ขอแชร์ และขอความรู้จากปัญหาที่ประสบดังกล่าว...
ผมขับรถมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู(เกียร์ออโต้) ซึ่งไปประสบอุบัติเหตุรถชนกลางสี่แยก รถผมหมุน 2 รอบ กระบะท้ายด้านหลังบุบด้วย โดยรถเหมือนจะไม่เป็นอะไรมาก แต่เวลาขับล้อหลังขวาเหมือนจะส่ายไปมาเล็กน้อยและมีเสียงดังหึ่งๆ จากอุบัติเหตุก็ได้มีการเรียกประกันเพื่อออกเอกสารเคลมตามกระบวนการ(ผมใช้ของบริษัทประกันภัย(พื้นสีชมพู) ชั้น 2+) หลังจากนั้นก็นำรถกลับเพื่อรอนำเข้าอู่ (ช่วงระหว่างนี้ เปิดใน google เพื่อเช็คอู่รับงานบริษัทฯประกันภัย ตามชื่อในเล่ม ว่าอู่ที่เลือกไว้(เลือกใกล้บ้าน) มี comment แย่ๆหรือไม่ ก็เลือกได้ อู่ชื่อ....... การาจ(ลำลูกกาคลอง 3 ใกล้บ่อนชนไก่...) ก่อนเข้าไป ก็ได้โทรไปเช็คคิวงานเบื้องต้น ทางอู่ฯก็แจ้งมาว่า คิวไม่ยาวมาก)
ในวันที่ 14 พ.ย.2559 จึงได้นำรถเข้าอู่ฯเพื่อดำเนินการซ่อมต่อไป ซึ่งทางอู่ฯก็ได้มาตรวจความเสียหายพร้อมจดรายการชิ้นส่วนที่จะดำเนินการแก้ไขดังกล่าว และให้ผมนำรถกลับไปก่อน เพราะทางอู่ฯต้องทำเรื่องขออนุมัติอะไหล่จากบริษัทฯประกันก่อน และแจ้งเบื้องต้นว่า จะสามารถนำรถเข้ามาอู่ฯได้ในวันที่ 23 พ.ย.2559
ในวันที่ 26 พ.ย.2559 ผมได้ติดต่อกลับไปทางอู่ฯ เพื่อสอบถามวันที่จะให้นำรถเข้าไปซ่อม(จากนัดหมายเดิม ไม่เป็นไปตามที่แจ้งไว้)และขอให้ทางอู่ฯช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาจากการขับแล้วทำให้ล้อหลังส่ายก่อนได้หรือไม่ เพื่อจะได้นำไปใช้งาน ส่วนที่บุบด้านหลังผมคิดไว้ว่าทำทีหลังก็ได้ ซึ่งทางอู่ฯแจ้งว่าเวลาเช็คต้องถอดมาทั้งช่วงล่าง ยังไงก็รออะไหล่อยู่ดี (ผมก็ตามนั้น) และทางอู่ฯก็แจ้งว่ายังรอบริษัทฯประกันส่งอะไหล่มาให้อยู่ ผมเลยโทรไปที่บริษัทฯประกัน ซึ่งทางบริษัทฯประกันแจ้งว่าให้ตามเรื่องอีกทีในวันจันทร์ที่ 28 พ.ย.2559(งานตามเรื่องเคลมหรือเรื่องต่างๆที่ไม่ใช่แจ้งอุบัติเหตุ จะต้องติดต่อในวันทำการ เท่านั้น... - -“ ) ในวันที่ 28 พ.ย.2559 ผมก็ได้ประสานไปยังบริษัทฯประกัน เพื่อตามเรื่องอะไหล่ดังกล่าว และในวันเดียวกันนั้นเองทางอู่ฯก็ได้โทรมาแจ้งให้นำรถเพื่อเข้าซ่อมได้ในวันที่ 29 พ.ย.2559 (ก็นำรถเข้าไปตามนัดหมาย)
