โหลๆๆๆ สวัสดีจร้าผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน แนะนำตัวเองแปป รีวิวนี้ถือว่าเป็นรีวิวที่สองของเรา อาจมีคำไม่สวยงาม หรืออะไรตกหล่นไปบ้าง อย่าว่ากันน้า ก็อยากจะลองมาเล่าเรื่องราวความประทับใจของตัวเองกับเพื่อนๆบ้าง(คือเพื่อนใช้ให้กลับมาเล่าความสวยงามของโลกใบนี้ที่มีอยู่ ในฐานะคนเคยเขียนรีวิว) นี้เป็นทริปประจำปีของเรา และรอบนี้พิเศษคือ มีคนมาจอยทริปเราด้วยสองคน แรกๆก็ลุ้นว่าเค้าจะเป็นแบบไหนยังงัย แต่พอเจอกันแล้ว เห้ย โลกมันช่างเหวี่ยงคนแบบเดียวกันมาเจอกันได้ว่ะ เริศ!!!!มาก อ่านแล้วอาจจะมีสนุกบ้าง มุขเป็กบ้าง ก็กราบขอร้องให้อ่านกันยาวๆนะค่ะ หรือจะเริ่มอ่านตอนต้น แล้วข้ามไปอ่านตอนจบเลยก็ได้ ไม่ว่ากัน เริ่มเรื่องเลยล่ะกัน น้ำมาเยอะและ
ขอขยายความหมายของชื่อหัวข้อ คือ ที(ม)ลอซู ถนนลอยฟ้า ตามความฝัน แบ่งปันสิ่งของ มันดีต่อใจ
ทริปนี้เราเดินทางกัน 7 คน พร้อมด้วยคนขับ 1 คน ชื่อ ลุงตี๋ คนดูแลการเดินทางอีก 2 ชื่อ วิทย์ และลุงพู(น่าจะเป็นชาวเขา)
เราเริ่มเดินทางออกจากกทม ด้วยรถทัวร์ ป.1 ไปแม่สอด คือ บริการเยี่ยมมาก มีเบาะนวด ทีชาร์ตแบตมือถือ แถมมีการสาธิตการใช้งาน เหมือนนั่งเครื่องเลย เป็นอะไรที่ตื่นเต้นแบบคนไม่เคยเจอมาก่อน เพราะไม่เคยเจอจริงๆนะ รถทัวร์สายใต้ไม่มีแบบนี้เลย แอบงงมาตลอด เวลาเดินทาง วันที่ 1-6 ธันวาคม 2559 ขึ้นรถสองทุ่มของวันที่หนึ่ง ไปเช้าที่แม่สอด เวลาตีสี่ อากาศที่นั้นลมหนาวพัดมาสะเทือนผิวดี ระยะทางจากแม่สอดไปอุ้มผางก็ประมาณ 164 กม. หรือประมาณ 4 ชม
แวะจุดพักรถสักแปป ที่นี้ก็จะมีสตอเบอร์รี่ให้เราชม และช็อป คือควรจะแวะเพราะหลังจากนี้ไม่มีแล้ว พร้อมเอาของเก่าที่กินมาออก คือพูดตรงๆเลย ไส้กลิ้งซ้าย ขวา จนมารวมกันได้เป็นหนึ่งเดียวเลย
ขับมาสักแปป แวะอีกรอบ พักไส้ พร้อมประกอบร่างใหม่ ลุงตี๋บอกว่าถ้าไม่อยากเมารถ เราควรเมาก่อน พร้อมยื่นเหล้าขาว เอร้ย!!! จะดีหรอ555 ตรงนี้ไม่ได้มีห้องน้ำ หรืออะไรหรอก แต่ตรงนี้เค้าชอบมาถ่ายรูปกัน จะเป็นหมู่บ้านชาวเขา จุดหมายของเราอยู่อีกสักพักใหญ่ เห้ย!!!! หันมาถามกระเพาะว่าไหวไหม เอาวะ มาแล้วก็ต้องลุยให้ถึงที่สุด จริงๆถ้านั่งข้างหน้าก็อาจจะไม่เมา แต่คิดว่านั่งข้างหลังดีกว่าได้เห็นวิว ได้ถ่ายรูปสุดท้ายข้าน้อยขอยอมแพ้ไม่สนและตอนนั้น ก้มหน้ากอดกระเป๋านอนยาวเลย555 สุดท้ายขากลับนั่งขอไปนั่งข้างคนขับ รอดเว้ยเห้ย ผ่านมาได้ 1219 โค้ง
ถึงอุ้มผางเติมพลังด้วยข้าวเที่ยงที่ทางทัวร์จัดให้ ไม่รู้ข้าวเที่ยง หรือข้าวเช้า เมนูวันนี้มี ข้าวต้ม หมูทอด ไข่เค็ม กุนเชียงทอด ผัดใบผัดกรูด รสชาติอร่อยดีทีเดียว จัดมาเกลี้ยงจานกันเลย
