[SR] ฉันวิ่ง 9 ชม. พิชิตยอดเขาเทวดาด้วย 2 เท้า ระยะที่มากกว่ามาราธอน (56 กิโลเมตร)

กระทู้รีวิว

มาราธอน วิ่ง เดินป่า นักกีฬา เที่ยวภูเขา

สวัสดีค่ะ

เพื่อน ๆ ไม่ได้เจอกันนาน อาจเป็นเพราะมีเวลามาเขียนกระทู้ ปีละครั้ง

สำหรับกระทู้นี้ จะมาเล่าประสบการณ์สดๆร้อนๆการวิ่งเทรลระยะทางไกลๆ มากๆ ที่เราต้องเจอทั้งเนินชั้น อากาศร้อน แดด ทางขึ้นเขาสุดโหด ร่องน้ำ โคลนลื่น
ที่สำคัญ !!! ไม่ใช่การเดิน แต่ต้องวิ่งขึ้นไปค่ะ เพราะงานวิ่งเทรลจะมีเวลา cutoff ถ้าเราไปไม่ทันเวลาที่เขากำหนดไว้ จะ DNF (Did not finish) ทันที

ถามว่าทำไมต้องมาวิ่งเทรล ???
โดยปกติถ้าชอบเที่ยวอยู่แล้วและอยากออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง กิจกรรมที่เหมาะที่สุดคงไม่พ้น "การวิ่งเทรล" ค่ะ

การวิ่งเทรลมีจุดท้าทายหลายๆอย่างที่มีเสน่ห์ กว่าการวิ่งถนนทั่วไป
ตรงที่ เราต้องจัดการกับตัวเอง วางแผนให้ดี แก้ไขปัญหาสถานการณ์ ที่เราเจอให้ได้ตลอดรอดฝั่ง จนถึงเส้นชัย
ไม่ใช่สักแต่วิ่งๆไปแต่เราต้องจัดการเติมน้ำ อาหาร ให้กับตัวเองอย่างเพียงพอ และเหมาะสม
เราไม่สามารถเติมน้ำมันครั้งเดียวทีเดียวให้เต็มถังเหมือนรถยนต์ แต่ต้องค่อยๆเติม ทั้งอาหาร พลังงาน การให้กำลังใจตัวเองจนถึงเส้นชัย
ถ้าวางแผนผิดนิดเดียว ไม่ว่าเราฟิต ผ่านมาหลายมาราธอนแค่ไหน ก็จอดได้ง่ายๆ

มาเริ่มกันเลยนะคะ

งานวิ่ง Active Run พุเตย Trails
งานนี้นักวิ่งจะออกตัวจากจุดสตาร์ทที่ทำการอุทยานเเห่งชาติพุเตย วิ่งเข้าป่าไปตามเส้นทางหมู่บ้านตะเพินคี่ เพื่อพิชิตยอดเขาเทวดา จากระดับน้ำทะเล1100m. เราจะวิ่งลุยดินลูกรัง ลัดเลาะตามเส้นทางในหุบเขามาเรื่อยๆ ผ่านน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ในป่าดิบ และ หมู่บ้านตะเพินคี่ ผ่านสวนไร่นาการเกษตรขึ้นสู่ยอดเขาเทวดา ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ ชมวิวที่สวยงาม จากจุดนี้สามารถมองเห็น3เขตจังหวัดในภาคกลางของไทย ได้แก่ สุพรรณบุรี กาญจนบุรีเเละอุทัยธานี

ดูแผนที่วางแผนกันนิดนึง

gain น่ากลัวมากค่ะ ดูวิวดีกว่าค่ะ จะได้มีกำลังใจ

หลังจากที่สมัครเรียบร้อยแล้ว ก็ซ้อมรอเลย
มีทั้งซ้อมวิ่ง และ เน้นสร้างกล้ามเนื้อนะคะ เพราะการขึ้นเขาใช้เยอะมาก ร่างกายต้องพร้อม

มีอุปสรรคนิดหน่อยเพราะงานเลื่อนจาก 23 ตค มา 13 พย
ทำให้ตารางคลาดเคลื่อน แต่ก็พร้อมลุยค่ะ

ก่อนวันแข่ง เดินทางมารับบิบ เดินทางจาก กทม 4 ชม

หลังขากนั้นโหลดคาร์โบให้มากที่สุดค่ะ (เรื่องนี้ถนัด

)

