มีแฟนเป็นคนจนมันน่าอายมากมั้ยคะ

สวัสดีค่ะ เราตัดสินใจนานมากกว่าจะตั้งกระทู้นี้ได้ คือมีรุ่นน้องที่รู้จักกันถามว่าถ้ามีแฟนจนๆมันน่าอายมากหรอคะ? ด้วยเราเคยผ่านจุดๆนั้นมา เราเลยจะมาถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดีให้เพื่อนๆฟัง เราเป็นผู้หญิงธรรมดาๆค่ะ บ้านมีปัญหาเรื่องเงินมาตลอด คือฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี บ้านผุๆพังๆ ฝนตกทีลำบากมาก หลังคารั่วค่ะ55 พ่อเป็นยาม ส่วนแม่ขายข้าวแกง เราไม่เคยอายใครนะคะที่พ่อแม่เราทำอาชีพแบบนี้ อย่างน้อยก็เป็นอาชีพสุจริต เราเรียนหนังสือเราก็ไม่ค่อยรบกวนเงินพ่อแม่ ปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กๆ หางานทำไปด้วยเรียนไปด้วย ทำมาหลายอย่างค่ะ เด็กปั๊มก็เคย ชีวิตแต่ละวันลำบากค่ะ ไป ร.ร.จะกินอะไรต้องคิดแล้วคิดอีก แต่เด็กสมัยนี้ใช้เงินไม่ค่อยประหยัดกันเลย55 เวลาเรียนฝนตกนี่รู้ชะตากรรมเลยค่ะ กลับบ้านไปไม่มีที่นอนแน่ๆ ที่นอนต้องเปียกฝนชัวร์เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน55 พักเรื่องครอบครัวเข้าโหมดความรักบ้าง55 ก่อนหน้านี้เราเคยมีแฟนมา 2 คนค่ะ คนแรกตอนคบกันเขาไม่รู้ค่ะว่าบ้านเราเป็นยังไง พ่อแม่ทำอาชีพอะไร คือตอนนั้นยังเป็นความรักวัยเด็ก เขาก็ดูรักเราดีค่ะ แต่พอเขารู้ว่าพ่อแม่เราทำอาชีพอะไร แล้วบ้านเราเป็นยังไง ว่าบ้านเราเป็นบ้านแบบผุๆพัง เขาก็หายไปแบบดื้อๆเลยค่ะ หายไปแบบเฉยๆไม่บอกอะไรเราเลย แม้แต่คำบอกเลิกก็ไม่มี บ้านเขาเราก็ไม่เคยไป แต่รู้ว่าอยู่ที่ไหนก็ลองไปดู ตอนนั้นไม่มีโทรศัพท์ค่ะ ยังไม่มีตังซื้อ55 ปรากฏว่าเขาไม่อยากเจอเรา แถมบอกว่าเขามีแฟนใหม่แล้วให้เลิกยุ่งกับเขาได้แล้ว คือตอนนั้นชาไปหมดเลยค่ะ ตอนแรกเราก็เสียใจนะคะว่าทำไมมีคนใหม่ไวขนาดนี้ ทั้งๆที่เขาหายไปแค่ 2-3 วัน ตอนแรกเราก็เอาแต่เสียใจเพราะเรามันจนใช่มั้ย เขาถึงมาทิ้งเรา เราเลยเข็ดเลยค่ะ แฟนคนแรกก็พังไม่เป็นท่า จนตอนเรียนมหาลัยปี 1 เกือบปี 2 ตอนนั้นกู้เงินเรียน เลยมีโอกาสได้เรียนต่อมหาลัย ก็ได้มีความรักครั้งใหม่ คือเราไปแอบชอบเขา แล้วก็ได้รู้ว่าเขาก็ชอบเราเหมือนกัน เป็นเพื่อนคณะเดียวกัน คือตอนนั้นแฮปปี้มากค่ะ คนที่เราชอบมาชอบเราด้วย มีความสุขสุดๆเขาก็ขอเราคบค่ะ แต่ก่อนคบเราก็เล่าเรื่องครอบครัวให้เขาฟังก่อนนะคะ เพราะกลัวคบไปแล้วเขามารับไม่ได้ทีหลังเดี๋ยวก็พังไม่เป็นท่าอีก เขาก็รับรู้แต่เขาก็ยังยืนยันจะคบกับเรา เราก็แอบดีใจค่ะว่าเขารับในตัวเราได้ แต่พอคบกันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดค่ะ เวลามาเรียนปกติตอนยังไม่คบเขาจะชอบเข้าหาเรา เข้ามาคุย เข้ามาแหย่ แสดงออกชัดเจนว่าชอบเรา แต่พอคบกลับไม่แสดงออกอะไรเลยซักอย่าง เวลาอยู่กับเพื่อนๆเขาจะทำเป็นไม่รู้จักเราเลยค่ะ เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันเราก็แต่งตัวตามที่เรามีก็เสื้อยืด กางเกงยีน รองเท้าแตะ เดินด้วยกันทีเวลาที่ไม่ค่อยมีคนเขาก็จะกล้าจับมือ แต่พอคนเริ่มเยอะเขาก็จะปล่อยมือและเดินห่างๆเรา เคยมีครั้งนึงค่ะ ทำให้เรารู้สึกแย่มากๆเลยคือตอนเจอเพื่อนสมัยมัธยมของเขา และเพื่อนเขาถามประมาณว่าเราเป็นใคร แฟนหรอ แต่เขาดันตอบว่าเราเป็นแค่เพื่อน เราเสียใจและเสียความรู้สึกมากค่ะ เป็นแฟนกันแต่แสดงออกอะไรไม่ได้เลย และเราก็ทะเลาะกันเรื่องข้าวกลางวันจนเลิกกันในที่สุด คือตอนพักกลางวันวันนั้นแม่เราทำน้ำพริกแมงดาใส่กล่องมาให้กินที่มหาลัย แต่เขาดันจะชวนเราไปกินข้าวที่ร้านอาหาร เราเลยบอกว่าเราไปได้ แต่เรามีข้าวแล้ว เดี๋ยวเอากับข้าวของเราไปนั่งกินเป็นเพื่อน เขาก็โอเค พอไปถึงร้านก็มีคนเยอะค่ะ พวกนักศึกษามหาลัยทั้งนั้น เขาก็สั่งอาหารมากิน เราก็เลยเปิดกล่องข้าวเราแล้วนั่งกิน เขาก็ตกใจค่ะ และเอามือปิดจมูกถามว่าเรากินอะไร ให้ไปกินไกลๆเหม็น เราก็บอกติดตลกค่ะว่าไม่เหม็นอร่อยจะตาย เขาก็บอกให้ไปกินข้างนอก ไล่เราออกไปนอกร้าน คือเราก็เริ่มทะเลาะกันจนคนรอบข้างมอง เขาก็บอกเลิกเราตรงนั้นเลยค่ะ เขาบอกเลิกกันเถอะ เขาทนไม่ไหวแล้ว เราทำอะไรไม่ไว้หน้าเขา เขาเหนื่อยที่จะต้องทนกับคนแบบเราแล้ว เราก็เลยถามว่าคนแบบเราเป็นคนแบบไหน เขาก็บอกเขาเบื่อทุกอย่างที่เป็นเรา เราทำตัวน่าเบื่อ ไม่มีอะไรที่เข้ากันได้ซักอย่าง เขาก็ลุกหนีเราออกไปนอกร้าน ข้าวที่สั่งมาก็ไม่ได้กิน เราก็วิ่งตามออกไปจะไปขอโทษ เขาก็ไปที่รถแต่รถสตาร์ทไม่ติด เขาเลยหันมาว่าเราว่าเรามันตัวซวย เขาไม่น่าลดตัวมาคบกับเราตั้งแแต่แรกเลย เราปล่อยโฮเลยค่ะตอนนั้น เสียใจมาก เรารักเขามาก แต่เขากลับพูดแบบนี้กับเรา พอเลิกกับคนๆนี้เราก็เข็ดอีกยาวนานจนเรียนจบ ตอนเราจบแรกๆเราก็ยังอยู่ในระหว่างรองาน เราเลยไปช่วยแม่ขายข้าวแกง การที่เราไปช่วยแม่ขายข้าวแกงตอนนั้น ทำให้เราได้เจอกับความรักอีกครั้ง มีรถคันนึงมาจอดเสียอยู่ใกล้ๆร้านข้าวแกงแม่ ตอนนั้นพ่อออกเวรมาพอดีเรากับพ่อเลยจะออกไปช่วยเขา พ่อเราพอซ่อมรถเป็นบ้าง เราก็เป็นลูกมือช่วยอยู่บ่อยๆเจ้าของรถที่เราและพ่อไปซ่อมก็คือ ผช ที่เป็นรักครั้งใหม่ของเรานี่แหละค่ะ เราเจอกันครั้งแรกก็ไม่ได้คุยอะไรกันนะคะ แต่เขาคุยกะพ่อเรามากกว่า ว่าจะให้เงินเป็นค่าตอบแทนแต่พ่อไม่เอา เขาเลยบอกวันหลังจะมาอุดหนุนร้านข้าวแม่เราแล้วกัน เราไม่รู้นะคะว่าตอนนั้นเขาชอบเราหรือป่าว แต่เขาก็มองเราบ่อยๆ ผ่านไปหลายอาทิตย์เขาก็มากินข้าวร้านแม่เราจริงๆค่ะ ตอนเราเอาข้าวไปเสริฟก็มีคุยกันบ้าง จนเราเริ่มสนิทกัน เขาก็ขอเบอร์เราไว้บอกไว้สั่งข้าวไปเลี้ยงคนงาน คือบ้านเขาค่อนข้างมีฐานะ เปิดโรงงานค่ะ อายุพอๆกับเราพึ่งจบเหมือนกัน เขาก็โทรมาหาเราบ่อยๆค่ะ จนโทรมาคุยกันทุกวัน มากินข้าวร้านเราบ่อยๆ จนเขาเริ่มแสดงออกว่าจีบเรา ตอนแรกเราปฏิเสธค่ะ เพราะกลัวว่าจะเป็นแบบครั้งก่อนๆ แล้วอีกอย่างเขาก็มีฐานะแต่เราไม่มีอะไรเลย เราก็ต้องเจียมตัวสิคะ แต่ก็ชอบเขาแหละค่ะ เพราะเขาเป็นคนดี กินข้าวร้านเราแถมช่วยล้างจานอีก จนเราใจอ่อน