เมื่อประมาณ1 เดือนที่ผ่านมา ได้รับรู้เรื่องราวว่าสามีกับเพื่อนร่วมงานมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางคบชู้ พฤติกรรมที่ว่าคือ จะหาเวลาเลิกงานไปทานข้าวด้วยกันบ้างแต่ไม่ได้ไปกัน 2 คนมีคนอื่นไปด้วย(เพื่อกันคนอื่นจับได้ เราคิดเอานะ) วันหยุดจะนัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าโดยฝ่ายหญิงซึ่งมีลูกจะพาลูก ๆ ไปด้วย (ฝ่ายหญิงหย่าร้างแล้ว) พฤติกรรมเช่นน่าจะมีมานานเป็นสิบปีแล้ว เพราะสามีเราเรียกเขาว่าที่รัก บอกว่า รักเธอกับลูกมาก และอีกหลายอย่าง เล่าไม่หมด ฝ่ายหญิงก็จะถามอยู่ว่า พี่รักหนูมํย อยู่หลายครั้ง ฝ่ายหญิงมีลูกสาวด้วย ซึ่งสามีเราชอบเด็กผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว บ้านเขามีแต่ลูกชาย เรากับเขาก็มีลูกสาวกันคนนึงแต่ตอนนี้ลูกโตและทำงานแล้ว สามีคอยให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินทอง ให้ค่าขนม ค่าเรียนพิเศษ กับลูกของฝ่ายหญิงอยู่เสมอ ฝ่ายหญิงเคยขอยืมเงิน แต่ไม่รู้ว่าได้คืนบ้างไหม หรือสามีเรายินดีให้โดยไม่ต้องคืน 55 เราได้พูดกับสามี(ด้วยอารมณ์น้อยใจ เสียใจ โมโห โกรธ) เขาไม่ยอมรับเรื่องว่ามีอะไรกับฝ่ายหญิง (สำหรับเรา เราไม่ได้คิดถึงการร่วมหลับนอน ซึ่งเขาทั้งคู่ไม่น่าจะทำ เพราะการงานหน้าที่ทางสังคมน่าจะทำให้ละอายใจที่จะผูกพันธ์กันทางกาย เราคิดเองนะ) แค่บอกว่าไม่มีอะไร เขาเดือนร้อนให้ยืมไป 50000 บาท บ้านเขาจะโดนยืด (มีอยู่วันหนึ่งสามีได้รับโทรศัพท์และเราก็ได้ยินที่คุยกันเลยรับรู้มาบ้างว่ามีเพื่อนร่วมงานกำลังจะโดนยืดบ้าน เขาจะทำอย่างไรดี สามีบอกตั้งสติใจเย็น ๆ ตอนนี้อยู่ไหน หากเขามายืดแล้วไปหาบ้านเช่าก่อนและ......เดินไปคุยที่อื่น) เมื่อสามีเอ่ยเรื่องว่าให้ยืมเงิน จึงผูกโยงเรื่องได้ ว่าคือคนนี้ (ซึ่งตอนนั้นไม่รู้) ต่อมาสามีได้หาวิธีช่วยเหลือรวมถึงปรึกษาทนายที่รู้จักว่าจะดำเนินการเรื่องประนอมหนี้ โดยสามีเราเสนอที่จะช่วยด้วยการให้ฝ่ายหญิงเอารถไปขาย แล้วจะเอารถของลูกสาวเรามาให้ใช้ โดยจะอ้างลูกสาวว่าจะซื้อรถไฟฟ้าให้ซึ่งตอนนี้นลูกสาวก็เล็งรถไฟฟ้าอยู่ พอดีจึงน่าจะเป็นไปได้ที่จะทำเช่นนั้น ขอย้อนกลับไปที่ตอนพูดคุยกับสามีเรื่องว่าเพื่อนโดนยืดบ้านเราก็บอกไปว่ามันเป็นปัญหาของเขา เขาควรปรึกษา หรือบอกพ่อ แม่พี่น้องเขาแทนที่จะโทรหาเธอนะ (ใจอยากพูดกับเขาว่าควรโทรหาพ่อตัวเองแทนที่จะหาผัวคนอื่น55 แต่กลั้นเอาไว้ เดี๋ยวจะหาว่าเราหยาบคาบติดละครมาก ) และช่วยเหลือกันขนาดที่ว่าวันที่สามีมีนัดหาหมอตรงกับวันที่นัดกับกรมบังคับคดี สามีเราเลื่อนนัดหมอโดยบอกกับเราว่าหมอเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ (ซึ่งบังเอิญว่าวันที่สามีหาหมอเราก็จะหาหมอwalkin ตรวจอาการไม่สบายของเรา เราเลือกวันเดียวกับสามีเพราะจะได้ไปด้วยกัน ) สามีถามว่าเราจะยังไปหาหมอไหมซึ่งเขาน่าจะเดาได้แล้วเราไม่ไปหรอกจะไปพร้อมเขา แต่ถ้าเรารู้ก่อนนี้เราจะยืนกรานให้เขาพาไป การเลื่อนนัดการไปกรมบังคับคดีนี้เรามารู้ทีหลัง ฝ่ายหญิงมักจะไว้วานชักชวนไปทานอาหารไปดูคอนเสริต ไปซื้อของ ซึ่งเราคิดว่าฝ่ายหญิงจะหลอกเงินสามีเพื่อความสุขความสวยงามส่วนตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องใช้เงินตัวเอง รวมไปถึงลูกของตน เพราะสามีเราพร้อมที่หยิบยื่นให้อยู่แล้ว นี้คือที่ผ่านมา
