๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ บอกว่า "ช่างหัวมัน" มันง่ายนิดเดียว แต่ที่ยากก็คือ.....

คุณลิต้า ที ได้ถามไว้ในกระทู้นี้

http://pantip.com/topic/35882684

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็นที่ 7
เฮียรู้สึกหงุดหงิดไหมครับ
เวลาที่ลดพอร์ทไปแล้วมันขึ้นต่อ
และมีวิธีคิดยังไง ช่วยแชร์ให้น้องๆฟังหน่อยสิครับ
(ปีนี้ผมขาย ptt ไป ยังรู้สึกผิดหวังอยู่เลยครับ)


กว่าจะหาคำตอบได้   ก็หลายวัน
อย่างที่บอกไว้บนหัวกระทู้

ที่มันยากก็คือ   

เรามักจะทำไม่ได้ ตามที่เราบอกคนอื่นๆ  แม้กระทั่งบอกตัวเองอมยิ้ม06

เพราะว่าเรายังเป็นปุถุชนที่มีกิเลส  
ถ้าบรรลุทางธรรมแล้ว คงไม่มายุ่งเกี่ยวกับตลาดหุ้นหรอก

ขอแยกที่คุณลิต้า ที โพสต์ เป็น ๒  คำถาม



๑  เฮียรู้สึกหงุดหงิดไหมครับ
เวลาที่ลดพอร์ทไปแล้วมันขึ้นต่อ



คำตอบ  ก็หงุดหงิดเหมือนกัน  ที่มันไม่ได้เป็นดั่งที่เราต้องการจะให้เป็น
แต่ผมเชื่อเรื่อง  เวลา และประสบการณ์จะทำให้ชินกับความผิดหวังได้มากขึ้นตามลำดับ
ถ้ากี่ปี กี่ปี ผ่านไป   เราก็ยังหงุดหงิดเท่าเดิม  พอๆกับตอนเริ่มเข้าตลาด
แสดงว่า  เรามีแต่ประสบการณ์และเวลา  ที่ไม่เป็นประโยชน์กับเรา

ผมเรียกมันว่า  "ประสบการณ์แนวนอน"
คือวนไปเวียนมาเหมือนเดิม    ไม่ว่าเวลาในตลาดหุ้น  จะผ่านไปนานแค่ไหน
ก็ยังหงุดหงิดที่หุ้นไม่ได้เป็นดั่งใจเราเหมือนเดิม  

คำตอบคือใช่แล้ว  ผมก็หงุดหงิดเหมือนกัน
แต่ความหงุดหงิดมันลดลงไปเรื่อยๆ   ยังไงก็ไม่อารมณ์เสียไปจนถึงหลังตลาดหุ้นปิด
ผมมั่นใจว่า   ผมมีประสบการณ์แนวตั้งที่มากพอสมควร พอจะรับมือกับตลาดหุ้นที่ไม่เป็นไปตามที่ใจเราต้องการ
ยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้ม

ตลาดหุ้นปิดเมื่อไร  สิ่งที่ค้างคาใจจากตลาดหุ้น ต้องหยุดตามตลาด

เพื่อรักษาสุขภาพจิตของตัวเอง  


แล้วทำอย่างไร จึงจะรักษาสุขภาพจิตของตัวเองได้  จะลองตอบในคำถามข้อสอง

คำถาม

และมีวิธีคิดยังไง ช่วยแชร์ให้น้องๆฟังหน่อยสิครับ
(ปีนี้ผมขาย ptt ไป ยังรู้สึกผิดหวังอยู่เลยครับ)



คำตอบ

ผมคิดแบบคร่าวๆ ดังนี้

๑ ไม่มีใครพูดคำว่า   เสียดาย  ที่ซื้อเร็วไป ขายเร็วไป หรือยังไม่ได้ซื้อขาย
ถ้าเรายังไม่รู้ผลลัพธ์ในอนาคตของการกระทำ

ตอนคุณลิต้าที ขาย ปตท.
มั่นใจมากๆว่า  ไม่ได้พูดว่า "เสียดายที่ขายเร็วไปหน่อย"