ในวันที่ 29 พ.ย.2559 นำรถเข้าไปซ่อมตามนัดหมาย และรอดำเนินการซ่อมแซมและแก้ไขดังกล่าว ระหว่างนั้นผมก็ได้ติดต่ออู่ฯบ้างเรื่องวันที่รถจะเสร็จ(เกรงจะไม่เสร็จทันปีใหม่ เพราะจะต้องใช้เดินทางกลับ ตจว. (กลับปีละ 2 ครั้งเอง)) ทั้งนี้อู่ฯได้แจ้งมาว่าขอให้ผมหาล้ออะไหล่มาให้ test หน่อย ว่าต้องซ่อมล้อแม็กซ์(เดิม) หรือไม่ (พอดีว่าล้ออะไหล่ที่ติดกับรถมาถูกขโมย จึงไม่มีติดกับรถครับ) ผมก็นะ แต่ก็ยังหาไม่ได้ซักที จนผมได้โทรไปตำหนิอู่ฯเล็กน้อยว่า ทำไมผมต้องมาวิ่งตามเรื่องอะไรให้แบบนี้ จนผ่านไป 2 วัน อู่ฯก็นัดหมายให้ไปรับรถในวันที่ 14 ธ.ค.2559
ในวันที่ 14 ธ.ค.2559 ผมก็ไปรับรถตามปกติและนำรถไปใช้ตามปกติ (เดินทางทำงานกลับบ้านจากลำลูกกาไปแถวซอยอารีย์) และใช้งานปกติ จนวันที่ 21 ธ.ค.2559 ผมต้องเดินทางไปหาลูกค้า จ.นครสวรรค์ ช่วงระหว่างที่ขับไปจนถึงอยุธยานั้น ก็รู้สึกและได้ยินเสียงแปลกๆ ดังครืดดดดดด ครืดดดดดด เลยได้สอบถามไปทางอู่ว่าเป็นเพราะอะไร อู่ก็แจ้งว่าเป็นเพราะล้อแม็กซ์น่าจะขด ยังไงก็ให้ผมหาล้ออะไหล่มาเปลี่ยนดีกว่า(อาว แสดงว่าไม่ได้ตรวจสอบให้ก่อนเลย) พอไปถึงนครสวรค์ เสร็จงานจากไปหาลูกค้า ผมก็รีบนำรถเข้าไปเพื่อเปลี่ยน(ซื้อกะทะอะไหล่ และสลับยางเอา) ปรากฏว่า อาการเหมือนเดิม(เสียตังค์ฟรี) จึงได้ลองให้ช่างแถวนั้นยกรถเพื่อลองหมุนล้อดู พบว่าน่าจะเกิดจากเฟืองท้าย และช่างก็บอกว่าให้นำกลับไปเคลมกับอู่เก่าดีกว่า ผมจึงขับรถกลับ กทม. ด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. เกรงจะมีปัญหาระหว่างทาง เลยขับช้าๆ และได้โทรแจ้งอู่ฯอีกครั้งเพื่อนัดนำรถเข้าแก้ไขครั้งที่ 2(มีพวงมาลัยที่จะแข็งๆเวลาเลี้ยวด้วย)
ในวันที่ 22 ธ.ค.2559 ผมจึงได้นำรถเข้าอู่ฯอีกครั้ง เพื่อแก้ไข โดยตอนแรกทางอู่ฯจะยังไม่ดำเนินการแก้ไขพวงมาลัยให้ จนกว่าบริษัทฯประกันจะอนุมัติเรื่อง เพราะมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับอุบัติเหตุ แต่ผมแจ้งว่ารถหมุน 2 รอบ และทางบริษัทฯประกันเองก็แจ้งเห็นว่าค่าใช้จ่ายไม่เยอะและน่าจะเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุ จึงอนุมัติให้ซ่อมได้(ขอบคุณครับที่เข้าใจ)...ซึ่งอู่ฯก็ได้นัดหมายให้ไปรับรถในวันที่ 24 ธ.ค.2559 (ทั้งนี้ผมก็ได้ย้ำอู่ฯว่ารบกวนช่วย test รถ ก่อนส่งมอบงานด้วย) และก่อนที่จะเข้าไปรับรถครั้งที่ 2 นี้ อู่ฯก็ได้แจ้งว่าล้อของผมจะมีเสียงดังเวลาขับหน่อย เหตุเพราะเสียงจากล้อ
วันที่ 24 ธ.ค.2559 ผมได้เข้าไปรับรถ พอผมลองขับก็จริง มีเสียงดัง หวึ่งๆๆ ในความเร็วรอบที่ 20 กม./ชม. ขึ้นไป ผมก็นำไปเช็คที่ร้านยางแถวๆบ้าน ช่างยางก็บอกว่าไม่น่าเป็นไปได้เนื่องจากยางเพิ่งใช้มาแค่ 2 หมื่นกว่าโล และยางรุ่นนี้จะนิ่ม ก็แนะนำให้กลับไปแก้ไขที่อู่เดิม ผมก็โทรไปอู่ฯ ทางอู่ฯก็บอกว่า test แล้วและยืนยันว่าเป็นที่ล้อ ทั้งนี้ผมเลยลองขับที่ความเร็ว 100 กม./ชม. คราวนี้ยิ่งได้ยินเสียงครืดดดมาเลย จึงโทรบอกอู่ฯอีกครั้ง อู่ฯจึงให้นำรถกลับไปแก้ไขครั้งที่ 3 (เดาว่าน่าจะเป็นที่ลูกปืนไม่ก็เฟืองที่ซุ้มล้อขวาหลังด้านที่โดนชนมา) อู่ฯก็บอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะเปลี่ยนชุดอะไหล่ให้ใหม่ทั้งหมดและเปลี่ยนลูกปืนข้างในไปแล้ว 2 ครั้ง ผมก็เริ่มจะไม่ค่อยไว้ใจ เลยโทรไปยังบริษัทฯประกันเพื่อติดตามงานเอง ก็งงนะครับ เพราะมีข้อมูลนึงที่ทางบริษัทประกัน แจ้งว่า เพิ่งมีขออนุมัติลูกปืนมาและแจ้งอนุมัติเปลี่ยนไปให้เอง(งง) ทั้งนี้ผมมีแผนเดินทางกลับ ตจว. ในวันที่ 30 ธ.ค.59 จึงได้แจ้งอู่ฯและบริษัทฯประกันไป ทางบริษัทฯประกันก็ช่วยเร่งหาอะไหล่(ใหม่อีก)มาให้ทัน จนได้มีการนัดหมายเพื่อรับรถในวันที่ 29 ธ.ค.2559 ช่วงบ่ายโมง
วันที่ 29 ธ.ค.2559 ผมก็ได้เดินทางไปรับรถ และนำไปใช้งานปกติ(อู่ฯแจ้งว่า test มาเรียบร้อย) ผมก็ลองขับดู เบื้องต้นผ่านครับ ไม่มีเสียงและอาการใดๆ แต่ผมก็ไม่ไว้ใจจึงไม่กล้าที่จะขับรถเดินทางไกลกลับบ้านที่ ตจว.(ทางใต้) ระยะทางประมาณ 500 กม. หรือไปที่อื่นที่ไกลมาก ได้แต่ขับใกล้ๆบ้าน(อาการรถปกติ) ผมจะกลับไปหาพ่อแม่พี่น้อง ญาติ ตจว.แค่ปีละ 2 ครั้ง(ปีใหม่, สงกรานต์) ปีใหม่นี้เลยไม่ได้กลับ รู้สึกแย่มาก
จนวันที่ 2 ม.ค.2560 ช่วงเช้า ผมจำเป็นต้องพาสุนัขไปฉีดยาแถววัชรพล โดยเดินทางไปกับแฟน วิ่งออกจากบ้าน(ลำลูกกาคลอง 4-5)ขึ้นถนนกาญจนาภิเษก เพื่อมุ่งหน้าไปยังรามอินทรา ก็พบว่ารถส่ายไปมา ควบคุมไม่ได้ ล้อรวมทั้งเพลากลางหลุดออกมาระหว่างที่ขับ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่สามารถเบรครถได้เลยจึงพยายามควบคุมรถเพื่อเข้าข้างทางให้ได้มากที่สุด โดยอาจจะต้องใช้ผนังกั้นข้างทางหยุดรถ แต่ก็ยังโชคดีที่รถได้หยุดก่อนที่จะไปลงข้างทางหรือถึงจุดที่มีผนังกั้น