เราก็ตกลงคบกัน พ่อแม่เราโอเคมากค่ะ เพราะเขาเป็นคนดีจริงๆเวลาครอบครัวเราลำบากเขาก็เป็นคนยื่นมือเข้ามาช่วย แต่เราก็แอบสงสารเขานะคะ เวลาคนอื่นมองเขาก็จะมองว่าเราไปเกาะผู้ชายกินหรือป่าว คบที่ฐานะหรือป่าว แต่เรารักกันจริงๆค่ะ เขาพาเราไปกินข้าวที่ร้านอาหารดีๆกับเพื่อนเขา เราลุ้นแทบตายว่าเขาจะบอกกับเพื่อนเขาว่ายังไงว่าเราเป็นใคร สุดท้ายเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ บอกทุกคนอย่างไม่อายว่าเราเป็นแฟนเขา แต่เราก็มีอุปสรรคค่ะ คือแม่ของเขาไม่ชอบเรา เพราะอยากให้เขาได้เจอคนที่ดีกว่าเรา เราก็เข้าใจนะคะว่าใครๆก็อยากให้ลูกตัวเองมีอนาคตที่ดีและมีภรรยาที่ดี เราก็พยายามจะทำหน้าที่ของแฟนให้ดีที่สุด เราจริงจังกับเขามากค่ะ วางแผนอนาคตทุกอย่างด้วยกันแต่เราก็แอบคิดว่ามันจะเป็นไปได้หรอ เขาก็พาเราไปพบครอบครัวของเขา พ่อเขารับราชการ พ่อเขาก็เฉยๆกับเราอ่ะค่ะ ไม่ใช่รับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ชอบอะไรเรามาก แต่แม่เขานี่คือไม่ชอบเราเลย เราไหว้เขาก็เมินหนี พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย เราคบกันได้ 3 ปี เราเลยตัดสินใจจะแต่งงานกัน แม่เขาไม่โอเคค่ะ ปฏิเสธเรา แต่เพราะเขาไปคุยกับแม่เขา บอกว่าอยากแต่งงานกับเราทำให้เขาต้องทะเลาะกับแม่จนจะตัดแม่ตัดลูก แม่เขาเลยยอม แต่ก็ไม่เต็มใจนัก เรารู้สึกผิดมากๆที่ทำให้แม่ลูกทะเลาะกัน เกือบจะไม่แต่งกับเขาแล้วค่ะ55 งานแต่งของเราก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายค่ะ ไม่ใหญ่โตอะไร แค่เชิญญาตๆ เพราทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่อยากจัดใหญ่โตเพราะเขาไม่อยากให้ใครรู้ค่ะว่าลูกชายเขาต้องมาแต่งกับคนจนๆอย่างเรา ก่อนแต่งเราร้องไห้กับเขาเลยค่ะ เราก็ถามเขาประมาณว่าคิดดีแล้วหรอที่จะแต่งงานกับเรา เราไม่มีอะไรดีแบบคนอื่นนะ เราจน เราไม่มีอะไรให้เธอ เราไม่เหมาะกับเธอเลย เราไม่มีอะไรที่เข้ากันได้เลยนะ เธอชอบเดินห้าง แต่เธอต้องมาทนเดินตลาดนัด เธอชอบตื่นสายแต่เธอก็ยอมตื่นแต่มืดเพื่อมาช่วยเราจ่ายตลาดตอนตี5 เพื่อซื้อของไปขายที่ร้านข้าวแกง เธอชอบฟังเพลงสากล เพลงฝรั่งเธอบอกความหมายมันลึกซึ้ง แต่เรากลับชอบฟังเพลงลูกทุ่งเพราะความหมายมันตรง และอีกอย่างเราก็ฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยออกว่ามันแปลว่าอะไร เธอชอบสีขาว แต่เราชอบสีดำ เธอชอบกินอาหารฝรั่ง ชอบกินของดีๆแต่เราชอบกินน้ำพริก ปลาร้าเธอไม่เคยกินก็ต้องมาหัดกินเพราะเรา และต้องมาผื่นขึ้นทั้งตัวเพราะแพ้ปลาร้า เธอเกลียดกบ เขียด หนู งูและสัตว์ต่างๆที่มันน่ากลัว แต่เรากลับชอบกิน55 ผัดกบ ผัดหนู เขียดทอดอะไรต่างๆมากมาย เธอเกลียดแต่เธอก็ชอบไปหาซื้อพวกอาหารป่ามาให้เรากิน เธอชอบแต่งตัวให้ทันสมัย แต่งตัวดีๆ แต่เราดันใส่แค่กางเกงยีนขาดๆ รองเท้าแตะ เธอก็ยังยืนหยัดที่จะเคียงข้างเรา ไม่ปล่อยมือกันแม้คนจะเยอะแค่ไหน