ในวันที่ฉันเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง

ต้องบอกก่อนว่า ที่รู้ว่าเป็นขั้นรุนแรงคือเราได้รับคำวินิจฉัยจากแพทย์ด้านจิตเวชแล้วนะค่ะ  

สาเหตุที่เป็นโรคนี้คือ เริ่มจากการที่เราได้กลับมาเรียนหนังสือระดับมหาวิทยาลัยอีกครั้งหลังจากที่เราตั้งครรภ์แล้วดรอปเรียนไปเป็นเวลา 2 ปี ในการกลับมาเรียนครั้งนี้ทำให้เราได้มีโอกาสพบเจอกับคนที่ขึ้นชื่อว่า พ่อของลูก อีกครั้งนึง หลังจากที่เค้าได้หายไปจากชีวิตของเราตั้งแต่เราท้องได้ 3 เดือน

การกลับมาเจอกันรอบนี้เราก็คาดหวังว่า เราจะมีโอกาสที่จะได้อยู่กันแบบครอบครัว มี พ่อ แม่ แล้วก็ลูกชายของเรา ซึ่งในช่วงแรกๆเค้าดีกับเรามาก ดูเป็นห่วงเป็นใยลูกของเรา ในระหว่างที่เรากลับมาคบกันก็มีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นบ้างตามประสาคนที่คบกัน ซึ่งการคบกันในครั้งนี้คนรอบข้างไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะเค้าทิ้งเราไปตั้งแต่เราท้อง คนรอบข้างก็ได้แต่พูดว่า ผู้ชายคนไม่ดีหรอก เป็นพ่อของลูกก็ยังทำไม่ได้เลย แต่เราก็มักจะแก้ตัวให้เค้าตลอด เรารักเค้ามาก รักมากซะจนเวลาที่ทะเลาะกันเค้าจะทำร้ายจิตใจ หรือทำร้ายร่างกายเราก็ยอมทุกอย่าง

จนกระทั่งมาถึงครั้งสุดท้ายที่เราสองคนทะเลาะกัน เราทะเลาะกันเพราะเรื่องผู้หญิง เราก็ด่ากันไปด่ากันมา จนเค้าโมโหมาก เค้าก็เลยหาท่อนเหล็กที่เค้าพกติดไว้ตอนนั้นเราก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าจะเอาท่อนเหล็กนั้นมาตีเรามั้ย แต่เราก็ใจเสียไปแล้ว ก็เลยได้แต่ร้องไห้ เค้าก็พยายามไล่เราแต่เราไม่ไปเค้าก็เลยไปหยิบขวดน้ำมาขว้างใส่หัวเรา พอถึงตอนเช้าเราอยากที่จะเคลียร์กับเค้าให้รู้เรื่อง ตอนนั้นเค้าโกรธเรามากเลยนัดเราไปเคลียร์ในที่ๆไม่ค่อยมีคนไป ในใจเราตอนนั้นก็รู้ชชะตาแล้วว่าเค้าอาจจะทำร้ายเรา แต่เราก็คิดแต่ว่า ไม่เป็นไรขอเพียงแค่ให้เค้าไม่ทิ้งเราไปเรายอมได้ทุกอย่าง

สรุปแล้วเค้าก็ทิ้งเราไปค่ะ พอเรารู้แบบนั้นเราก็สติแตก คิดโง่ๆว่าไม่อยากจะอยู่แล้วก็เลยกินยาเข้าไปประมาณเกือบสี่สิบเม็ด ผลก็คือ เราหลับไป 8 วันค่ะ ในระหว่างที่หลับก็ได้ยินเสียงคนพูดกับเราว่า ตื่นขึ้นมาสิ อย่าเป็นอะไรไปนะ ได้ยินประมาณนี้ค่ะ ได้ยินเสียงลูก ลูกของเราบอกว่า อย่าทำแม่นะ อย่าตีแม่นะ แม่เป็นอะไร เมื่อไหร่แม่จะตื่น พอเราฟื้นขึ้นมาได้ก็เอาแต่ร้องไห้ แล้วก็ถูกส่งตัวไปหาจิตแพทย์ ตอนนั้นเราจำไม่ได้ว่าเราพูดอะไรกับแพทย์บ้าง จำได้อย่างเดียวคืออยากตาย จนคุณหมอต้องขอคุยกับพ่อ มารู้ตอนหลังก็คือคุณหมอบอกให้พ่อดูแลเรื่องยาอย่างใกล้ชิด

อาการหลังจากการพบจิตแพทย์ครั้งแรกคือ เราเก็บตัวอยู่คนเดียวในห้อง เอาแต่ร้องไห้ ไม่พูดไม่จากับใคร เหมือนรู้สึกว่าแค่อยากให้ทุกอย่างมันผ่านไปไวๆ เราเป็นแบบนั้นอยู่ประมาณสองเดือน หลังจากนั้นก็คืออาการดีขึ้นแต่ก็ยังติดร้องไห้ หดหู่เหมือนเดิม ยังคิดถึงแฟนเกมือนเดิม เรายังส่งไลน์ไปหาแฟนทุกวันแต่ไม่มีการตอบกลับเพราะเค้าบล็อคเรา ตอนนี้อาการเราก็ดีขึ้นมาก เรารักษามาได้เกือบปีแล้วค่ะ เพิ่งไปหาหมอมาวันนี้ คุณหมอบอกว่ายังต้องกินยาไปก่อนอย่างน้อยก็ต้อฃกินไปจนกว่าจะเรียนจบ

ปล. อันนี้เป็นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องแต่งนะค่ะ แล้วก็ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่