เรื่องของเพื่อนค่ะ

สวัสดีค่ะวันนี้ บี ก็มีเรื่องมาเล่าอีกแล้วนะคะ คือว่าบีมีเพื่อนคนหนึ่งค่ะชื่อแอน ตอนเรียนมัธยมแอนเป็นทอมค่ะดิฉันก็เห็นว่าเป้นเพื่อนไม่ได้คิดอะไรก็ไปไหนไปกันแต่ถามว่าเป็นเพื่อนสนิทไหมก็ระดับนึงค่ะ กลุ่มของบีจะมีเพื่อนอยู่ ส้ม อิ๋ว1 กุ้ง อิ๋ว2 บอม เอก และก็ คริสเตียนค่ะ ทั้งหมดเป็นเพื่อนที่สนิทแนบแน่นมาก ก็พูดหยาบกันเป็นเรื่องปกติค่ะ จนวันนึง แอนได้เดินเข้ามาในกลุ่มพวกเราพร้อมกับคำว่าไปด้วย ไปกินด้วย ไปเที่ยวด้วย ไป......ด้วย ตลอดทุกครั้งที่กลุ่มเรานัดสังสรรค์หรืออะไรก็ตามแต่ แต่ตอนนั้นเขาเข้ามาด้วยอารมณ์แบบแปลกๆจะชายก็มิใช่จะหญิงก็มิเชิง คลุมเคลือเดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวหงุดหงิดและตอนนั้นแอน ออกแนวเจ้าชู้ค่ะ จีบรุ่นน้อง รุ่นพี่ บ้าง เวลามีครูฝึกสอนเข้ามาก็จะชอบมาคุย ครูคนใหม่น่ารัก ยังงั้น ยังงี้ จนเราชิน แต่ถามว่าเป็นเพื่อนเราไหมตอนนั้นดิฉันมองว่าเป็นเพื่อนแล้วค่ะ
เราก็ใช้ชีวิตตามปกติค่ะ เกเรบ้างแต่เราขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มเด็กเรียนนะคะ เราเรียนแผนศิลป์-จีน ทุกครั้งที่เข้าเรียน บีกับส้มจะเป็นแนวหน้าค่ะเพื่อจะเก็บข้อมูลโดยเนื้อหาสาระคำสั่งหรือแนวทางง่ายๆบีจะเก็บค่ะ ส่วนไวยากรณ์และขั้นสูงส้มจะเป็นคนเก็บและเอาไปคัดกรองอีกที ตอนนั้นเราก็ก้าวเข้าสู่ ม.6 เต็มตัวค่ะ ตอนนั้นแอนเป็นคนดีมากค่ะช่วยเหลือเพื่อนทุกอย่าง แอนมีข้อเสียอยู่2ข้อค่ะ ข้อแรกคืออารมณ์ฉุนเฉียวฉับพลันซึ่งบีรับได้ค่ะ แต่ข้อที่สองบีไม่เคยเจอกับตัวเองค่ะ แต่เพื่อนๆสนิทเขาบอกว่าระวังสงครามประสาท แอนชอบใช้เพื่อนเป็นเครื่องมือเรียกร้องความสนใจจากแฟน
เราเรียนจบ ม.6 ทุกคนจบครบตรงตามที่ได้ตั้งใจค่ะ ส้มได้เกรดเยอะสุด บีได้รองลงมา คนอื่นก็ตามสภาพค่ะ แต่แอนเพื่อนบีได้ น้อยที่สุดแต่ไม่ได้ติดใจอะไรค่ะ

