เรื่องมีอยู่ว่า
พ่อกับแม่ของผม (ชราแล้วอยู่กัน2คน) กู้ร่วมซื้อบ้านหลังหนึ่งที่ต่างจังหวัด เป็นบ้านหลังปัจจุบันที่ท่านอยู่ อยู่มาราว10ปี
แต่ว่าพ่อผมไปค้ำประกันให้เพื่อน นานละครับเป็นสิบๆปี คดีเพิ่งจะยุติไปเมื่อปี 2548 ศาลพิพากษาตัดสินให้ยึดทรัพย์เพื่อนพ่อ แต่มูลค่าไม่เพียงพอ
จึงได้ทำการยึดทรัพย์บ้านที่พ่อแม่ผมกู้เช่าซื้ออยู่ด้วย
(ปัจจุบันยังติดจำนอง ผ่อนอยู่ แต่เหลือยอดไม่เยอะแล้วครับ)
จนกรมบังคับคดีนำบ้านพ่อแม่ผมประกาศประมูลขาย
ผมเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวานนี้ครับ
เพราะพ่อกับแม่ไม่เคยบอกเลย
พอเขาจะประมูลขายผ่านกรมบังคับคดี(ครั้งสุดท้าย) จึงโทรมาบอก
(พ่อใช้สิทธิ์จำเลยค้านราคาไป1ครั้งตอนประมูลครั้งล่าสุด)
ถ้าผมสามารถชนะประมูลมาได้ ผมอยากทราบว่า
1. ผมจะยื่นเรื่องกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้หรือไม่ เนื่องจากผมเป็นบุตรโดยตรง
เห็นมีหลายคนบอกว่าธนาคารมักไม่ปล่อยสินเชื่อกรณีลูกซื้อบ้านพ่อแม่
2. มีทางอื่นที่ดีกว่านี้ไหมครับ เช่น
2.1 กรณีแบบนี้กู้ Personal loan จะดีกว่าไหมครับ ผมมีเงินสด แต่ไม่เยอะครับ (เป็น LTF RMF ประกันชีวิต และออมสิน 10/1 10/2 ซะส่วนใหญ่) ไม่พอยอดประมูลแน่ ต้องมีเงินมาโปะเพิ่ม แต่ดอกเบี้ย Personal loan แพงกว่าดอกเบี้ยบ้านแน่ๆ คือราว9-25% ต่อปี ขณะที่ดอกเบี้ยบ้าน ราว7% ต่อปี
แต่ถ้าประมูลได้ ธนาคารอนุมัติ ก็ต้องมีค่าโอน ค่าธรรมเนียม ค่าอื่นๆตามมาเช่นกัน
2.2 กู้ออมสิน 10/1 10/2 ดีไหมครับ ดอกต่ำกว่า แต่ว่าต้องกู้หลายกรมธรรม์ เพราะกรมธรรม์ละ 100000 บาท/ปี (ซื้อลดหย่อนภาษี)
3. ผมควรคุยกับคนที่มาประมูลไม๊ครับ ว่าผมอยากได้จริงๆ อย่าสู้ผมเลย ต่างคนต่างจะได้แต่ของแพง ขอร้องหรือให้ค่าเสียเวลาเขา จะดีไหมครับ
4. ถ้ากรณีนี้ หลังผมประมูลได้ แล้วนำเงินมาจ่ายให้กรมบังคับคดีทั้งหมด สมมุติว่า ประมูลได้ 4 ล้าน ผมเอาเงินมาจ่ายกรมบังคับคดีเสร็จ แล้วแม่ผมซึ่งเป็นผู้กู้ร่วม (แต่ไม่ใช่จำเลย จำเลยคือพ่อผม) จะได้เงินครึ่งนึงของค่าประมูล คือ2ล้านไหมครับ
ขอบคุณครับ
กำลังปวดหัว เพราะต้องเร่งหาแหล่งเงิน และไม่เคยประสบปัญหาเงินๆทองๆแบบนี้เลย
จริงๆอยากให้พ่อแม่ทุกคน อย่าเกรงใจลูกเลยครับ
ลูกรักพ่อแม่ เรื่องแบบนี้บอกกันเถอะครับ รีบแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆดีกว่า
นี่มาทราบเมื่อวานนี้เอง เงินสดก็ไม่ได้สำรองไว้ ปลายปีที่แล้วก็เอาไปซื้อ RMF, LTF, ประกัน , บำนาญจะเกลี้ยงเลย
ไม่ได้คิดว่าแผนการเงินตนเองจะล้มเหลวเละเทะแบบนี้
พลาดที่คิดว่า สำรองเงินสดไว้ 2 เท่าของเงินเดือน จะพอเหตุฉุกเฉิน
ดูไว้เป็นตัวอย่างครับ
อย่าประมาท ทุกเรื่องไม่คาดคิด สามารถเกิดได้เสมอ
พ่อแม่ไม่เคยบอกปัญหากับลูกจนกระทั่ง...
