เนื่องจากชอบมีพวกแอบอ้างเยอะ อ้างนั้นอ้างนี้ หัวหมอกันไปเรื่อย บางคนไม่รู้ก็จ่ายๆไป เพราะฉะนั้นเรามารู้วิธีปฏิบัติเบื้องต้นกันดีกว่า
1. ตรวจสอบ หรือเช็คดูว่าเป็นเจ้าของจริงหรือไม่ หรือได้มาซึ่งลิขสิทธิ์วิธีใดเช่น เป็นผู้รับโอนลิขสิทธิ์
2. ตรวจสอบว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ เนื่องจากคดีละเมิดลิขสิทธิ์สามารถยอมความกันได้ เพราะในทางปฏิบัติเจ้าของลิขสิทธิ์หรือตัวแทนต้องร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะทำ การจับกุม และคดีสามารถระงับได้ด้วยการถอนคำร้องทุกข์ ถอนฟ้องหรือยอมความกันตามกฎหมาย
3. ตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาด้วยไหม เพราะการจับกุมเป็นอำนาจของทางตำรวจเท่านั้น โดยขอดูบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ
4. การตรวจค้นที่รโหฐาน (ที่เฉพาะส่วนตัว) ควรมีหมายค้นของศาลมาด้วย
5. คดีละเมิดลิขสิทธิ์สามารถยอมความกันได้ จึงควรยอมความต่อหน้าพนักงานสอบสวนและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ไม่ควรจ่ายเงินในที่เกิดเหตุ หรือโรงพัก หรือข้างโรงพัก
6. ตรวจสอบหลักฐานการมอบอำนาจให้ตัวแทนไปดำเนินคดี เช่น เอกสารหมดอายุหรือไม่ การมอบอำนาจถูกต้องหรือไม่ มีอำนาจร้องทุกข์ ถอนคำร้องทุกข์ หรือยอมความหรือไม่ เป็นต้น
7. ควรติดต่อหรือประสานงานทนายความเพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับคดี (ถ้ามี)
8. ของกลางในคดีได้แก่ ทรัพย์สินที่ได้ทำหรือมีไว้ความผิด หรือทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด
9. กรณีเป็นผู้ถูกจับย่อมมีสิทธิ์ดังนี้
9.1 มีสิทธิ์รับทราบข้อกล่าวหา
9.2 มีสิทธิ์จะไม่ให้การ หรือให้การก็ได้ และถ้อยคำของผู้ถูกจับอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้
9.3 สิทธิในการพบและปรึกษาทนายความ หรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเฉพาะตัว
9.4 มีสิทธิแจ้ง หรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุม และสถานที่ที่ถูกควบคุมในโอกาสแรก
9.5 สิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจ เข้าฟังการสอบปากคำตนได้ในชั้นสอบสวน
9.6 สิทธิได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร
9.7 สิทธิได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย
10. ควรมีการประกันตัวผู้ต้องหา หลักฐานที่ต้องนำมาใช้ในการประกันตัว เช่น โฉนดที่ดิน เงินสด หรือบุคคลที่เป็นราชการ
หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ ผิดพลาดประการใดข้ออภัยด้วยนะครับ ^^
วิธีปฏิบัติเบื้องต้น เมื่อเราถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์
1. ตรวจสอบ หรือเช็คดูว่าเป็นเจ้าของจริงหรือไม่ หรือได้มาซึ่งลิขสิทธิ์วิธีใดเช่น เป็นผู้รับโอนลิขสิทธิ์
2. ตรวจสอบว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ เนื่องจากคดีละเมิดลิขสิทธิ์สามารถยอมความกันได้ เพราะในทางปฏิบัติเจ้าของลิขสิทธิ์หรือตัวแทนต้องร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะทำ การจับกุม และคดีสามารถระงับได้ด้วยการถอนคำร้องทุกข์ ถอนฟ้องหรือยอมความกันตามกฎหมาย
3. ตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาด้วยไหม เพราะการจับกุมเป็นอำนาจของทางตำรวจเท่านั้น โดยขอดูบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ
4. การตรวจค้นที่รโหฐาน (ที่เฉพาะส่วนตัว) ควรมีหมายค้นของศาลมาด้วย
5. คดีละเมิดลิขสิทธิ์สามารถยอมความกันได้ จึงควรยอมความต่อหน้าพนักงานสอบสวนและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ไม่ควรจ่ายเงินในที่เกิดเหตุ หรือโรงพัก หรือข้างโรงพัก
6. ตรวจสอบหลักฐานการมอบอำนาจให้ตัวแทนไปดำเนินคดี เช่น เอกสารหมดอายุหรือไม่ การมอบอำนาจถูกต้องหรือไม่ มีอำนาจร้องทุกข์ ถอนคำร้องทุกข์ หรือยอมความหรือไม่ เป็นต้น
7. ควรติดต่อหรือประสานงานทนายความเพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับคดี (ถ้ามี)
8. ของกลางในคดีได้แก่ ทรัพย์สินที่ได้ทำหรือมีไว้ความผิด หรือทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด
9. กรณีเป็นผู้ถูกจับย่อมมีสิทธิ์ดังนี้
9.1 มีสิทธิ์รับทราบข้อกล่าวหา
9.2 มีสิทธิ์จะไม่ให้การ หรือให้การก็ได้ และถ้อยคำของผู้ถูกจับอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้
9.3 สิทธิในการพบและปรึกษาทนายความ หรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเฉพาะตัว
9.4 มีสิทธิแจ้ง หรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุม และสถานที่ที่ถูกควบคุมในโอกาสแรก
9.5 สิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจ เข้าฟังการสอบปากคำตนได้ในชั้นสอบสวน
9.6 สิทธิได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร
9.7 สิทธิได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย
10. ควรมีการประกันตัวผู้ต้องหา หลักฐานที่ต้องนำมาใช้ในการประกันตัว เช่น โฉนดที่ดิน เงินสด หรือบุคคลที่เป็นราชการ
หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ ผิดพลาดประการใดข้ออภัยด้วยนะครับ ^^