หลังจากเติมพลังให้ตัวเองเสร็จก็ได้เวลาเอาของไปให้แก่เด็กๆ รร.บ้านยะโมคี (ครูที่นี้บอก โทรติดยากหน่อยนะค่ะ หากมีอะไรก็ฝากเบอร์ไว้ แล้วครูจะโทรกลับ) เราเดินทางจากที่เรากินข้าวเที่ยงไปรร.ประมาณ 5กิโลได้มั้ง ตลอดเส้นทาง ฝุ่น หลุม ชัน คือไปถึงอาหารย่อยพอดี5555 พอไปถึงเด็กๆก็ออกมาต้อนรับ ที่นี้มีเด็กอนุบาลถึงป.6 ประมาณ 59 คน ของที่เอาไปแจกก็มีนาฬิกา(ถือเป็นไฮไลท์สุดๆๆ เด็กที่นี้ชอบ และตื่นเต้นมาก ขอบคุณพี่นัท ณ จุดนี้เจ้าของนาิการายใหญ่ สนใจนาฬิกาติดต่อพี่เค้าได้ค่ะ) ตามมาด้วยตุ๊กตา ขนม ดินสอสี กระเป๋า เสื้อผ้า หนังสือ ที่ได้มาจากการบริจาค เราได้นักพูดภูธรไปด้วย เพื่อสร้างความเฮฮา ปาจิโกะ พร้อมแจกของรางวัลสำหรับคนที่เล่นเกมส์ชนะ จบการแจกของก็จะมีตัวแทนนร.ออกมาขอบคุณ แถมยังเดินออกมาส่งตอนพวกเรากลับด้วย ภาพนี้โคตรประทับใจอ่ะ ไม่คิดว่าพวกเค้าจะมีการต้อนรับขับสู้ได้ดีขนาดนี้ แต่ถ่ายรูปไม่ได้ เพราะสภาพถนนอำนวยแก่การถ่ายภาพสั่นมากกว่าภาพนิ่ง เดียวจะหาว่าตากล้องฝีมือไม่ถึงได้555
ผลัดกันดูนาฬิกาให้กัน
ป.ล.ขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านสำหรับของบริจาค ของถึงมือเด็กๆแล้วนะค่ะ
เสร็จจากรร.ก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้าไปล่องแพ เป้าหมายของเราคือ ทีลอจ่อ น้ำตกสายรุ้ง ธารน้ำร้อน ลุยแก่งตะโค๊ะบิ๊ ชมผาเลือด และธรรมชาติที่สวยงามของสองฝั่งแม่กลอง ไม่ได้ถ่ายผาเลือดมา เพราะเราจะเห็นน้ำยางสีแดงๆคล้ายเลือด ก็ตอนเดือนมกราถึงกุมภา ประมาณนั้น เค้าว่ายางที่ไหลออกมาจากผาเลือดจะเอามาทำยาให้สตรีมีครรภ์กิน บำรุงดีหนักแล นี้ไม่ได้มาโฆษณาชวนเชื่อนะ เสร็จจากผาเลือดก็ขึ้นฝัง
ไกด์เราชื่อ วิทย์คนนี้มีบทบาทมาก เป็นทั้งไกด์ คนเรียกมุข และที่สำคัญช่างภาพ วิทย์เป็นคนถ่ายภาพสวย แต่เอียง พวกเรากำลังคิดว่า หรือเค้าสายตาเอียง อีกคนพายท้ายเรือ ชื่อลุงพู
มันมาเกาะแล้วก็โชว์ภาพหวานให้เราดู
วันนี้ฟ้าสวย
น้ำตกสายรุ้ง พอดีคนเปิดแสงจากพระอาทิตย์หยุดพักเครื่อง เราเลยไม่ได้เห็น ถ้าอยากเจอสายรุ้งต้องมาก่อนเที่ยง งานนี้เลยพลาดไป แอบเสียดาย
แวะพักที่บ่อน้ำร้อน
น้ำเสาวรส สงวนราคาที่ 20 บาท คนขายบอกเอาแก้วกลับไปดริงค์คืนนี้ พร้อมแถมไม้พายให้ไปคนแบบเก๋ๆ ทดลลองใช้ไม้พายได้โดยการช่วยวิทย์ กะลุงพู พายไปก่อนพลางๆ555
