Good bye my hero..สัมภาษณ์ฉบับเต็มของสตีเวน เจอร์ราร์ด ถึงการแขวนสตั๊ด

กระทู้ข่าว

สโมสรฟุตบอลอังกฤษ พรีเมียร์ลีก ฟุตบอลต่างประเทศ ฟุตบอล

หลังจากประกาศแขวนสตั๊ดในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้นั่งคุยกับแกรี ลินิเกอร์ ทางช่องบีที สปอร์ต ถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจ...

นักเตะวัย 36 ปี เลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ ที่เขาค้าแข้งมาเกือบ 18 ปี นับตั้งแต่ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่กับลิเวอร์พูล ด้วยการลงเป็นตัวสำรองในเกมกับแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ที่แอนฟิลด์ และนี่คือบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม

สตีเวน, ผมอาจจะเป็นคนแรกที่ขอแสดงความยินดีกับคุณกับอาชีพที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง ทำไมคุณถึงตัดสินใจว่ามันถึงเวลาสิ้นสุดแล้วในวันนี้

มี 2-3 เหตุผล แน่นอน คุณตระหนักว่าช่วงเวลานั้นใกล้จะมาถึงจุดจบ และร่างกายเริ่มบอกคุณ ทั้งความเจ็บปวด และการปวดเมื่อยเริ่มถี่ขึ้น วิธีที่คุณรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่ออยู่ในสนาม

ตลอดช่วงสองปีหลัง ผมรู้สึกว่าตัวเองเชื่องช้าลงไปนิดหน่อย และโดยพื้นฐานแล้วผมไม่สามารถส่งผ่านสิ่งที่ผมเคยสามารถทำได้ และเริ่มจะหัวเสียขึ้นทีละนิด เมื่อเวลาผ่านไป

รวมทั้งอย่างที่คุณรู้ว่าผมฟังเสียงผู้คนมาตลอดหลายปี คนที่สำคัญๆ ในเกมที่ผมไว้วางใจ และให้ความเคารพเป็นอย่างมาก ได้บอกผมว่าให้ไปต่อเมื่อคุณยังรู้สึกว่ายังมีอะไรหลงเหลืออยู่ แต่ต้องไม่อยู่นานเกินไปกว่าที่คุณรู้สึกพอใจ และเล่นต่อนานเกินไปจนเริ่มกลายเป็นความน่าอาย ผมสามารถสัมผัสได้ว่ามันอยู่อีกไม่ไกล ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม

มันแว่บขึ้นมาตอนไหน?

มันไม่ใช่จังหวะเวลาเดียว ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลา ผมคิดว่า ในช่วง 3-4 เดือน สุดท้ายกับแอลเอ กาแล็กซี ผมเริ่มได้รับบาดเจ็บมากเกินไป และผมไม่ได้รู้สึกสดเหมือนเคย

เกมเริ่มมีความท้าทายขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระดับความสูงจากน้ำทะเล และความร้อน ความชื้น และการเดินทาง ต่างส่งผลกระทบกับผม ดังนั้นมันเป็นเรื่องของช่วงเวลามากกว่าช่วงจังหวะใดจังหวะหนึ่ง อย่างที่พูดผมมีช่วงเวลา 2-3 ช่วง ใน 6 เดือนหลัง ที่ผมคิดว่า ‘ผมเล่นไม่ดีในวันนี้’ หรือ ‘คนนั้นเล่นได้ดีกว่าผม’ และผมชอบพูดแบบนั้นกับตัวเอง ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม

คุณจะคิดถึงมันไหม

100 เปอร์เซ็นต์ ผมเป็นคนประเภทที่รักการเล่นฟุตบอล ผมรักเกมนี้ ผมรักการฝึกซ้อมเป็นประจำทุกวัน ผมรักการแข่งขัน และผมรักการเดินทางขึ้นๆ ลงๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่างมากที่สุด ผมรักทุกๆ นาทีของมันดังนั้นผมจะคิดถึงมันอย่างมาก

ขอให้คุณบรรยายอารมณ์ของคุณเกี่ยวกับการแขวนสตั๊ด เพราะว่ามันส่งผลถึงเราทุกคนในวงการฟุตบอล คุณจะบรรยายความรู้สึกถึงมันอย่างไร...

