สวัสดีพ่อแม่พี่น้องงงง ผมกลับมาอีกแล้วกับเพจแนะนำของกินระดับอัลติเมท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.facebook.com/kinraideewa/
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า เชื่อว่าวัยรุ่นไทยหลายๆคน ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เคยชาเลนจ์ตัวเองด้วยการ “จัดหนักบุฟเฟ่ต์ กินยังไงก็ได้ให้คุ้มมม ถ้าคุ้มจะรู้สึกพราวววว”
หลายๆคนพออ่านจบ อาจจะอมยิ้มแล้วนึกขำในใจ “หึ นั่นมันMung สำหรับ Ku Ku มีตัง” 555+ แล้วแต่ครับ แต่เชื่อว่ามีหลายๆคนคิดแบบนี้ เพราะผมและเพื่อนก็เป็น สิ่งที่ตามมานั่นคือความทรมานเมื่ออิ่มจัดนั่นเอง
แต่ตอนนี้เมื่อเราโตขึ้น เราเริ่มไม่เน้นความคุ้มในรูปแบบของการกินเยอะๆให้คุ้มค่า เราเริ่ม”อยากทานอาหารที่รสชาติดี และราคาคุ้มค่าพอที่จะจ่าย” เป็นกันไหมครับ???
วันนี้ผมขอรีวิวร้านชาบูเปิดใหม่ร้านนึง ซึ่งราคาบุฟเฟ่ต์ชาบูนี้สนนที่186+ แต่ผมเชื่อว่าความคุ้มค่าไม่ได้อยู่ที่ราคาบุฟเฟ่ต์ แต่มันเป็นความคุ้มค่าจากส่วนที่คุณยอมจ่ายเพิ่ม!!! จะเป็นยังไง?? มาดูกันกับร้าน “ข้าน้อยขอชาบู”!!!
สำหรับร้านนี้จะมี 2 สาขาคือที่ยูเนี่ยนมอล และอาคารเจเพรส ถนนพระราม3 วันที่ผมไปรับประทานเป็นสาขาเจเพรส แผนที่ตามนี้เลยนะครับ
บรรยากาศร้านเป็นแนว Loft ค่อนข้างสดใส แต่ว่าบนโต๊ะ…………………..
มีตาชั่งด้วย!!!! อินดี้มั้ยล่ะ!!! ตั้งขู่กันเห็นๆ อย่างว่า ราคา 186+ คือถูกมาก ถ้ากินเหลือเยอะๆร้านคงเจ๊งครับ
ยังไม่พอ!!! มีนาฬิกาปลุกด้วย!!!! ในราคา 186+ สามารถรับประทานได้ 1 ชั่วโมง 20 นาทีครับ
เรามาดูที่ตู้แช่กัน ในราคา 186+ All youcan eat จะอยู่ในตู้นี้ และมีของกินเล่นปรุงสุกเพิ่มเติมอีกหลายรายการ ส่วนเครื่องดื่มจะไม่รวมในราคาบุฟเฟ่ต์ครับ บุฟเฟ่ต์เครื่องดื่ม Soft Drink ราคาจะอยู่ที่ 39 บาทต่อหัวครับ
แต่นแต๊นนนนนนน
อันนี้เอามาวางเรียงให้ดูกันครับ ว่าในส่วนของบุฟเฟ่ต์ชาบูมีอะไร
ที่สามารถนำมารับประทานได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มบ้าง
ในส่วนของไลน์ชาบูนั้น ก็ถือว่ามีค่อนข้างครบไม่แตกต่างจากชาบูทั่วไปในท้องตลาดนัก หมูสามชั้นหมูสันคอหมูสันนอก ลูกชิ้นปลา กุ้ง เต้าหู้ปลา หมึกกรอบ ปลาดอลลี่ เกี๊ยว หมูสวรรค์ ไก่ และน้ำจิ้ม3รส (พอนสึ สุกี้ และงา)
นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีของทานเล่นให้เลือกสรร มีเกี๊ยวทอด นักเก็ต เฟรนช์ฟราย ที่แปลกแหวกแนวซักหน่อยก็เห็นจะเป็นเห็ดเข็มทองทอด รสชาติอร่อยดี คล้ายๆเทมปูระผัก แต่มีความหนึบกว่า มีไส้กรอกอีสานและคอกเทลไก่ให้ด้วย (แอบกระซิบ ไส้กรอกอีสานอร่อยเอาเรื่องนะ)
ในส่วนของข้าวกระเทียม ถือว่าทำออกมาได้ดีนะ ส่วนตัวผมชอบข้าวกระเทียมที่มีความแฉะหน่อยๆ รู้สึกว่ามันอร่อยกว่าแบบแห้งๆ แต่อันนี้คงแล้วแต่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนครับ
อย่างที่บอกไปในเบื้องต้น ว่าบุฟเฟ่ต์ราคาถูกนับว่าดีก็จริง!! แต่เมนูอะลาคาร์ทก็ราคาถูกมากก จนน่าลิ้มลอง มาลองดูกันครับว่าแต่ละอย่างจะเป็นเช่นไร!!!
