
จะมีสักกี่เหตุผลของการเริ่มเดินทางคนเดียวถ้าไม่ใช่เพราะไปรักษาใจ ก็คงไปค้นหาตัวเอง(อันนี้ตอบแบบดูดีหน่อย) นี่ล่ะคือจุดเริ่มต้นการเดินทางคนเดียวครั้งแรกของเรา เหนื่อยกับใจมานานหลายปีได้เวลาที่เราจะหาความสุขให้กับชีวิตของเราบ้างแล้ว ลุยดิรอไร...
ก่อนอื่นเลยในการเดินทางไกลคนเดียวสำหรับผู้หญิงแล้วนั้นเรื่องความปลอดภัยนี่สำคัญนะ เพราะเราจะต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดตลอดทริปจนกลับถึงบ้านเพราะเราจะไม่บอกครอบครัวเพื่อไม่ให้เขาเปนห่วงและเผื่อเขาไม่อนุญาตให้เราไป จะมีก็แต่เพื่อนเราเท่านั้นที่รู้ การเตรียมตัวสำหรับเรานะก็คือ
-หาสถานที่ที่คิดว่ามีความปลอดภัยสูงคือไม่เปลี่ยวจนเกินไป
-หาข้อมูลที่ที่เราจะไปให้ได้มากที่สุด ที่พักที่เที่ยว การเดินทาง การเตรียมพร้อมที่ดีย่อมส่งผลให้ทริปนั้นมีความราบเรียบตามมา
-กุญแจล็อคห้อง เราเตรียมไปด้วยนะ ก็เผื่อๆไว้ safety firstอ่านะ
-ราคาตั๋วโปร ฮ่าฮ่า อันนี้สำคัญที่สุด
ก็ไม่มีไรมากประมาณนี้ ถามว่าทำไมเลือกที่เชียงคาน ชื่อมันขลังดีมั้งอะไรคานๆ เฮ้ออ ซ้อมๆไว้จะได้ชิน ม่ายช่าย! ก็คืออยากมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสแล้วเหนว่าปั่นจักรยานก็ชิลได้ ถ้าจะไปปักหมุดตามที่เที่ยวอื่นๆก็สามารถจ้างสกายแลปไปได้ มันก็สะดวกเราดี เพราะเปนชะนีขับรถไม่เปน ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้ ยานพาหนะที่เก่งที่สุดก็มีแต่จักรยานและสองเท้าของเรานี่แหละ ก่อนจะเดินทางไปด้วยกันบอกก่อนว่าบางคำที่ใช้ ภาษาที่ใช้อาจเพื่ออรรถรสในการรับชมเท่านั้นนะคะ เอาล่ะพรรณนามาเยอะแล้ว เราเริ่มเดินทางไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ

สำหรับครั้งนี้เราเดินทางไป3วัน2คืน 13-15nov2015 เราเดินทางกับหางแดงค่ะ เลือกปลายทางเป็นเชียงคานนะคะ จะบอกว่ามีรถตู้ของสายการบินtransferส่งถึงเชียงคานได้เลยนะแต่ถ้าใครอยากประหยัดก็ออกมาหน้าสนามบินมีรถโดยสารคนละไม่กี่สิบบาทค่ะ((อันนี้คุณครูเจ้าของที่พักแนะนำมาแต่ไม่ทันล่ะเพราะเราออกตั๋วแล้ว😓)) เอาสะดวกและสบายก่อน ค่อยไปลุยทริปอื่น แฮ่!

