เกี่ยวการับมรดก

กระทู้คำถาม
เรื่องมีอยู่ว่า...นาง อ กับนาย ร ไม่มีบุตร. แต่ไปนำเหลน คือลูกชายของหลานสาวมาอุปการะเสี้ยงดู   เด็กเกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2524 โดยเมื่อเด็กอายุประมาณ 2 ขวบกว่า. จึงได้ไปแจ้งเกิดต่อนายทะเบียนเพื่อออกใบสูติบัตร เมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม 2526 โดยนำเอกสารยื่นต่อนายทะเบียนว่า. ตนนาง อ กับนาย ร  เป็นบิดามารดาของเด็ก. นายทะเบียนก็ออกใบสูติบัตรให้เด็กว่า เป็นบุตรของนาง อ กับนาย ร แล้วจึงนำเด็กเข้ามาในสำมะโนครัวของตน,

๑. แต่ในกรณี...ที่รับเหลนมาเป็นบุตรต้องยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมต่อนายทะเบียน. และต้องมีเอกสารการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมใช่ไหมครับ,  จึงจะยื่นขอออกใบสูติบัตรฯ หรือรับเป็นบุตรได้.

๒. แต่ในกรณีนี้...ไปขอยื่นเอกสารขอแจ้งเกิดเกินกำหนด. แล้วระบุว่าตนและสามีเป็นบิดามารดาของเด็ก เพื่อให้นายทะเบียนออกใบสูติบัตรแก่เด็ก  แล้วนำเด็กเข้าในสำมะโนครัว

  (  หมายเหตุ    เด็กที่นาง อ กับนาย ร แจ้งเกิดนั้น ซึ่งเป็นลูกชายของหลานสาว  โดยมีหลาน ๆคนอื่นของนาง อ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ล้วนรับรู้ว่า เด็กไม่ใช่บุตรแท้ ๆ ของนาง อ กับนาย ร  ซึ่งนาย ร ได้เสียชีวิตก่อนนาง อ )

๔.  เมื่อว่ากันตามกฏหมายเด็กที่นาง อ กับนาย ร ไปยื่นแจ้งเกิดต่อนายทะเบียนว่าตนเป็นบิดามารดา แล้วให้ออกใบสูติบัตร เพื่อนำเด็กเข้าในสำมะโนครัวอุปการะเสี้ยงดู  จะถือว่าเป็นทายาทโดยธรรมได้ไหม,

๕. ถ้าไม่ได้,    ต้องทำอย่างไร. ?   หรือตรวจสอบเอกสารอย่างไร ?  เกี่ยวกับมารดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก. ที่ไม่ได้จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม

๖.  ทายาท ลำดับที่ 1, 2, 3, ได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว  คงเหลือลำดับที่ 4,  คือ หลาน ๆที่เป็นลูกของน้องร่วมมารดาเดียวกันของเจ้ามรดก
ซึ่งก็รวมถึงแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กชายที่นาง อ กับนาย ร แจ้งเกิดระบุเป็นบิดามารดาของเด็ก,
( หมายเหตุ น้อง ๆร่วมมารดาเดียวกันของเจ้ามรดกเสียชีวิตไปหมดแล้ว )

ในกรณีนี้....ผู้มีประสบการณ์หรือผู้รู้กฏหมาย มีความเห็นว่าเช่นไรครับ,   ขอความรู้ ช่วยอธิบายในการดำเนิดการต่อไปด้วยครับ
        ขอขอบพระคุณ  ณ. ที่นี้เป็นอย่างสูงครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่