เนื้อวากิวสไลด์ จานละ 70…
อ่านไม่ผิดครับ จานละ 70!!! ถือว่าโอเคนะราคาไม่แรงมาก กับเนื้อวากิวชิ้นใหญ่ๆขนาดนี้
น้องสมร ชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ราคา 25 สีแสดส้มจ้าแยงตาซะเหลือเกินนนน
ไหนเล่าเอยจะหอยแมลงภู่ ตัวใหญ่แค่ไหนถามใจดู เอามาให้เทียบกับไอโฟน 6 แบบจะจะ ราคา 25 บาท
สำหรับน้ำซุปชาบูนั้น จะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชาบูร้านอื่นๆ สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวประเทศจีน แถบมณฑลยูนนาน จะมีอาหารขึ้นชื่อชนิดหนึ่งชื่อ กั้วเฉียวหมี่เซี่ยน หรือ “ขนมจีนข้ามสะพาน” ซึ่งที่มาของชื่อนี้มาจากหญิงสาวชาวจีนที่มีสามีเป็นทหาร และเธอผู้นี้ก็ได้ทำบะหมี่ไปให้สามีทาน แต่ด้วยความที่ระยะทางไกล ต้องข้ามสะพานข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ กว่าจะไปถึงก็ทำให้น้ำซุปเย็นชืดหมดแล้ว เธอจึงได้คิดสูตรน้ำซุปสูตรพิเศษที่ทำการเคี่ยวกระดูกไก่จนไขกระดูกละลายออกมาเป็นคอลลาเจน ซึ่งจะทำให้น้ำซุปมีความหอมมันหวานและคงความร้อนได้นานพอที่จะไปให้สามีเธอกินได้ ซึ่งน้ำซุปชาบูร้านนี้รสชาติเหมือนกั้วเฉียวหมี่เซี่ยนแทบจะ90เปอเซ็นต์!!! นับว่าเป็นซุปที่หาทานได้ยากครับ เพราะต้องเคี่ยวกระดูกไก่นานมากๆ
มัวแต่โม้มากๆชักหิว จัดเลยรอไร
แกว่งๆๆๆ
ดีงามตามท้องเรื่องนะครัช
ในส่วนของน้ำจิ้มพอนซึก็รสชาติดีงามตามมาตรฐานทั่วไป
สำหรับไฮไลของน้ำจิ้ม ผมอยากแนะนำน้ำจิ้มงาครับ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยทานน้ำจิ้มงานะ รู้สึกมันเลี่ยน และไม่อร่อยบอกไม่ถูก แต่น้ำจิ้มงาร้านนี้อร่อยมากกกกก มีความหอม มีความละมุน มีความลงตัว ขอแนะนำให้ลองจิ้มดูนะ!
อื้อหืออออออออ ปลาสมรนี่จะใหญ่ไปไหน!!!เสริฟมาให้ชิ้นใหญ่แบบนี้ 2 ชิ้น ในราคา 25 บาท ถึงต้องเพิ่มตัง แต่ก็นับว่าคุ้มครับ
สภาพหลังลวกเสร็จ เนื้อไม่เละแตกแยกออกจากกัน การันตีความสดได้ในระดับหนึ่งเลยครับ
สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของร้านนี้มันคือสิ่งนี้แหล่ะท่านผู้ชม!!!!!!!!!!!!! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เสียเงินค่าบุฟเฟ่แล้วทำไมเรายังต้องมาเสียเงินเพิ่มเพื่อกินซูชิอีกกันเล่า???? มันไม่คุ้ม!! แต่อย่างที่ผมบอก สำหรับผม ความคุ้มอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องราคาถูกและกินอิ่มครับ ถ้าต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่ได้ของที่รสชาติและคุณภาพเกินราคาที่จ่ายไป ก็คือคุ้ม!! จะคุ้มแค่ไหนมาดูกัน!!
