นางพูลสุข ปรัชญานุสรณ์ หรือ จิตสอางค์ ตรัยพรวรยุติ ลูกสาวสายโลหิต นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม หรือ ศริพร แซ่หลี

กระทู้คำถาม
กระผม พันตำรวจเอกโอฬาร สุขเกษม นักเรียนเตียมทหารรุ่น 23 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 39 อายุ 57 ปี ปัจจุบันรับราชการตำรวจ ตำแหน่ง ผู้กำกับการ ฝ่ายเวชระเบียน กองบังคับการอำนวยการ โรงพยาบาลตำรวจ สำเนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามคำสั่งล่สุด หมายเลขโทรศัพท์ 089-9257223 ขออนุญาตนำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม กับ เจ้าพนักงาน นายทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี , นายทะเบียนจังหวัดสุราษฎร์ธานี , นายทะเบียนสำนักทะเบียนกลาง , นายทะเบียนกรมการปกครอง , ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย , ปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , สำนักงานอัยการสูงสุด , สำนักงานศาลยุติธรรม , ประธานศาลฎีกา , คณะกรรมการป้องการและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) , และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง มายาวนาน กว่า 12 ปี กรณี  

นางพูลสุข ปรัชญานุสรณ์ หรือ จิตสอางค์ ตรัยพรวรยุติ ลูกสาวสายโลหิต
นายฮุนเชี้ยง แซ่ลิ้ม เสียชีวิตเมื่อประมาณ ปี 2524
นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม หรือ ศริพร แซ่หลี เลขประจำตัวประชาชน 3-1007-00056-67-3 อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยรามอินทรา 26 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
มีพี่น้องบิดามารดาเดียวกันรวม 5 คน
     1.นายภาณุวัฒน์ พันธุวิชาติกุล เกิดเมื่อ วันที่ 5 มีนาคม 2494 เลขประจำตัวประชาชน 3-8499-00278-72-8 มารดาชื่อง้วยเชง บิดาชื่อฮุนเชี้ยง
     2.นายวินัย  พันธุ์วิชาติกุล เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2495 (เลขประจำตัวประชาชน 3100700056681) มารดาชื่อง้วยเชง บิดาชื่อฮุนเชี้ยง
     3.น.ส.สว่างจิตร แซ่ลิ้ม เลขประจำตัวประชาชน 3-8499-00278-71-0 มารดาชื่อง้วยเชง บิดาชื่อฮุนเชี้ยง
     4. นางพูลสุข ปรัชญานุสรณ์ หรือ จิตสอางค์ ตรัยพรวรยุติ เลขประจำตัวประชาชน 3-8499-00212-04-2
     5.ด.ญ.บุญทวี แซ่ลิ้ม  เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2502 มารดาชื่อ ง้วยเชง บิดาชื่อ ฮุนเชี้ยง

แอบอ้างเป็น บุตรสายโลหิต ของ นางพูลสิน โพธิรักขิต ผู้ตายไม่มีทายาท หมายเลขประจำตัวประชาชน 3-8499-00212-03-4

