[SR]ทัวร์ญี่ปุ่น : แสนอัศจรรย์ เมื่อใบไม้ยังเปลี่ยนสี แต่ใจพี่ไม่เปลี่ยนแปลง




สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านจ้า หลายคนที่ชอบอ่านกระทู้ท่องเที่ยว ปกติก็จะเห็นกระทู้ที่ตั้งประมาณว่า

“เที่ยวญี่ปุ่น ด้วยงบ 15,000”
“แบคเป้ไปญี่ปุ่นด้วยเงินแค่ 9,000”

กระทู้นี้อาจจะแหวกแนวไปหน่อย เพราะมันจะเป็นกระทู้ที่สาธยายเรื่องราวของแพคเกจทัวร์ราคา 76,900 กันให้อ่านแบบจุใจ !!!

จุดประสงค์ของกระทู้นี้จะพาทุกท่านซึมซับผ่านเรื่องราว+เรื่องเล่าอันหลากหลาย ได้เห็นว่า จำนวนเงินที่ท่านจ่ายไปกับแพคเกจราคาโหดขนาดนี้ จะได้พบ ได้เจอ ได้กิน ได้สัมผัส ได้เห็น อะไรกันบ้าง แต่ที่แน่ๆ ได้รับความเพลิดเพลินในการอ่านครั้งนี้ชัวๆ อิอิ

ผมเองเป็นคนที่เคยทำงานต่างประเทศมาก่อน และชอบเดินทางเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศในฝันที่ผมอยากไปเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ไม่เคยได้มีโอกาสไปซักที
เรามันก็โอตาคุคนหนึ่ง ชอบอ่านการ์ตูน เล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ การได้ไปเยือนประเทศที่ในชีวิตวาดฝันไว้ว่าต้องไปเหยียบให้ได้ มันทำให้รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ

หลังจากกลับมาถึงไทย ทุกครั้งที่ผมนึกถึงเรื่องราวที่ได้พบเห็นมา มันมีหลายอารมณ์ประดังเข้ามา ทั้งสุข ทั้งฮา ทั้งอึ้ง ทั้งซึ้ง จนอยากแชร์เรื่องราวให้ฟังซะจริงๆ
.
.
.
ผมยังจำได้ดีในวันนั้น ในขณะที่เราอยู่บนรถบัสเพื่อเดินทางไปยัง โรงแรม HIDA PLAZA HOTEL สถานที่ที่ทำให้ผมต้องมาอาบน้ำร่วมกับชายแปลกหน้าในสภาพล่อนจ้อนเปลือยเปล่ากว่า 20 ชีวิต...

ไกด์เบิร์ด หนุ่มหัวทองอารมณ์ดี ผู้ทำหน้าที่พาเราทัวร์ในครั้งนี้พูดด้วยอารมณ์รื่นเริงและชักชวนให้ผมลองแช่ออนเซ็น พี่แกถือไมโครโฟนตัวจิ๋ว แล้วเปล่งเสียงดังฟังชัดให้ได้ยินว่า

“อยากให้ทุกท่านที่มาทัวร์ญี่ปุ่น ได้ลองแช่ออนเซ็นซักครั้งในชีวิต”

“ออนเซ็นเป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ โรงแรมที่เราจะไปพักนี้มีออนเซ็นด้วย ผมอยากให้ลองนะครับ ไหนๆเราก็จ่ายแพคเกจทัวร์ที่มีบ่ออนเซ็นแล้วต้องลองกันให้ได้นะครับ มันสบายจริงๆ”

“หากใครขี้อายผมว่าไปช่วงหัวค่ำก็ดีครับ เพราะถ้าไปดึกๆ เดี๋ยวเจอร์ทัวร์กรุปไทยคนอื่นๆ ที่คิดว่าจะไม่มีคนมาแช่ตอนดึกเหมือนกับเรา แล้วอาจจะยิ่งเขินก็ได้”

“ที่โรงแรมนี้มีออนเซ็น 2 ชั้นนะครับ คือชั้น 1 กับชั้น 9 อย่าลืมถึงที่พักแล้วไปลองแช่กันดูนะครับ...”