ซูชิแซลม่อนบอล แซลมอนชิ้นหนาพันรอบข้าวซูชิ ลนไฟ ท็อปปิ้งด้วยซอสสไปซี่และมีเทมปูระโรยรอบด้าน รสชาติแซลมอนอวบอัด ตัดกับซอสสไปซี่ ให้ความรู้สึกสดชื่น และเทมปูระที่โรยรอบด้านช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้ดียิ่งขึ้น 4 ชิ้น 60 บาท ตกคำละ 15 บาท!!
ซูชิแซลมอนซอสไซเกียว เป็นซูชิแซลมอนลนไฟราดซอสมิโสะหวานท็อปปิ้งด้วยหอมเจียว จุดเด่นคือใช้ซอสไซเกียวแทนมายองเนส ซึ่งมีความหวานแบบสดชื่น ทานแล้วไม่เลี่ยนเลยครับ 2 ชิ้น 38 บาท
ซูชิปลาไหลย่าง2 ชิ้น 26 บาท!!! ราคาถูกเกิ๊นนนนน จุดเด่นคือ เอาไหลที่ย่างแล้วมาลนไฟซ้ำ ให้มีความเกรียมเบาๆครับ
ยำปลาแซลมอน
จัดว่าเครื่องแน่นอยู่ เนื้อปลาสดใช้ได้ แต่ไม่ค่อยเผ็ดครับ ราคา 54 บาท ก็ถือว่าไม่แพงมากนะ
กุงกังฟัวกรา ซูชิข้าวห่อสาหร่าย ท็อปปิ้งด้วยฟัวกราหั่นเต๋าย่าง อันนี้ถือว่าดีงามมากครับ เพราะสาหร่ายช่วยตัดความเลี่ยนของฟัวกราได้เป็นอย่างดี ได้กลิ่นหอมฟัวกราชัดเจน จานนี้ 34 บาท กับฟัวกราอาหารเลอค่าชนิดหนึ่งครับ
ฟัวกราอีกแล้วววววววว!!!แต่รอบนี้มาแบบไม่ธรรมดาครับ มาในรูปแบบซูชิแซลม่อนลนไฟ ท็อปปิ้งด้วยฟัวกรา!!! ทายดูจานนี้เท่าไหร่??บอกใครๆก็คงไม่เชื่อเพราะราคาแค่ 50 บาท กับเนื้อปลาที่มาจนล้นข้าวขนาดนี้!!!!
สำหรับแซลมอนซาซิมิ ชิ้นหนามากครับ หนาเกือบเซนติเมตรได้ และใหญ่เอาเรื่องอยู่ มาทั้งหมด 3 ชิ้น ราคา 45 บาท ตกชิ้นละ 15 บาท คือขายราคานี้มีกำไรไหม???
และที่สุดแห่งความพีคคคคค ผมขอเสนอ.............
........
.........
..........
.............
...
..
...........
.....
.........
..........
.................
ผ่าง!!!!! ความพีคมันอยู่ตรงนี้!!!!!!!!!!!!
อยากให้ซูมดูความชุ่มฉ่ำฟู จนต้องร้องอู้หูวววววว ขรี้ศักสิทธิ์!!!! พุงปลาแซลมอนที่นี่โคดเด็ดดดดด
คือดาเมจแรงมากกกกก ลายไขมันมาเป็นลายหินอ่อนมันละเลื่อม มีความละลายในปากไม่ละลายในมือ 3 ชิ้น 60 บาท
อีกรูปสวยๆ
...
...
....
...
...
...
และสุดท้ายกับพระเอกของเราในวันนี้ครับ
...
...
....
...
...
...
...
...
....
...
...
...