เริ่มทริปก็เกือบมาไม่ทันcheck inซะล่ะ มาเข้าแถวคนก็เยอะมาก ไปไหนกันคะเนี่ยะ? พอเข้าไปได้แล้วก็...วิ่งดิเอ๋วิ่ง สับให้ไวgateก็อยู่ไกลซะเหลือเกิน

ขึ้นเครื่องแล้วเอาviewมาฝาก นี่ข้อดีของการเลือกwindow seatค่ะ

ถึงแล้วค่ะ"สนามบินเลย" ระหว่างทางเครื่องตกหลุมอากาศ ใจหายใจคว่ำเลยทีเดียว มาถึงก็เดินเข้ามาในอาคารแล้วก็เดินหาcounterของสายการบินค่ะ แล้วก็ไปแจ้งชื่อ รอขึ้นรถ อ่อ!แจ้งที่พักด้วยนะคะเพราะรถส่งถึงที่พักเลยจ้า

ระหว่างทางเปิดเพลงเสียบหูฟังทอดอารมณ์ตามวิวข้างทาง โอ๊ยย มีความสุขมากอ่ะ แปปๆอ้าวถึงล่ะ "บ้านชานเคียง" วันนี้เราพักที่นี่ค่ะ โทรจองที่พักล่วงหน้า3เดือนกับวิวห้องที่ดีที่สุดในราคา450฿ ห้องน้ำรวมแยกชาย หญิงค่ะ ด้านล่างเป็นร้านกาแฟ พี่เต้ย เจ้าของดูแลเองค่ะ แต่ตอนเราไปถึงพี่เต้ยแกไม่อยู่นะ แต่มีคุณป้าอยู่ พวกก็ให้ขึ้นไปเลย จักรยานก็เอาไปปั่นได้เลย สบายเราล่ะ จัดการเก็บของ นอนพักชมวิวแปป ฝั่งตรงข้ามคือลาว และแม่น้ำข้างหน้าก็คือแม่น้ำโขงค่ะ อ่อ!บันไดขึ้นไปห้องที่พักชันมากขึ้นกันระวังๆนะคะ

เก็บของเสร็จแล้วลงมาสำรวจพื้นที่และเจ้าที่((นังแมวเมี๊ยว))สักหน่อยก่อนออกไปซิ่ง

พร้อมปั่นจักรยานชมบ้านเรือนของเมืองเชียงคานกันรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วไปเที่ยวพร้อมกันเลยค่ะ ((ชมภาพยาวๆไปนะคะ))

ปั่นเล่นชมบ้านเรือนแวะเข้าวัดมาเรื่อยๆอาบแดดเพลินๆ ก็วนมาเลียบแม่น้ำโขงบ้าง โคตรชิลอ่ะ วิวดี บรรยากาศเลิศ ชมภาพกันต่อไปยาวๆเลยค่ะ

หิวแล้วแหละ แต่ก่อนจะแวะทานอะไร ขอโฉบไปหาสกายแลปเพื่อทริปของวันต่อไปก่อนค่ะ ถามแต่ละคันราคาโหดเชียว เลยขอบายค่ะ งั้นไปหาอะไรกินก่อนดีกว่าค่อยว่ากัน เราแวะร้านข้างๆวัดนี่ล่ะค่ะ แต่ถ้าใครอยากซื้อของทานเล่นหน้าวัดก็ลองดูนะ ชื่อเมนูน่าสน ฮ่าฮ่า


ขุ่นป้า:เอาไรลูก
เรา:มีไรทานบ้างคะ
ขุ่นป้า:ข้าวเปียกมั้ยนู๋
เรา: (คิดในใจเปนไงวะข้าวเปียกไม่เคยกิน น่าจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวป่าววะ) ก็ได้ค่ะ
ขุ่นป้า:ใส่ไข่มั้ย
เรา: (คิดในใจมีใส่ไข่ด้วยหรอวะ) ใส่ค่ะ เอาไข่กะทะให้นู๋ด้วยค่ะ
#หิวมากมัวแต่ปั่นจักรยานอาบแดดอยู่🙄
#ดีงามตามมากิน

ตะลอนปั่นจักรยานมาเกือบทั้งวัน เลยหาที่หย่อนตัวนั่งชิลๆเสพธรรมชาติสักหน่อย เราเลือกมาร้านwith a view เพราะอยู่ริมน้ำโขง สั่งเครื่องดื่มปุ๊ป สำรวจภายในร้านแล้วเดินมานั่งชมวิวริมโขง ฮ๊าา ดีจัง

