกันก็เลยช่วยพ่อเขาหลายครั้ง แม่เขาก็ชอบจากที่ตอนดูแล
ยายเขายิ่งชอบผมเพราะว่าผมทำกับข้าวได้ ผมชอบเรียนรู้เพราะชอบทำอาหารด้วย อยากจะมีร้านอาหารของตัวเองเลยมักจะเรียนรู้ตลอดถ้ามี คนจะสอนเขาต้อนรับผมเหมือนลูกชายคนนึงด้วยซ้ำและอีกหลายอย่างๆที่ผมเข้ากับบ้านนี้ได้อย่างดี แต่แล้วเหมือนความฝัน วันนึงเธอก็ขอเลิกกับผมเพราะ....
เมื่อเราเริ่มจริงจังกับชีวิตคู่ เราก็เริ่มจะเข้าสังคมของเพื่อนด้วย เขามาสังคมผม ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร แต่ยังไม่ได้พาไปหาเพื่อนสนิท
เพราะรวมกันยากหน่อย แต่เพื่อนร่วมงานเจอหมดแล้วเพราะพาไปงานแต่งรุ่นพี่ที่ทำงานด้วย แต่เมื่อผมไปในสังคมเธอเท่านั้นละ....
ญาติเธอรู้สึกว่าเธอควรจะมีแฟนที่ดีมากกว่านี้ น่าจะหาได้ดีกว่านี้และเป็นคนมีธุรกิจเหมือนพ่อของเธอจะได้ไม่ลำบาก
แต่ทางพ่อแม่เขาก็จะพูดช่วยผมว่าธุรกิจที่มีตอนนี้ก็เยอะแยะ ถ้าแต่งๆไปก็ให้ออกงานเก่ามาช่วยดูธุรกิจที่บ้านก็ได้
เพราะผมทำได้
เพื่อนเธอต่อหน้าก็ดูโอเคแต่พอลับหลังก็พูดไม่ต่างกับญาติของเธอ อยากให้เธอมีผู้ชายที่ดีกว่านี้ เหมาะสมมากกว่านี้
แต่ร้ายกว่าญาติเธอคือเพื่อนๆพากันแนะนำผู้ชายให้เธอทั้งๆที่เธอมีผมอยู่และสุดท้ายเธอก็เลือกผู้ชายคนนั้น
เพราะเธอดันคิดตามเพื่อนๆเธอ
เราก็เลิกกันไปแต่เราก็ยังได้เจอกันอยู่บ้างเพราะว่าผมก็ยังติดต่อกับเพื่อนของเธอคนนึงอยู่เพราะเป็นเจ้าของร้านอาหารที่ผมและเจ้านายชอบ
เวลาเราเจอกันเธอก็มาทักประมาณว่าสบายดีใหม มากับแฟน อย่างงั้นอย่างงี้ คือมาอวดว่าแฟนนั้นนี้ ทำเอาผมรู้สึกว่า ทำไมเธอเปลี่ยนไปขนาดนี้แสดงว่าเมื่อก่อนเธอไม่ภูมิใจตัวผมเลยสิผมไม่เคยเห็นอาการแบบนี้เลยยกเว้นอาการขอบใจที่ดูแลแม่ให้
แต่แล้วเมื่อเธอกับเขาคบกันมาสักระยะนึง แฟนคนนี้เป็นคนโมโหร้าย พี่เจ้าของร้านอาหารบอกว่า เธอโดนทำร้ายบ่อยครั้งมากเลยหลังๆเนี่ย
เห็นตาเขียวมากินข้าวยังเคยเลย สุดท้ายเธอก็เลิกกับเขา ในใจผมพูดตรงๆสมน้ำหน้าอะแต่มุมนึงก็สงสารอาจจะเพราะเป็นคนเคยรักมั้ง
เราได้มาเจอกันครับโดยบังเอิญ เธอก็ถามว่ามาทำอะไรที่ห้าง ผมก็บอกว่าผมมากินข้าวและจ่ายค่าบัตรเครดิต
เธอก็เลยบอกว่าไปกินข้าวกันใหมเราก็มากินเหมือนกันไม่ได้เจอกันนานแล้ว
ผมก็อืมก็ไปนั้งคุยกันถามไถ่กันตามคนรู้จัก ผมก็บอกว่าเป็นไงบ้างละได้ข่าวละ เธอก็บอกว่าอืมขอบใจนะที่ยังห่วง
ผมก็บอกว่าก็คนเคยรู้จักกันก็ต้องห่วงบ้างละ เธอก็บอกว่าแค่คนรู้จักจริงๆเหรอ ผมก็บอกว่าอืม เธอก็พูดอะไรสักอย่างละจำไม่ได้แต่ประมาณว่า
ถ้าให้อภัยเธอได้เป็นไปได้ใหมเราจะกลับมาลองเริ่มกันใหม่...