ตอนจีบกันแรกๆร้านแม่เราอยู่ไกลบ้านเธอมากๆคนละอำเภอ แต่เธอก็มากินข้าวร้านเราได้เกือบทุกวัน แถมมาช่วยเราตั้งร้านอีก เวลาเราร้องไห้เสียใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรเธอก็เป็นคนปลอบใจเสมอ เวลาเราเหนื่อย เราท้อ เธอก็เป็นกำลังใจที่ดีให้เสมอ เราไม่รู้ว่าเราจะขอบคุณเธอยังไง ทั้งๆที่เธอดีขนาดนี้ และเราต่างกันขนาดนี้ เธอควรเจอคนที่ดีกว่านี้ แต่เธอก็ยังเลือกเรา เราขอถามเธออีกครั้ง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจครั้งใหญ่ ก่อนที่เธอจะรู้สึกเสียดายไปตลอดชีวิต เธอจะแต่งานกับเราจริงๆใช่มั้ย? คำตอบที่ได้ทำเราร้องไห้ใหญ่โตมากค่ะ เขาบอกว่า...เราเลือกเธอ เราเต็มใจที่จะมีเธอเป็นภรรยา ต่อให้มีผู้หญิงที่จะสวย และดีกว่าเธอ หรือรวยกว่าเธอ หรือมีพร้อมและดีแสนดีมาจากไหนยังไงเราก็เลือกเธอ ถ้าไม่ใช่เธอเราก็ไม่เอา เราพอใจกับคนนี้แล้ว เธออย่ามากล่อมให้เราเปลี่ยนใจเลย คนเรามันไม่มีใครสมบูรณ์หรือมีพร้อมไปหมดทุกอย่างหรอก มันต้องมีส่วนที่ขาดและเกินไว้เติมเต็มกันและกัน และไม่ต้องมาขอบคุณอะไรเราทั้งสิ้น เราทำทุกอย่างเราเต็มใจ เราไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยนะ จนได้มาเจอกับเธอ เธอสอนอะไรต่างๆมากมาย เมื่อก่อนเราเหมือนกบอยู่ในกะลา แต่เพราะเธอ เธอนั่นแหละที่เปิดกะลาที่มันคุมเราอยู่ออก ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่สวยงามนั้นคือเธอ ถ้าเธอจะตอบแทนสิ่งดีๆที่เราทำให้ล่ะก็ ช่วยเป็นภรรยาและแม่ของลูกที่ดีดีกว่านะ เรารักเธอมากๆนะ อย่าคิดมากที่รัก พอพูดจบเราปล่อยโฮเลยค่ะ คือไม่คิดว่าจะได้เจอกับผูชายดีๆแบบนี้ พอเราแต่งงานกันเราก็ย้ายไปอยู่บ้านเขาค่ะ แต่เราก็ไปมาหาสู่บ้านพ่อแม่เราตลอด ทำบ้านให้ท่านอยู่ใหม่ ทำงานและส่งเงินให้ไม่ขาด จนแม่แอบบ่นว่ามาหาบ่อยขนาดนี้ไม่ย้ายกลับมาอยู่เลยล่ะ55 เราย้ายมาอยู่บ้านสามีแรกๆแม่สามีไม่โอเค แต่ความดีก็ชนะใจแม่เขาได้ค่ะ เราทำทุกอย่างในบ้าน ไม่บกพร่องตามหน้าที่ของภรรยาและลูกสะใภ้ที่ดี แต่งานได้ 1 ปียังมีหลานชายให้เขาอีก แม่เขาก็เป็นปลื้มมากค่ะ55 ตอนนี้ท้องได้ 5 เดือนแล้ว ต้องขอพักความเป็นแม่สีเรือนไว้ก่อน55 กระทู้นี้อ่านๆดูแล้วอาจจะคิดว่าเรามาอวดสามีหรือป่าว นิดนึงค่ะ55 แต่เอาจริงๆมันแฝงแง่คิดหลายๆอย่างนะคะ อย่าไปน้อยใจในโชคชะตาหรือวาสนา พ่อแม่จนก็ไม่จำเป็นต้องอายใคร ชีวิตเราต้องขยันและสู้ค่ะ เงินต่างๆที่ได้มา ที่ส่งพ่อแม่ หรือทำบ้านให้พ่อแม่เป็นเงินที่มาจากน้ำพัดนำแรงตัวเองทั้งหมด ไม่เคยแตะเงินสามี คนเราถ้ามีความกตัญญูชีวิตจะเจริญค่ะ เราเชื่อแบบนั้นมาตลอด อยากเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังท้อแท้ หรือน้อยใจในวาสนาว่าเกิดมาไม่มีแบบคนอื่นเขา เชื่อเถอะค่ะว่าซักวันมันต้องเป็นวันของเรา คนเราต้องสู้ชีวิต สู้ๆนะคะอมยิ้ม36
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
จัดย่อหน้า เว้นวรรค ให้ใหม่ค่ะ