--- ตอนจบม.6 ผ่านไป 3 ปี แอนเรียน ว.ค.ภาษาไทย บีเรียน ม.เอกชน ภาษาจีน บีติดต่อแอนบ่อยกว่าใครด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อนค่ะกลัวเพื่อนไม่เข้าใจหรือมีปัญหาเรื่องการเรียน ความรัก หรืออะไรก็แล้วแต่ค่ะ ตอนนั้นเขาก็เรียนไปได้ด้วยดีนะคะจากแอนผมสั้นเป็นทอมมีแฟนสาว ก็เริ่มเป็นแอนผมยาว มีหนุ่มๆมาจีบค่ะ บีโคตรดีใจที่เพื่อนจะได้เจอรักแบบคนทั่วไปค่ะ ผ่านไปพอเข้าปี 4 เขามีแฟนเป็นผู้ชายนะคะพักอยู่แถวหัวลำโพงแต่แอนเพื่อนบีเรียนแถวๆหลักสี่ค่ะ เขาเจอกันอย่างไรมิทราบแต่ด้วยความที่ ณ.ขณะนั้น บีมีแฟนมาบางแล้วทำให้พอจะเดานิสัยบางคนออกบ้าง แต่แอนนี่สิ ไม่รู้อะไรเลยค่ะ

--- ตอนนั้นบีมักจะเป็นที่ปรึกษาชีวิตคู่ค่ะ เพื่อนส้มปกติเป็นคนเรียบร้อยตอนจบมาเทียบได้ ม.จุฬาค่ะ รายนี้ก็เปลี่ยนไปเช่นกันจากยายนุ่งสุ่มไปเรียนกลายเป็นสาวสังคมสวยน่ารักเชียว จนบียังงงว่าทำไมเขาเปลี่ยนกันหมดเหลือแต่บีเป็นอีแก่นี่แหละ

---- และแล้วคำที่เพื่อนของแอนเคยเล่าไว้ก็มาถึงค่ะ เหตุการณ์แรกเริ่มจากการขอยืมเฟซบุ๊คของบีไปแอดแฟนค่ะแล้วตามสืบนั่นๆนี่ๆ จนแฟนเขาจับได้ว่า"บีสืบ" ทั้งๆที่แอนเป็นคนเล่นค่ะ พอเขาจับได้แทนที่แอนจะหยุด ไม่เลยกลับใช้ความเป็นบีไปคุยไปด่าว่าทำไมต้องทำกับแอนแบบนี้แอนไปทำไรให้ทั้งๆที่แอนรักนายแค่ไหน .......... ฯลฯ เยอะแยะไปหมดแรกๆก็ชินแต่นานไปเริ่มไม่ชินค่ะและไม่ให้เฟซอีกเลยเพราะเวลาเขาด่าเขาก็พูดชื่อบี คือบี เสียหายนะคะ รักเพื่อนด้วยเลยกลัวเพื่อนจะเสียใจหากแฟนรู้อาจจะบอกเลิกแน่ๆ

---- เหตุการณ์ที่สองค่ะทะเลาะกับแฟนแล้ววิ่งหนีหาย บีนี่เครียดค่ะนัดบีมาหาเพื่อจะได้ทานข้าวด้วยกันแต่เขาทำแบบนี้บีพูดไม่ออกค่ะ
---- ครั้งที่ 3 4 5 ก็เป็นแบบนีค่ะจนบีเบื่อมาก เลยติดต่อเพื่อนอีกคนค่ะ คนนี้ยอมรับว่าสนิทและเป็นเพื่อนรักมากค่ะแต่ไม่ได้เอ่ยไว้ข้างต้น เป็นเพื่อนเรียนคนละห้องค่ะ แต่คบกันตั้งแต่ อ.1 เพื่อนชื่อ ชมนาด ค่ะชมนาดเป็นทอมแท้ๆเลยค่ะไม่มีเปลี่ยนแต่นิสัยกับบีเขาน่ารักมากมีความเป็นสุภาพบุรุษซึ่งหาได้ยากมากค่ะ ชมนาดนิสัยดีมากค่ะเเต่เขามีข้อเสียคือ โทรศัพท์จะไม่ค่อยรับ แต่ไปเจอได้ไปหาได้คุยได้เป็นวันๆ 5555