ผมก็บอกว่า เราอะเป็นเพื่อนกันดีแล้วเราคงเริ่มใหม่กันไม่ได้หรอก เธอก็อืมและบอกงั้นไปนะ ผมก็บอกว่าโชคดีสู้ๆนะ
เธอก็ยิ้มๆแล้วออกจากร้านไป
ใจจริงๆอยากจะหัวเราะสมน้ำหน้าแต่ก็ไม่ใช่คนบ้าที่เห็นคนเจ็บซ้ำใจมาแล้วจะหัวเราะเยาะ ดูไม่ค่อยแมนแต่ผมไม่เคยโทษเธอนะ
ผมว่าผมควรจะต้องมาดูตัวเองว่าทำไมเธอถึงเลือกไป ผมว่าผมก็ควรจะเจียมตัวด้วยมั้งน่าจะหาคนที่มีอะไรพอๆกันมากกว่า
ควรรจะออกกำลังกายมากขึ้นไม่ไปทำศัลกรรมแน่นอน
มีคนเชียรให้คืนดีแต่ถามจริงเหอะใครอยากจะกลับไปคืนดี เป็นเพื่อนกันยังตงิดๆเลยตอนนี้
ผู้ชายที่ดีๆที่ผู้หญิงเรียกร้องหากันตกลงแล้วมันต้องขนาดใหนครับถึงเป็นผู้ชายดีๆได้?
ผมเคยมีแฟนครับไม่ได้หล่ออันนี้รู้ตัวแต่นิสัยผมก็ไม่ได้แย่ครับ
หลายๆเรื่องครับที่ทำให้ผมรู้สึกแย่กับเขาจนทุกวันนี้
- แม่เขาขาหักเขากลับบ้านเย็นทุกวันกลัวแม่เขาหิว ผมเลยบอกว่าผมจะเอาข้าวไปให้เองก็ได้
บางวันผมก็ไปทำกับข้าวให้เองเลยแล้วแวะนั้งคุย ถ้าไปไม่ได้ผมจะฝากแมสที่รู้จักกันเอาข้าวไปส่งให้
ทำแบบนี้ประมาณ 11 เดือนจนแม่เขาตัดเผือกเดินได้ปกติ
- เขาบอกว่าเขาอยากให้ผมเลิกเหล้าและลดน้ำหนักหน่อยเพราะห่วงสุขภาพ(เขาทำงานสายสุขภาพเลยอาจจะขัดตา)
ผมก็เลิกเหล้าให้เลยเพราะผมก็คิดจะเลิกนานแล้ว ผมก็เลยเลิกเหล้า เลิกไปนั้งกินเหล้า หันมาออกกำลังกาย
ตอนนั้นไม่แน่ใจน้ำหนักเท่าไรแต่น่าจะ 130+ ตอนนี้เหลือ 107 กิโล สูง 183 โชคดีที่ตัวเองสูงเลยไม่ตุ้ต้ะ
จริงๆก่อนหน้านี้เคยลดไปถึง 98 ละแต่มีปัญหานิดหน่อยเลยขึ้นมา110 แต่พอจบก็มาเริ่มลดใหม่คุมอาหารใหม่ ตอนนี้ก็มา107 ละ จะพยายามเรื่อยๆ
ตอนนั้นเขาว่างเมื่อไรเราก็จะไปฟิตเนตกัน ถ้าไม่ว่างผมก็จะไปคนเดียวหรือไม่ก็ไปปั่นจักรยาน วิ่งๆเดินๆสวนแถวบ้าน