ซูโม่!! ซูชิเนื้อวากิวย่างไฟระดับมีเดียม มีความหอมควันไฟ มีความฉ่ำน้ำซุปเนื้อ ตอนยกมาเสริฟนี่หอมมากๆครับ
ชิ้นใหญ่ขนาดไหนถามใจตัวเองครับ…. คิดไหมว่าปกติในร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปราคาเท่าไหร่ กับซูชิเนื้อวากิวย่างไฟ
ที่นี่จัดให้คุณได้ในราคา 60 บาท!!!! กินหมดจานนี้ผมน้ำตาไหลเลย ไม่ใช่อะไร กัดลิ้นตัวเองง(ถุ๊ยยยย)
ขอสรุปเลยแล้วกันครับ
-ถ้าคุณกินเพื่อเอาคุ้มแบบคุ้มจริงๆ(เน้นปริมาณ) ผมแนะนำให้คุณกินบุฟเฟ่ชาบูธรรมดา 186+ บาท สิ่งที่คุณจะได้กินคือ ไลน์อาหารชาบูทั่วไป เพิ่มเติมคือของทอด ของกินเล่น
-แต่ถ้าคุณอ่านรีวิวของผมจบ แล้วรู้สึกว่า อยากได้ความคุ้มค่าที่มากกว่าแค่ปริมาณ ลองตามรอยผมดูสิครับ… คิดซะว่าหาประสบการณ์ใหม่ๆในชีวิต ลองเสียเงินซ้ำซ้อนดู เสียค่าบุฟเฟ่ชาบูแล้วมาเสียซ้ำกับอะลาคาร์ท อาจฟังดูตลกนะ แต่เชื่อผมเถอะ 500 บาทที่คุณเสียไป กับคุณภาพที่คุณได้รับมันทำให้ผมรู้สึกว่า “เนี่ยแหล่ะ คือความคุ้มค่าของการกิน”
สำหรับวันนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบนะครับ
ปล.ทางร้านข้าน้อยขอชาบูฝากบอกมาว่าหากทานไม่หมด เราจะปรับตังแล้วเอาไปบริจาคตามนี้!!!
ทำดีแบบนี้เพจวันนี้ทานอะไรดี ขอชื่นชมครับ
และสุดท้ายท้ายสุดข้าน้อยคิดว่า ม้าวิ่งไม่เร็วเท่าลา………….
เพราะลาไปก่อนครับ
สวัสดีครับ (มุกหรือเปลือกหอยวะ!!??)
[SR] เคยไหม?? กินบุฟเฟ่หัวละ 200 แต่ยอมจ่ายเพิ่มอีก 500 เพื่อความคุ้มค่า?? เพราะว่าอะไรมาดูกัน!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า เชื่อว่าวัยรุ่นไทยหลายๆคน ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เคยชาเลนจ์ตัวเองด้วยการ “จัดหนักบุฟเฟ่ต์ กินยังไงก็ได้ให้คุ้มมม ถ้าคุ้มจะรู้สึกพราวววว”
หลายๆคนพออ่านจบ อาจจะอมยิ้มแล้วนึกขำในใจ “หึ นั่นมันMung สำหรับ Ku Ku มีตัง” 555+ แล้วแต่ครับ แต่เชื่อว่ามีหลายๆคนคิดแบบนี้ เพราะผมและเพื่อนก็เป็น สิ่งที่ตามมานั่นคือความทรมานเมื่ออิ่มจัดนั่นเอง
แต่ตอนนี้เมื่อเราโตขึ้น เราเริ่มไม่เน้นความคุ้มในรูปแบบของการกินเยอะๆให้คุ้มค่า เราเริ่ม”อยากทานอาหารที่รสชาติดี และราคาคุ้มค่าพอที่จะจ่าย” เป็นกันไหมครับ???
วันนี้ผมขอรีวิวร้านชาบูเปิดใหม่ร้านนึง ซึ่งราคาบุฟเฟ่ต์ชาบูนี้สนนที่186+ แต่ผมเชื่อว่าความคุ้มค่าไม่ได้อยู่ที่ราคาบุฟเฟ่ต์ แต่มันเป็นความคุ้มค่าจากส่วนที่คุณยอมจ่ายเพิ่ม!!! จะเป็นยังไง?? มาดูกันกับร้าน “ข้าน้อยขอชาบู”!!!
สำหรับร้านนี้จะมี 2 สาขาคือที่ยูเนี่ยนมอล และอาคารเจเพรส ถนนพระราม3 วันที่ผมไปรับประทานเป็นสาขาเจเพรส แผนที่ตามนี้เลยนะครับ
บรรยากาศร้านเป็นแนว Loft ค่อนข้างสดใส แต่ว่าบนโต๊ะ…………………..