---- เหตุการณครั้งนี้เรารู้สึกผิดไปนิดหน่อยด้วยนะคะที่ทำให้ชม รู้สึกเหนื่อยไปด้วย คือว่าแอนก้รู้จักชมแต่ไม่สนิทค่ะ เวลาแอนมาแถวๆมาบุญครองก็จะทักบีค่ะและบีก็ไม่เคยที่จะชวนชมมา ช๊อป ชิม ชิล ทุกครั้ง แต่ในแต่ละครั้งที่มีการนัดหมายจะมีปัญหาตลอดค่ะ แอนอ้างว่ารถติดบ้างให้เรามาค่อยจน4ทุ่มโทรมาบอกว่า "รถติดเลยตีรถกลับโทษทีไม่ได้บอก"   "แฟนมาหาที่ห้องพอดีเลยไม่ได้ออกไปแล้ว" ซึ่งหากมีธุระเราไม่ขัดข้องค่ะแค่บอกสักนิดอย่าให้เรารอจนดึกจนดื่น  แอนทำแบบนี้หลายครั้งจนทุกคนเอือมระอากับนิสัยนัดไม่เป็นนัดจึงไม่นัดอีกค่ะ จะนัดก็ต่อเมื่อเขาไปถึงก่อนเรา

---- วันที่ชมรู้สึกเหนื่อยคือวันที่เขานัดเราให้เราไปทานข้าวที่ สยามซ7 เพื่อเป็นการขอโทษและจะปรับปรุงตัวเอง เราไปรอนานมาก ชมก็เริ่มหน้าเหม็นบูดแล้วค่ะ และจนร้านจะปิดแล้วเขาโทรมาบอกว่าโทษทีไม่ได้บอกลืมเลยวันนี้มีตลาดคลองถมเราไม่สะดวกไปแล้ว เราสองคนถึงกับอึ้งพูดแบบน้อยใจออกมาเลยค่ะว่า "แอนจะรู้ไหมว่าที่แอนทำแบบนี้คือความรู้สึกของเพื่อนเลยนะ" ชมไม่พูดยิ้มเบาๆและเราก็พากันไปทานอาหารที่แมงโก้ทรี ชั้น 7เซนทรัลเวิร์ลค่ะ

---- บีกับชมนาด ได้คุยกันแล้วต่อไปนี้ถ้าไม่ถึงร้านจริงๆจะไม่ไปด้วยแล้วแอนไม่ให้เกียรติพวกเราเลย

---- วันที่เขาเริ่มสร้างสงครามประสาท เขาเริ่มทำแบบเดิมค่ะโทรมาหาเราบอกว่าตอนนี้อยุ่ริมคลองกำลังชั่งใจว่าจะกระโดดดีไหม เหนื่อยมามากพอแล้ว วันนั้นบีร้องให้ในสายเลยค่ะบอกเขาว่าอย่าทำแบบนั้นมานอนบ้านบีนะ เพื่อนกันชั้นดูแลเธอก็ได้แกมานะ และเขาก็วางสายใส่ เครียดมากค่ะจะแจ้งตำรวจดีไหมพิกัดก็ไม่มีนอนไหนก็ไม่รู้เครียดมากผ่านไป 2 ชม โทรหาชม ชมบอกว่าเธอไม่มีเฟสแฟนเขาหรอเนี่ยตอนนี้เขาอยู่ที่สะพานพุทธนั่งกืนขนมจีนข้างทางกันอยู่เลย ตอนนั้นเราตึงไปเลยค่ะคิดอะไรไม่ออกเลย "ฉันโดนเพื่อนหลอกหรอ"