ตอนนี้ผ่านมา 8 ปี ผมเลิกเหล้าได้ละไม่กินและกินไม่ได้เลย เลิกเที่ยวร้านเหล้า ผับ บาร์ถาวรได้ละ
- นิสัยส่วนตัวไม่เจ้าชู้เลย มีข้อพิสูจน์หลายอย่าง เอาง่ายๆแฟนเก่าไม่หึงไม่หวงไม่ตามอะไรเลยเพราะรู้ว่าผมไม่มีอะไรแย่ๆ
คบกันมา4ปีไม่ได้ทะเลาะอะไรเลยเพราะแฟนผมก็ไม่งี่เง่า มีเหตุผล เราคบแบบคนโตแล้ว ว่างก็เจอไม่ว่างก็ส่งกำลังใจเรื่องงานกัน
เวลานัดกันก็ค่อยไปเจอกัน ผมไม่เคยผิดนัด แล้วก็ผมไม่เคยด่าแรงๆ ค่อนข้างเป็นคนใจเย็น ผมไม่เคยบอกว่าผมจะไปใหนผมว่ามันน่ารำคาญ
ที่ต้องมาบอก แฟนผมก็ไม่ค่อยสนใจอะไรมากมายแต่ถ้าถามมาเมื่อไรผมจะบอกว่าอยู่ใหนไม่เคยโกหกแม้สักครั้งเดียว
- เรื่องการงานผมยอมรับว่าเธออาจจะหาได้เยอะกว่าผม2-3เท่าแต่ผมก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเงินของเขาหรอก เขาก็ไม่มายุ่งอะไรกับผม
เพราะว่าผมเคยเล่าให้ฟังว่าผมอะเก็บเงินราวๆ 30%ของรายได้ทุกเดือน มีสลากออมสินเพราะเคยถูกหลักหมื่นพาเธอไปเที่ยวทะเลมา
การงานผมก็โอเคนะ
- พ่อเขามีธุรกิจ ผมก็เคยช่วยเขาทำงานบ้างพ่อเขาก็ชอบผมเพราะว่างานเราคล้ายกันก็เลยช่วยพ่อเขาหลายครั้ง แม่เขาก็ชอบจากที่ตอนดูแล
ยายเขายิ่งชอบผมเพราะว่าผมทำกับข้าวได้ ผมชอบเรียนรู้เพราะชอบทำอาหารด้วย อยากจะมีร้านอาหารของตัวเองเลยมักจะเรียนรู้ตลอดถ้ามี คนจะสอนเขาต้อนรับผมเหมือนลูกชายคนนึงด้วยซ้ำและอีกหลายอย่างๆที่ผมเข้ากับบ้านนี้ได้อย่างดี แต่แล้วเหมือนความฝัน วันนึงเธอก็ขอเลิกกับผมเพราะ....
เมื่อเราเริ่มจริงจังกับชีวิตคู่ เราก็เริ่มจะเข้าสังคมของเพื่อนด้วย เขามาสังคมผม ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร แต่ยังไม่ได้พาไปหาเพื่อนสนิท
เพราะรวมกันยากหน่อย แต่เพื่อนร่วมงานเจอหมดแล้วเพราะพาไปงานแต่งรุ่นพี่ที่ทำงานด้วย แต่เมื่อผมไปในสังคมเธอเท่านั้นละ....