พ่อกับแม่ของผม (ชราแล้วอยู่กัน2คน) กู้ร่วมซื้อบ้านหลังหนึ่งที่ต่างจังหวัด เป็นบ้านหลังปัจจุบันที่ท่านอยู่ อยู่มาราว10ปี
แต่ว่าพ่อผมไปค้ำประกันให้เพื่อน นานละครับเป็นสิบๆปี คดีเพิ่งจะยุติไปเมื่อปี 2548 ศาลพิพากษาตัดสินให้ยึดทรัพย์เพื่อนพ่อ แต่มูลค่าไม่เพียงพอ
จึงได้ทำการยึดทรัพย์บ้านที่พ่อแม่ผมกู้เช่าซื้ออยู่ด้วย
(ปัจจุบันยังติดจำนอง ผ่อนอยู่ แต่เหลือยอดไม่เยอะแล้วครับ)
จนกรมบังคับคดีนำบ้านพ่อแม่ผมประกาศประมูลขาย
ผมเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวานนี้ครับ
เพราะพ่อกับแม่ไม่เคยบอกเลย
พอเขาจะประมูลขายผ่านกรมบังคับคดี(ครั้งสุดท้าย) จึงโทรมาบอก
(พ่อใช้สิทธิ์จำเลยค้านราคาไป1ครั้งตอนประมูลครั้งล่าสุด)
ถ้าผมสามารถชนะประมูลมาได้ ผมอยากทราบว่า
1. ผมจะยื่นเรื่องกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้หรือไม่ เนื่องจากผมเป็นบุตรโดยตรง
เห็นมีหลายคนบอกว่าธนาคารมักไม่ปล่อยสินเชื่อกรณีลูกซื้อบ้านพ่อแม่
2. มีทางอื่นที่ดีกว่านี้ไหมครับ เช่น
2.1 กรณีแบบนี้กู้ Personal loan จะดีกว่าไหมครับ ผมมีเงินสด แต่ไม่เยอะครับ (เป็น LTF RMF ประกันชีวิต และออมสิน 10/1 10/2 ซะส่วนใหญ่) ไม่พอยอดประมูลแน่ ต้องมีเงินมาโปะเพิ่ม แต่ดอกเบี้ย Personal loan แพงกว่าดอกเบี้ยบ้านแน่ๆ คือราว9-25% ต่อปี ขณะที่ดอกเบี้ยบ้าน ราว7% ต่อปี
แต่ถ้าประมูลได้ ธนาคารอนุมัติ ก็ต้องมีค่าโอน ค่าธรรมเนียม ค่าอื่นๆตามมาเช่นกัน
2.2 กู้ออมสิน 10/1 10/2 ดีไหมครับ ดอกต่ำกว่า แต่ว่าต้องกู้หลายกรมธรรม์ เพราะกรมธรรม์ละ 100000 บาท/ปี (ซื้อลดหย่อนภาษี)
3. ผมควรคุยกับคนที่มาประมูลไม๊ครับ ว่าผมอยากได้จริงๆ อย่าสู้ผมเลย ต่างคนต่างจะได้แต่ของแพง ขอร้องหรือให้ค่าเสียเวลาเขา จะดีไหมครับ
4. ถ้ากรณีนี้ หลังผมประมูลได้ แล้วนำเงินมาจ่ายให้กรมบังคับคดีทั้งหมด สมมุติว่า ประมูลได้ 4 ล้าน ผมเอาเงินมาจ่ายกรมบังคับคดีเสร็จ แล้วแม่ผมซึ่งเป็นผู้กู้ร่วม (แต่ไม่ใช่จำเลย จำเลยคือพ่อผม) จะได้เงินครึ่งนึงของค่าประมูล คือ2ล้านไหมครับ
ขอบคุณครับ
กำลังปวดหัว เพราะต้องเร่งหาแหล่งเงิน และไม่เคยประสบปัญหาเงินๆทองๆแบบนี้เลย
จริงๆอยากให้พ่อแม่ทุกคน อย่าเกรงใจลูกเลยครับ
ลูกรักพ่อแม่ เรื่องแบบนี้บอกกันเถอะครับ รีบแก้ปัญหาแต่เนิ่นๆดีกว่า
นี่มาทราบเมื่อวานนี้เอง เงินสดก็ไม่ได้สำรองไว้ ปลายปีที่แล้วก็เอาไปซื้อ RMF, LTF, ประกัน , บำนาญจะเกลี้ยงเลย
ไม่ได้คิดว่าแผนการเงินตนเองจะล้มเหลวเละเทะแบบนี้
พลาดที่คิดว่า สำรองเงินสดไว้ 2 เท่าของเงินเดือน จะพอเหตุฉุกเฉิน
ดูไว้เป็นตัวอย่างครับ
อย่าประมาท ทุกเรื่องไม่คาดคิด สามารถเกิดได้เสมอ