---- 1สัปดาห์ผ่านไปเขาส่งรูปกรีดแขนมาให้ดูค่ะ ประมาณว่ารอยมีดข่วนๆไม่เข้าชั้นผิวหนัง แต่เพื่อนนะคะ เพื่อนจะให้ทำไงจะให้เอาไปไว้ที่ไหน เครียดสิคะ เครียดมากกลัวเพื่อนจะตายตอนนั้นทราบว่าไปพักห้องใหม่ของแฟนอยู่แถวร่มเกล้า ไม่รอช้าค่ะโทรแจ้งพี่ตำรวจท่านนึงซึ่งเคยติดต่อเรื่องทำจิตอาสากับทางมหาวิทยาลัยครั้งก่อนและบอกความจำเป็นโดยขออนุญาตทางท่านตำรวจส่งอีเมล์ไปให้ดูว่าเนื้อหารูปภาพคุยกันแบบนี้จริงๆ แล้วบีกับตำรวจก็ไปถึงที่บ้านที่เขาเช่าอยู่ สิ่งที่บีเห็นคือแอนกำลังนั่งเผาปูเผากุ้งอยู่อย่างอร่อยและถามแซวบีว่า "แหมชอบในเครื่องแบบก็ไม่บอก" วันนั้นบีก็ยิ้มค่ะและเดินออกมา คุณตำรวจท่านนั้นใจดีมากบอกว่าหากบีไม่ได้น่าเชื่อถือ และเป็นน้องนศ.ที่ช่วยรณรงค์เรื่องความปลอดภัยกับทางเรามาก่อนผมเอาเรื่องจริงๆด้วยครับ ตอนนั้นบีร้องไห้ต่อหน้าพี่ตำรวจเลยค่ะเขาก็ดีมากนะคะไม่แตะต้องตัวบีเลยเพียงแค่แตะบ่าค่ะและบอกว่า เราก็นะเป็นห่วงเพื่อนเกินไปเอาละกลับบ้านได้แล้วดึกแล้วนะหนูไปพักผ่อนซะแต่ทีหลังอยากให้ตรวจสอบดีกว่านี้นะครับ

---- เรื่องคืนนั้น บี เฟลล์มากค่ะและชมก็เคืองแบบสะสมเพิ่มเรื่อยๆจนเราตัดสินใจจะไม่รับสายแอนอีกต่อไปค่ะ เกือบสองเดือนที่เราไม่คุยกับแอนจนวันนั้นแอนไปเที่ยวบ้านย่าของแฟนเขาที่แถวๆบางแคค่ะ เราก็เห็นในเฟสนะคะว่าทุกอย่างไปด้วยสวย รักกันมากจูบปากกอดดคอ จนเราเข้าไปกดไลค์ให้จากที่หายไปนานค่ะ และช่วงประมาณดึกๆสัก 3-4ทุ่มพอประมาณ แอนโทรมาค่ะ 15 สายไม่ได้รับ เราเลยตัดสินใจรับค่ะ