ในเวลาเที่ยงของวันที่ 2 ม.ค.2560 ก็มีรถยกในเครือของบริษัทฯประกัน มายกรถไปไว้ที่อู่ฯเดิมดังกล่าว (ลืมไป มีพี่กระบะใจดีแวะมาช่วย รอจนรถยกมา น้ำใจดีงามมากเลยครับ)
ตอนนี้ผมได้แจ้งเรื่องไปทางบริษัทฯประกัน และอู่เป็นที่เรียบร้อย รอผลในเรื่องความรับผิดชอบและการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอยู่ครับ
(ผมอยากให้ลองนึกถึงว่า ถ้าเป็นตัวคุณเองเดินทางไปไหนก็ตาม มีลูก มีภรรยา หรือคนในครอบครัวไปด้วย แล้วเกิดอุบัติเหตุเพราะความสะเพร่าของใครบางคน ซึ่งตัวคุณยังต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ไหนจะบ้าน ,รถ ความเป็นอยู่ของคนในครอบครัว แล้วคุณเป็นอะไรไป......)
....เพื่อนๆ มีความคิดเห็นหรือแนะนำประสบการณ์หรือความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงได้บ้าง แชร์กันได้นะครับ ขอบคุณครับ
ประสบการณ์แย่ๆจากการใช้บริการของอู่รับงานบริษัทฯประกันภัยรถยนต์
ผมขับรถมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู(เกียร์ออโต้) ซึ่งไปประสบอุบัติเหตุรถชนกลางสี่แยก รถผมหมุน 2 รอบ กระบะท้ายด้านหลังบุบด้วย โดยรถเหมือนจะไม่เป็นอะไรมาก แต่เวลาขับล้อหลังขวาเหมือนจะส่ายไปมาเล็กน้อยและมีเสียงดังหึ่งๆ จากอุบัติเหตุก็ได้มีการเรียกประกันเพื่อออกเอกสารเคลมตามกระบวนการ(ผมใช้ของบริษัทประกันภัย(พื้นสีชมพู) ชั้น 2+) หลังจากนั้นก็นำรถกลับเพื่อรอนำเข้าอู่ (ช่วงระหว่างนี้ เปิดใน google เพื่อเช็คอู่รับงานบริษัทฯประกันภัย ตามชื่อในเล่ม ว่าอู่ที่เลือกไว้(เลือกใกล้บ้าน) มี comment แย่ๆหรือไม่ ก็เลือกได้ อู่ชื่อ....... การาจ(ลำลูกกาคลอง 3 ใกล้บ่อนชนไก่...) ก่อนเข้าไป ก็ได้โทรไปเช็คคิวงานเบื้องต้น ทางอู่ฯก็แจ้งมาว่า คิวไม่ยาวมาก)
ในวันที่ 14 พ.ย.2559 จึงได้นำรถเข้าอู่ฯเพื่อดำเนินการซ่อมต่อไป ซึ่งทางอู่ฯก็ได้มาตรวจความเสียหายพร้อมจดรายการชิ้นส่วนที่จะดำเนินการแก้ไขดังกล่าว และให้ผมนำรถกลับไปก่อน เพราะทางอู่ฯต้องทำเรื่องขออนุมัติอะไหล่จากบริษัทฯประกันก่อน และแจ้งเบื้องต้นว่า จะสามารถนำรถเข้ามาอู่ฯได้ในวันที่ 23 พ.ย.2559