ญาติเธอรู้สึกว่าเธอควรจะมีแฟนที่ดีมากกว่านี้ น่าจะหาได้ดีกว่านี้และเป็นคนมีธุรกิจเหมือนพ่อของเธอจะได้ไม่ลำบาก
แต่ทางพ่อแม่เขาก็จะพูดช่วยผมว่าธุรกิจที่มีตอนนี้ก็เยอะแยะ ถ้าแต่งๆไปก็ให้ออกงานเก่ามาช่วยดูธุรกิจที่บ้านก็ได้
เพราะผมทำได้
เพื่อนเธอต่อหน้าก็ดูโอเคแต่พอลับหลังก็พูดไม่ต่างกับญาติของเธอ อยากให้เธอมีผู้ชายที่ดีกว่านี้ เหมาะสมมากกว่านี้
แต่ร้ายกว่าญาติเธอคือเพื่อนๆพากันแนะนำผู้ชายให้เธอทั้งๆที่เธอมีผมอยู่และสุดท้ายเธอก็เลือกผู้ชายคนนั้น
เพราะเธอดันคิดตามเพื่อนๆเธอ
เราก็เลิกกันไปแต่เราก็ยังได้เจอกันอยู่บ้างเพราะว่าผมก็ยังติดต่อกับเพื่อนของเธอคนนึงอยู่เพราะเป็นเจ้าของร้านอาหารที่ผมและเจ้านายชอบ
เวลาเราเจอกันเธอก็มาทักประมาณว่าสบายดีใหม มากับแฟน อย่างงั้นอย่างงี้ คือมาอวดว่าแฟนนั้นนี้ ทำเอาผมรู้สึกว่า ทำไมเธอเปลี่ยนไปขนาดนี้แสดงว่าเมื่อก่อนเธอไม่ภูมิใจตัวผมเลยสิผมไม่เคยเห็นอาการแบบนี้เลยยกเว้นอาการขอบใจที่ดูแลแม่ให้
แต่แล้วเมื่อเธอกับเขาคบกันมาสักระยะนึง แฟนคนนี้เป็นคนโมโหร้าย พี่เจ้าของร้านอาหารบอกว่า เธอโดนทำร้ายบ่อยครั้งมากเลยหลังๆเนี่ย
เห็นตาเขียวมากินข้าวยังเคยเลย สุดท้ายเธอก็เลิกกับเขา ในใจผมพูดตรงๆสมน้ำหน้าอะแต่มุมนึงก็สงสารอาจจะเพราะเป็นคนเคยรักมั้ง
เราได้มาเจอกันครับโดยบังเอิญ เธอก็ถามว่ามาทำอะไรที่ห้าง ผมก็บอกว่าผมมากินข้าวและจ่ายค่าบัตรเครดิต
เธอก็เลยบอกว่าไปกินข้าวกันใหมเราก็มากินเหมือนกันไม่ได้เจอกันนานแล้ว
ผมก็อืมก็ไปนั้งคุยกันถามไถ่กันตามคนรู้จัก ผมก็บอกว่าเป็นไงบ้างละได้ข่าวละ เธอก็บอกว่าอืมขอบใจนะที่ยังห่วง
ผมก็บอกว่าก็คนเคยรู้จักกันก็ต้องห่วงบ้างละ เธอก็บอกว่าแค่คนรู้จักจริงๆเหรอ ผมก็บอกว่าอืม เธอก็พูดอะไรสักอย่างละจำไม่ได้แต่ประมาณว่า
ถ้าให้อภัยเธอได้เป็นไปได้ใหมเราจะกลับมาลองเริ่มกันใหม่...
ผมก็บอกว่า เราอะเป็นเพื่อนกันดีแล้วเราคงเริ่มใหม่กันไม่ได้หรอก เธอก็อืมและบอกงั้นไปนะ ผมก็บอกว่าโชคดีสู้ๆนะ
เธอก็ยิ้มๆแล้วออกจากร้านไป
ใจจริงๆอยากจะหัวเราะสมน้ำหน้าแต่ก็ไม่ใช่คนบ้าที่เห็นคนเจ็บซ้ำใจมาแล้วจะหัวเราะเยาะ ดูไม่ค่อยแมนแต่ผมไม่เคยโทษเธอนะ
ผมว่าผมควรจะต้องมาดูตัวเองว่าทำไมเธอถึงเลือกไป ผมว่าผมก็ควรจะเจียมตัวด้วยมั้งน่าจะหาคนที่มีอะไรพอๆกันมากกว่า
ควรรจะออกกำลังกายมากขึ้นไม่ไปทำศัลกรรมแน่นอน
มีคนเชียรให้คืนดีแต่ถามจริงเหอะใครอยากจะกลับไปคืนดี เป็นเพื่อนกันยังตงิดๆเลยตอนนี้