☆♡☆~DIY: วิธีทำตัวอักษรและของตกแต่งจากกล่องพลาสติกใส่อาหาร(เลข๙ ไทย)

สวัสดีชาวพันทิปอีกครั้งค่ะ

        เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้โพสรูปงานประดิษฐ์ในกระทู้สนทนาห้องต้นไม้ เป็นรูปริบบิ้นไว้อาลัยที่มีตัวเลข ๙ ไทยติดอยู่  และมีเพื่อนสมาชิกสนใจ เลยตั้งใจทำกระทู้รีวิววิธีทำในวันนี้ค่ะ

        เดิมทีวิธีที่เราใช้ จะใช้เตาติ้ง หรือเตาอบไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้ปิ้ง อบ ย่างในครัวเรือน แต่นึกขึ้นได้ว่าถ้าบางคนไม่มีเตาแบบนี้ จะมีวิธีไหนที่ทำได้อีก  เราเลยทดลองทำในวิธีต่างๆมาให้ชม
        การประดิษฐ์ตัวเลขในครั้งนี้ เพราะเราและครอบครัวต้องไปร่วมงานอุปสมบทหลานชาย เราไม่แน่ใจว่าจะแต่งดำไปดีหรือเปล่า เลยตกลงว่าใส่ขาวและเทา และใช้ริบบิ้นติดเพื่อถวายความอาลัยให้ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ตามความตั้งใจของครอบครัวที่จะไว้ทุกข์ให้พระองค์ท่าน
และเลข๙ ที่ขายก็ยังไม่ถูกใจเรา เราอยากได้ฟ้อนท์ที่ชอบ  อีกอย่างเราไม่สามารถใช้วิธีตัดตัวอักษรขนาดที่เราต้องการได้เพราะนิ้วเราบาดเจ็บ วิธีนี้จะตัดในขนาดใหญ่แล้วอบให้หด ซึ่งเราสามารถทำได้ เลยเลือกค่ะ

        เรามีอุปกรณ์ประดิษฐ์ต่างๆค่อนข้างพร้อม และมีของเหลือใช้อยู่มาก หากใครจะทำตามแล้วซื้อของทุกอย่างเราก็ไม่แนะนำนะคะ มันจะสิ้นเปลืองเกินไป ไปซื้อที่เขาขายดีกว่าค่ะ

        อุปกรณ์เฉพาะการทำตัวอักษร
●พลาสติกเบอร์ 6 จากบรรจุภัณฑ์อาหารที่จะทิ้ง สังเกตสัญลักษณ์ เลข 6 ในกรอบสามเหลี่ยมที่ตัวกล่อง หรือลองบีบมันจะดังกรอบแกรบ ( ถ้าไม่ชัวร์ลองตัดนิดนึงไปอังไฟถ้าหดตัวอย่างเร็ว และแข็งตัวเป็นชิ้นหนาเมื่อเย็น ใช้ได้ค่ะ)
●ปากกา สีเมจิก ไว้ลอกลาย
●มีด กรรไกร
●คีมใช้หนีบชิ้นงาน
●กระดาษไข เพื่อรองชิ้นงานไม่ให้ติดเตา (กระดาษขาวธรรมดาก็ได้ค่ะ แต่จะติดชิ้นงาน เดี๋ยวมีวิธีลอกออก)
●กระดาษทราย ตะไบสำหรับขัดแต่งขอบ
●สีทาชิ้นงาน ในที่นี้เราใช้สีสเปรย์กระป๋องสำหรับสีเงิน ,สีทองจากยาทาเล็บ สามารถใช้ปากกาเพนท์อื่นๆได้
ยาทาเล็บมีตั้งแต่ 10 กว่าบาท  ปากกาเคมีแท่งนึง80-100 (สีทอง สีบรอนซ์) สเปรย์กระป๋อง 50 อัพ
* เราแนะนำซื้อสีทาเล็บแบบถูก จะประหยัดกว่าหากทำแค่ไม่กี่ชิ้น แต่.. ส่วนตัวเราค่อนข้างถือเรื่องการเอายาทาเล็บที่ใช้แล้วมาทาบนชิ้นงานนี้ เพราะเราคิดว่าเป็นความมงคลกับเรา สีทาเล็บที่เราเอามาใช้เป็นสีที่ซื้อมาเฉพาะทำงานประดิษฐ์เท่านั้น (เราจะแยกระหว่างที่ใช้ทาเล็บเรากับงานประดิษฐ์เลย) บอกไว้ก่อนกลัวจะดราม่าค่ะ

วิธีทำ
1.ล้างทำความสะอาดกล่องพลาสติก เช็ดให้แห้งและตัดให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ
     พลาสติกจะหดตัวลงราวๆ 3-4 เท่าตัว วิธีเทสคือลองตัดขนาดเล็กๆก่อนแล้วนำไปอบ จะพอดูคร่าวๆได้ว่าต้องทำในขนาดไหน ที่เราทำขนาด4×4 ซม. หดเหลือ1.5×1.5 ซม.

