[SR] ตามล่าหัวใจแห่งขุนเขา หินเรือใบแห่งแม่วงก์

โมโกจู  ทริป 3/1 (17-21 De 2016) กวางน้อยตะลุยดงงิ้ว  หรา<_>
       แม้เราจะพยายามอะไรให้ดีที่สุด  มันยังไม่ได้  บางครั้งมันต้องมีดวงด้วย  แต่ฉันยังได้เรียนรู้ต่อว่า  ดวงก็ยังแพ้ให้กับความเชื่อและความศรัทธา  เราได้ไปเพราะมีความศรัทธา  มันได้มาจนคิดว่าเป็นความเหลือเชื่อ
      ทริปเดินป่าระยะไกล  5วัน4คืน พิชิตยอดโมโกจู  อุทยานแห่งชาติแม่วงก์  ขึ้นชื่อว่าจองยาก  โหดที่สุด  ส่วนการเดินป่านั้น  เขาว่ากันว่าไม่ยากเท่าการจอง  อยากรู้ก็คงต้องไปลอง>>>เขาว่า  โมโกจู  เป็นภาษากระเหรี่ยง  แปลว่า  เหมือนฝนจะตก มันจริงหรือ


      12  ชีวิต  จากคนที่ไม่เคยรู้จัก  เพิ่งรู้จัก  คนสนิท  ไม่นานก็กลายเป็นคนคุ้นเคย  แม้ดูเผินๆจะไม่มีความเหมือน  แต่เราเข้ากันได้เพราะความต่าง จึงทิพรส นัวตลอดทริป
      นัดหมายไปเจอกันที่ทำการอุทยาน  ถึงตอนดึกๆ หาที่นอนในห้องประชุม  หรือใครอยากนอนเตนท์ก็ได้  ตัวใครตัวมัน  หัวถึงพื้นก็นอนกันได้สนั่นหวั่นไหว  กำหนดการพบปะคือ 8  โมงเช้า   การแนะนำตัวเพียงง่ายๆ  ก็ใช้ได้  เพราะภาษาใจมันตรงกัน  
     กินข้าวเช้าที่อุทยาน  แพ็คสัมภาระ  แยกของที่พี่ลูกหาบต้องช่วยเรา  ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเสบียงส่วนกลาง  คนละ 20  กิโล  x 3 คน  ที่เหลือแบกเอง  นน. สถิติแบกที่มากที่สุดคือ 22 กิโลกรัม  ไม่ง่ายเลยเพราะการเดินตัวเปล่าก็ยังว่ายาก

     ก่อนเริ่มเดิน  ปฐมบทแรก  จาก จนท.  แม้จะจำข้อมูลไม่ได้มาก  ผืนป่าแม่วงก์  5  แสนกว่าไร่  มี จนท.ดูแลหนึ่งร้อยกว่าคน  ถือว่าเป็นภารกิจที่หนักหนา  มีเสือเดินเพ่นพ่าน ถ้าเจอเสือให้บอกว่ารู้จัก ท่านวีระ เจอช้าง เขาไม่ทำอะไรเรา  ช้างที่นี่น่ารักไม่ทำร้ายคน  มีสัตว์หายาก คือ ตุ๊กกลาย  หน้าตาคล้ายตุ๊กแก  ขามีหนาม  และหากถามว่าผืนป่าแม่วงก์ยังอุดมสมบูรณ์ไหม  ให้มองลงจากข้างบน  แล้วตอบหัวใจตัวเอง  ปีนี้เด็ด  มีริชแบนด์ผู้พิชิตมอบให้ ครบรอบ  30 ปีอุทยาน  ปีแรกและปีเดียว  ที่สำคัญไปรับที่ยอดเท่านั้น  