นั่งโง่ๆปล่อยใจไปกับสายลมและสายน้ำ นั่งมองผู้คนที่ผ่านไปมาซึมซับบรรยากาศหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราก้าวออกจากcomfort zone มาอยู่ ณ จุดๆนี้ ตอนนี้ รู้สึกดีนะถึงจะเหงาที่ไม่มีเพื่อนคุย ไม่เป็นไรคุยกับตัวเองก็ได้ ฮี่ฮี่ฮี่ เอาล่ะเย็นล่ะได้เวลาลุยต่อ ปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำโขงไปตรงจุดชมวิวเก็บภาพแสงอาทิตย์ตกดินดีกว่า พร้อมจะชมวิวตะวันลับฟ้ารึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วปั่นจักรยานไปพร้อมกันเลยค่ะ

แสงแฉกแปลกตาดี เหล่านกน้อยก็เริ่มบินกลับรัง

เราชอบใบนี้ มีความminimal ความบังเอิญที่ลงตัว ขอบคุณองค์ประกอบของภาพ2คนในรูปด้วยนะคะ ตอนถ่ายไม่เห็น เพิ่งมาเห็นตอนเปิดดูภายหลังนี่ล่ะ🙂

แสงหมดล่ะ เอาจักรยานไปเก็บแล้วเราไปเดินเล่นถนนคนเดินหาของกินด้วยกันค่ะ

น้องหมาน่ารักมากกำลังสตาร์ทรถเตรียมหนีเที่ยวแน่เลย แฮ่ะๆ

ร้านนี้น่าโดน แต่คนเยอะ เด๋วค่อยมาแวะ

ใครชอบการถ่ายภาพ แวะมาหาคุณลุงได้เลยค่ะ คุณลุงใจดีอธิบายได้ดี แนะนำนู้นนี่ในร้านแกอย่างคล่องแคล่ว เราก็หลงอยู่ในนั้นนานเลยทีเดียว

นี่ก็เป็นร้านค้าที่ถนนคนเดิน มีของที่ระลึก เสื้อสกรีนต่างๆค่ะ
""โปสการ์ดสักใบถึงใครสักคน""มั้ยคะ

เดินไปเรื่อยๆแวะหาของกินไป ไม่มีภาพประกอบนะคะมัวแต่กินเพลิน จนมาซื้อทะเลครกร้านคุณป้า เราเลยสอบถามเรื่องรถสกายแลปไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้ แพลนของเราก็จะมีไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ภูทอก ต่อด้วยวัดพระบาทภูควายเงิน และปิดท้ายด้วยแก่งคุดคู้
เรา:คุณป้าคะถ้านู๋จะจ้างรถสกายแลปนี่ต้องไปถามตรงไหน นู๋จะไปที่.....ก็บอกแพลนเราไป
คุณป้า:นู๋กล้าไปหรอมืดๆยังไม่เช้าเลยนะ ไม่กลัวหรอ ทางมืดมาก ขนาดป้ายังไม่กล้าไปเลย อันตราย
เรา: (เฮ้ยย ขนาดนั้นเลยหรอวะ พูดซะตรูขาดความมั่นใจเลย) ด้วยความที่มาคนเดียวโดยที่ไม่บอกครอบครัวเราสัญญากับตัวเองก่อนเดินทางแล้วต้องดูแลตัวเองให้ดีกลับบ้านอย่างปลอดภัย จึงถามคุณป้าไปว่าทำไมหรอคะป้า มีอะไรน่ากลัวหรอ?
คุณป้า:นู๋ไว้ใจหรอ ขนาดป้ายังไม่ไว้ใจเลย
เรา: (อ้าว! เวงล่ะ หรือเราจะปิดทริปแต่เพียงเท่านี้ดีล่ะเนี่ยะ) อ่อ!! ขอบคุณนะคะแล้วเดินจากมา
และแล้วชะตาก็เข้าข้างให้เราได้มาเจอพี่สาวร้านเฮือนน้อยชื่อพี่ก้อย สาวอาร์ตติสผมยาวมากกก ทำผ้ามัดย้อม เพ้นท์รองเท้า ทำเกี่ยวกับแฮนด์เมดขาย พอดีเราชอบของแนวๆนี้เราเลยเดินเข้าไปซื้อเสื้อพี่เขา แล้วเผอิญเป็นคนที่มีปากไว้ถาม เลยลองถามๆพวกดู พี่เขาเฟรนด์ลี่มาก เขาก็บอกให้ทิ้งเบอร์ไว้เด๋วเขาโทรบอกเรา