     อีกประการที่ต้องระวังคือ หากพลาสติกมีทรงสี่เหลี่ยมที่ไม่เท่ากัน การหดตัวจะไม่เหมือนกันด้วย
เราเคยวางแบบตามแนวยาวในพลาสติกที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวอักษรก็หดด้านบนลงมาเป็นแนวออกด้านกว้าง แต่พอกลับแบบให้วางแนวขวาง มันจะหดตัวพอดีทุกด้านค่ะ
วิธีเทสคือ วาดตัวอักษรบนเศษเล็กๆก่อน แล้วลองอบดูจะพอรู้ว่า พลาสติกชิ้นนนั้นจะหดในแนวไหนค่ะ

2.ลอกแบบตัวอักษรลงบนแผ่นพลาสติก (เราวาดเลข๙ ไทยเองค่ะ ใช้ขนาด 4×4 ซม. จากการเทสพลาสติกแล้วว่าหดราวๆ3-4 เท่าตัว)
*หากทำงานประดิษฐ์ชิ้นอื่น แนะนำว่า การระบายสีในขั้นตอนนี้สามารถทำได้เลยนะคะ ลายที่มีความละเอียดมากๆให้ระวังเมื่อหดตัวจะชิดกันมากอาจจะดูไม่ออก แต่ถ้ากลัวเปลืองสีให้ทาทีหลังก็ได้ค่ะ

3.ตัดแบบที่ลอก ข้อควรระวัง แบบที่มีความละเอียด พยายามใช้ปลายกรรไกรหรือคัทเตอร์ตัดให้ขาด ห้ามดึงเด็ดขาด พลาสติกฉีกง่ายมากค่ะ


4.การอบ * คำเตือน ทำในที่อากาศถ่ายเท เปิดพัดลมให้พัดกลิ่นออกด้วยค่ะ เผื่อมือใหม่ชิ้นงานไหม้ จะได้ไม่มีสารเคมีที่อันตราย

   4.1 อบในเตาติ้ง อันนี้เอาของเก่ามาให้ดูนะคะ ตอนทำเลขเราไม่ได้ถ่ายไว้  ใช้กระดาษไขรองภาชนะก่อน เปิดเตาที่อุณหภูมิ 150-170 องศาc พอเริ่มร้อน นำชิ้นงานวางบนกระดาษแล้วเอาเข้าเตา  
ชิ้นงานจะหดตัวบิดในเวลาไม่กี่วินาที และคืนตัวแบนเรียบได้( ตอนมันหงิกงออย่าตกใจนะคะ ) พอไม่หดตัวอีกแล้วรีบดึงออกมาทั้งกระดาษ และเอาแผ่นไม้เรียบๆหรือวัสดุที่มีความเรียบ ลื่น กดให้ชิ้นงานเรียบ
  * ต้องกดตอนชิ้นงานร้อนอยู่นะคะ ไม่งั้นจะแตก ถ้ามีส่วนที่งอบิดไม่เรียบให้นำเอาเข้าไปใหม่ มันจะนิ่มลงและสามารถกดได้


  4.2 อบในกระทะ  ใช้แผ่นฟอยด์รองบนกระทะ ยกด้านข้างให้เป็นลักษณะกล่อง และเอากระดาษไข วางบนฟอยด์อีกที ตั้งกระทะให้ร้อน
เอาชิ้นงานวางลงไป แต่วิธีนี้ยุ่งยากมากค่ะ เพราะเป็นเตาแกส(กระดาษไหม้ด้วยตอนเปิดไฟ ) ถ้าเป็นเตาไฟฟ้าที่แบน อาจจะวางฟอยด์ได้เลย

อันนี้งานทดลองเฉยๆนะคะ ทำได้แต่ยยุ่งยากมา ยิ่งตอนเอาชิ้นงานออกมาต้องระวังทั้งฟอยด์ร้อน เทงานออกจากฟอยด์ ถ้าเป็นเตาไฟฟ้าอาจจะดีกว่า ใช้พัดลมเป่าได้