ใช้ทะเบียนบ้านปลอม ที่ร่วมมือกับนายทะเบียนเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
     1.นางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ บุตร  นายฮุนเชี้ยง แซ่ลิ้ม นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม หรือ ศริพร แซ่หลี น้องสาวนายภาณุวัฒน์ พันธุวิชาติกุล รองเลขา นายกรัฐมนตรี พีชายสายโลหิด บิดา มารดา เดียวกัน ไปแอบอ้าง เป็นบุตรของ นางพูลสิน โพธิรักขิต ขอพระราชทานเพลิงศพเท็จ เพื่อนำไปสร้างความน่าเชื่อถือ ของสำเนาทะเบียนบ้านปลอม ทะเบียนบ้านปลอม ข้อมูลทะเบียนราษฎรปลอม ได้ผลประโยชน์ไปโดยมิชอบ หรือ โดยทุจริต นับ 100,000,000 บาท เช้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  กองบังคับการปราบ โดย กองกำกับการ 5 รับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีเลขที่ 16/2558 เจ้าพนักงานตำรวจผู้เกี่ยวข้องไม่รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อพิสูจน์ความผืดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญา มาตรา 131 และ 131/1 เก็บเรื่องไว้นานประมาณ 4 ปี พลตำรวจโท ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงลายมือชื่อ สั่งไม่ฟ้อง เมื่อ เดือนกันยายน 2562 ก่อนเกษียณอายุราชการ สำนักกฎหมายและคดี มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง โดยไม่สั่งให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่ง สั่งไม่ฟ้อง โดยไม่สั่งให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ส่งอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง โดยไม่สั่งให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เหลือเวลาอีก 2 ปี ขาดอายุความในเดือนพฤษภาคม 2565 
     2.นางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ บุตร  นายฮุนเชี้ยง แซ่ลิ้ม นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม หรือ ศริพร แซ่หลี น้องสาวนายภาณุวัฒน์ พันธุวิชาติกุล รองเลขา นายกรัฐมนตรี ในปัจจุบัน  พีชายสายโลหิด บิดา มารดา เดียวกันนำสำเนาทะเบียนบ้านปลอม  ที่ระบุชื่อ บิดา "บวร" มารดา "พูลสิน" ไปขอยื่นคำร้องเท็จ เบิกความเท็จ แสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ สำเนาทะเบียนบ้านปลอม  ต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอจัดการมรดก ของนางพูลสิน โพธิรักขิต ผู้ตายไม่มีทายาท  โดยนายสนธยา จรเอียด และนายวิรัช วรรธนะวงษา  ผู้พิพากษา มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก ด้วย สำเนาทะเบียนบ้านปลอม และ บัญชีเครือญาติปลอม 
     3.ต่อมาพันตำรวจเอกโอฬาร สุขเกษม และนางสริตา สุขเกษม ภรรยา ยื่นคำร้องคัดค้าน โดยอ้าง เป็นผู้มีส่วนได้เสีย เป็นเจ้าหนี้กองมรดก จากการรับจ้าง นางพูลสิน โพธิรักขิต ผู้ตายไม่มีทายาท
          3.1.อ้างหลักฐานเอกสารราชการ สูติบัตรของนางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ ซึ่งระบุว่า นางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ เป็นบุตรของนายฮุนเชี้ยง แซ่ลิ้ม นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ศริพร แซ่หลี) ซึ่งรับผิดชอบโดยนายทะเบียนท้องถิ่นสุราษฎร์ธานี ร่วมกับหลักฐานทะเบียนบ้าน ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของ นางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ  ที่ปลอม มีข้อมูล รายการชื่อ บิดามารดา ไม่ตรงกัน ประกอบกับ
          3.2.ทะเบียนรับบุตรบุญธรรม เลขที่ 11/157 จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2501 โดยนายบวร ศิริวงศ์ เป็นผู้รับบุตรบุญธรรม ด.ญ.พูลสิน แซ่ลิ้ม เป็นบุตรบุญธรรม นางพูนสิน ศิริวงศ์ (หรือ โพธิรักขิต ผู้ตายไม่มีทายาท) เป็นคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรม (ไม่ได้ร่วมรับบุตรบุญธรรม) เป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดี 
     4.นายสนธยา จรเอียด และนายวิรัช วรรธนะวงษา  ผู้พิพากษา รับคำร้องคัดค้าน ดำเนินกระบวนพิจารณา โดยไม่ต้องไต่สวนคำร้อง แต่ปรากฎว่า หลังจากดำเนินกระบวนพิจารณา 
          4.1.ไม่พิจารณา ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่า พันตำรวจเอกโอฬาร สุขเกษม และครอบครัว เป็นผู้มีส่วนได้เสียในฐานะเจ้าหนี้กองมรดกหรือไม่            4.2.ไม่พิจารณาพยานหลักฐานว่านางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ บุตร  นายฮุนเชี้ยง แซ่ลิ้ม นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม หรือ ศริพร แซ่หลี น้องสาวนายภาณุวัฒน์ พันธุวิชาติกุล รองเลขา นายกรัฐมนตรี ในปัจจุบัน  พีชายสายโลหิด บิดา มารดาเดียวกัน  ว่าเป็นบุตรโดยธรรม สายโลหิตเดียวกัน "นางพูลสิน โพธิรักขิต" ผู้ตาย เจ้ามรดก ไม่มีทายาทหรือไม่
         4.3.มีคำสั่ง คำพิพากษา โดยมิชอบ หรือ โดยทุจริต อ้างว่า กองมรดดก มีผู้จัดการมรดกอยู่แล้ว (จากการตั้งของ ายสนธยา จรเอียด และนายวิรัช วรรธนะวงษา  ผู้พิพากษา ด้วยสำเนาทะเบียนบ้านปลอม และ ผังเครือญาติเท็จ เท่านั้น)
         4.4.โดยมิชอบ หรือ โดยทุจริต บังคับให้ พันตำรวจเอกโอฬาร สุขเกษม และครอบครัว ไปฟ้อง นางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ บุตร  นายฮุนเชี้ยง แซ่ลิ้ม นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม หรือ ศริพร แซ่หลี น้องสาวนายภาณุวัฒน์ พันธุวิชาติกุล รองเลขา นายกรัฐมนตรี ในปัจจุบัน  พีชายสายโลหิด บิดา มารดา ว่าเป็นบุตรโดยธรรม สายโลหิตเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่ทายาท โดยธรรม ไม่ใช่บุตรโดยสายโลหิต ไม่ใช่บุตรบุญธรรม ไม่ใช่ทายาทโดยพินัยกรรม ไม่มีส่วนได้เสียใดๆในกองมรดก ของ "นางพูลสิน โพธิรักขิต" ผู้ตาย เจ้ามรดก ไม่มีทายาท 
          4.5.ยกคำร้อง พันตำรวจเอกโอฬาร สุขเกษม โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ได้ไปซึ่งผลลประโยชน์มูลค่านับ 100,000,000 บาท (ร้อยล้านบาท) ที่ นางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ บุตร  นายฮุนเชี้ยง แซ่ลิ้ม นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม หรือ ศริพร แซ่หลี น้องสาวนายภาณุวัฒน์ พันธุวิชาติกุล บิดามารดาสายโลหิตเดียวกัน ขณะนี้มีตำแหน่งทางการเมืองเป็น รองเลขา นายกรัฐมนตรี ในปัจจุบัน  ในฐานะ ผู้จัดการมรดกของผู้ตายไม่มีทายาท เป็นมูลเหตุจูงใจ 
     5.ศาลอุธรณ์ ภาค 8 ดำเนินกระบวนพิจารณา มีคำสั่ง คำพิพากษา แนวเดียวกับ ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยกคำร้อง พันตำรวจเอกโอฬาร สุขเกษม โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ได้ไปซึ่งผลลประโยชน์มูลค่านับ 100,000,000 บาท (ร้อยล้านบาท) ที่ นางพูลสุขฯหรือจิตสอางค์ฯ บุตร  นายฮุนเชี้ยง แซ่ลิ้ม นางง้วยเช็ง แซ่ลิ้ม หรือ ศริพร แซ่หลี น้องสาวนายภาณุวัฒน์ พันธุวิชาติกุล บิดามารดาสายโลหิตเดียวกัน ขณะนี้มีตำแหน่งทางการเมืองเป็น รองเลขา นายกรัฐมนตรี ในปัจจุบัน  ในฐานะ ผู้จัดการมรดกของผู้ตายไม่มีทายาท เป็นมูลเหตุจูงใจ 
     6.นางสริตา สุขเกษม ภรรยา พันตำรวจเอกโอฬาร สุขเกษม ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินการทางวินัย และ ทางคดี คดีกับ ผู้พิพากาษาศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่เกี่ยวข้อง ต่อคณะกรรมการข้าราชการตุลาการ ประธานศาลฎีกา อธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 และ หัวหน้าศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ไม่เกิดผลทางวินัย และ ทางกฎหมายแต่อย่างใด ทุกฝ่ายยืนยันว่า ผู้พิพากาษา ที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว อันแสดงให้เห็นว่า คำร้องทุกข์กล่าวโทษของนางสริตา สุขเกษม เข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหนักงานให้ผู้อื่นต้องรับโทษทางอาญา  หมิ่นประมาทดูหมิ่น ผู้พิพากษา (ไม่เข้าข่ายหมิ่นศาล หรือ ละเมิดอำนาจศาล) แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆกับนางสริตา สุขเกษม 
      7.นางสริตา สุขเกษม ได้ร้องทุกกล่าวโทษ ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้อง ต่อคณะกรรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และได้รับแจ้งต่อมาว่า ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องได้รายงานข้อเท็จจริง ให้ ป.ป.ช.ทราบ พิจารณาแล้วเห็นควรยุติเรื่อง โดยไม่รับเรื่องไว้ไต่สวนตามระเบียบกฎหมาย ถ้าจะเปรียบเทียบกับการสอบสวนก็คือ มีผู้กล่าวหาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ต้องหา ว่ากระทำความผิดทางอาญา พนักงานสอบสวนให้ ผู้ต้องหารายงานข้อเท็จจริง แล้วก็สรุป ไม่รับเรื่อง อ้างว่าไม่เป็นความผิดทางอาญา โดยไม่รวบรวมพยานหลักฐาน ตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา 

