ผมมีเรื่องกับหัวหน้าในออฟฟิศ!!!

สวัสดีครับ พอดีเหตุการณ์ เพิ่งผ่านมา หมาดๆ ในออฟฟิศ ที่ผมทำงานอยู่ แต่ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องเหตุการณ์ต่างๆให้ฟังนะครับ **มือใหม่หัดเล่า***

ผิดพลาดประการ ขอ อภัย

ต้นเรื่อง - เรื่องมีอยู่ว่า ทุกคนเข้าทำงานกันปกติ  แต่ปรากฎว่า มีขโมยเกิดขึ้น !

เงินเก็บจำนวนหลักพันของพี่.....ได้หายไป  ซึ่งเงินที่เก็บนั้นถูกเก็บใส่ไว้ในกล่องอาเซน่อล

และใส่เอาไว้ใต้โต๊ะคอมทำงานของเขา จากนั้นเขาก็ไปแจ้งความ และ เรื่องนี้ก็แจ้งถึงฝ่ายบุคคล และ ตกลงกันว่าจะให้ หัวหน้า แผนก สอบสวน

และผู้หวังดีมาบอกผมว่ามีคนสงสัยว่าผมเป็นหัวขโมย ก็เพราะอาจเป็นคนกลับช้าที่สุดเพราะผมอยู่รอแฟนเลิกงาน 2 ทุ่ม(ทำOT) +ฐานะไม่ค่อยดี+เงินช็อตทุกเดือน+มีขอยืมเงินบ้าง กินมาม่า บ่อยบ้าง และออกรถมอเตอร์ไซด์ใหม่! จากนั้น

  ก็ เริ่ม การสอบสวน ทีละคน จึงถึงผม บทสนทนาต่อไปนี้!

หัวหน้า : งึมงัม งึมงัม
ผม      :  ด้วยความที่ผมอยู่เลิกช้าสุดก็บอกข้อมูลเลยละกันครับ ตอนนั้นมี ผม พี่....และพี่....ที่เลิกช้า
หัวหน้า : อ้าว พี่ยังไม่ได้ถามเลยน่ะ
ผม      :  เห็นพี่นึกไม่ออก ผมเลยบอกพี่
หัวหน้า : แล้วเทอคิดว่าใคร
ผม      : พี่......หรือป่าว น่าจะนะคับ ผมให้ข้อมูลนะ บอกไว้ก่อน ไม่ได้คิดว่าคนนี้เป็นขโมย
หัวหน้า : ทำไมถึงคิดว่าเป็นเขา
ผม      : ก่อนหน้านั้นเห็นเขาลางานไปเฝ้าน้องไปผ่าตัดภายในที่ โรงพยาบาล
หัวหน้า : งืม...แล้วขอถามนอกเรื่องได้ไหม
ผม      : ได้ครับ
หัวหน้า : เรื่องรถ นี่ ดาวน์เท่าไหร่ ผ่อนเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่
ผม      : ก็xxx xxxx xxxx แต่เป็นชื่อแฟน ญาติเขาดาวน์ให้ แต่ผ่อนเองนิดหน่อย
หัวหน้า : แล้วที่กลับบ้านช้า ทำไมไม่รอที่ทำงานแฟน
ผม      :  ผมไปแล้ว แต่ไม่มีที่ นั่งรอ
หัวหน้า : โอเครๆ
จากนั้น ก็วน จนครบทุกคน วันต่อมา ให้ไปสาบานหน้า พระพรหม กันทุกคน  จน เสร็จ
แล้วพี่คนนึงเขาแซว ว่า เทอเอาไปผ่อนรถป่าว ! ผมก็ไม่สนใจ พอสักพัก พี่ที่แซว เรียกผมเพื่อขอโทษ แล้ววววสายตาผมเกิดเหลือบไปเห็น..ข้อความว่า สงสัยเป็นเรา!!ผมรีบมองชื่อต่อ อ้าวยิ้มกำลังคุยว่าเราในไลน์ กลุ่มหนึ่ง ๆ อยู่นี่หว่า   ผมไม่รอช้า รีบสืบชื่อคนที่กำลังปรักปรำว่าขโมย(แต่ผมบริสุทธิ์ใจ)

วันต่อมา!