สวัสดีค่ะ เราตัดสินใจนานมากกว่าจะตั้งกระทู้นี้ได้ คือมีรุ่นน้องที่รู้จักกันถามว่าถ้ามีแฟนจนๆมันน่าอายมากหรอคะ? ด้วยเราเคยผ่านจุดๆนั้นมา เราเลยจะมาถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดีให้เพื่อนๆฟัง

เราเป็นผู้หญิงธรรมดาๆค่ะ บ้านมีปัญหาเรื่องเงินมาตลอด คือฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี บ้านผุๆพังๆ ฝนตกทีลำบากมาก หลังคารั่วค่ะ55 พ่อเป็นยาม ส่วนแม่ขายข้าวแกง เราไม่เคยอายใครนะคะที่พ่อแม่เราทำอาชีพแบบนี้ อย่างน้อยก็เป็นอาชีพสุจริต เราเรียนหนังสือเราก็ไม่ค่อยรบกวนเงินพ่อแม่ ปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กๆ หางานทำไปด้วยเรียนไปด้วย

ทำมาหลายอย่างค่ะ เด็กปั๊มก็เคย ชีวิตแต่ละวันลำบากค่ะ ไป ร.ร.จะกินอะไรต้องคิดแล้วคิดอีก แต่เด็กสมัยนี้ใช้เงินไม่ค่อยประหยัดกันเลย55 เวลาเรียนฝนตกนี่รู้ชะตากรรมเลยค่ะ กลับบ้านไปไม่มีที่นอนแน่ๆ ที่นอนต้องเปียกฝนชัวร์เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน55 พักเรื่องครอบครัวเข้าโหมดความรักบ้าง55 ก่อนหน้านี้เราเคยมีแฟนมา 2 คนค่ะ

คนแรกตอนคบกันเขาไม่รู้ค่ะว่าบ้านเราเป็นยังไง พ่อแม่ทำอาชีพอะไร คือตอนนั้นยังเป็นความรักวัยเด็ก เขาก็ดูรักเราดีค่ะ แต่พอเขารู้ว่าพ่อแม่เราทำอาชีพอะไร แล้วบ้านเราเป็นยังไง ว่าบ้านเราเป็นบ้านแบบผุๆพัง เขาก็หายไปแบบดื้อๆเลยค่ะ หายไปแบบเฉยๆไม่บอกอะไรเราเลย แม้แต่คำบอกเลิกก็ไม่มี บ้านเขาเราก็ไม่เคยไป แต่รู้ว่าอยู่ที่ไหนก็ลองไปดู

ตอนนั้นไม่มีโทรศัพท์ค่ะ ยังไม่มีตังซื้อ55 ปรากฏว่าเขาไม่อยากเจอเรา แถมบอกว่าเขามีแฟนใหม่แล้วให้เลิกยุ่งกับเขาได้แล้ว คือตอนนั้นชาไปหมดเลยค่ะ ตอนแรกเราก็เสียใจนะคะว่าทำไมมีคนใหม่ไวขนาดนี้ ทั้งๆที่เขาหายไปแค่ 2-3 วัน ตอนแรกเราก็เอาแต่เสียใจเพราะเรามันจนใช่มั้ย เขาถึงมาทิ้งเรา เราเลยเข็ดเลยค่ะ แฟนคนแรกก็พังไม่เป็นท่า จนตอนเรียนมหาลัยปี 1 เกือบปี 2 ตอนนั้นกู้เงินเรียน เลยมีโอกาสได้เรียนต่อมหาลัย ก็ได้มีความรักครั้งใหม่ คือเราไปแอบชอบเขา แล้วก็ได้รู้ว่าเขาก็ชอบเราเหมือนกัน เป็นเพื่อนคณะเดียวกัน

คือตอนนั้นแฮปปี้มากค่ะ คนที่เราชอบมาชอบเราด้วย มีความสุขสุดๆเขาก็ขอเราคบค่ะ แต่ก่อนคบเราก็เล่าเรื่องครอบครัวให้เขาฟังก่อนนะคะ เพราะกลัวคบไปแล้วเขามารับไม่ได้ทีหลังเดี๋ยวก็พังไม่เป็นท่าอีก เขาก็รับรู้แต่เขาก็ยังยืนยันจะคบกับเรา เราก็แอบดีใจค่ะว่าเขารับในตัวเราได้ แต่พอคบกันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดค่ะ เวลามาเรียนปกติตอนยังไม่คบเขาจะชอบเข้าหาเรา เข้ามาคุย เข้ามาแหย่ แสดงออกชัดเจนว่าชอบเรา แต่พอคบกลับไม่แสดงออกอะไรเลยซักอย่าง เวลาอยู่กับเพื่อนๆเขาจะทำเป็นไม่รู้จักเราเลยค่ะ เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันเราก็แต่งตัวตามที่เรามีก็เสื้อยืด กางเกงยีน รองเท้าแตะ เดินด้วยกันทีเวลาที่ไม่ค่อยมีคนเขาก็จะกล้าจับมือ แต่พอคนเริ่มเยอะเขาก็จะปล่อยมือและเดินห่างๆเรา