บี: ฮัลโหลแอนว่าไงจ้ะแก
แอน: แกช่วยฉันด้วยฉันไม่ไหวแล้วจบตรงคอปวดแขนไปหมด (เสียงร้องไห้)
บี: แกใจเย็นๆตอนนี้แกอยู่ไหน
แอน: ฉันอยุ่ป้ายรถเมล์แกช่วยฉันทีไม่ไหวแล้วฉันวิ่งออกมาพักแล้ว
บี: แก้เป็นไรไหมไหนบอกฉันสิแกอยู่ตรงไหน
แอน : ฉันอยู่บ้านมันแหละฉันไปไหนไม่ถูก (เสียงผู้ชายบอก "กลับบ้านเอาโทรสัพท์มานี้")
-------ตอนนั้นบีเครียดมากค่ะทำอะไรไม่ถูกเลย
บี: แอนๆเอางี้นะแกเข้าไปในเฟซบุ๊คข้อความแล้วพิมพ์มาหาฉันหน่อยอะไรก็ได้ หรือส่งตำแหน่งมาก้ได้ ถ้าไม่มีเข้าไปในไลน์นะแล้วส่งตำแหน่งมาฉันจะไปรับ
แอน : ฉันอยู่ไหนไม่รู้ช่วยทีแก
บี: งั้นแกช่วยบอกมีป้ายอะไรไกล้ๆ ป้ายรถเมล์แกดูสิเขียนว่าอะไร มีป้ายทางหลวงอะไรไหมบอกฉันสิ โธ่เว่ย มองดูหรือถามคนแถวนั้นสิ
แอน : แกอย่าเพิ่งฉันกลัวไม่กล้าถามใคร
บี: งั้นแกเห็นแทกซี่ไหม แกไปขึ้นแทกซี่นะบอกว่ามาไปศูนย์สิริกิต ก็ได้ แกสะดวกไหม หรือเอางี้แกบอกเขาว่าไปโรงงานยาสูบนะ ฉันจะรอตรงนั้นเพราะถ้าแกไม่ส่งตำแหน่งแกไม่ร่วมมือฉันไปหาแกไม่ได้จริงๆ
แอน : เพื่อนกลัวแท็กซี่มีข่าวบ่อยๆอะแก ไม่ได้ฉันกลัวฉันเครียดฉันอยากตาย
บี: ใจเย็นๆนะเอางี้ ฟังฉันดีๆแก้เข้าไปในไลน์ แล้วส่งตำแหน่งมา
แอน : เข้าไม่ได้เน็ตหมดแล้ว
บี: แอนแกโทรหาฉันได้แสดงว่าเน็ตใช้ได้
แอน : ฉันไม่ได้เติมเน็ต
บี : "แต่แกใช้รายเดือนปะวะ"
แอน : งั้นแปบๆนะ ฮาโหลๆๆๆๆ บีได้ยินไหม แบตจะหมดแก "อย่าเข้ามานะ ออกไปอย่ามาจับกูจะไปจ่ากคนเลว"
บี :  ฮัลโหลแอนแกได้ยินป่าวแกฉันเป็นห่วงแกช่วยดูรอบๆหน่อยสิว่ามีอะไรบ้าง ตอนนี้ gu เครียดมากบอกมาเหอะงเป็นเพื่อนกูรู้ใจกูหน่อยบอกมาอยู่ที่ไหนเดินหาป้ายทางหลวงว่าเลขอะไร เร็วๆ
แอน : แก ฉันว่าฉันจะทนไปก่อนไม่ต้องห่วงแบตหมดแล้ว พรุ่งนี้จะทักใหม่
-****************** งงมากค่ะ คืออะไรคะ ต้องการอะไร
*** คืนนั้นนอนไม่หลับเลย คิดว่าเขาปลงแล้วแน่นอน คือตายก็ตายประมาณนั้น โทรหาเพื่อนทุกคนเพื่อนก็ต่างหาวิธีแต่ติดต่อไม่ได้ แต่ครั้นจะให้ไปแจ้งความอีกครั้งนี้คงไม่เหมือนครั้งก่อนแน่ ชมนาดเลยมาหาที่ห้องและมานั่งคุย สักประมาณ ตี1 บีก็นอนหลับค่ะ ตื่นมาอีกทีตี 5 ก็ลุกขึ้นทำงานบ้านพอดีแม่เปปิดสมาร์ททีวี ดูเฟซบุ๊คค่ะ แม่บอกว่า "น่าอิจฉาแอนเนอะ มีแฟนเข้าใจกันดูดิรักกันดีมาก พาไปกินอาหารที่หลิวเซียงฟง" นึกถึงตอนที่ป๊าพาม๊าไปกินหมูหันจัง มีความสุข
แต่บีนะเหรอคะ สุขมากค่ะจนกราบมากค่ะ คือนึกในใจเจอหน้าอยากจะชกให้คว่ำทั้งคู่ค่ะ เลยสุดๆก็ครานี้พอกันทีค่ะ จะคบไม่คบไม่สน ตายก็ฝังค่ะเบื่อมากคนประเภทนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่