-สืบจนได้รู้ว่าใคร หึหึ ด้วยความที่อยากจะแจ้งจับข้อหาหมิ่นประมาท เลยจะขอให้พี่คนที่แซวผม แคปรูปข้อความของคนๆนั้นให้ แต่...........
ปฎิเสธ ! จนผมบอก ไม่เป็นไร ผมรู้ ผมเห็น   แล้วผมก็เดินออกมา แล้วอยู่ดี ๆ ผมก็ได้ยินว่า เทอไม่ต้องไปอะไรกับเขาหรอก! สรุปคือมืงรู้? ทั้งที่กุยังไม่คิดจะทำอะไร  ผมเลยบอกพี่เขาไปว่า ผมแค่น้อยใจ ผมก็มีศักดิ์ศรี ถึงแม้จะมีเงินเดือนไม่มาก

จุด climax !!! ที่มีเรื่องทะเลาะกับหัวหน้า (เพราะผมรู้ว่าไอ้คนที่แซวผมอ่ะมันฟ้องหัวหน้า)

หลังจากผมพักเที่ยงเสร็จ บทสนทนาปากเสียงระหว่างหัวหน้ากับพนักงาน จึงเกิดขึ้น!

หัวหน้า : มีอะไรจะสงสัยไหม???
ผม      : สงสัยอะไร?
หัวหน้า : หาว่าไอคนนั้นสงสัยหรือรู้ได้ยังไง (ขึ้นขึ้นกูแล้วน่ะ)
ผม      :  ผมรู้ และ เห็น เอง แหละ
หัวหน้า : ไปเห็นที่ไหน ยังไง เมื่อไหร่
ผม      : เมื่อวานนี้ ผมเหลือบไปเห็น ข้อความไลน์ ว่า  สงสัยผม ง่ะ
หัวหน้า : ไหนอัน ไหนว่ะ  เห้ย เอาเครื่องนั้น ให้กูดู เดะ  ละไปยิ้ม ของส่วนตัวเขาทำไม
ผม      : ไลน์ ในกลุ่ม ลับง่ะ (ปกติจะมีไลน์ของแผนก ละจะมีตั้งเป็นแก๊งแบ่งฝ่ายกันเอง)
หัวหน้า : ละรู้ได้ไง อย่าร้อนตัว ถ้าไม่ได้ขโมย ไปยิ้มเรื่องเขาทำไม
ผม      :  ผมไม่ได้ยิ้ม และ ผมไม่ได้ทำครับ แต่ผมเสียหาย คนอื่นจะมองยังไง
หัวหน้า : ทีว่า สงสัยไอ........ ทีโดนมั่ง มาร้อนตัว
ผม      : ผมไม่ได้ร้อนตัว และผมบอกพี่แล้วว่าให้ข้อมูล ก็พี่ถามว่าคิดว่าใคร  
หัวหน้า : พูดจิงไหมล่ะ ที่คิดว่าเขา เพราะ น้องไปผ่าตัด ไง  ถ้าเอาไปขอให้โดนรถชน ภายใน 2 วัน
ผม      :  ผมพูดจิง ผมบอกไว้ก่อนแล้วว่าให้ข้อมูล สาธุ ขอให้มันโดน และ ยอมรับให้เร็ว
หัวหน้า : เรื่องนี้ใหญ่แน่ วัน......เจอกันกุเรียก ผู้จัดการ กับ เหนือผู้จัดการ มาคุย
ผม      : เห้ออออออออออ
หัวหน้า : งึมงัม....ประสาท-ปะวะ พุดจาวนไปวนมา
ผม      :  เห้ออออออออออ

บทสนทนา ที่กล่าวไป มีแต่การขึ้นเสียง ดั่งเสือ คำราม ใส่กัน  ในแผนกนั้น มีแต่เสียงเงียบกริบ ทุกคนก้มหน้าก้มตาทำงาน

แค่นี้ก่อนนะครับ เลิกงานแล้ว เดี๋ยวผม จะมา เล่าต่อ ว่าจุดจบ เรื่อง มีคนขโมยเงินในแผนก จะเป็นอย่างไร ที่สำคัญ ลายนิ้วมือหัวขโมยยังอยู่!!!
******ล่าสุด คนผมโยงถึงชื่อเขา เข้ามาในแผนก (ก่อนหน้าเขาลาเพราะรถล้ม มือเย็บ 10 เข็ม)และหัวหน้าได้มีการเรียกคุย******
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่