ในวันที่ 26 พ.ย.2559 ผมได้ติดต่อกลับไปทางอู่ฯ เพื่อสอบถามวันที่จะให้นำรถเข้าไปซ่อม(จากนัดหมายเดิม ไม่เป็นไปตามที่แจ้งไว้)และขอให้ทางอู่ฯช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาจากการขับแล้วทำให้ล้อหลังส่ายก่อนได้หรือไม่ เพื่อจะได้นำไปใช้งาน ส่วนที่บุบด้านหลังผมคิดไว้ว่าทำทีหลังก็ได้ ซึ่งทางอู่ฯแจ้งว่าเวลาเช็คต้องถอดมาทั้งช่วงล่าง ยังไงก็รออะไหล่อยู่ดี (ผมก็ตามนั้น) และทางอู่ฯก็แจ้งว่ายังรอบริษัทฯประกันส่งอะไหล่มาให้อยู่ ผมเลยโทรไปที่บริษัทฯประกัน ซึ่งทางบริษัทฯประกันแจ้งว่าให้ตามเรื่องอีกทีในวันจันทร์ที่ 28 พ.ย.2559(งานตามเรื่องเคลมหรือเรื่องต่างๆที่ไม่ใช่แจ้งอุบัติเหตุ จะต้องติดต่อในวันทำการ เท่านั้น... - -“ ) ในวันที่ 28 พ.ย.2559 ผมก็ได้ประสานไปยังบริษัทฯประกัน เพื่อตามเรื่องอะไหล่ดังกล่าว และในวันเดียวกันนั้นเองทางอู่ฯก็ได้โทรมาแจ้งให้นำรถเพื่อเข้าซ่อมได้ในวันที่ 29 พ.ย.2559 (ก็นำรถเข้าไปตามนัดหมาย)
ในวันที่ 29 พ.ย.2559 นำรถเข้าไปซ่อมตามนัดหมาย และรอดำเนินการซ่อมแซมและแก้ไขดังกล่าว ระหว่างนั้นผมก็ได้ติดต่ออู่ฯบ้างเรื่องวันที่รถจะเสร็จ(เกรงจะไม่เสร็จทันปีใหม่ เพราะจะต้องใช้เดินทางกลับ ตจว. (กลับปีละ 2 ครั้งเอง)) ทั้งนี้อู่ฯได้แจ้งมาว่าขอให้ผมหาล้ออะไหล่มาให้ test หน่อย ว่าต้องซ่อมล้อแม็กซ์(เดิม) หรือไม่ (พอดีว่าล้ออะไหล่ที่ติดกับรถมาถูกขโมย จึงไม่มีติดกับรถครับ) ผมก็นะ แต่ก็ยังหาไม่ได้ซักที จนผมได้โทรไปตำหนิอู่ฯเล็กน้อยว่า ทำไมผมต้องมาวิ่งตามเรื่องอะไรให้แบบนี้ จนผ่านไป 2 วัน อู่ฯก็นัดหมายให้ไปรับรถในวันที่ 14 ธ.ค.2559
ในวันที่ 14 ธ.ค.2559 ผมก็ไปรับรถตามปกติและนำรถไปใช้ตามปกติ (เดินทางทำงานกลับบ้านจากลำลูกกาไปแถวซอยอารีย์) และใช้งานปกติ จนวันที่ 21 ธ.ค.2559 ผมต้องเดินทางไปหาลูกค้า จ.