ก่อนพักผ่อน จัดเตรียมอุปกรณ์ไว้ก่อน เยอะนิดนึงนะคะ ^ ^

เทรลนี้ค่อนข้างหิน นอกจากขนมเสบียงที่เพียงพอตลอดระยะทาง ผู้จัดจะบังคับเป้น้ำ จุขั้นต่ำ 1.5 ลิตร และนกหวีดกันฉุกเฉิน  และที่แนะนำเป็นพิเศษคือ ถุงมือสำหรับไต่เขา ยังไงน้า นึกภาพไม่ออกเลยค่ะ เตรียมไปไว้ก่อน กันฉุกเฉิน ยู้พก ยูนิเรน สเปรย์ แก้อาการปวด ไปด้วย และที่สำคัญกลิ่นหอม มากค่ะ สาวสาวอย่างเราปลื้ม อย่าลืมใส่รองเท้าสำหรับวิ่งเทรลนะคะ เพราะรองเท้าธรรมดาวิ่งไม่ได้ค่ะ ลื่น บาดเจ็บแน่ๆ เวลาเจอหินกรวด โคลนลื่นๆ
 เตรียมอุปกรณ์เรียบร้อย ... เอาหล่ะ !!! ถึงเวลาพักผ่อนให้มากที่สุดก่อนการแข่งขันนะคะ เพราะเราตื่นตั้งแต่ตีสามกันเลย เพราะจากที่พักไปสนามใช้เวลาอีก ครึ่ง ชม  งานใกล้เริ่มแล้วค่ะ ออกตัว 5:30 น มาอยู่หน้าเส้นเลย จะได้มีภาพสวยๆ

เสียงสตาร์ทดัง ทุกคนก็เริ่มวิ่งกันไม่หยุดเป็นพลังที่น่าตื่นเต้นมากๆค่ะ
ออกจากจุด start เราวิ่งไปเรื่อยๆ เพช 5 นิดๆ เป็นเนินซึมๆ แต่อากาศยังเย็นสบาย วิ่งได้เรื่อยๆแบบไม่หยุดพัก จนถึงกิโลเมตรที่ 12 จะเริ่มเข้าป่าค่ะ ทางงานจะมีจุดให้เปลี่ยนรองเท้าที่เราฝากไว้ตั้งแต่รับบิบ หากเราต้องการ
เข้าป่ามานิดเดียว เหงื่อขนาดนี้แล้วววว จะไหวไหม

โชคดีรอบนี้มีพี่นักวิ่งมาวิ่งด้วยกันค่ะ ไม่เหงาแล้วววว

ช่วงแรกๆ ได้วิ่ง enjoy กับธรรมชาติอากาศกำลังดี happy สุดๆ
เจอวิวทะเลหมอกก่อนทางขึ้นยอดเขาเทวดาอีกค่ะ

ทางงานจะมีป้ายบอกเป็นระยะๆ กิโลเมตรที่ 20

วิ่งไต่ความชันไปเรื่อยๆจนถึงจุดไต่ยอดเขาเทวดาที่กิโลเมตรที่ 28

เย้ !!! ถึงแล้ววว พาพันไฟท์ติ้ง

หลังจากนั้น นรกมีจริงค่ะ ไต่เขาจริงๆ ชันมาก ต้องหยิบถุงมือออกมาไต่เชือกค่ะเดี๋ยวเชือกบาด ลื่นมากด้วย

ระหว่างที่ไต่ๆกันอยู่มีเพื่อนนักวิ่งลื่นล้ม พอล้มไปตะคริวค่ะ นักวิ่งหลายๆคนหยุดมาช่วยกัน น่ารักมากๆ

โชคดียู้พก สเปรย์ มา เลยเอามาพ่นให้เขา ปรากฏว่าเขาเลยวิ่งต่อได้จนจบ

ตอนขาขึ้น ไต่ประมาณเกือบโล หลายๆคนต้องพักระหว่างทาง เพราะมันชันมาก เหนื่อยสุดๆ นักวิ่งที่สวนทางมา ต่างให้กำลังใจว่า ใกล้แล้วๆ 555
แต่พอถึงยอดเท่านั้น หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ค่ะ