    วันแรกของการเดินทาง  ออก  start  ประมาณ  10  โมงกว่า  จากที่ทำการอุทยานไปยังแคมป์แม่กระสา  ผ่านมอขี้แตก  ทางชั้นขึ้นลงยาวๆ  ต้องสาวเท้าให้สุด  อย่าคิดหยุดกลางมอ  เพราะขาอาจจะล้า (ขรี้อาจจะแตก 555)  เดินไปคุยไปเพื่อ  save  ร่างกาย  เคล็ดลับคืออย่าลงน้ำหนักที่ขามาก  เวลาเดินย่อเข่าเล็กน้อย  หากรู้สึกเจ็บแป้บที่ขา  ก็ลองเดินถอยหลัง  อาจช่วยได้  ระหว่างทางเจอวัตถุลึกลับกลางป่า  สารพัดขี้  และต้นไม้ที่ทั้งรู้และไม่รู้จักอีกมาก                                              
     เดินดุ่มๆ  จนฝ่าเท้าร้อน  วันแรกคือการเดิน  และเดิน  หากเดินไม่ไหวก็กลิ้งไป  16  km  ก็ถึงแคมป์แม่กระสา  ยังไม่หายเหนื่อยเลยถึงซะและ  เพิงน้อยกลางป่าที่พักคืนแรก   พนักงานต้อนรับประจำถิ่น  นกยูงหนุ่มสาว  5  ตัว  ที่เดินออกมาทักทาย  อย่าไปคิดแหยมหรือหยอก  นกยูงที่นี่โหดจริง  อ่างอาบน้ำจากุซซี่ขนาดใหญ่  น้ำเย็นใสไหลเชี่ยว  ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม  ที่สบายสุดแคมป์นี้มีห้องน้ำแยกชายหญิงชัดเจน  งดอาบน้ำ   ใครยากปลดอะไรก็ปลดซะตั้งแต่ที่นี่  



     วันที่สอง  เราตื่นกันประมาณ  6  โมงเช้า  เป้าหมายคือแคมป์แม่รีวา  และพิชิตน้ำตกแม่รีวา  จากแม่กระสาไปรีวา 4 km  ถึงจุดกางเตนท์ (แคมป์นี้ยังมีห้องส้วมให้ด้วย) เดินไปเล่นน้ำตก  คุณหลอกดาวนะคะว่าชิวๆ  อีแตะยังได้  เดินกันจนตรีนแตก  

     อลังการงานสร้างจากธรรมชาติ  น้ำตกขนาดใหญ่  ใจกลางป่า  เข้าถึงได้ยาก  น้ำไหลเหมือนก็อกเส้นน้ำที่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ  5  เมตร  สาดลงมายังแอ่ง  รออะไร  กระโจนลง  น้ำเย็นเจี๊ยบ  ขนแขนยังร้องจ้าก   แช่น้ำเล่นจักพอเป็นกระสัย  ธาราบำบัด น้ำเย็นลดอาการปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี  แต่บางจุดก็อันตรายเหมือนกัน  โดยเฉพาะบริเวณขอบสระ  โปรดใช้วิจารญาณในการเล่นน้ำ  
    
     ไปกลับน้ำตกและแคมป์  6  km กลับมานั่งประชุมจริงจัง  หัวข้อคือ  อาหารมื้อต่อไป  มื้อค่ำวันนี้เมนูเด็ดมาม่าราดหน้าก๋วยจั๊บ  พอทานเสร็จก็ล้อมวงเช่นเคย  ใช้บริการหมอนวดประจำทริปที่มักเลือกปฏิบัติเสมอ วันนี้จนท.บอกเราว่า  พรุ่งนี้กลุ่มไหนถึงก่อน  มีสิทธิได้แคมป์ตีนดอย  ซึ่งใกล้จุดยอด  กลุ่มเราที่ตอนแรกดูอ่อนหัด  กลับฮึกเหิมขึ้นทันตา  นัดหมายกันคือตื่นตี 4  เริ่มเดินตี 5  ทุกคนรู้หน้าที่  ไม่มีอิดออด  ส่งม้าเร็วพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าชิงแคมป์  ทำสถิติเวลาได้ดีที่สุดถึง  11 น. เลยทีเดียว  ถามว่าเดินหรือเหาะไป  ระยะทาง 9  km  แต่ทว่าเหมือนสักร้อยกิโล  จากแคมป์แม่รีวาความสูงแค่  300  เมตร  สู่แคมป์ตีนดอย 1800 กว่าเมตร  ใกล้ๆ แคมป์ตีนดอยมีป่าไม้ที่แลดูโบราณ  ต้นไม้ใหญ่ขึ้นสูงสลับกัน สูดหายใจแล้วรู้สึกได้โอโซนเต็มปอด
    วันนี้เดินโหดของจริง  ทางชันโคตร  บางจุดต้องใช้เชือกไต่  ด้วยความชันระดับ Advance  เคล็ดลับการเดินคือ  เดิน  แล้วก็เดิน  อย่าหยุดเดินนาน  มิเช่นนั้นขาอาจตาย  และอย่าเดินก้มหน้าอย่างเดียว  เพราะอาจพลาดความงามของป่าสองข้างทาง  เดินไม่นานก็ต้องพัก  พักไม่นานก็ต้องเดิน  ความลื่นไม่ต้องพูดถึง  ตีลังกาม้วนกันหลายคน  เดินกันจนลืมทรีนก็ว่าได้  อะไรตกหล่นกลางป่าก็เก็บกิน  แม้ว่ารู้ทีหลังว่าเขาไม่กินเราก็ยังกิน  บางคนเขาก็มาในคอนเซปศึกษาธรรมชาติ  ปลอกส้มโอป่า  มะกอกป่าหรือป่าว  
    ห่อข้าวระหว่างทาง  พ่อครัวหัวป่าใต้  นำเสนอคั้วกลิ้งโบวออฟ  พี่ลูกหมีบอกว่า  ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี  ขมิบไว้หูรูดก็ยังไม่ฟัง คอยแต่จะทำงาน   กระยิ้มกระสนเดินกันจนถึงแคมป์ตีนดอย  ผ่านแหล่งน้ำ  2  จุด  คือ  คลอง 1  และคลอง  2  จุดเติมน้ำสุดท้ายคือคลอง 2  ต้องหิ้วน้ำขึ้นไปกิน  จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของแคมป์นี้คือใกล้ยอด  ห้องน้ำระดับชัน  ขี้อาจไหลตกเขาได้ในบางก้อน
ระหว่างทางมีสัญญาณโทรศัพท์เป็นพักๆ อยากเช็คอินหรือติดต่อญาติพี่น้องให้รู้ได้ว่าคุณยังมีลมหายใจอยู่ก็ได้555