   4.3 ใช้ที่หนีบผมไฟฟ้า ( ใครมีปืนลมร้อนใช้ได้นะคะ แต่ชิ้นงานจะปลิว ต้องทำที่วางชิ้นงานดีๆ)
ตามรูปเลยค่ะ เอาชิ้นงานวางบนกระดาษแล้ววางบนที่หนีบ ห้ามหนีบนะคะกดอีกด้านให้จ่อๆชิ้นงาน มันจะบิด หดตัว วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะชิ้นงานขนาดเล็ก แถมถ้ามันไม่เรียบ ให้เอากระดาษห่อ หนีบให้ร้อนแล้วกดด้วยวัสดุเรียบๆได้เลย
แต่อย่ากดเยอะนะคะมันจะบี้แบน เราทดลองแล้ว


5. เมื่อชิ้นงานเย็น ให้แต่งขอบให้เรียบด้วยกระดาษทราย หรือตะไบละเอียด ( เรามีตะไบเล็บที่แถมมาเวลาไปนอนโรงแรมต่างๆ เลยได้ใช้เลย) และทาสี ทิ้งให้ชิ้นงานแห้งและนำไปติดตามที่ต้องการ




มาดูชิ้นงานที่ผิดพลาดนะคะ

บนซ้าย กดปรับความเรียบตอนชิ้นงานไม่ร้อนหรือนิ่มพอ ...หักค่ะ
วิธีแก้ หากชิ้นงานไม่เรียบเอาเข้าเตาและกดด้วยวัสดุเรียบตอนยังร้อนอยู่ อย่ากดแรงไป

หมายเลข1 วางบนกระดาษธรรมดา ปกติชิ้นงานหดตัวได้ขนาดหนึ่งจะมีความนิ่ม และหดจนถึงขีดจำกัด แต่หากเอากระดาษธรรมดารองมันจะติดกระดาษและไม่สามารถหดต่อได้อีก วิธีแก้คือ ดึงกระดาษออกมาและนำกลับไปอบเป็นระยะๆค่ะ กะว่านิ่ม ดึงออก มันเย็นก็จะไม่ติด แต่ถ้าติดพอเย็นตัวเอาไปแช่น้ำกระดาษจะเปื่อย  ชิ้นงานเราทาสีด้านหน้า ด้านหลังไม่สวยไม่เป็นไรค่ะ

หมายเลข 2. ชิ้นงานแบนเพราะใช้ที่หนีบผมหนีบเพื่อปรับความเรียบนานและแรงเกินไป

หมายเลข 3.การวางแบบในแนวหดตัวที่ไม่ถูกตัองค่ะ  ง่ายสุดคือพยายามหากล่องที่มันเป็น□ จตุรัส หรือวางแบบในแนวตั้งกับพลาสติกรูป□ ผืนผ้า
หรือเทสพลาสติกก่อน

หมายเลข4 ใช้ที่หนีบผม แต่ตัวอักษรมีความละเอียดเลยบิดตัวติดกัน พอใช้คีมแยกออกระหว่างยังมีความร้อนภายหลังก็ไม่สวยงาม
วิธีแก้คือหมายเลขสุดท้ายค่ะ ทำตัวซัพพอร์ตดึงชิ้นงานไม่ให้บิดม้วนติดกัน

แถมวิธีทำริบบิ้น
ตามรูปค่ะ เราใช้กาวติดผ้า แทนการเย็บ ใครจะเย็บก็ได้นะคะ ส่วนตัวเลขใช้กาวร้อน กาวติดผ้า ปืนกาวติด


วิธีที่เราทำนี้ สามารถใช้ประโยชน์อื่นๆได้อีกนะคะ เราใช้ทำเครื่องประดับ ของกระจุกกระจิกเอาไว้แต่งบ้านอื่นๆ ได้อีกค่ะ




ลองเอาประยุกต์ใช้ดูนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ
มีข้อเสนอแนะหรือใครที่เคยทำ มีวิธีง่ายกว่าเรา ก็แชร์ในคอมเมนท์ได้นะคะ

* *ขอสงวนสิทธิ์ข้อความรูปภาพในกระทู้นี้นะคะ  มิให้แชร์ คัดลอก หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้เป็นของตัวเองเพื่อแสวงหาผลกำไรจากทางใดทางหนึ่ง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเรา

อนึ่งเราได้ความรู้เหล่านี้มาฟรีๆและจากการทดลองทำด้วยตัวเอง  ดังนั้นจึงมีความประสงค์ที่จะเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจโดยไม่คิดมูลค่าเช่นกันค่ะ  หากผู้ที่แชร์กระทู้เราไปและได้ผลประโยชน์จากบทความนี้ เราขอความกรุณาท่าน"ให้" กลับคืนแก่สังคมด้วย จะเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดและบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราตั้งใจแต่เดิมค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่