มีตาชั่งด้วย!!!! อินดี้มั้ยล่ะ!!! ตั้งขู่กันเห็นๆ อย่างว่า ราคา 186+ คือถูกมาก ถ้ากินเหลือเยอะๆร้านคงเจ๊งครับ
ยังไม่พอ!!! มีนาฬิกาปลุกด้วย!!!! ในราคา 186+ สามารถรับประทานได้ 1 ชั่วโมง 20 นาทีครับ
เรามาดูที่ตู้แช่กัน ในราคา 186+ All youcan eat จะอยู่ในตู้นี้ และมีของกินเล่นปรุงสุกเพิ่มเติมอีกหลายรายการ ส่วนเครื่องดื่มจะไม่รวมในราคาบุฟเฟ่ต์ครับ บุฟเฟ่ต์เครื่องดื่ม Soft Drink ราคาจะอยู่ที่ 39 บาทต่อหัวครับ
แต่นแต๊นนนนนนน
อันนี้เอามาวางเรียงให้ดูกันครับ ว่าในส่วนของบุฟเฟ่ต์ชาบูมีอะไร
ที่สามารถนำมารับประทานได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มบ้าง
ในส่วนของไลน์ชาบูนั้น ก็ถือว่ามีค่อนข้างครบไม่แตกต่างจากชาบูทั่วไปในท้องตลาดนัก หมูสามชั้นหมูสันคอหมูสันนอก ลูกชิ้นปลา กุ้ง เต้าหู้ปลา หมึกกรอบ ปลาดอลลี่ เกี๊ยว หมูสวรรค์ ไก่ และน้ำจิ้ม3รส (พอนสึ สุกี้ และงา)
นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีของทานเล่นให้เลือกสรร มีเกี๊ยวทอด นักเก็ต เฟรนช์ฟราย ที่แปลกแหวกแนวซักหน่อยก็เห็นจะเป็นเห็ดเข็มทองทอด รสชาติอร่อยดี คล้ายๆเทมปูระผัก แต่มีความหนึบกว่า มีไส้กรอกอีสานและคอกเทลไก่ให้ด้วย (แอบกระซิบ ไส้กรอกอีสานอร่อยเอาเรื่องนะ)
ในส่วนของข้าวกระเทียม ถือว่าทำออกมาได้ดีนะ ส่วนตัวผมชอบข้าวกระเทียมที่มีความแฉะหน่อยๆ รู้สึกว่ามันอร่อยกว่าแบบแห้งๆ แต่อันนี้คงแล้วแต่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนครับ
อย่างที่บอกไปในเบื้องต้น ว่าบุฟเฟ่ต์ราคาถูกนับว่าดีก็จริง!! แต่เมนูอะลาคาร์ทก็ราคาถูกมากก จนน่าลิ้มลอง มาลองดูกันครับว่าแต่ละอย่างจะเป็นเช่นไร!!!
เนื้อวากิวสไลด์ จานละ 70…
อ่านไม่ผิดครับ จานละ 70!!! ถือว่าโอเคนะราคาไม่แรงมาก กับเนื้อวากิวชิ้นใหญ่ๆขนาดนี้
น้องสมร ชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ราคา 25 สีแสดส้มจ้าแยงตาซะเหลือเกินนนน
ไหนเล่าเอยจะหอยแมลงภู่ ตัวใหญ่แค่ไหนถามใจดู เอามาให้เทียบกับไอโฟน 6 แบบจะจะ ราคา 25 บาท
สำหรับน้ำซุปชาบูนั้น จะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชาบูร้านอื่นๆ สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวประเทศจีน แถบมณฑลยูนนาน จะมีอาหารขึ้นชื่อชนิดหนึ่งชื่อ กั้วเฉียวหมี่เซี่ยน หรือ “ขนมจีนข้ามสะพาน” ซึ่งที่มาของชื่อนี้มาจากหญิงสาวชาวจีนที่มีสามีเป็นทหาร และเธอผู้นี้ก็ได้ทำบะหมี่ไปให้สามีทาน แต่ด้วยความที่ระยะทางไกล ต้องข้ามสะพานข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ กว่าจะไปถึงก็ทำให้น้ำซุปเย็นชืดหมดแล้ว เธอจึงได้คิดสูตรน้ำซุปสูตรพิเศษที่ทำการเคี่ยวกระดูกไก่จนไขกระดูกละลายออกมาเป็นคอลลาเจน ซึ่งจะทำให้น้ำซุปมีความหอมมันหวานและคงความร้อนได้นานพอที่จะไปให้สามีเธอกินได้ ซึ่งน้ำซุปชาบูร้านนี้รสชาติเหมือนกั้วเฉียวหมี่เซี่ยนแทบจะ90เปอเซ็นต์!!! นับว่าเป็นซุปที่หาทานได้ยากครับ เพราะต้องเคี่ยวกระดูกไก่นานมากๆ