เรากับสามีทะเลาะกันซึ่งในชีวิตนี้นี่คือครั้งที่ 2 (แต่งงานกันมา 30 กว่าปี) ครั้งแรกประมาณ 10 ปีก่อนก็เรื่องทำนองเดียวกันคือมีการพูดคุยกุ๊กกิ๊กกับครูสอนพิเศษของลูก รายนั้นเราตามไปถึงบ้านฝ่ายหญิงสอบถามว่าคิดอะไรกับสามีเรา เขายอมรับ เราบอกให้เลิกเพราะอนาคตยังอีกยาวไกลกำลังเรียนป.โท เจอคนโสดได้อีกเยอะ และนี้คือครั้งที่ 2 ที่จับได้ (ระหว่างครั้งแรกกับครั้งที่ 2 อาจจะมีรายทางอื่นอีกแต่เราไม่ได้ข้อมูลมา) ตอนนี้ฝ่ายสามีเราได้บอกฝ่ายหญิงว่าเรารู้เรื่องแล้ว ฝ่ายหญิงบอกว่าให้ยืนยันว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องยอบรับ จากข้อความนี้ สรุปได้ว่าทั้งคู่คบชู้กันใช่ไหม (หลายคนอาจจะสงสัยว่ายังมาถามอีกทำไม ) ทั้ง2 ฝ่ายรู้ไหมว่าพฤติกรรมนี้คือเป็นชู้กัน แล้วเราจะทำอย่างไรดี เรายังไม่อยากเลิกกัน รู้สึกว่ามีเขาอยู่กับเราเรามีความสุข(แต่ก็ไม่ใช่ว่าสุขมากหรอกนะเพราะเราคิดอยู่เสมอว่าสามีอายที่จะให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นภรรยา ไม่กล้าพาออกงาน เพราะเราตัวเตี้ย ไม่สวย แต่งตัวไม่เป็น ซึ่งหากหลายคนจะแนะนำให้เราปรับเปลี่ยนตัวเองเราคิดว่าค่อนข้างยาก เพราะเวลาที่เราดูละครเมียหลวงเมียน้อย พอเมียหลวงรู้เรื่องก็เปลี่ยนตัวเองแต่งกายทำผม เรารู้สึกไม่เห็นด้วย แต่ก็รู้สึกว่ามันอาจจะช่วยได้เพราะสามีก็ชมฝ่ายหญิงและหญิงอื่นที่เขาแอบคุยด้วยว่าสวย - มีแอบคุยกับหญิงอื่นบ้างที่บังเอิญทักมาแล้วคุยกันนิดหน่อยฝ่ายหญิงนั้นก็หยุดไป ซึ่งอันนี้ดีนะตบมือข้างเดียวไม่ดัง หากฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วยก็จบไป)
สามีกับเพื่อนร่วมงานของสามีมีพฤติกรรมคบชู้ ทำอย่างไรดี
เรากับสามีทะเลาะกันซึ่งในชีวิตนี้นี่คือครั้งที่ 2 (แต่งงานกันมา 30 กว่าปี) ครั้งแรกประมาณ 10 ปีก่อนก็เรื่องทำนองเดียวกันคือมีการพูดคุยกุ๊กกิ๊กกับครูสอนพิเศษของลูก รายนั้นเราตามไปถึงบ้านฝ่ายหญิงสอบถามว่าคิดอะไรกับสามีเรา เขายอมรับ เราบอกให้เลิกเพราะอนาคตยังอีกยาวไกลกำลังเรียนป.โท เจอคนโสดได้อีกเยอะ และนี้คือครั้งที่ 2 ที่จับได้ (ระหว่างครั้งแรกกับครั้งที่ 2 อาจจะมีรายทางอื่นอีกแต่เราไม่ได้ข้อมูลมา) ตอนนี้ฝ่ายสามีเราได้บอกฝ่ายหญิงว่าเรารู้เรื่องแล้ว ฝ่ายหญิงบอกว่าให้ยืนยันว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องยอบรับ จากข้อความนี้ สรุปได้ว่าทั้งคู่คบชู้กันใช่ไหม (หลายคนอาจจะสงสัยว่ายังมาถามอีกทำไม ) ทั้ง2 ฝ่ายรู้ไหมว่าพฤติกรรมนี้คือเป็นชู้กัน แล้วเราจะทำอย่างไรดี เรายังไม่อยากเลิกกัน รู้สึกว่ามีเขาอยู่กับเราเรามีความสุข(แต่ก็ไม่ใช่ว่าสุขมากหรอกนะเพราะเราคิดอยู่เสมอว่าสามีอายที่จะให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นภรรยา ไม่กล้าพาออกงาน เพราะเราตัวเตี้ย ไม่สวย แต่งตัวไม่เป็น ซึ่งหากหลายคนจะแนะนำให้เราปรับเปลี่ยนตัวเองเราคิดว่าค่อนข้างยาก เพราะเวลาที่เราดูละครเมียหลวงเมียน้อย พอเมียหลวงรู้เรื่องก็เปลี่ยนตัวเองแต่งกายทำผม เรารู้สึกไม่เห็นด้วย แต่ก็รู้สึกว่ามันอาจจะช่วยได้เพราะสามีก็ชมฝ่ายหญิงและหญิงอื่นที่เขาแอบคุยด้วยว่าสวย - มีแอบคุยกับหญิงอื่นบ้างที่บังเอิญทักมาแล้วคุยกันนิดหน่อยฝ่ายหญิงนั้นก็หยุดไป ซึ่งอันนี้ดีนะตบมือข้างเดียวไม่ดัง หากฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วยก็จบไป)