นครสวรรค์ ช่วงระหว่างที่ขับไปจนถึงอยุธยานั้น ก็รู้สึกและได้ยินเสียงแปลกๆ ดังครืดดดดดด ครืดดดดดด เลยได้สอบถามไปทางอู่ว่าเป็นเพราะอะไร อู่ก็แจ้งว่าเป็นเพราะล้อแม็กซ์น่าจะขด ยังไงก็ให้ผมหาล้ออะไหล่มาเปลี่ยนดีกว่า(อาว แสดงว่าไม่ได้ตรวจสอบให้ก่อนเลย) พอไปถึงนครสวรค์ เสร็จงานจากไปหาลูกค้า ผมก็รีบนำรถเข้าไปเพื่อเปลี่ยน(ซื้อกะทะอะไหล่ และสลับยางเอา) ปรากฏว่า อาการเหมือนเดิม(เสียตังค์ฟรี) จึงได้ลองให้ช่างแถวนั้นยกรถเพื่อลองหมุนล้อดู พบว่าน่าจะเกิดจากเฟืองท้าย และช่างก็บอกว่าให้นำกลับไปเคลมกับอู่เก่าดีกว่า ผมจึงขับรถกลับ กทม. ด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. เกรงจะมีปัญหาระหว่างทาง เลยขับช้าๆ และได้โทรแจ้งอู่ฯอีกครั้งเพื่อนัดนำรถเข้าแก้ไขครั้งที่ 2(มีพวงมาลัยที่จะแข็งๆเวลาเลี้ยวด้วย)
ในวันที่ 22 ธ.ค.2559 ผมจึงได้นำรถเข้าอู่ฯอีกครั้ง เพื่อแก้ไข โดยตอนแรกทางอู่ฯจะยังไม่ดำเนินการแก้ไขพวงมาลัยให้ จนกว่าบริษัทฯประกันจะอนุมัติเรื่อง เพราะมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับอุบัติเหตุ แต่ผมแจ้งว่ารถหมุน 2 รอบ และทางบริษัทฯประกันเองก็แจ้งเห็นว่าค่าใช้จ่ายไม่เยอะและน่าจะเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุ จึงอนุมัติให้ซ่อมได้(ขอบคุณครับที่เข้าใจ)...ซึ่งอู่ฯก็ได้นัดหมายให้ไปรับรถในวันที่ 24 ธ.ค.2559 (ทั้งนี้ผมก็ได้ย้ำอู่ฯว่ารบกวนช่วย test รถ ก่อนส่งมอบงานด้วย) และก่อนที่จะเข้าไปรับรถครั้งที่ 2 นี้ อู่ฯก็ได้แจ้งว่าล้อของผมจะมีเสียงดังเวลาขับหน่อย เหตุเพราะเสียงจากล้อ
วันที่ 24 ธ.ค.2559 ผมได้เข้าไปรับรถ พอผมลองขับก็จริง มีเสียงดัง หวึ่งๆๆ ในความเร็วรอบที่ 20 กม./ชม. ขึ้นไป ผมก็นำไปเช็คที่ร้านยางแถวๆบ้าน ช่างยางก็บอกว่าไม่น่าเป็นไปได้เนื่องจากยางเพิ่งใช้มาแค่ 2 หมื่นกว่าโล และยางรุ่นนี้จะนิ่ม ก็แนะนำให้กลับไปแก้ไขที่อู่เดิม ผมก็โทรไปอู่ฯ ทางอู่ฯก็บอกว่า test แล้วและยืนยันว่าเป็นที่ล้อ ทั้งนี้ผมเลยลองขับที่ความเร็ว 100 กม./ชม. คราวนี้ยิ่งได้ยินเสียงครืดดดมาเลย จึงโทรบอกอู่ฯอีกครั้ง อู่ฯจึงให้นำรถกลับไปแก้ไขครั้งที่ 3 (เดาว่าน่าจะเป็นที่ลูกปืนไม่ก็เฟืองที่ซุ้มล้อขวาหลังด้านที่โดนชนมา) อู่ฯก็บอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะเปลี่ยนชุดอะไหล่ให้ใหม่ทั้งหมดและเปลี่ยนลูกปืนข้างในไปแล้ว 2 ครั้ง ผมก็เริ่มจะไม่ค่อยไว้ใจ เลยโทรไปยังบริษัทฯประกันเพื่อติดตามงานเอง ก็งงนะครับ เพราะมีข้อมูลนึงที่ทางบริษัทประกัน แจ้งว่า เพิ่งมีขออนุมัติลูกปืนมาและแจ้งอนุมัติเปลี่ยนไปให้เอง(งง) ทั้งนี้ผมมีแผนเดินทางกลับ ตจว. ในวันที่ 30 ธ.ค.59 จึงได้แจ้งอู่ฯและบริษัทฯประกันไป ทางบริษัทฯประกันก็ช่วยเร่งหาอะไหล่(ใหม่อีก)มาให้ทัน จนได้มีการนัดหมายเพื่อรับรถในวันที่ 29 ธ.ค.2559 ช่วงบ่ายโมง
