ช่วงหนึ่งในการเดินทางของชีวิต อาจจะดูมืดมิดไร้จุดหมายบ้าง
แต่ถึงจะไกลแค่ไหนกับระยะทาง ก็ไม่เคยคิดจะปล่อยวางทิ้งมันไป เพราะความสุขอยู่ที่ปลายทางไม่ใช่ระยะทาง
ภูกระดึง คือสถานที่ที่ทุกคนต้องไปลองสักครั้ง หรือหลายครั้งก้ได้ เหมือนกับผมที่ไปครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง แต่ช่างแตกตากจากครั้งแรกซะเหลือเกิน แต่ต่างที่อายุผมเนี่ยฮ่าๆ (รุ้สึกแก่)
จุดเริ่มต้นของ Trip นี้คือการที่จะปิดคอร์สเรียนวิชาสุดท้ายของเทอม ก่อนที่จะไปเครียดกับสอบ เลยหา Trip ส่งท้ายความเครียดซะหน่อย ทีแรกก็กะจะไปคนเดียว เลยโพส สเตตัสหา Trip แจม แต่ก็ดันลืมว่ามีเพื่อนผมคนนึง มันมี Trip ของมันไว้ละ มันชวนผมไปด้วยมันถึงขั้นมาตอบโพสผมเลยทีเดียว ฮ่าๆ(มันมาชวนตอนเมาใครจะจำได้) พอคุยรายระเอียดโน้นนี่กันเสร็จ ก็ลุยเลยครับ เขียนใบลายื่นหัวหน้าทันที
24/12/59
เราเริ่มต้นกันที่ อ.บุงคล้า จ.บึงกาฬ ใช้เส้นทาง หนองคาย –อุดร-หนองบัว-เลย ขับรถไปเรื่อยๆ เรื่อยๆเรื่อยๆและก็เรื่อยๆ ผ่านไปราวๆ 4-5 ชั่วโมง ฟังเพลงใน youtube จน 4G จะหมด ก็ถึงทางเข้าอุทยาน ฮ่าๆมาทั้งทีไม่ถ่ายรูปหน้าอุทยานก็คงไม่ได้ จอดรถสิครับจอด

และนี่ก็คือรูปรวมรูปเดียวของพวกเราที่ครบทุกคน

จากนั้นก็ขับรถเข้าไปหาที่จอด จัดแจงซื้อบัตรขึ้นภู คนละ 30 บาท หน้าตาก็จะประมานนี้

ส่วนใครของเยอะก็ไม่ต้องห่วงครับ มีคนแบกขึ้นให้ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ลูกหาบ กิโลละ 30 บาท ส่วนผม แบกเองครับฮ่าๆ ไม่ใช่อะไรหรอก ของผมไม่หนักมาก จัดเตรียมของกันเสร็จ ก็ลองท้องเติมพลังกันสักหน่อยก่อนที่จะใช้พลังงานอีกจำนวนมหาสาร (แต่ความจริงคือนั่งทำใจฮ่า)
คนพร้อมกล้องพร้อม แล้วก็ลุยเลยครับ เหมือนขาพร้อมก้าวเต็มที่ แต่พอมองเห็นจำนวนระยะทางเท่านั้นแหละ มือปาดเหงื่อรอเลยครับผม
แค่เริ่มต้นก็เดินยากซ๊ะแล้วเพื่อนผม ฮ่าๆ นะตอนนี้ใจมันอยากกลับอยากเดียว

ขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับ ว่า ภูกระดึง ซำแฮกเป็นซำที่ปราบเซียนที่สุด เพราะฉะนั้นแล้ววอย่ากลัวครับ ผ่านซำนี้ได้ สบายเลยยยยย


ไม่นานเราก็ถึง ซำแฮกแต่กว่าจะถึงนี่ เพื่อนผมแทบจะคลานเอาอยู่เเล้วครับ พักครับพัก

ต่อด้วยซำต่อไป ยังเดินต่อไปอีกเรื่องๆเพราะระยะทางช่างอีกยาวไกลซะเหลือเกิน

เดินมาสักพักเราก้ถึง ซำกกโดน ฮ่าๆภาพบนทำไมเขาช่างร่าตัดภาพมาที่เพื่อนผม หึหึ เช็ดเหงื่อด้วยเพื่อน ที่ซัมนี้ มีวิวให้พักดุเล่น ดุจนเพลินเลยละ เพลินจนไม่อยากเดินต่ออ่าๆ

