เรื่องมีอยู่ว่า
นาย ก. คือ เจ้ามรดก เสียชีวิต ไม่ได้ทำพินัยกรรม บิดามารดาเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว
นาง ข. คือ ภรรยานาย ก. จดทะเบียนสมรส แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน
นาย ค. คือ พี่ชายร่วมบิดามารดาของ นาย ก.
นาง ข. ได้ยื่นต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก โดยนาย ค. ไม่ได้คัดค้าน นาง ข. ได้ยื่นต่อศาลแจ้งบัญชีทรัพย์สินของเจ้ามรดก มี ดังนี้
ที่ดินแปลงที่ 1 ราคาประเมิน 1,100,000 บาท
ที่ดินแปลงที่ 2 ราคาประเมิน 1,000,000 บาท
ที่ดินแปลงที่ 3 ราคาประเมิน 900,000 บาท
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง แปลงที่ 1 ราคาประเมิน 9,000,000 บาท
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง แปลงที่ 2 ราคาประเมิน 5,000,000 บาท
พันธบัตรรัฐบาล ฉบับที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท
พันธบัตรรัฐบาล ฉบับที่ 2 มูลค่า 1,000,000 บาท
พันธบัตรรัฐบาล ฉบับที่ 3 มูลค่า 1,000,000 บาท
รวมมูลค่าทั้งสิ้น 20,000,000 บาท
ตามลำดับชั้นทายาทแล้ว นาง ข. ภรรยา จะได้ครึ่งหนึ่งของ 20 ล้านบาท คือ 10 ล้านบาท ไปก่อน ส่วนที่เหลืออีก 10 ล้านบาท นาง ข. กับ นาย ค.
แบ่งกันคนละครึ่ง เท่ากับว่า นาย ค. จะได้รับส่วนแบ่งมรดก 5 ล้านบาท ในที่นี้ คือ รายการที่ 5 ที่ดินพร้อม่สิ่งปลูกสร้าง แปลงที่ 2 ทนายความของนาย ค. ได้ตกลงค่าวิชาชีพจากผลสำเร็จของงานร้อยละ 5 ของทรัพย์สินที่ได้ ดังนั้นทนายความจะได้ค่าวิชาชีพจากผลสำเร็จของงาน = 250,000 บาท
แต่ว่า นาย ค. ได้คุยเป็นการส่วนตัวกับ นาง ข. เพื่อขอส่วนแบ่งมรดกเพิ่มจากนาง ข. อีก 1 ล้านบาท ที่เป็นพันธบัตร และนาง ข. ก็ยินยอมยกให้ตามคำขอของ นาย ค. จากนั้น นาง ข. ได้จัดทำบัญชีการแบ่งทรัพย์มรดก ยื่นต่อศาล และมีคำสั่งศาลออกมา คดีถึงที่สุด
คำถาม คือ ทนายจะได้ค่าวิชาชีพจากผลสำเร็จของงานร้อยละ 5 ของ 1 ล้านบาทที่เป็นพันธบัตรด้วยหรือไม่ เพราะว่า นาย ค. เป็นฝ่ายร้องขอมาจาก นาง ข. ด้วยตัวเองไม่ใช้ผลงานของทนาย อันนี้อยากทราบเป็นความรู้น่ะค่ะ ต้องขอฝากคุณทนายทั้งหลายช่วยตอบข้อข้องใจนี้หน่อยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ช่วยไขข้อข้องใจเรื่องค่าวิชาชีพทนายหน่อยค่ะ
นาย ก. คือ เจ้ามรดก เสียชีวิต ไม่ได้ทำพินัยกรรม บิดามารดาเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว
นาง ข. คือ ภรรยานาย ก. จดทะเบียนสมรส แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน
นาย ค. คือ พี่ชายร่วมบิดามารดาของ นาย ก.
นาง ข. ได้ยื่นต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก โดยนาย ค. ไม่ได้คัดค้าน นาง ข. ได้ยื่นต่อศาลแจ้งบัญชีทรัพย์สินของเจ้ามรดก มี ดังนี้
ที่ดินแปลงที่ 1 ราคาประเมิน 1,100,000 บาท
ที่ดินแปลงที่ 2 ราคาประเมิน 1,000,000 บาท
ที่ดินแปลงที่ 3 ราคาประเมิน 900,000 บาท
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง แปลงที่ 1 ราคาประเมิน 9,000,000 บาท
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง แปลงที่ 2 ราคาประเมิน 5,000,000 บาท
พันธบัตรรัฐบาล ฉบับที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท
พันธบัตรรัฐบาล ฉบับที่ 2 มูลค่า 1,000,000 บาท
พันธบัตรรัฐบาล ฉบับที่ 3 มูลค่า 1,000,000 บาท
รวมมูลค่าทั้งสิ้น 20,000,000 บาท
ตามลำดับชั้นทายาทแล้ว นาง ข. ภรรยา จะได้ครึ่งหนึ่งของ 20 ล้านบาท คือ 10 ล้านบาท ไปก่อน ส่วนที่เหลืออีก 10 ล้านบาท นาง ข. กับ นาย ค.
แบ่งกันคนละครึ่ง เท่ากับว่า นาย ค. จะได้รับส่วนแบ่งมรดก 5 ล้านบาท ในที่นี้ คือ รายการที่ 5 ที่ดินพร้อม่สิ่งปลูกสร้าง แปลงที่ 2 ทนายความของนาย ค. ได้ตกลงค่าวิชาชีพจากผลสำเร็จของงานร้อยละ 5 ของทรัพย์สินที่ได้ ดังนั้นทนายความจะได้ค่าวิชาชีพจากผลสำเร็จของงาน = 250,000 บาท
แต่ว่า นาย ค. ได้คุยเป็นการส่วนตัวกับ นาง ข. เพื่อขอส่วนแบ่งมรดกเพิ่มจากนาง ข. อีก 1 ล้านบาท ที่เป็นพันธบัตร และนาง ข. ก็ยินยอมยกให้ตามคำขอของ นาย ค. จากนั้น นาง ข. ได้จัดทำบัญชีการแบ่งทรัพย์มรดก ยื่นต่อศาล และมีคำสั่งศาลออกมา คดีถึงที่สุด
คำถาม คือ ทนายจะได้ค่าวิชาชีพจากผลสำเร็จของงานร้อยละ 5 ของ 1 ล้านบาทที่เป็นพันธบัตรด้วยหรือไม่ เพราะว่า นาย ค. เป็นฝ่ายร้องขอมาจาก นาง ข. ด้วยตัวเองไม่ใช้ผลงานของทนาย อันนี้อยากทราบเป็นความรู้น่ะค่ะ ต้องขอฝากคุณทนายทั้งหลายช่วยตอบข้อข้องใจนี้หน่อยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