ผมคิดว่า (มันรู้สึก) ผสมปนเปกันอย่างมากในเวลานี้ ผมเศร้านิดหน่อย เพราะว่าผมจะไม่ได้ลงไปในสนาม และผมจะไม่ได้เข้าไปในห้องแต่งตัวกับเด็กๆ และหยอกล้อกับทุกคน และไม่ได้ลงไปแข่งขันใดๆ อีกแล้ว

ผมไม่ได้ลงเล่นต่อหน้าฝูงชนกลุ่มใหญ่ และมีช่วงเวลาที่น่าเหลือเชื่อ นั่นคือจุดที่สูงสุดที่สวยงามที่สุดในฐานะนักฟุตบอล ซึ่งมันผสมปนเปกันไป แต่ในเวลาเดียวกันผมภาคภูมิใจ และผมมีความสุข ผมประสบความสำเร็จมากมายหลายอย่างที่ผมไม่เคยคิดว่าผมจะทำได้ใกล้เคียงขนาดนี้

ผมบอกกับตัวเองมาว่าผมเป็นเด็กหนุ่มจากเคหะชุมชนที่ฝันจะเล่นให้สโมสรในบ้านเกิด ผมมักจะกลับไปที่นั่น และผมขอบคุณมากกับสิ่งที่ผ่านมา

คุณพูดถึงจุดสูงสุด, ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ช่วงเวลาไหนคือที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

แน่นอนว่าเป็นแชมเปียนส์ลีก ในอิสตันบูล ปี 2005 การชูถ้วยแชมเปียนส์ลีกครั้งที่ 5 กับลิเวอร์พูล ถ้วยรางวัลที่เราสามารถเก็บรักษาไว้ได้ตลอดกาล

ด้วยธรรมชาติของเกมด้วย มันเป็นนัดชิงชนะเลิศที่ไม่ธรรมดา...

แน่นอน แค่ได้มีส่วนร่วมในการเดินทางก็เป็นเหมือนความฝันแล้ว แต่ได้ครองถ้วยในท้ายที่สุด และเกมที่น่าจะเป็นนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกที่ดีที่สุดตลอดกาล คือมันมหัศจรรย์จริงๆ

โดยส่วนตัว คุณมักเป็นคนฉุดพวกเขา (ทีม) กลับมาไม่ใช่หรือ? แทบจะด้วยตัวเองคนเดียวเลย...

สิ่งที่ดีสำหรับผม คือว่า ผมได้มีส่วนร่วมระหว่างเกม การเป็นกัปตันทีม มันมีความกดดันอย่างมากว่าผมต้องจัดการในเกมนั้น การมองย้อนกลับไปในตอนนี้ ผมยินดีอย่างมากกับวิถีทางที่มันเป็นไป แต่ในเวลาเดียวกันระหว่างเส้นทาง มันก็มีจุดตกต่ำที่แสนโหดร้ายที่ผมต้องรับมืออยู่มากเช่นกัน

แล้วสิ่งที่เลวร้ายที่สุด

เป็นเกมกับเชลซีอย่างแน่นอน นั่นคือเกมที่จะทำให้ผมเจ็บปวดไปนานแสนนาน เป็นความรู้สึกที่แตกต่างกับเกมแชมเปียนส์ลีก ที่คุณอยู่บนจุดสูงสุดอันเหลือเชื่อ อย่างสิ้นเชิง และเมื่อคุณย้อนกลับไปยังเกมกับเชลซี และมันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ มันรู้สึกเหมือนหายนะได้เกิดขึ้นในชีวิตของผม มันแย่แบบนั้นเลย

แน่นอนว่าคุณคือหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนที่ได้ลงเล่นรับใช้ชาติเกินกว่า 100 เกม จุดสูงสุดในทีมชาติอังกฤษคือจุดใดบ้าง

ทุกๆ ครั้งที่คุณสวมเสื้อแข่งลงสนาม (ให้ประเทศของคุณ) คุณถูกเด็กๆ ถามหลายต่อหลายครั้งว่า ‘การได้เล่นให้ทีมชาติอังกฤษเป็นอย่างไร?’ จนกระทั่งคุณจะได้สวมเสื้อแข่งเป็นครั้งแรก และได้ทำเป็นประจำนั่นแหละ มันยากที่จะอธิบาย การได้เป็นตัวแทนประเทศชาติ และผู้คนอีกนับล้าน นั่นคืออีกหนึ่งความฝันที่ผมทำสำเร็จ และได้ทำมันเกินกว่า 100 ครั้ง มันเหลือเชื่อมากสำหรับผม

การมองย้อนกลับไปถึงการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษของผม มันก็มีหลายความรู้สึกอย่างที่ผู้คนรู้สึกกัน คุณคว้าผลชัยชนะ 5-1 กับเยอรมนี ซึ่งคุณรู้สึกยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง แล้วคุณก็เจ็บปวด เมื่อคุณพลาดจุดโทษ และในช่วงที่อยู่ภายใต้การคุมทีมของสตีฟ แมคคลาเรน เราก็ตกรอบคัดเลือก คุณมีจุดตกต่ำที่เลวร้ายเช่นกัน แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักฟุตบอลและการมีช่วงเวลาในอาชีพที่ยาวนาน มันจะมีทั้งจุดสูงสุด และต่ำสุดเสมอ

หากมองย้อนกลับไปยังช่วงเวลาในอาชีพของคุณเอง ช่วยอธิบายจุดแข็งในฐานะนักเตะ...