เรากลับมาที่ห้องนั่งดูดาวบนฟ้าถึงจะไม่เยอะแต่ก็พอมีให้เห็น รอพี่เขาโทรมาบอกว่ายังไง เอ๊ะ!! ก็นานแล้วนะไม่โทรมาเลย ผ่านไปเป็นชม.แล้วพี่ก้อยยังไม่ติดต่อมา เอาไงดี ถ้ายังไม่ได้รถนี่เราอดไปตามแพลนเลยนะ เลยตัดสินใจออกไปร้านพี่ก้อยอีกรอบ
เรา: พี่คะสรุปว่าหารถให้ได้มั้ยคะ
พี่ก้อย: อ่อ แปปนึงนะ แล้วเดินไปถามร้านฝั่งตรงข้ามพี่เขาให้ (คนที่นี่น่ารักช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในที่สุดก็ได้เบอร์คุณลุงขับสกายแลปมา รถลุงมีชื่อนะชื่อ"ตาหวาน" เราก็จัดการโทรนัดลุงเรียบร้อย เฮ้ออ สบายใจล่ะ)
พี่ก้อย: คนนี้ไว้ใจได้ แล้วนี่มาคนเดียวหรอ ดื่มมั้ย ไปๆๆ พี่พาไปนั่งกับพวกไปนั่งคุยสนุกๆ
เรา: (เอิ่มมม ในใจคือเลิกดื่มล่ะ แต่จะปฏิเสธอย่างไร เสียมารยาทแย่ หุหุ) อ่อค่ะ ได้ค่ะ แล้วพี่ก้อยก็พามาหน้าร้านตามรูป
[CR] พาใจไปขึ้น((เชียง))คาน
จะมีสักกี่เหตุผลของการเริ่มเดินทางคนเดียวถ้าไม่ใช่เพราะไปรักษาใจ ก็คงไปค้นหาตัวเอง(อันนี้ตอบแบบดูดีหน่อย) นี่ล่ะคือจุดเริ่มต้นการเดินทางคนเดียวครั้งแรกของเรา เหนื่อยกับใจมานานหลายปีได้เวลาที่เราจะหาความสุขให้กับชีวิตของเราบ้างแล้ว ลุยดิรอไร...
ก่อนอื่นเลยในการเดินทางไกลคนเดียวสำหรับผู้หญิงแล้วนั้นเรื่องความปลอดภัยนี่สำคัญนะ เพราะเราจะต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดตลอดทริปจนกลับถึงบ้านเพราะเราจะไม่บอกครอบครัวเพื่อไม่ให้เขาเปนห่วงและเผื่อเขาไม่อนุญาตให้เราไป จะมีก็แต่เพื่อนเราเท่านั้นที่รู้ การเตรียมตัวสำหรับเรานะก็คือ
-หาสถานที่ที่คิดว่ามีความปลอดภัยสูงคือไม่เปลี่ยวจนเกินไป
-หาข้อมูลที่ที่เราจะไปให้ได้มากที่สุด ที่พักที่เที่ยว การเดินทาง การเตรียมพร้อมที่ดีย่อมส่งผลให้ทริปนั้นมีความราบเรียบตามมา
-กุญแจล็อคห้อง เราเตรียมไปด้วยนะ ก็เผื่อๆไว้ safety firstอ่านะ
-ราคาตั๋วโปร ฮ่าฮ่า อันนี้สำคัญที่สุด