เคยมีครั้งนึงค่ะ ทำให้เรารู้สึกแย่มากๆเลยคือตอนเจอเพื่อนสมัยมัธยมของเขา และเพื่อนเขาถามประมาณว่าเราเป็นใคร แฟนหรอ แต่เขาดันตอบว่าเราเป็นแค่เพื่อน เราเสียใจและเสียความรู้สึกมากค่ะ เป็นแฟนกันแต่แสดงออกอะไรไม่ได้เลย และเราก็ทะเลาะกันเรื่องข้าวกลางวันจนเลิกกันในที่สุด คือตอนพักกลางวันวันนั้นแม่เราทำน้ำพริกแมงดาใส่กล่องมาให้กินที่มหาลัย แต่เขาดันจะชวนเราไปกินข้าวที่ร้านอาหาร เราเลยบอกว่าเราไปได้ แต่เรามีข้าวแล้ว เดี๋ยวเอากับข้าวของเราไปนั่งกินเป็นเพื่อน เขาก็โอเค พอไปถึงร้านก็มีคนเยอะค่ะ พวกนักศึกษามหาลัยทั้งนั้น เขาก็สั่งอาหารมากิน เราก็เลยเปิดกล่องข้าวเราแล้วนั่งกิน เขาก็ตกใจค่ะ และเอามือปิดจมูกถามว่าเรากินอะไร ให้ไปกินไกลๆเหม็น เราก็บอกติดตลกค่ะว่าไม่เหม็นอร่อยจะตาย เขาก็บอกให้ไปกินข้างนอก ไล่เราออกไปนอกร้าน คือเราก็เริ่มทะเลาะกันจนคนรอบข้างมอง เขาก็บอกเลิกเราตรงนั้นเลยค่ะ เขาบอกเลิกกันเถอะ เขาทนไม่ไหวแล้ว เราทำอะไรไม่ไว้หน้าเขา เขาเหนื่อยที่จะต้องทนกับคนแบบเราแล้ว

เราก็เลยถามว่าคนแบบเราเป็นคนแบบไหน เขาก็บอกเขาเบื่อทุกอย่างที่เป็นเรา เราทำตัวน่าเบื่อ ไม่มีอะไรที่เข้ากันได้ซักอย่าง เขาก็ลุกหนีเราออกไปนอกร้าน ข้าวที่สั่งมาก็ไม่ได้กิน เราก็วิ่งตามออกไปจะไปขอโทษ เขาก็ไปที่รถแต่รถสตาร์ทไม่ติด เขาเลยหันมาว่าเราว่าเรามันตัวซวย เขาไม่น่าลดตัวมาคบกับเราตั้งแแต่แรกเลย เราปล่อยโฮเลยค่ะตอนนั้น เสียใจมาก เรารักเขามาก แต่เขากลับพูดแบบนี้กับเรา พอเลิกกับคนๆนี้เราก็เข็ดอีกยาวนานจนเรียนจบ ตอนเราจบแรกๆเราก็ยังอยู่ในระหว่างรองาน เราเลยไปช่วยแม่ขายข้าวแกง การที่เราไปช่วยแม่ขายข้าวแกงตอนนั้น ทำให้เราได้เจอกับความรักอีกครั้ง มีรถคันนึงมาจอดเสียอยู่ใกล้ๆร้านข้าวแกงแม่ ตอนนั้นพ่อออกเวรมาพอดีเรากับพ่อเลยจะออกไปช่วยเขา

พ่อเราพอซ่อมรถเป็นบ้าง เราก็เป็นลูกมือช่วยอยู่บ่อยๆเจ้าของรถที่เราและพ่อไปซ่อมก็คือ ผช ที่เป็นรักครั้งใหม่ของเรานี่แหละค่ะ เราเจอกันครั้งแรกก็ไม่ได้คุยอะไรกันนะคะ แต่เขาคุยกะพ่อเรามากกว่า ว่าจะให้เงินเป็นค่าตอบแทนแต่พ่อไม่เอา เขาเลยบอกวันหลังจะมาอุดหนุนร้านข้าวแม่เราแล้วกัน เราไม่รู้นะคะว่าตอนนั้นเขาชอบเราหรือป่าว แต่เขาก็มองเราบ่อยๆ ผ่านไปหลายอาทิตย์เขาก็มากินข้าวร้านแม่เราจริงๆค่ะ ตอนเราเอาข้าวไปเสริฟก็มีคุยกันบ้าง จนเราเริ่มสนิทกัน เขาก็ขอเบอร์เราไว้บอกไว้สั่งข้าวไปเลี้ยงคนงาน คือบ้านเขาค่อนข้างมีฐานะ เปิดโรงงานค่ะ อายุพอๆกับเราพึ่งจบเหมือนกัน เขาก็โทรมาหาเราบ่อยๆค่ะ จนโทรมาคุยกันทุกวัน มากินข้าวร้านเราบ่อยๆ จนเขาเริ่มแสดงออกว่าจีบเรา ตอนแรกเราปฏิเสธค่ะ เพราะกลัวว่าจะเป็นแบบครั้งก่อนๆ แล้วอีกอย่างเขาก็มีฐานะแต่เราไม่มีอะไรเลย เราก็ต้องเจียมตัวสิคะ แต่ก็ชอบเขาแหละค่ะ เพราะเขาเป็นคนดี กินข้าวร้านเราแถมช่วยล้างจานอีก จนเราใจอ่อน เราก็ตกลงคบกัน