ผมไม่ใช่คนที่หยิ่งยโส หรืออะไรแบบนั้น แต่สำหรับผม เกมของผม ผมคิดว่าผมสามารถอะไรเล็กๆ น้อยๆ ได้ทุกอย่าง ผมจะไม่พูดว่า ผมป็นมิดฟิลด์จอมถล่มประตู แต่สิ่งที่ผมสามารถทำได้ คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างละเล็กละน้อย เป็นต้นว่า ผมสามารถขึ้นโหม่งได้, ผมสามารถเข้าสกัดได้, ผมสามารถวิ่งได้, ผมสามารถผ่านบอลจากระยะทางที่แตกต่างได้, ผมสามารถพังประตูได้ นั่นแหละที่ผมคิดว่าคือจุดแข็งของผม, ร่างกายและความอดทนที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างละเล็กละน้อย

ถ้าคุณมองที่ตัวคุณเอง คุณอาจพบว่ามันง่ายในการตอบ คุณมีจุดอ่อนหรือไม่? มีจุดอ่อนตรงไหนในเกมของสตีเวน เจอร์ราร์ด หรือไม่

ผมคิดถึงจุดอ่อนในช่วงปีแรกๆ ของผม ราฟาเอล เบนิเตซ ชี้ให้เห็นอย่างชาญฉลาดว่าอาจจะเป็นวินัยในแง่ของการเสียตำแหน่งง่ายเกินไปในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลางของผม และยังอาจเป็นการควบคุมอารมณ์ ในแง่ที่ได้รับใบเหลืองโง่ๆ หรือใบแดงแบบงี่เง่า ผมทำให้เพื่อนร่วมทีมผิดหวังในบางครั้ง มันคือสิ่งที่ผมจะมองย้อนกลับไปและหวังว่าผมจะสามารถกลับไป และทำให้มันถูกต้อง แล้วผมก็อาจจะมีช่วงเวลาในอาชีพที่ราบรื่น แต่ใครกันล่ะที่จะมีอาชีพที่สมบูรณ์แบบ? ผมไม่แน่ใจว่าจะมีมากนัก

คุณสิ้นสุดอาชีพที่แอลเอ กาแล็กซี แต่ที่โดดเด่นกว่า คือ คุณจะเป็นที่จดจำในฐานะนักเตะลิเวอร์พูล คุณลงเล่นที่นี่เกือบทั้งหมดของช่วงเวลาในอาชีพของคุณ มีความเสียดายใดๆ หรือไม่ ในฐานะที่คุณอาจมีโอกาสย้ายทีมอีก 2-3 ครั้ง? แน่นอน คุณเคยเกือบจะทำเช่นนั้นแล้วไม่ใช่หรือ?

ตอนนี้ ผมกำลังนั่งลงตรงนี้โดยไม่มีความเสียใจกับวิถีทางในอาชีพของผมที่เป็นไป ผมคงติดอยู่กับเส้นทางที่ว่าไม่อาจคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ และผมมองย้อนกลับไปถึงโอกาสที่ผมมีโอกาสได้ไปร่วมทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในลีก และผมอาจจะมานั่งลงตรงนี้ พร้อมกับเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกสี่หรือห้าเหรียญ

ผมอาจย้ายไปต่างประเทศ ไปสู่ทีมใหญ่ และไล่ล่าเกียร์ติยศนั้น แต่มันยังมีความพึงพอใจในเวลาเดียวกันที่รู้ว่า ผมยังคงภักดีต่อผู้คนที่สำคัญที่สุดต่อตัวผม ผมไม่ได้ไล่ล่าหาเงิน และผมไม่ได้ไล่ล่าเกียรติยศ แน่นอน ผมกำลังนั่งอยู่ที่นี่พร้อมกับความเสียดายครั้งใหญ่ว่า ผมไม่อาจคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ แต่ในเวลาเดียวกัน ผมก็พึงพอใจกับความจงรักภักดีของผมเองอย่างมาก”