นั่งรถไปต่อเตรียมตัวไปนอนเต้นท์ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทีลอซู ซึ่งทางทัวร์เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมอาหาร อยู่ที่นี้ดี๊ดี เป็นคนสมรรถะมาก อาบน้ำวันละครั้ง แต่ก็ไม่อยากจะแคะขี้มูกออกมาดู ปั้นออกมาดูแล้วแม่เจ้า นิดินโคลนที่เก็บมาข้างทางรึเปล่า ดำโคตรๆๆ จบทริปวันทีหนึ่ง หลับพร้อมโรงงานเครื่องจักร และกลิ่นหอมสปาจากระบบขับถ่ายของคนข้างๆเต้นท์
ควายป่า อะไรอยู่ในป่า ก็เติมคำว่าป่าลงท้ายไป ลุงตี๋บอก
พักแปป แล้วจะมาต่อใหม่นะจร้า
[CR] ที(ม) ลอ ซู ลอย ฝัน ปัน ใจ
ขอขยายความหมายของชื่อหัวข้อ คือ ที(ม)ลอซู ถนนลอยฟ้า ตามความฝัน แบ่งปันสิ่งของ มันดีต่อใจ
ทริปนี้เราเดินทางกัน 7 คน พร้อมด้วยคนขับ 1 คน ชื่อ ลุงตี๋ คนดูแลการเดินทางอีก 2 ชื่อ วิทย์ และลุงพู(น่าจะเป็นชาวเขา)
เราเริ่มเดินทางออกจากกทม ด้วยรถทัวร์ ป.1 ไปแม่สอด คือ บริการเยี่ยมมาก มีเบาะนวด ทีชาร์ตแบตมือถือ แถมมีการสาธิตการใช้งาน เหมือนนั่งเครื่องเลย เป็นอะไรที่ตื่นเต้นแบบคนไม่เคยเจอมาก่อน เพราะไม่เคยเจอจริงๆนะ รถทัวร์สายใต้ไม่มีแบบนี้เลย แอบงงมาตลอด เวลาเดินทาง วันที่ 1-6 ธันวาคม 2559 ขึ้นรถสองทุ่มของวันที่หนึ่ง ไปเช้าที่แม่สอด เวลาตีสี่ อากาศที่นั้นลมหนาวพัดมาสะเทือนผิวดี ระยะทางจากแม่สอดไปอุ้มผางก็ประมาณ 164 กม. หรือประมาณ 4 ชม
แวะจุดพักรถสักแปป ที่นี้ก็จะมีสตอเบอร์รี่ให้เราชม และช็อป คือควรจะแวะเพราะหลังจากนี้ไม่มีแล้ว พร้อมเอาของเก่าที่กินมาออก คือพูดตรงๆเลย ไส้กลิ้งซ้าย ขวา จนมารวมกันได้เป็นหนึ่งเดียวเลย
ขับมาสักแปป แวะอีกรอบ พักไส้ พร้อมประกอบร่างใหม่ ลุงตี๋บอกว่าถ้าไม่อยากเมารถ เราควรเมาก่อน พร้อมยื่นเหล้าขาว เอร้ย!!! จะดีหรอ555 ตรงนี้ไม่ได้มีห้องน้ำ หรืออะไรหรอก แต่ตรงนี้เค้าชอบมาถ่ายรูปกัน จะเป็นหมู่บ้านชาวเขา จุดหมายของเราอยู่อีกสักพักใหญ่ เห้ย!!!! หันมาถามกระเพาะว่าไหวไหม เอาวะ มาแล้วก็ต้องลุยให้ถึงที่สุด จริงๆถ้านั่งข้างหน้าก็อาจจะไม่เมา แต่คิดว่านั่งข้างหลังดีกว่าได้เห็นวิว ได้ถ่ายรูปสุดท้ายข้าน้อยขอยอมแพ้ไม่สนและตอนนั้น ก้มหน้ากอดกระเป๋านอนยาวเลย555 สุดท้ายขากลับนั่งขอไปนั่งข้างคนขับ รอดเว้ยเห้ย ผ่านมาได้ 1219 โค้ง
ถึงอุ้มผางเติมพลังด้วยข้าวเที่ยงที่ทางทัวร์จัดให้ ไม่รู้ข้าวเที่ยง หรือข้าวเช้า เมนูวันนี้มี ข้าวต้ม หมูทอด ไข่เค็ม กุนเชียงทอด ผัดใบผัดกรูด รสชาติอร่อยดีทีเดียว จัดมาเกลี้ยงจานกันเลย