ก็ไม่มีไรมากประมาณนี้ ถามว่าทำไมเลือกที่เชียงคาน ชื่อมันขลังดีมั้งอะไรคานๆ เฮ้ออ ซ้อมๆไว้จะได้ชิน ม่ายช่าย! ก็คืออยากมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสแล้วเหนว่าปั่นจักรยานก็ชิลได้ ถ้าจะไปปักหมุดตามที่เที่ยวอื่นๆก็สามารถจ้างสกายแลปไปได้ มันก็สะดวกเราดี เพราะเปนชะนีขับรถไม่เปน ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้ ยานพาหนะที่เก่งที่สุดก็มีแต่จักรยานและสองเท้าของเรานี่แหละ ก่อนจะเดินทางไปด้วยกันบอกก่อนว่าบางคำที่ใช้ ภาษาที่ใช้อาจเพื่ออรรถรสในการรับชมเท่านั้นนะคะ เอาล่ะพรรณนามาเยอะแล้ว เราเริ่มเดินทางไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ
สำหรับครั้งนี้เราเดินทางไป3วัน2คืน 13-15nov2015 เราเดินทางกับหางแดงค่ะ เลือกปลายทางเป็นเชียงคานนะคะ จะบอกว่ามีรถตู้ของสายการบินtransferส่งถึงเชียงคานได้เลยนะแต่ถ้าใครอยากประหยัดก็ออกมาหน้าสนามบินมีรถโดยสารคนละไม่กี่สิบบาทค่ะ((อันนี้คุณครูเจ้าของที่พักแนะนำมาแต่ไม่ทันล่ะเพราะเราออกตั๋วแล้ว😓)) เอาสะดวกและสบายก่อน ค่อยไปลุยทริปอื่น แฮ่!
เริ่มทริปก็เกือบมาไม่ทันcheck inซะล่ะ มาเข้าแถวคนก็เยอะมาก ไปไหนกันคะเนี่ยะ? พอเข้าไปได้แล้วก็...วิ่งดิเอ๋วิ่ง สับให้ไวgateก็อยู่ไกลซะเหลือเกิน
ขึ้นเครื่องแล้วเอาviewมาฝาก นี่ข้อดีของการเลือกwindow seatค่ะ
ถึงแล้วค่ะ"สนามบินเลย" ระหว่างทางเครื่องตกหลุมอากาศ ใจหายใจคว่ำเลยทีเดียว มาถึงก็เดินเข้ามาในอาคารแล้วก็เดินหาcounterของสายการบินค่ะ แล้วก็ไปแจ้งชื่อ รอขึ้นรถ อ่อ!แจ้งที่พักด้วยนะคะเพราะรถส่งถึงที่พักเลยจ้า
ระหว่างทางเปิดเพลงเสียบหูฟังทอดอารมณ์ตามวิวข้างทาง โอ๊ยย มีความสุขมากอ่ะ แปปๆอ้าวถึงล่ะ "บ้านชานเคียง" วันนี้เราพักที่นี่ค่ะ โทรจองที่พักล่วงหน้า3เดือนกับวิวห้องที่ดีที่สุดในราคา450฿ ห้องน้ำรวมแยกชาย หญิงค่ะ ด้านล่างเป็นร้านกาแฟ พี่เต้ย เจ้าของดูแลเองค่ะ แต่ตอนเราไปถึงพี่เต้ยแกไม่อยู่นะ แต่มีคุณป้าอยู่ พวกก็ให้ขึ้นไปเลย จักรยานก็เอาไปปั่นได้เลย สบายเราล่ะ จัดการเก็บของ นอนพักชมวิวแปป ฝั่งตรงข้ามคือลาว และแม่น้ำข้างหน้าก็คือแม่น้ำโขงค่ะ อ่อ!บันไดขึ้นไปห้องที่พักชันมากขึ้นกันระวังๆนะคะ
เก็บของเสร็จแล้วลงมาสำรวจพื้นที่และเจ้าที่((นังแมวเมี๊ยว))สักหน่อยก่อนออกไปซิ่ง
พร้อมปั่นจักรยานชมบ้านเรือนของเมืองเชียงคานกันรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วไปเที่ยวพร้อมกันเลยค่ะ ((ชมภาพยาวๆไปนะคะ))