คำพูดนั้น มันเกิดหลังจากเรารู้ราคาหุ้นในอนาคต  หลังจากที่เราขายไปแล้ว

เราช่างหัวมันไม่ได้  เพราะเราอยากให้ตลาดหุ้น ราคาหุ้นเป็นไปตามที่เราต้องการ

๒ คนที่จะพูด "ช่างหัวมัน"  ให้กับการกระทำที่ทำให้เราผิดหวังได้
จะต้องเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด หรือย้ำคิดอยู่แต่ "รู้งี้ ตกรถ ติดดอย ขายหมู"  บ่อยๆ

ซึ่งมันก็เหมือนเดิม  เรารู้ผลลัพธ์ในอนาคตแล้ว  ก็เลยกลับไปตัดสินการกระทำในอดีตว่า
เราจะทำอย่างโน้น  เราจะทำอย่างนี้  

๓  บอกตัวเอง เตือนตัวเองเสมอๆว่า  เราเป็นเพียงเบี้ยตัวเล็กๆในตลาดหุ้น
ไม่มีใครมาทำตามความต้องการของเบี้ยตัวเล็กๆ
มีแต่เบี้ยตัวเล็กๆ  ต้องปกป้องตัวเองจากความโหดร้ายของตลาดหุ้น
ด้วยการรู้จัก พอเพียง  พอใจ  ในการกระทำของเรา
นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดมาตลอด  หลังจากได้บทเรียน  หมดตัวในช่วงราชาเงินทุน


๔  เมื่อคิดแบบข้อสามได้   สิ่งที่ผมมักจะทำเสมอๆ  
เมื่อหุ้นขึ้นจนเกินความสามารถที่เราจะเข้าใจได้ก็คือ

ขายเอาทุนขึ้นมาก่อน  ด้วย "คลายเครียดเรโช จุลภาค"  





พอเรารู้จักฝึกความ  พอเพียง พอใจ  
เราก็จะไม่ตั้งคำถามว่า
แล้วทำไมไม่เก็บไว้ทั้งจำนวน  
จะได้กำไรมากกว่าขายเอาทุนคืน

มันก็กลับคำตอบข้อหนึ่ง  ขัอสอง
ผมจะไม่เอาอนาคตที่รู้ผลลัพธ์  กลับมาตัดสินการกระทำในอดีตที่แก้ไขไม่ได้
ทำได้ก็แค่เดินหน้าแสวงหาเงินต่อไปในปัจจุบัน

๕ เราจะ ช่างหัวมัน ได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ

ปริมาณเงินผลประโยชน์ในหุ้นตัวนั้น   ยิ่งน้อยยิ่งทำใจง่าย ยิ่งมาก ยิ่งทำใจยาก
ดังนั้น  การกระจายความเสี่ยงถือหุ้นหลายๆตัว  เลยทำให้ผม "ช่างหัวมัน"  ได้ง่ายขึ้น

๖  แม้แต่คำว่า "ช่างหัวมัน"  ก็ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ เหมือนกับ "รู้งี้ ตกรถ ติดดอย ขายหมู"

ถ้าเอะอะอะไรก็ช่างหัวมัน  โดยไม่พยายามหาวิธีแก้ไขก่อนจนสุดความสามารถ

คำว่า ช่างหัวมัน  ก็จะทำลายพอร์ตเราในที่สุด  จากผลของการปล่อยปละละเลย ไม่ยอมแก้ไขอะไร

๗  มีคำคมจีนที่ผมว่าดีมาก  และทุกคนก็เคยเจอมาแล้วแน่ๆคือ

" ผิดหรือถูก ก็ยากที่จะบอก"   
การกระทำที่เราบอกว่าผิด  ไปๆมาๆมันอาจจะถูกก็ได้
หรือไม่ก็  การที่กระทำที่เราบอกว่าถูก ในที่สุดมันอาจจะผิดก็ได้  
ถ้าเรารู้จุดจบของมันแล้ว


๘  พอจะตั้งกระทู้นี้  
ผมนึกแวบไปถึงประโยคเด็ดตอนจบของหนังเรื่อง  วิมานลอย (gone with the wind)

คำถามที่เราไม่ควรถามตลาดหุ้นก็คือ  ภาพแรก   
เราต้องถามตัวเอง แล้วตอบตัวเองให้ได้

เพราะตลาดหุ้นและเจ้ามือหุ้น  จะตอบเราแบบภาพที่สองว่า........

อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16




https://www.youtube.com/watch?v=xLnTWxpTQt4
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่