น้ำเปล่าคืออีกสิ่งที่ต้องพกติดตัว เพราะคุรอาจเหนื่อยก่อนถึงที่พักแต่ละซำก็ได้

นอกจากน้ำเปล่า ไอติมหลอดก็ช่วยให้หายเหนื่อยได้นะครับ

เดิน เรายังเดินต่อเนื่อง

เดินมาเรื่อยๆผมเริ่มได้ทิ้งห่างเพื่อน เพราะรีบขึ้นมาถ่ายแสงดวงอาทิตย์ กลัวแสงจะลงต่ำก่อน จึงตัดสินใจเดินมาก่อนคนเดียว ด้วยความที่มาคนเดียวไม่รู้จะถ่ายใคร ถ่ายลูกหาบก็ได้วะ

ที่นี่ซำแคร่ มีที่ให้พักกับลูกหาบด้วย

เดินไปถ่ายรูปไป ก็มาเจอกลุ่มครอบครัวนึง น่ารักมากครับ น้องเก่งมากๆ น้องชื่อน้องเชฟ ฮ่าๆและนี่แหละครับ เพื่อนเดินผม เพราะพ่อกับน้องสาวน้องเชฟหยุดพัก เลยให้น้องเดินก่อน ผมเลยเดินเล่นไปกับน้องเลย มาถึงจุดนี้ ขออนุญาติผู้ปกครองน้องเชฟด้วยนะครับ ที่ถ่ายรุปน้องมา

เดินไปดูลูกหาบไป ก็แอบคิดในใจว่าเขาไม่หนักบ้างเลยหรอ

เดินไปเรื่อยก้ยังไม่เจอด่านสุดท้ายสักที ก็ได้เเต่บอกน้องเชฟว่าไกล้แล้วไกล้ถึงเเล้ว เหมือนหลอกน้องเดินชิปหาย แต่ไม่นานเราก้ถึงหลังแป พอถึงหลังแป สิ่งที่ยอดฮิตก็คือการถ่ายภาพกับป้าย ฮ่าๆ ด้วยความที่เพื่อนผมยังไม่ขึ้นมา เลยบอกให้น้องเชฟ ไปเป็นแบบครับ เห็นมั้ยครับ น้องโคดน่ารัก

ระหว่างที่ผมรอเพื่อนบวกกับน้องเชฟรอผู้ปกครอง ผมเลยนั่งเล่นรอ ถ่ายรูปเล่นรอ

วิวด้านบนสวยมากครับ

ไม่นานเพื่อนผมก็ขึ้นมาแต่ๆๆๆๆๆ ขึ้นมาขึ้นเดียว

ที่เหลือคงกำลังตะเกียกตะกายขึ้นมาฮ่าๆ เอาถ่ายรูปคู่กับมันสักหน่อย

พอขึ้นมากันครบ พักเหนื่อยสักพักก็ได้เวลาถ่ายรูปกัน เดินไปสักพักเหลือบตาไปเห็นแสงดวงอาทิตย์แทรกมาตรงต้นเมเปิ้ล โอ้โห พูดได้เต็มปากเลยครับ ว่าสวยมากรอช้าอยู่ทำไม กดชัตเตอร์รัวๆสิครับ

จากนั้นเราก็เดินไปเรื่อยๆปลายทางคืออีก 3 กิโลเมตร เดินไป พักไป


ดูแสงพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าไป ได้บรรยากาศไปอีกแบบ



รูปนี้มันจะยิ้มเกินไปแล้วนะเพื่อน

พูดเลยว่าแวะบ่อยจนรูปล้นกล้อง ต้องกราบขออภัยหากรัวรูปจนน่าหมั่นใส้ จะไม่ให้รัวได้ยังไง วิวสวยบาดใจขนาดนี้

ต่อครับต่อ ไม่ได้เดินต่อนะ ถ่ายรูปต่อ

เดินไปสักพักเริ่มมืด ฮ่าๆ เริ่มหนาวและเริ่มน่ากลัว รีบสิครับรีบ ใครบอกให้อยากมาช้าฮ่าๆ