สโมสรลิเวอร์พูลมีความหมายต่อคุณอย่างไร

หมายถึงทั้งโลกทั้งใบสำหรับผม ผมเริ่มต้นสนับสนุนสโมสรตั้งแต่ยังเด็ก สมาชิกในครอบครัวของผมมากมายต่างก็เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล วิถีทางที่สโมสรสร้าง และดูแลผมตั้งแต่วัยเด็ก และเปลี่ยนแปลงผมให้เป็นคนอย่างที่เป็น และเป็นนักฟุตบอลที่ดี ผมต้องขอบคุณพวกเขามากมายด้วยซ้ำ

คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโค้ชมากกว่าการทำหน้าที่ทางโทรทัศน์หรือไม่

ผมต้องการทั้งสองอย่าง ผมคิดนะ แน่นอนว่า ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ที่จะได้ทำงานกับ BT ซึ่งถ่ายทอดทั้งแชมเปียนส์ลีก และพรีเมียร์ลีก นั่นเป็นสิ่งที่ผมตั้งตารอทำอย่างแท้จริง ตอนผมกลับมา

ในอนาคต ชัดเจนว่า ผมมีความฝัน และความปรารถนา ที่จะเข้าไปทำงานในส่วนของการจัดการ หรือเป็นผู้ช่วยให้ผู้จัดการทีม และกลับไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับห้องแต่งตัว แต่คุณก็รู้ ผมมีเวลาอีกหลายปีที่จะทำสิ่งนั้น

สิ่งสำคัญสำหรับผมตอนนี้ คือ การมุ่งสมาธิกับ (การทำงาน) BT และในช่วงเวลาว่าง ผมจะพยายามหาประสบการณ์เพิ่มเติม

คุณลงเล่นภายใต้ผู้จัดการทีมมาอย่างมากมาย แล้วผู้จัดการทีมคนใดที่อาจมีอิทธิพลในเรื่องของอาชีพผู้จัดการทีมของคุณมากที่สุด

ผมคิดว่า อาจจะเป็นการดูหมิ่นเล็กน้อย หากจะเลือกเพียงหนึ่งคน ผมต้องการที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆ อย่างละเล็กละน้อยจากทุกคน ทั้งเรื่องดี และไม่ดี เพราะผมคิดว่า คุณสามารถเรียนรู้มากมายจากผู้จัดการทีมบางคน ที่คุณเคยมีความเห็นที่แตกต่างเล็กน้อย หรือวิธีที่พวกเขารับมือกับบางสถานการณ์ที่คุณรู้สึกว่า คุณจะทำในวิธีที่ต่างออกไป

ราฟา เบนิเตซ เป็นโค้ชที่มีแท็กติกดีที่สุดที่ผมได้ทำงานด้วย แต่ผมคิดว่า คุณต้องทำในวิธีการของคุณ ในวิธีที่คุณมองไปที่เกม และเรื่องทั่วไปที่คุณจะใช้ประสบการณ์ของคุณในฐานะนักเตะ และจากผู้คนที่คุณได้เรียนรู้มา เพื่อมาปรับใช้ในวิถีทางของคุณเอง

นักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่คุณเคยเล่นด้วย

หลุยส์ ซัวเรซ เขาเหนือชั้นกว่าคนอื่น เขายอดเยี่ยมมาก

ในอนาคตข้างหน้า คุณจะกลับมาอยู่ที่นี่ไหม

ผมกำลังจะกลับไปอยู่กับครอบครัวของผม ในลิเวอร์พูล

มันน่าผิดหวัง ที่คุณต้องเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดในอาชีพของคุณ และไม่อาจทำมันต่อไปได้อีกแล้ว ใช่ไหม

มาก!

มันยากมากไหม ที่จะตัดสินใจสิ้นสุดอาชีพไว้แค่นี้

แน่นอนครับ เพราะอย่างที่ผมบอกไปว่า ผมอยากจะมีอีกหลายเกมให้ลงเล่นในอนาคต แต่ผมกำลังจะพลาดมันไป มันไม่ใช่ว่า ผมยอมจำนน และไม่สามารถไปต่อได้ และผมยังสามารถเล่นได้ในระดับหนึ่ง แต่ระดับที่ผมอยากจะเล่น มันคือระดับสูงที่สุด ผมชอบที่จะเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา และผมไม่ชอบทำให้ใครผิดหวัง ดังนั้น ก่อนที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้น ผมคิดว่า มันถึงเวลาที่ควรจะยุติแล้ว

สตีเวน เจอร์ราร์ด จะทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์เกมพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ทางบีที สปอร์ต