พ่อแม่เราโอเคมากค่ะ เพราะเขาเป็นคนดีจริงๆเวลาครอบครัวเราลำบากเขาก็เป็นคนยื่นมือเข้ามาช่วย แต่เราก็แอบสงสารเขานะคะ เวลาคนอื่นมองเขาก็จะมองว่าเราไปเกาะผู้ชายกินหรือป่าว คบที่ฐานะหรือป่าว แต่เรารักกันจริงๆค่ะ เขาพาเราไปกินข้าวที่ร้านอาหารดีๆกับเพื่อนเขา เราลุ้นแทบตายว่าเขาจะบอกกับเพื่อนเขาว่ายังไงว่าเราเป็นใคร สุดท้ายเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ บอกทุกคนอย่างไม่อายว่าเราเป็นแฟนเขา แต่เราก็มีอุปสรรคค่ะ คือแม่ของเขาไม่ชอบเรา เพราะอยากให้เขาได้เจอคนที่ดีกว่าเรา เราก็เข้าใจนะคะว่าใครๆก็อยากให้ลูกตัวเองมีอนาคตที่ดีและมีภรรยาที่ดี เราก็พยายามจะทำหน้าที่ของแฟนให้ดีที่สุด เราจริงจังกับเขามากค่ะ วางแผนอนาคตทุกอย่างด้วยกันแต่เราก็แอบคิดว่ามันจะเป็นไปได้หรอ เขาก็พาเราไปพบครอบครัวของเขา พ่อเขารับราชการ พ่อเขาก็เฉยๆกับเราอ่ะค่ะ ไม่ใช่รับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ชอบอะไรเรามาก แต่แม่เขานี่คือไม่ชอบเราเลย เราไหว้เขาก็เมินหนี พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย

เราคบกันได้ 3 ปี เราเลยตัดสินใจจะแต่งงานกัน แม่เขาไม่โอเคค่ะ ปฏิเสธเรา แต่เพราะเขาไปคุยกับแม่เขา บอกว่าอยากแต่งงานกับเราทำให้เขาต้องทะเลาะกับแม่จนจะตัดแม่ตัดลูก แม่เขาเลยยอม แต่ก็ไม่เต็มใจนัก เรารู้สึกผิดมากๆที่ทำให้แม่ลูกทะเลาะกัน เกือบจะไม่แต่งกับเขาแล้วค่ะ55 งานแต่งของเราก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายค่ะ ไม่ใหญ่โตอะไร แค่เชิญญาตๆ เพราทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่อยากจัดใหญ่โตเพราะเขาไม่อยากให้ใครรู้ค่ะว่าลูกชายเขาต้องมาแต่งกับคนจนๆอย่างเรา ก่อนแต่งเราร้องไห้กับเขาเลยค่ะ เราก็ถามเขาประมาณว่าคิดดีแล้วหรอที่จะแต่งงานกับเรา เราไม่มีอะไรดีแบบคนอื่นนะ เราจน เราไม่มีอะไรให้เธอ เราไม่เหมาะกับเธอเลย เราไม่มีอะไรที่เข้ากันได้เลยนะ เธอชอบเดินห้าง แต่เธอต้องมาทนเดินตลาดนัด เธอชอบตื่นสายแต่เธอก็ยอมตื่นแต่มืดเพื่อมาช่วยเราจ่ายตลาดตอนตี5 เพื่อซื้อของไปขายที่ร้านข้าวแกง เธอชอบฟังเพลงสากล เพลงฝรั่งเธอบอกความหมายมันลึกซึ้ง แต่เรากลับชอบฟังเพลงลูกทุ่งเพราะความหมายมันตรง และอีกอย่างเราก็ฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยออกว่ามันแปลว่าอะไร เธอชอบสีขาว แต่เราชอบสีดำ เธอชอบกินอาหารฝรั่ง ชอบกินของดีๆแต่เราชอบกินน้ำพริก ปลาร้าเธอไม่เคยกินก็ต้องมาหัดกินเพราะเรา และต้องมาผื่นขึ้นทั้งตัวเพราะแพ้ปลาร้า เธอเกลียดกบ เขียด หนู งูและสัตว์ต่างๆที่มันน่ากลัว แต่เรากลับชอบกิน55 ผัดกบ ผัดหนู เขียดทอดอะไรต่างๆมากมาย เธอเกลียดแต่เธอก็ชอบไปหาซื้อพวกอาหารป่ามาให้เรากิน เธอชอบแต่งตัวให้ทันสมัย แต่งตัวดีๆ แต่เราดันใส่แค่กางเกงยีนขาดๆ รองเท้าแตะ เธอก็ยังยืนหยัดที่จะเคียงข้างเรา ไม่ปล่อยมือกันแม้คนจะเยอะแค่ไหน