ก่อนแสงจะหมด ขอสักรูปละกัน

พอถึงลานกางเต้น ก็รีบโทรหาอาแป๋วทันที เพราะเราได้โทรมาจองเต้น ของอาแป๋วไว้ ราคาเต้นละ 300 บาท นอนได้ 3 คน เราเช่าสองเต้น แต่กว่าจะหาเจอนี่ นายนอยู่เหมือนกัน หากใครจะไปโทรไปจองได้นะครับ อยู่ร้าน ท.ทหาร ร้านป้าแกขายอาหาร ขายหมูกระทะด้วย เบอร์โทรติดต่อ 0621054127 เลยไม่รอช้า สั่งหมูกระมาทันที ชุดละ 500 อย่างบอกว่า โคดได้ฟิล


กินจนอิ่มหนำสำราญก็กลับเต้นเก็บของเก็บเสื้อผ้า แล้วไปอาบน้ำ ฮ่าๆ นี่ละครับที่สุดของความหนาวเย็น แค่มือสัมผัสน้ำยังชาไปทั้งตัวโอ้โหอะไรจะเย็นขนาดนี้ ด้วยความที่คนต่อแถวอาบน้ำเยอะ พวกเราจึงแบ่งขั้นตอนในการอาบฮ่าๆ โดยการล้างหน้าจากข้างนอก บางคนมีสระผมด้วยนะครับ แล้วเข้าไปตอนแถวอาบ แต่ ห้องอาบน้ำแต่ละโซนนั้นมีแค่สามห้องนี่ละครับปัญหา ไม่ลงไม่รอละ อาบห้องน้ำทั่วไปก็ได้วะ กลั้นหายใจมือจับขันใส่ไม่ยั้งเลยยยย
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กลับเต้น เพื่อนผมสลบไสลกันหมด ส่วนผม ฮ่าๆหานั่งคลายหนาวดูดาว อยากบอกว่า บนภูกระดึงนี่ ดาวสวยมากครับ ถ้าได้ไปครั้งหน้าสัญญาจะพกขาตั้งกล้องไปถ่ายอย่างดี ส่วนรอบนี้หรอฮ่าๆ เอา gopro ตั้งป๋องเบียร์ถ่ายครับ แต่รูปอยู่ในกล้องเพื่อนยืมต่อ เดี๋ยวถ้าได้กล้องมาแล้วจะมาแปะเพิ่มนะครับ
25/12/59

04.50 ตะเกียกตะกายตื่น เพื่อที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น หันมองซ้ายขวาไม่เห็นใครตื่น เอาวะ คนเดียวก็ได้ เดินสิครับเดิน ระยะทางประมาณ 3 กิโลได้ ไปกลับก็ 6 กิโล ด้วยความเดินคนเดียวและไม่อยากเอามือออกจากกระเป๋ากางเกง ฮ่าๆ อาศัยกลุ่มอื่นครับ อาศัยไฟฉายเขา ตอนเดินจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานเดินนำทาง หากใครอยากได้พื้นที่ในการชมวิวดีๆต้องรีบตื่นไปตั้งแถวนะครับ แล้วเวลาเราถึงก่อนก็สามารถจับจองพื้นที่ได้
พอไปถึงยังมืดอยู่ หาสิ่งคลายหนาวครับ กาแฟร้อนสักแก้วคงดี แล้วก็ดีจริงๆฮ่าๆจำหน่ายโดยเจ้าหน้าที่อุทยาน แก้วละ 25 บาทครับราคาน้ำร้อนนะ ส่วนกาแฟพี่เขาบอกว่าแถมฟรีฮ่าๆ
ท้องฟ้าเริ่มเปิดแสงสีส้มของดวงอาทิตย์เริ่มมาก



ส่วนตัวผมแล้วก็ไม่แปลกตาเท่าไหร่นักเพราะยังคุ้นตากับทะเลหมอกอยู่ (ไม่คุ้นได้ไงละก็พึ่งไปตาตอนวันที่ 12)


แสงเริ่มมายิ่งเริ่มกดชัตเตอร์รัวๆ ขอบอกไว้เลยนะครับว่า เสียงของดวงอาทิตย์เป็นแสงที่ขึ้นและลงเร็วมาก เพราะฉะนั้น อย่าช้าครับ รัวได้รัว
จากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เดินถ่ายบรรยากาศไปเรื่อยๆ