ปั่นเล่นชมบ้านเรือนแวะเข้าวัดมาเรื่อยๆอาบแดดเพลินๆ ก็วนมาเลียบแม่น้ำโขงบ้าง โคตรชิลอ่ะ วิวดี บรรยากาศเลิศ ชมภาพกันต่อไปยาวๆเลยค่ะ
หิวแล้วแหละ แต่ก่อนจะแวะทานอะไร ขอโฉบไปหาสกายแลปเพื่อทริปของวันต่อไปก่อนค่ะ ถามแต่ละคันราคาโหดเชียว เลยขอบายค่ะ งั้นไปหาอะไรกินก่อนดีกว่าค่อยว่ากัน เราแวะร้านข้างๆวัดนี่ล่ะค่ะ แต่ถ้าใครอยากซื้อของทานเล่นหน้าวัดก็ลองดูนะ ชื่อเมนูน่าสน ฮ่าฮ่า
ขุ่นป้า:เอาไรลูก
เรา:มีไรทานบ้างคะ
ขุ่นป้า:ข้าวเปียกมั้ยนู๋
เรา: (คิดในใจเปนไงวะข้าวเปียกไม่เคยกิน น่าจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวป่าววะ) ก็ได้ค่ะ
ขุ่นป้า:ใส่ไข่มั้ย
เรา: (คิดในใจมีใส่ไข่ด้วยหรอวะ) ใส่ค่ะ เอาไข่กะทะให้นู๋ด้วยค่ะ
#หิวมากมัวแต่ปั่นจักรยานอาบแดดอยู่🙄
#ดีงามตามมากิน
ตะลอนปั่นจักรยานมาเกือบทั้งวัน เลยหาที่หย่อนตัวนั่งชิลๆเสพธรรมชาติสักหน่อย เราเลือกมาร้านwith a view เพราะอยู่ริมน้ำโขง สั่งเครื่องดื่มปุ๊ป สำรวจภายในร้านแล้วเดินมานั่งชมวิวริมโขง ฮ๊าา ดีจัง
นั่งโง่ๆปล่อยใจไปกับสายลมและสายน้ำ นั่งมองผู้คนที่ผ่านไปมาซึมซับบรรยากาศหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราก้าวออกจากcomfort zone มาอยู่ ณ จุดๆนี้ ตอนนี้ รู้สึกดีนะถึงจะเหงาที่ไม่มีเพื่อนคุย ไม่เป็นไรคุยกับตัวเองก็ได้ ฮี่ฮี่ฮี่ เอาล่ะเย็นล่ะได้เวลาลุยต่อ ปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำโขงไปตรงจุดชมวิวเก็บภาพแสงอาทิตย์ตกดินดีกว่า พร้อมจะชมวิวตะวันลับฟ้ารึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วปั่นจักรยานไปพร้อมกันเลยค่ะ
แสงแฉกแปลกตาดี เหล่านกน้อยก็เริ่มบินกลับรัง
เราชอบใบนี้ มีความminimal ความบังเอิญที่ลงตัว ขอบคุณองค์ประกอบของภาพ2คนในรูปด้วยนะคะ ตอนถ่ายไม่เห็น เพิ่งมาเห็นตอนเปิดดูภายหลังนี่ล่ะ🙂
แสงหมดล่ะ เอาจักรยานไปเก็บแล้วเราไปเดินเล่นถนนคนเดินหาของกินด้วยกันค่ะ
น้องหมาน่ารักมากกำลังสตาร์ทรถเตรียมหนีเที่ยวแน่เลย แฮ่ะๆ
ร้านนี้น่าโดน แต่คนเยอะ เด๋วค่อยมาแวะ
ใครชอบการถ่ายภาพ แวะมาหาคุณลุงได้เลยค่ะ คุณลุงใจดีอธิบายได้ดี แนะนำนู้นนี่ในร้านแกอย่างคล่องแคล่ว เราก็หลงอยู่ในนั้นนานเลยทีเดียว
นี่ก็เป็นร้านค้าที่ถนนคนเดิน มีของที่ระลึก เสื้อสกรีนต่างๆค่ะ