ตอนจีบกันแรกๆร้านแม่เราอยู่ไกลบ้านเธอมากๆคนละอำเภอ แต่เธอก็มากินข้าวร้านเราได้เกือบทุกวัน แถมมาช่วยเราตั้งร้านอีก เวลาเราร้องไห้เสียใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรเธอก็เป็นคนปลอบใจเสมอ เวลาเราเหนื่อย เราท้อ เธอก็เป็นกำลังใจที่ดีให้เสมอ เราไม่รู้ว่าเราจะขอบคุณเธอยังไง ทั้งๆที่เธอดีขนาดนี้ และเราต่างกันขนาดนี้ เธอควรเจอคนที่ดีกว่านี้ แต่เธอก็ยังเลือกเรา เราขอถามเธออีกครั้ง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจครั้งใหญ่ ก่อนที่เธอจะรู้สึกเสียดายไปตลอดชีวิต เธอจะแต่งานกับเราจริงๆใช่มั้ย? คำตอบที่ได้ทำเราร้องไห้ใหญ่โตมากค่ะ เขาบอกว่า...เราเลือกเธอ เราเต็มใจที่จะมีเธอเป็นภรรยา ต่อให้มีผู้หญิงที่จะสวย และดีกว่าเธอ หรือรวยกว่าเธอ หรือมีพร้อมและดีแสนดีมาจากไหนยังไงเราก็เลือกเธอ ถ้าไม่ใช่เธอเราก็ไม่เอา เราพอใจกับคนนี้แล้ว เธออย่ามากล่อมให้เราเปลี่ยนใจเลย คนเรามันไม่มีใครสมบูรณ์หรือมีพร้อมไปหมดทุกอย่างหรอก มันต้องมีส่วนที่ขาดและเกินไว้เติมเต็มกันและกัน และไม่ต้องมาขอบคุณอะไรเราทั้งสิ้น

เราทำทุกอย่างเราเต็มใจ เราไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยนะ จนได้มาเจอกับเธอ เธอสอนอะไรต่างๆมากมาย เมื่อก่อนเราเหมือนกบอยู่ในกะลา แต่เพราะเธอ เธอนั่นแหละที่เปิดกะลาที่มันคุมเราอยู่ออก ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่สวยงามนั้นคือเธอ ถ้าเธอจะตอบแทนสิ่งดีๆที่เราทำให้ล่ะก็ ช่วยเป็นภรรยาและแม่ของลูกที่ดีดีกว่านะ เรารักเธอมากๆนะ อย่าคิดมากที่รัก พอพูดจบเราปล่อยโฮเลยค่ะ คือไม่คิดว่าจะได้เจอกับผูชายดีๆแบบนี้ พอเราแต่งงานกันเราก็ย้ายไปอยู่บ้านเขาค่ะ แต่เราก็ไปมาหาสู่บ้านพ่อแม่เราตลอด ทำบ้านให้ท่านอยู่ใหม่ ทำงานและส่งเงินให้ไม่ขาด จนแม่แอบบ่นว่ามาหาบ่อยขนาดนี้ไม่ย้ายกลับมาอยู่เลยล่ะ55 เราย้ายมาอยู่บ้านสามีแรกๆแม่สามีไม่โอเค แต่ความดีก็ชนะใจแม่เขาได้ค่ะ เราทำทุกอย่างในบ้าน ไม่บกพร่องตามหน้าที่ของภรรยาและลูกสะใภ้ที่ดี แต่งานได้ 1 ปียังมีหลานชายให้เขาอีก แม่เขาก็เป็นปลื้มมากค่ะ55 ตอนนี้ท้องได้ 5 เดือนแล้ว ต้องขอพักความเป็นแม่สีเรือนไว้ก่อน55 กระทู้นี้อ่านๆดูแล้วอาจจะคิดว่าเรามาอวดสามีหรือป่าว นิดนึงค่ะ55

แต่เอาจริงๆมันแฝงแง่คิดหลายๆอย่างนะคะ อย่าไปน้อยใจในโชคชะตาหรือวาสนา พ่อแม่จนก็ไม่จำเป็นต้องอายใคร ชีวิตเราต้องขยันและสู้ค่ะ เงินต่างๆที่ได้มา ที่ส่งพ่อแม่ หรือทำบ้านให้พ่อแม่เป็นเงินที่มาจากน้ำพัดนำแรงตัวเองทั้งหมด ไม่เคยแตะเงินสามี คนเราถ้ามีความกตัญญูชีวิตจะเจริญค่ะ เราเชื่อแบบนั้นมาตลอด อยากเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังท้อแท้ หรือน้อยใจในวาสนาว่าเกิดมาไม่มีแบบคนอื่นเขา เชื่อเถอะค่ะว่าซักวันมันต้องเป็นวันของเรา คนเราต้องสู้ชีวิต สู้ๆนะคะ
ความคิดเห็นที่ 2
โดยทั่วไป เวลาได้ฟังเรื่องราวของคนจนได้แต่งกับคนรวย
ส่วนใหญ่ก็จะพูดว่าโชคดี ฟังคล้ายๆกับคำว่าฟลุค
ซึ่งความจริง เรื่องแบบนี้ไม่มีฟลุคหรอกครับ แต่เป็นเรื่องปกติของคนมีดี
ต่อให้คุณรวยกว่านี้สวยกว่านี้ แต่ความดีมีน้อย แต่งวันนี้ก็เลิกวันหน้าครับ

ถ้าจะชม ผมขอชมสามีของคุณ เขาเป็นคนแน่วแน่และมีทัศนคติที่ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่