                     เหตุการณ์ที่มีคู่กรณีเช่นนี้ เกิดขึ้นกับ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ผู้มีอำนาจหน้าที่ ล้นฟ้า มหาสมุทร ได้อย่างไร 

วันนี้ขอจบเพียงแท่านี้ก่อนครับ พรุ่งนี้จะรายงานเพิ่มเติม
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
อ่านเอกสารจากกระทู้นี้แล้ว​ถ้าสนใจจจริงๆ​ดิฉันต้องอ่านไม่ต่ำกว่า3ครั้ง.เพื่อทำความเข้าใจเนื้อเรื่องและ​ชื่อบุคคลต่างๆที่โยงเข้ามาแอบอ้างใน​ครอบครัว​ ​ รวมไปถึงผู้พิพากษา​และ​สถานที่ๆเกี่ยวข้อง​
ค่อนข้างสับสนทีเดียว​ถ้าจะทำความ​เข้าใจ​คืออ่านจบแล้วก็​บอก
ได้คำเดียวว่าทึ่ง​ ได้แต่โว้ตให้ท่าน​เพื่อว่า
กระทู้จะได้อยู่ให้คนที่ยังไม่ได้อ่าน​ ได้อ่าน​ เป็นปัญหาที่น่าคิดตาม
พูดง่ายคือคดีนี้ยากสำหรับคนธรรมดาที่จะเข้าใจค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่