                    
    พอมาถึงแคมป์ตีนดอย  พักให้หายเหนื่อย  หมอกหนา  ลมเย็นยะเยือกทำเอาใจแป้ว  กลัวฟ้าไม่เปิด  พอถามเจ้าหน้าที่  บอกต้องรอ  พอได้กำลังพลก็พร้อมพิชิตยอดเขา  ส่วนฟ้าจะเปิดหรือไม่ก็แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมา  เดินกันไม่ถึง  ½  ชั่วโมง  ก็ถึงยอด  ทว่าพอถึงสิ่งที่มองเห็นตรงหน้ากลับไม่ใช่หินเรือใบ  แต่เป็นผืนป่าอันกว้างใหญ่  กรีดร้องออกไปดังๆๆ  “สวยจังโว้ย”  ภาพที่อยู่ตรงหน้าทลายความเหนื่อย  จนปลิดทิ้ง  แม้จะกระพริบตายังไม่อยาก  

    เราขึ้นไปกอดเขา  เขาก็กอดเรา  ชอบโมเมนต์ที่ขึ้นไปยืนดูวิว  360 องศา  มองไปสุดลูกหูลูกตา  ภูเขาเรียงรายนับร้อย  ไม่สินับไม่ถ้วน  ต้นไม้เบียดเสียดกันจนไม่มีที่ว่าง  เสียงสัตว์ร้องกลางป่าใหญ่  ทะเลหมอกลอยฟูอยู่บนภูเขา  สายลมสายหมอกกระทบกาย  กระซิบบอกใจว่าหายเหนื่อยแล้วหรือยังจ๊ะ  จิตใจที่ห่อเหี่ยวชื้นขึ้นมาทันตา  เสียงหัวใจร่ำร้องเรียกหาความสวยงามแบบนี้มานาน  มันสวยงามยิ่งกว่าในความฝัน  ท้องฟ้าวันนี้โคตรสวยเลย

    ฟ้าที่แลดูจะไม่เปิด  แค่เสียงหัวใจของเราเคาะ  กลอนก็หลุด  ดวงอาทิตย์ดวงนี้  แม้ดูที่ไหนก็ดวงเดียวกัน  แต่ลองมาดูที่นี่มันจะซึมซับเข้าไปถึงหัวใจ  ได้เก็บภาพความประทับใจ  ทั้งภาพเดี่ยวและภาพหมู่  แต่ที่สวยสุดบอกเลยว่า  คือ  "ภาพฝันแห่งความทรงจำ"
    