หลังจากเติมพลังให้ตัวเองเสร็จก็ได้เวลาเอาของไปให้แก่เด็กๆ รร.บ้านยะโมคี (ครูที่นี้บอก โทรติดยากหน่อยนะค่ะ หากมีอะไรก็ฝากเบอร์ไว้ แล้วครูจะโทรกลับ) เราเดินทางจากที่เรากินข้าวเที่ยงไปรร.ประมาณ 5กิโลได้มั้ง ตลอดเส้นทาง ฝุ่น หลุม ชัน คือไปถึงอาหารย่อยพอดี5555 พอไปถึงเด็กๆก็ออกมาต้อนรับ ที่นี้มีเด็กอนุบาลถึงป.6 ประมาณ 59 คน ของที่เอาไปแจกก็มีนาฬิกา(ถือเป็นไฮไลท์สุดๆๆ เด็กที่นี้ชอบ และตื่นเต้นมาก ขอบคุณพี่นัท ณ จุดนี้เจ้าของนาิการายใหญ่ สนใจนาฬิกาติดต่อพี่เค้าได้ค่ะ) ตามมาด้วยตุ๊กตา ขนม ดินสอสี กระเป๋า เสื้อผ้า หนังสือ ที่ได้มาจากการบริจาค เราได้นักพูดภูธรไปด้วย เพื่อสร้างความเฮฮา ปาจิโกะ พร้อมแจกของรางวัลสำหรับคนที่เล่นเกมส์ชนะ จบการแจกของก็จะมีตัวแทนนร.ออกมาขอบคุณ แถมยังเดินออกมาส่งตอนพวกเรากลับด้วย ภาพนี้โคตรประทับใจอ่ะ ไม่คิดว่าพวกเค้าจะมีการต้อนรับขับสู้ได้ดีขนาดนี้ แต่ถ่ายรูปไม่ได้ เพราะสภาพถนนอำนวยแก่การถ่ายภาพสั่นมากกว่าภาพนิ่ง เดียวจะหาว่าตากล้องฝีมือไม่ถึงได้555
ผลัดกันดูนาฬิกาให้กัน
ป.ล.ขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านสำหรับของบริจาค ของถึงมือเด็กๆแล้วนะค่ะ
เสร็จจากรร.ก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้าไปล่องแพ เป้าหมายของเราคือ ทีลอจ่อ น้ำตกสายรุ้ง ธารน้ำร้อน ลุยแก่งตะโค๊ะบิ๊ ชมผาเลือด และธรรมชาติที่สวยงามของสองฝั่งแม่กลอง ไม่ได้ถ่ายผาเลือดมา เพราะเราจะเห็นน้ำยางสีแดงๆคล้ายเลือด ก็ตอนเดือนมกราถึงกุมภา ประมาณนั้น เค้าว่ายางที่ไหลออกมาจากผาเลือดจะเอามาทำยาให้สตรีมีครรภ์กิน บำรุงดีหนักแล นี้ไม่ได้มาโฆษณาชวนเชื่อนะ เสร็จจากผาเลือดก็ขึ้นฝัง
ไกด์เราชื่อ วิทย์คนนี้มีบทบาทมาก เป็นทั้งไกด์ คนเรียกมุข และที่สำคัญช่างภาพ วิทย์เป็นคนถ่ายภาพสวย แต่เอียง พวกเรากำลังคิดว่า หรือเค้าสายตาเอียง อีกคนพายท้ายเรือ ชื่อลุงพู
มันมาเกาะแล้วก็โชว์ภาพหวานให้เราดู
วันนี้ฟ้าสวย
น้ำตกสายรุ้ง พอดีคนเปิดแสงจากพระอาทิตย์หยุดพักเครื่อง เราเลยไม่ได้เห็น ถ้าอยากเจอสายรุ้งต้องมาก่อนเที่ยง งานนี้เลยพลาดไป แอบเสียดาย
แวะพักที่บ่อน้ำร้อน
น้ำเสาวรส สงวนราคาที่ 20 บาท คนขายบอกเอาแก้วกลับไปดริงค์คืนนี้ พร้อมแถมไม้พายให้ไปคนแบบเก๋ๆ ทดลลองใช้ไม้พายได้โดยการช่วยวิทย์ กะลุงพู พายไปก่อนพลางๆ555
นั่งรถไปต่อเตรียมตัวไปนอนเต้นท์ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทีลอซู ซึ่งทางทัวร์เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมอาหาร อยู่ที่นี้ดี๊ดี เป็นคนสมรรถะมาก อาบน้ำวันละครั้ง แต่ก็ไม่อยากจะแคะขี้มูกออกมาดู ปั้นออกมาดูแล้วแม่เจ้า นิดินโคลนที่เก็บมาข้างทางรึเปล่า ดำโคตรๆๆ จบทริปวันทีหนึ่ง หลับพร้อมโรงงานเครื่องจักร และกลิ่นหอมสปาจากระบบขับถ่ายของคนข้างๆเต้นท์
ควายป่า อะไรอยู่ในป่า ก็เติมคำว่าป่าลงท้ายไป ลุงตี๋บอก
พักแปป แล้วจะมาต่อใหม่นะจร้า