คลิปวีดีโอ มีนักวิ่งข้างบนแบ่งซาลาเปาให้ทานด้วยค่ะ น่ารักมาก โห ช่วยชีวิตเลย

หลังจากที่enjoyวิวกับความสำเร็จ พร้อมโหลดเรียบร้อย ลืมไปว่ายังไม่สำเร็จค่ะ มาแค่ครึ่งทางเท่านั้น
ตอนลงจากเขาเทวดา ลื่นมาก ต้องไต่เชือกกโหนกันเป็นลิงเลยค่ะ ยู้ก้นจ้ำเบ้า ลิ่นไป 3-4 หน ดีนะเกาะเชือกอยู่ไม่งั้นลื่นไถลเจ็บน่าดูเลยค่ะ ต้องระมัดระวังอย่างสุดๆอีกเกือบโล
หลังจากนั้นเราต้องไปต่ออีก 36 กิโลเมตร แม่เจ้า !!!
วิ่งผ่านสวนไร่นา เริ่มร้อนแล้วววว
ลงเขาเทวดามา โหนเชือกกันเป็นลิง ก็มานวดเนินกันต่อค่ะ

วิ่ง ๆๆๆๆ

จึงจุดกลับตัว จะมีอาหาร ให้โหลดค่ะ ช่วงนี้มีความสุขมากจริงๆ

เข้าห้องน้ำ เติมน้ำลงเป้น้ำ แล้วไปต่อเลยค่ะ
ทางลงเขาทางเทรลจะดูเหมือนไม่เหนื่อยมาก แต่มีทั้งโคลนลื่น ก้อนกิน กรวดแหลม ๆ ทิ้มเท้าเราซะสะบักสะบอม เข่ากระแทกเป็นระยะ ๆ
นักวิ่งส่วนมากจะเจ็บก็ตรงทางลงเขานี้แหล่ะค่ะ

ยู้วิ่งไปเรื่อยๆ จนวินาทีหลังระยะมาราธอน ประมาณ กิโลเมตรที่ 40 อาการเริ่มแย่ค่ะ ที่เท้าหยุดเปลี่ยนถุงเท้ากลางทาง มันเปียกไปหมด ทั้งเหงื่อทั้งลำธารที่ข้าม

อากาศที่ร้อนอบอ้าวตอนเที่ยง ทำให้เราวิ่งเหนื่อยกว่าปกติทวีคูณ
กว่าจะพ้นออกจากป่าได้ มันช้างไกลมากเลยค่ะ

จนที่สุดเราก็ออกจากป่ามา ได้

เหลืออีกเพียง 13 กิโลเมตรที่แสนไกลที่สุดในชีวิต เพราะสภาพร่างกายที่ล้า อากาศที่ร้อนจัด พลังงานในเป้ที่เตรียมมาก็ร่อยหรอ
พลังใจมีมากกว่าพลังกายก็ตอนนี้

เราต้องวิ่งทางถนนแต่เต็มไปด้วยเนินอีกตะหาก

แต่ว่ามาถึงขนาดนี้แล้ว
ได้แต่บอกตัวเอง กับบอกบัดดี้ในใจ
ว่าขอแค่อย่ายอมแพ้ อย่าถอดใจ

.......
....
....
..
.

จนในที่สุด ....ฉันทำได้
หลังผ่านเส้นชัย เราได้ก้าวผ่านขีดจำกัดของตัวเอง
ความรู้สึกภูมิใจในตัวเองได้เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว

Finisher Phutoei Trail 56 K
ภาพหลังเข้าเส้นชัย พร้อมรับถ้วยอันดับ1 หญิง รุ่น

สิ่งที่ดีใจที่สุด ไม่ใช่ถ้วยรางวัลที่ได้
แต่ผลจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอมา 3 ปี รู้สึกเลยว่า "ร่างกายคนเรามหัศจรรย์"
จำได้ว่า หลังมาราธอนแรก พักอย่างต่ำ 3 วัน ทะเลาะกับบันไดเกือบตาย
แต่หลังเทรลพุเตยนี้ คิดหนักกว่ามาราธอนเกือบ 2 เท่า แต่เดินได้ปกติ
เป็นความรู้สึกประสบความสำเร็จสูงสุด คือ ร่างกายแข็งแรงขึ้น ฟิตขึ้น เฟิร์มขึ้น สวนทางกับอายุที่เพิ่มขึ้น
อยากส่งต่อกำลังใจให้ทุกคน

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนะคะ ^^
ติดตามเรื่องราวก่อนๆที่ ยู้เคยแชร์ไว้ได้ที่ https://web.facebook.com/LoveSportGirl/ ได้นะคะ
ส่วนมากจะเป็นเรื่องวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา เรื่องการออกกำลังกาย และเรื่องสุขภาพทั่วไป
แวะไปให้กำลังใจกันได้ค่ะ