""โปสการ์ดสักใบถึงใครสักคน""มั้ยคะ
เดินไปเรื่อยๆแวะหาของกินไป ไม่มีภาพประกอบนะคะมัวแต่กินเพลิน จนมาซื้อทะเลครกร้านคุณป้า เราเลยสอบถามเรื่องรถสกายแลปไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้ แพลนของเราก็จะมีไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ภูทอก ต่อด้วยวัดพระบาทภูควายเงิน และปิดท้ายด้วยแก่งคุดคู้
เรา:คุณป้าคะถ้านู๋จะจ้างรถสกายแลปนี่ต้องไปถามตรงไหน นู๋จะไปที่.....ก็บอกแพลนเราไป
คุณป้า:นู๋กล้าไปหรอมืดๆยังไม่เช้าเลยนะ ไม่กลัวหรอ ทางมืดมาก ขนาดป้ายังไม่กล้าไปเลย อันตราย
เรา: (เฮ้ยย ขนาดนั้นเลยหรอวะ พูดซะตรูขาดความมั่นใจเลย) ด้วยความที่มาคนเดียวโดยที่ไม่บอกครอบครัวเราสัญญากับตัวเองก่อนเดินทางแล้วต้องดูแลตัวเองให้ดีกลับบ้านอย่างปลอดภัย จึงถามคุณป้าไปว่าทำไมหรอคะป้า มีอะไรน่ากลัวหรอ?
คุณป้า:นู๋ไว้ใจหรอ ขนาดป้ายังไม่ไว้ใจเลย
เรา: (อ้าว! เวงล่ะ หรือเราจะปิดทริปแต่เพียงเท่านี้ดีล่ะเนี่ยะ) อ่อ!! ขอบคุณนะคะแล้วเดินจากมา
และแล้วชะตาก็เข้าข้างให้เราได้มาเจอพี่สาวร้านเฮือนน้อยชื่อพี่ก้อย สาวอาร์ตติสผมยาวมากกก ทำผ้ามัดย้อม เพ้นท์รองเท้า ทำเกี่ยวกับแฮนด์เมดขาย พอดีเราชอบของแนวๆนี้เราเลยเดินเข้าไปซื้อเสื้อพี่เขา แล้วเผอิญเป็นคนที่มีปากไว้ถาม เลยลองถามๆพวกดู พี่เขาเฟรนด์ลี่มาก เขาก็บอกให้ทิ้งเบอร์ไว้เด๋วเขาโทรบอกเรา
เรากลับมาที่ห้องนั่งดูดาวบนฟ้าถึงจะไม่เยอะแต่ก็พอมีให้เห็น รอพี่เขาโทรมาบอกว่ายังไง เอ๊ะ!! ก็นานแล้วนะไม่โทรมาเลย ผ่านไปเป็นชม.แล้วพี่ก้อยยังไม่ติดต่อมา เอาไงดี ถ้ายังไม่ได้รถนี่เราอดไปตามแพลนเลยนะ เลยตัดสินใจออกไปร้านพี่ก้อยอีกรอบ
เรา: พี่คะสรุปว่าหารถให้ได้มั้ยคะ
พี่ก้อย: อ่อ แปปนึงนะ แล้วเดินไปถามร้านฝั่งตรงข้ามพี่เขาให้ (คนที่นี่น่ารักช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในที่สุดก็ได้เบอร์คุณลุงขับสกายแลปมา รถลุงมีชื่อนะชื่อ"ตาหวาน" เราก็จัดการโทรนัดลุงเรียบร้อย เฮ้ออ สบายใจล่ะ)
พี่ก้อย: คนนี้ไว้ใจได้ แล้วนี่มาคนเดียวหรอ ดื่มมั้ย ไปๆๆ พี่พาไปนั่งกับพวกไปนั่งคุยสนุกๆ
เรา: (เอิ่มมม ในใจคือเลิกดื่มล่ะ แต่จะปฏิเสธอย่างไร เสียมารยาทแย่ หุหุ) อ่อค่ะ ได้ค่ะ แล้วพี่ก้อยก็พามาหน้าร้านตามรูป