มัวแต่โม้มากๆชักหิว จัดเลยรอไร
แกว่งๆๆๆ
ดีงามตามท้องเรื่องนะครัช
ในส่วนของน้ำจิ้มพอนซึก็รสชาติดีงามตามมาตรฐานทั่วไป
สำหรับไฮไลของน้ำจิ้ม ผมอยากแนะนำน้ำจิ้มงาครับ ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยทานน้ำจิ้มงานะ รู้สึกมันเลี่ยน และไม่อร่อยบอกไม่ถูก แต่น้ำจิ้มงาร้านนี้อร่อยมากกกกก มีความหอม มีความละมุน มีความลงตัว ขอแนะนำให้ลองจิ้มดูนะ!
อื้อหืออออออออ ปลาสมรนี่จะใหญ่ไปไหน!!!เสริฟมาให้ชิ้นใหญ่แบบนี้ 2 ชิ้น ในราคา 25 บาท ถึงต้องเพิ่มตัง แต่ก็นับว่าคุ้มครับ
สภาพหลังลวกเสร็จ เนื้อไม่เละแตกแยกออกจากกัน การันตีความสดได้ในระดับหนึ่งเลยครับ
สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของร้านนี้มันคือสิ่งนี้แหล่ะท่านผู้ชม!!!!!!!!!!!!! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เสียเงินค่าบุฟเฟ่แล้วทำไมเรายังต้องมาเสียเงินเพิ่มเพื่อกินซูชิอีกกันเล่า???? มันไม่คุ้ม!! แต่อย่างที่ผมบอก สำหรับผม ความคุ้มอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องราคาถูกและกินอิ่มครับ ถ้าต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่ได้ของที่รสชาติและคุณภาพเกินราคาที่จ่ายไป ก็คือคุ้ม!! จะคุ้มแค่ไหนมาดูกัน!!
ซูชิแซลม่อนบอล แซลมอนชิ้นหนาพันรอบข้าวซูชิ ลนไฟ ท็อปปิ้งด้วยซอสสไปซี่และมีเทมปูระโรยรอบด้าน รสชาติแซลมอนอวบอัด ตัดกับซอสสไปซี่ ให้ความรู้สึกสดชื่น และเทมปูระที่โรยรอบด้านช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้ดียิ่งขึ้น 4 ชิ้น 60 บาท ตกคำละ 15 บาท!!
ซูชิแซลมอนซอสไซเกียว เป็นซูชิแซลมอนลนไฟราดซอสมิโสะหวานท็อปปิ้งด้วยหอมเจียว จุดเด่นคือใช้ซอสไซเกียวแทนมายองเนส ซึ่งมีความหวานแบบสดชื่น ทานแล้วไม่เลี่ยนเลยครับ 2 ชิ้น 38 บาท
ซูชิปลาไหลย่าง2 ชิ้น 26 บาท!!! ราคาถูกเกิ๊นนนนน จุดเด่นคือ เอาไหลที่ย่างแล้วมาลนไฟซ้ำ ให้มีความเกรียมเบาๆครับ
ยำปลาแซลมอน
จัดว่าเครื่องแน่นอยู่ เนื้อปลาสดใช้ได้ แต่ไม่ค่อยเผ็ดครับ ราคา 54 บาท ก็ถือว่าไม่แพงมากนะ
กุงกังฟัวกรา ซูชิข้าวห่อสาหร่าย ท็อปปิ้งด้วยฟัวกราหั่นเต๋าย่าง อันนี้ถือว่าดีงามมากครับ เพราะสาหร่ายช่วยตัดความเลี่ยนของฟัวกราได้เป็นอย่างดี ได้กลิ่นหอมฟัวกราชัดเจน จานนี้ 34 บาท กับฟัวกราอาหารเลอค่าชนิดหนึ่งครับ
ฟัวกราอีกแล้วววววววว!!!แต่รอบนี้มาแบบไม่ธรรมดาครับ มาในรูปแบบซูชิแซลม่อนลนไฟ ท็อปปิ้งด้วยฟัวกรา!!! ทายดูจานนี้เท่าไหร่??บอกใครๆก็คงไม่เชื่อเพราะราคาแค่ 50 บาท กับเนื้อปลาที่มาจนล้นข้าวขนาดนี้!!!!
