วิธีการขอเป็นผู้จัดการมรดก
มี 2 วิธี
1.จ้างทนาย จบ
2.ทำเอง
เอกสารที่ต้องใช้
1.ทะเบียนบ้านผู้ตาย
2.บัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก
3.ใบมรณะบัตรของผู้ตาย และทายาทที่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกกรณีถึงแก่ความตายไปก่อนแล้ว
4.ใบมรณะบัตรบิดามารดาผู้ตาย กรณีบิดามารดา(เจ้ามรดก) ถึงแก่ความตายก่อนแล้ว
5.ทะเบียนสมรส และ/หรือ ทะเบียนหย่า ของบิดาหรือมารดาผู้ตาย
6.ทะเบียนสมรส และ/หรือ ทะเบียนหย่าของสามีภรรยา ของผู้ตาย
7.ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ของทายาท และผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย
8.สูติบัตรบุตรของผู้ตาย กรณีบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือ ไม่สามารถให้ความยินยอมได้
9.พินัยกรรม (ถ้ามี)
(*)10.หนังสือให้ความยินยอมในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก (ทายาททุกคนลงชื่อเอง)
(*)11.บัญชีเครือญาติผู้ตาย
12.เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตาย เช่น โฉนดที่ดิน ทะเบียนรถ ทะเบียนปืน สมุดบัญชีธนาคาร ใบหุ้น และอื่นๆ
13.บัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการ สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้มีส่วนได้รับมรดกผู้ให้ความยินยอมทุกคน (เจ้าของเอกสารลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)
(*)ข้อ10,11 ไปทำที่อัยการจังหวัด
โดยข้อ10 สามารถทำที่จังหวัดใดก็ได้เช่น พี่คนที่ 1 อยู่ราชบุรี ก็ทำที่อัยการราชบุรี คนที่ 2 อยู่กทม. ก็ไปทำที่กทม. เมื่อครบทุกคนแล้วก็รวมเอกสารยื่นที่อัยการจังหวัดที่เจ้าของมรดกตาย
(+)พี่น้องสืบทอดสายเลือดที่เสียชีวิตก่อนผู้เป็นเจ้าของมรดก ให้ใช้ลูกแทน
(+)พี่น้องที่เสียชีวิตหลังเจ้าของมรดกให้ใช้สามี ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส และลูก
(+)ยื่นเอกสารมรดกข้อ 12 เพียงอย่างเดียว สามารถนำหนังสือที่ศาลออกให้ไปใช้ได้กับทรัพย์สินทุกอย่างของผู้ตาย
📝เอกสารทุกใบเตรียมอย่างละ 4 ชุด
เบ็ดเสร็จ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ใช้เวลา 90 วัน ถือคำสั่งศาลเป็นที่สิ้นสุด หมายถึงไม่สามารถร้องขอหรือแก้ไขใดๆได้
วิธีการขอเป็นผู้จัดการมรดก
มี 2 วิธี
1.จ้างทนาย จบ
2.ทำเอง
เอกสารที่ต้องใช้
1.ทะเบียนบ้านผู้ตาย
2.บัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก
3.ใบมรณะบัตรของผู้ตาย และทายาทที่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกกรณีถึงแก่ความตายไปก่อนแล้ว
4.ใบมรณะบัตรบิดามารดาผู้ตาย กรณีบิดามารดา(เจ้ามรดก) ถึงแก่ความตายก่อนแล้ว
5.ทะเบียนสมรส และ/หรือ ทะเบียนหย่า ของบิดาหรือมารดาผู้ตาย
6.ทะเบียนสมรส และ/หรือ ทะเบียนหย่าของสามีภรรยา ของผู้ตาย
7.ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ของทายาท และผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย
8.สูติบัตรบุตรของผู้ตาย กรณีบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือ ไม่สามารถให้ความยินยอมได้
9.พินัยกรรม (ถ้ามี)
(*)10.หนังสือให้ความยินยอมในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก (ทายาททุกคนลงชื่อเอง)
(*)11.บัญชีเครือญาติผู้ตาย
12.เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตาย เช่น โฉนดที่ดิน ทะเบียนรถ ทะเบียนปืน สมุดบัญชีธนาคาร ใบหุ้น และอื่นๆ
13.บัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการ สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้มีส่วนได้รับมรดกผู้ให้ความยินยอมทุกคน (เจ้าของเอกสารลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ)
(*)ข้อ10,11 ไปทำที่อัยการจังหวัด
โดยข้อ10 สามารถทำที่จังหวัดใดก็ได้เช่น พี่คนที่ 1 อยู่ราชบุรี ก็ทำที่อัยการราชบุรี คนที่ 2 อยู่กทม. ก็ไปทำที่กทม. เมื่อครบทุกคนแล้วก็รวมเอกสารยื่นที่อัยการจังหวัดที่เจ้าของมรดกตาย
(+)พี่น้องสืบทอดสายเลือดที่เสียชีวิตก่อนผู้เป็นเจ้าของมรดก ให้ใช้ลูกแทน
(+)พี่น้องที่เสียชีวิตหลังเจ้าของมรดกให้ใช้สามี ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส และลูก
(+)ยื่นเอกสารมรดกข้อ 12 เพียงอย่างเดียว สามารถนำหนังสือที่ศาลออกให้ไปใช้ได้กับทรัพย์สินทุกอย่างของผู้ตาย
📝เอกสารทุกใบเตรียมอย่างละ 4 ชุด
เบ็ดเสร็จ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ใช้เวลา 90 วัน ถือคำสั่งศาลเป็นที่สิ้นสุด หมายถึงไม่สามารถร้องขอหรือแก้ไขใดๆได้