ไอ้ผมก็อ่านมาแต่ในการ์ตูนเห็นฉากออนเซ็นมาก็บ่อย แต่ไม่เคยแช่เลยซักครั้ง

.....เอาวะ ซักครั้งในชีวิตมันก็ต้องลองให้เป็นประสบการณ์  ไกด์เบิร์ดบอกช่วงหัวค่ำคนน่าจะไม่เยอะมาก

3 ทุ่มคือเวลาปฏิบัติการณ์มิชชั่นนี้ ผมออกจากห้อง พร้อมถือผ้าขนหนูจากห้องพักมาด้วย กดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 9 แล้วเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อ ก็ได้พบว่า
.
.
.
หนะ....ไหนเอ็งว่าไม่ค่อยมีคนฟะ !!

แค่ห้องเปลี่ยนเสื้อ ก็อยู่กัน 5 คนแล้วตอนนี้ ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเอาไงดีวะ ยืนงงตรงล็อกเกอร์
จังหวะนั้น ลุงชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่ง เดินไข่ห้อยออกมาจากห้องออนเซ็นแบบ unsen ไร้ผ้าปกปิดกายา ประหนึ่งว่าหลุดมาจาก AV

อืม.... เป็นไงเป็นกัน ยืนแก้ผ้าตรงนั้นมันซะเลย ว่าแล้วก็เดินไปห้องออนเซ็น พร้อมกับผ้าผืนจิ๋วไว้ปกปิดช้างน้อยของเราเอง

ผ่างงง..... หันซ้ายแลขวาภายในห้องก็เห็นว่า ตรงโซนอาบน้ำ จะแบ่งเป็นล็อคไว้ให้อาบส่วนตัว ในสภาพที่ไม่ส่วนตัวอย่างแรง คือนั่งติดๆกัน มีสบู่ ยาสระผมให้เสร็จสรรพ แต่ไม่ต้องเหล่ซ้ายหรือขวา ก็เห็นทามาก็อตจิของแต่ละฝ่ายได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน

ผมยืนโง่ ...อึ้งอยู่ตรงนั้นด้วยเหตุผลสองข้อคือ

1.ที่นั่งโซนอาบน้ำดันเต็ม ทุกคนกำลังอาบกันอยู่ มองไปในบ่อที่แช่ ก็มีคนอยู่ประมาณ 5 คนได้

2. อึ้ง-อยู่ครับช้างน้อยบินว่อนทั่วออนเซ็น ....ไหนไกด์เบิร์ด เอ็งบอกว่าคนน้อยฟะ !

ระหว่างที่ลังเลว่าจะกลับตัวตอนนี้ หรือไปยืนอาบน้ำตรงฝักบัวดีหว่า ก็มีคนลุกจากที่นั่งอาบน้ำ ทำให้ผมได้ไปอาบกับเขาซะที

ช่วงที่ถูตัวไป ความอายในตัวก็ค่อยๆละลายหายไปกับฟองสบู่ หน้าเริ่มชาขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องธรรมชาติเว้ย อายทำแป๊ะอะไร ว่าแล้วอาบเสร็จสรรพ ก็เดินตัวปลิวไปนั่งแช่ในบ่อ

“อูยยยย.... น้ำร้อนดีจริงๆ”   ผมรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ความเมื่อยล้ามลายหายไป แล้วในใจก็นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในช่วงไม่กี่วันนี้ ภาพในสมองมันไหลเข้ามาในความทรงจำถักทอร้อยให้เป็นเรื่องราว เพียงแค่หลับตาลง ภาพมันก็โผล่ขึ้นมา





อ้าว เฮ้ย !!! นี่มันยูมิจังที่เราได้เจอเมื่อวาน  หน้าเธอดันลอยเข้ามาในสมองตอนนี้  เอาใหม่ๆ ย้อนไปอีก ย้อนไปตั้งแต่วันแรกที่ได้เดินทาง ย้อนไปยาวๆ
ผมหลับตาลงอีกครั้ง และนึกถึงเรื่องราวก่อนที่จะได้เดินทางมาที่นี่....
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่