สำหรับแซลมอนซาซิมิ ชิ้นหนามากครับ หนาเกือบเซนติเมตรได้ และใหญ่เอาเรื่องอยู่ มาทั้งหมด 3 ชิ้น ราคา 45 บาท ตกชิ้นละ 15 บาท คือขายราคานี้มีกำไรไหม???
และที่สุดแห่งความพีคคคคค ผมขอเสนอ.............
........
.........
..........
.............
...
..
...........
.....
.........
..........
.................
ผ่าง!!!!! ความพีคมันอยู่ตรงนี้!!!!!!!!!!!!
อยากให้ซูมดูความชุ่มฉ่ำฟู จนต้องร้องอู้หูวววววว ขรี้ศักสิทธิ์!!!! พุงปลาแซลมอนที่นี่โคดเด็ดดดดด
คือดาเมจแรงมากกกกก ลายไขมันมาเป็นลายหินอ่อนมันละเลื่อม มีความละลายในปากไม่ละลายในมือ 3 ชิ้น 60 บาท
อีกรูปสวยๆ
...
...
....
...
...
...
และสุดท้ายกับพระเอกของเราในวันนี้ครับ
...
...
....
...
...
...
...
...
....
...
...
...
ซูโม่!! ซูชิเนื้อวากิวย่างไฟระดับมีเดียม มีความหอมควันไฟ มีความฉ่ำน้ำซุปเนื้อ ตอนยกมาเสริฟนี่หอมมากๆครับ
ชิ้นใหญ่ขนาดไหนถามใจตัวเองครับ…. คิดไหมว่าปกติในร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปราคาเท่าไหร่ กับซูชิเนื้อวากิวย่างไฟ
ที่นี่จัดให้คุณได้ในราคา 60 บาท!!!! กินหมดจานนี้ผมน้ำตาไหลเลย ไม่ใช่อะไร กัดลิ้นตัวเองง(ถุ๊ยยยย)
ขอสรุปเลยแล้วกันครับ
-ถ้าคุณกินเพื่อเอาคุ้มแบบคุ้มจริงๆ(เน้นปริมาณ) ผมแนะนำให้คุณกินบุฟเฟ่ชาบูธรรมดา 186+ บาท สิ่งที่คุณจะได้กินคือ ไลน์อาหารชาบูทั่วไป เพิ่มเติมคือของทอด ของกินเล่น
-แต่ถ้าคุณอ่านรีวิวของผมจบ แล้วรู้สึกว่า อยากได้ความคุ้มค่าที่มากกว่าแค่ปริมาณ ลองตามรอยผมดูสิครับ… คิดซะว่าหาประสบการณ์ใหม่ๆในชีวิต ลองเสียเงินซ้ำซ้อนดู เสียค่าบุฟเฟ่ชาบูแล้วมาเสียซ้ำกับอะลาคาร์ท อาจฟังดูตลกนะ แต่เชื่อผมเถอะ 500 บาทที่คุณเสียไป กับคุณภาพที่คุณได้รับมันทำให้ผมรู้สึกว่า “เนี่ยแหล่ะ คือความคุ้มค่าของการกิน”
สำหรับวันนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบนะครับ
ปล.ทางร้านข้าน้อยขอชาบูฝากบอกมาว่าหากทานไม่หมด เราจะปรับตังแล้วเอาไปบริจาคตามนี้!!!
ทำดีแบบนี้เพจวันนี้ทานอะไรดี ขอชื่นชมครับ
และสุดท้ายท้ายสุดข้าน้อยคิดว่า ม้าวิ่งไม่เร็วเท่าลา………….
เพราะลาไปก่อนครับ
สวัสดีครับ (มุกหรือเปลือกหอยวะ!!??)