วันที่ 29 ธ.ค.2559 ผมก็ได้เดินทางไปรับรถ และนำไปใช้งานปกติ(อู่ฯแจ้งว่า test มาเรียบร้อย) ผมก็ลองขับดู เบื้องต้นผ่านครับ ไม่มีเสียงและอาการใดๆ แต่ผมก็ไม่ไว้ใจจึงไม่กล้าที่จะขับรถเดินทางไกลกลับบ้านที่ ตจว.(ทางใต้) ระยะทางประมาณ 500 กม. หรือไปที่อื่นที่ไกลมาก ได้แต่ขับใกล้ๆบ้าน(อาการรถปกติ) ผมจะกลับไปหาพ่อแม่พี่น้อง ญาติ ตจว.แค่ปีละ 2 ครั้ง(ปีใหม่, สงกรานต์) ปีใหม่นี้เลยไม่ได้กลับ รู้สึกแย่มาก
จนวันที่ 2 ม.ค.2560 ช่วงเช้า ผมจำเป็นต้องพาสุนัขไปฉีดยาแถววัชรพล โดยเดินทางไปกับแฟน วิ่งออกจากบ้าน(ลำลูกกาคลอง 4-5)ขึ้นถนนกาญจนาภิเษก เพื่อมุ่งหน้าไปยังรามอินทรา ก็พบว่ารถส่ายไปมา ควบคุมไม่ได้ ล้อรวมทั้งเพลากลางหลุดออกมาระหว่างที่ขับ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่สามารถเบรครถได้เลยจึงพยายามควบคุมรถเพื่อเข้าข้างทางให้ได้มากที่สุด โดยอาจจะต้องใช้ผนังกั้นข้างทางหยุดรถ แต่ก็ยังโชคดีที่รถได้หยุดก่อนที่จะไปลงข้างทางหรือถึงจุดที่มีผนังกั้น
ในเวลาเที่ยงของวันที่ 2 ม.ค.2560 ก็มีรถยกในเครือของบริษัทฯประกัน มายกรถไปไว้ที่อู่ฯเดิมดังกล่าว (ลืมไป มีพี่กระบะใจดีแวะมาช่วย รอจนรถยกมา น้ำใจดีงามมากเลยครับ)
ตอนนี้ผมได้แจ้งเรื่องไปทางบริษัทฯประกัน และอู่เป็นที่เรียบร้อย รอผลในเรื่องความรับผิดชอบและการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอยู่ครับ
(ผมอยากให้ลองนึกถึงว่า ถ้าเป็นตัวคุณเองเดินทางไปไหนก็ตาม มีลูก มีภรรยา หรือคนในครอบครัวไปด้วย แล้วเกิดอุบัติเหตุเพราะความสะเพร่าของใครบางคน ซึ่งตัวคุณยังต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ไหนจะบ้าน ,รถ ความเป็นอยู่ของคนในครอบครัว แล้วคุณเป็นอะไรไป......)
....เพื่อนๆ มีความคิดเห็นหรือแนะนำประสบการณ์หรือความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงได้บ้าง แชร์กันได้นะครับ ขอบคุณครับ