    มีคนเคยพูดว่า  ขึ้นมาดูอะไรแค่หินเรือใบก้อนเดียว  คำตอบที่ได้  คือ  มีหินให้รู้ว่ามาถึง  แต่ฉันมาเพื่อดูความสวยงามของผืนป่าแห่งแม่วงก์
วันนี้เรากะว่าจะดึงดาว  สาวช้างเผือก  แต่หมอกลงหนา  จึงต้องถอยกำลังไปตั้งหลัก  เติมพลังท้อง พอได้เวลา  22 น.  โดยประมาณ  จิตใจมันร่ำร้องอีกรอบ  จึงชวนกันไป  เดินดุ่มๆ  ไม่นานก็ถึงยอด  สักพักมีเจ้าหน้าที่แอบตามมา  555  ด้วยความเป็นห่วง  พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าแอบฟังอยู่  ตรูว่าแล้วพวกยิ้มต้องไป  ดวงดาวเรียงรายนับร้อยล้าน  รู้จักกันบ้างไม่รู้จักบ้างไม่สำคัญ  แค่รับรู้ว่าได้มองดาวก็เพียงพอ  

    ดมกลิ่นหอมสายหมอกกยามเช้า  เสพธรรมชาติ  บนยอดโมโกจู  1964  km  เหนือระดับน้ำทะเล  ดริปกาแฟสด  วิ่งเล่นบนเขา  สนุกกันจนไม่อยากลง  ได้เวลาที่เจ้าหน้าที่เรียกตัวกลับ  แต่มิดุ  สายตาของเขามองพวกเราแล้วก็ยิ้มๆ



   วันที่ 4  ขาลง  คือ  ความมันส์บังเกิด  เรื่องเล่า  2  บรรทัด  เดินเดี่ยว  เปลี่ยว  มีคนนำส่ง  สาวผมสั้นเป้ดำ  ใช้เวลาไม่นาน  ก็ลงมาถึงแคมป์แม่รีวา  คนที่ขึ้นช้า  ตอนลงกลับเร็ว    เนื่องจากลืมเบรก   ถึงแคมป์แม่รีวา 12-13 น.    และกลับสู่แคมป์แม่กระสา  สถิติดีมาก ถึงกันบ่าย 2-4                    
    เขาว่าคืนสุดท้ายใจมันหวิวๆ  มันจริงอย่างที่ว่า  จนอยากหยุดเข็มนาฬิกาแล้วหมุนทวนเข็มกลับ  อาหารเด็ดดวงวันนี้  แกงกะทิผักกูด  1 กระสอบ  หมูย่างสไปรซี่  ผัดมะละกอขออุทยาน  พอหนังท้องตึง  อย่ารอให้หนังตาหย่อน  พวกผู้ชายเขาก็พากันลงไปแช่น้ำกันสนุกสนาน  เขาว่ากินสุกี้  ไข่แช่ออนเซ็น  อันนี้ฉันก็ไม่รู้จัก

   ตกดึกจิบน้ำชา  เพียววอสก้า แบ่งปันความประทับใจ  หนีไม่พ้นเรื่องขรี้  คั้วกลิ้งโบวออฟ  กินแล้วถ่ายคล่อง  ห้องน้ำ 5  แสนไร่  ได้รู้ความลับของปีที่แล้วที่จองไม่ได้คือเมลล์ผิด  แต่ไม่เป็นไร  คนเรามีกรรมหรือวาสนาต่อกันยังไงก็ได้มาพานพบ  ชอบประโยคหนึ่งของสหายที่บอกว่า  รู้สึกว่าตัวเองได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกาย  มีค่ำคืนที่ฮาจนท้องแข็ง  เรื่องบางเรื่องเล่าวนฉายหลายรอบก็ไม่รู้สึกเบื่อ

    ระหว่างทางขากลับ  หันหลังทุกครั้งยังอมยิ้ม  16  km/3 hr ขาตึง  แข้งหนัก  มอขี้แตกที่ว่าแน่ก็แพ้พวกเราราบคาบ

    ถามว่าทริปนี้ได้อะไร หัวใจคือ มิตรภาพ  ขอบคุณผืนป่าที่รังสรรค์ความสวยงามไว้ให้  ขอบคุณจนท.ที่พิทักษ์ผืนป่ากว่าห้าแสนไร่ พี่บัติ  พี่ทศ  ที่มองหน้าพี่สองคนทุกครั้งจะได้รับรอยยิ้มกลับมา  แม้ว่ากลุ่มเราจะดื้อและซนก็ตาม  สุดท้ายขอบคุณเพื่อนรักนักเดินทางที่มอบหัวใจแห่งมิตรภาพรสชาติหอมหวานกลิ่นละมุน (แต่ไม่ใช่ละมุดนะจ๊ะ) <จากใจ>
ชื่อสินค้า:   โมโกจู ทริป 3 กลุ่ม 1 (17-21 De 2016) กวางน้อยตะลุยดงงิ้ว หรา<_>
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่