โดยส่วนตัวผมชอบรูปนี้มากครับ บอกเลยว่าสวยมาก


ยังครับยังไม่หยุด ผมยังถ่ายรูปไม่หยุด


ในความเหงายังมีความสุขเข้ามาแทรกแซง ดันมาเจอคนรู้จัก ฮ่าๆ น้องบุ๋มน้องโรงเรียนผมเอง เจ้าแม่แห่งการ blackpack ก่อนรู้จักกันผมนี่ fc กระทู้วังเวียงน้องเขาเลย อ่ะใหนๆก็เจอละ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ละทึกสักหน่อย เอ้าหันมาจะถ่ายให้

ด้วยความอยากได้รูปเลยรบกวนให้น้องถ่ายให้ จ้า ชัดมาก วิวข้างหลังเนี่ยชัดมาก

[CR] ภูกระดึง แค่ใจถึงก็ไปได้ (3 วัน 2 คืนที่หอบสังขารเดิน)
แต่ถึงจะไกลแค่ไหนกับระยะทาง ก็ไม่เคยคิดจะปล่อยวางทิ้งมันไป เพราะความสุขอยู่ที่ปลายทางไม่ใช่ระยะทาง
จุดเริ่มต้นของ Trip นี้คือการที่จะปิดคอร์สเรียนวิชาสุดท้ายของเทอม ก่อนที่จะไปเครียดกับสอบ เลยหา Trip ส่งท้ายความเครียดซะหน่อย ทีแรกก็กะจะไปคนเดียว เลยโพส สเตตัสหา Trip แจม แต่ก็ดันลืมว่ามีเพื่อนผมคนนึง มันมี Trip ของมันไว้ละ มันชวนผมไปด้วยมันถึงขั้นมาตอบโพสผมเลยทีเดียว ฮ่าๆ(มันมาชวนตอนเมาใครจะจำได้) พอคุยรายระเอียดโน้นนี่กันเสร็จ ก็ลุยเลยครับ เขียนใบลายื่นหัวหน้าทันที
24/12/59
เราเริ่มต้นกันที่ อ.บุงคล้า จ.บึงกาฬ ใช้เส้นทาง หนองคาย –อุดร-หนองบัว-เลย ขับรถไปเรื่อยๆ เรื่อยๆเรื่อยๆและก็เรื่อยๆ ผ่านไปราวๆ 4-5 ชั่วโมง ฟังเพลงใน youtube จน 4G จะหมด ก็ถึงทางเข้าอุทยาน ฮ่าๆมาทั้งทีไม่ถ่ายรูปหน้าอุทยานก็คงไม่ได้ จอดรถสิครับจอด
คนพร้อมกล้องพร้อม แล้วก็ลุยเลยครับ เหมือนขาพร้อมก้าวเต็มที่ แต่พอมองเห็นจำนวนระยะทางเท่านั้นแหละ มือปาดเหงื่อรอเลยครับผม
แค่เริ่มต้นก็เดินยากซ๊ะแล้วเพื่อนผม ฮ่าๆ นะตอนนี้ใจมันอยากกลับอยากเดียว
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กลับเต้น เพื่อนผมสลบไสลกันหมด ส่วนผม ฮ่าๆหานั่งคลายหนาวดูดาว อยากบอกว่า บนภูกระดึงนี่ ดาวสวยมากครับ ถ้าได้ไปครั้งหน้าสัญญาจะพกขาตั้งกล้องไปถ่ายอย่างดี ส่วนรอบนี้หรอฮ่าๆ เอา gopro ตั้งป๋องเบียร์ถ่ายครับ แต่รูปอยู่ในกล้องเพื่อนยืมต่อ เดี๋ยวถ้าได้กล้องมาแล้วจะมาแปะเพิ่มนะครับ
25/12/59
พอไปถึงยังมืดอยู่ หาสิ่งคลายหนาวครับ กาแฟร้อนสักแก้วคงดี แล้วก็ดีจริงๆฮ่าๆจำหน่ายโดยเจ้าหน้าที่อุทยาน แก้วละ 25 บาทครับราคาน้ำร้อนนะ ส่วนกาแฟพี่เขาบอกว่าแถมฟรีฮ่าๆ
ท้องฟ้าเริ่มเปิดแสงสีส้มของดวงอาทิตย์เริ่มมาก
จากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เดินถ่ายบรรยากาศไปเรื่อยๆ