สวัสดีชาวพันทิปทุกคนค่ะ ขอออกตัวก่อนนะคะว่านี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเลย ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เลยค่ะ ส่วนมากทำตัวเป็นผู้อ่านที่ดีมาตลอด แต่เนื่องจากว่าตอนนี้กำลังเจอปัญหาที่ค่อนข้างเป็นปัญหากับตัวเองและครอบครัวค่ะ และหลายคนอาจเคยพบเจอปัญหาคล้ายๆกันนี้ จึงอยากเอามาบอกกล่าวและขอความเห็นความช่วยเหลือจากเพื่อนๆชาวพันทิปค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ก่อนเลยนะคะ
ขออนุญาติเล่าเหตุการณ์ที่เจอก่อนนะคะ
ขอเล่าย้อนไปเมื่อสิ้นเดือนที่แล้วนะคะ ประมาณวันที่ 27 ตุลา แม่เราไปได้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนของดีแทคมาฟรีจากตลาดนัดไกลบ้าน ดีแทคมาตั้งบูธค่ะ แม่ก็ถือเครื่องฟรีนั้นกลับมา วันนั้นที่เราเข้าใจว่าแม่คงไปซื้อมาในราคาถูก คิดแค่ว่ามันเป็นโปรโมชั่นราคาถูกอะไรก็ว่าไป
แต่เมื่อ 2-3 วันก่อน (วันที่ 7 พย.) ด้วยความที่แม่ดิฉันเป็นคนแก่ทั่วๆไปที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ ท่านสงสัยว่าช่วงนี้ตัวเองไม่ได้เติมตังค์โทรศัพท์ ท่านเลยขอให้ดิฉันเช็คยอดเงินให้ ปรากฏว่ามันไม่สามารถเช็คยอดด้วย *101# ได้ตามปกติแล้ว ในข้อคามบอกว่าให้เช็คที่ *121# แทน ดิฉันทำตามและพบข้อความบอกประมาณว่าคุณมีค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระบิล 599 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(จริงๆ 620 เดาว่าน่าจะเป็นรวมภาษี) ตอนนั้นดิฉันตกใจมาก ว่าเบอร์แม่ไปมียอดค่าใช้จ่ายขนาดนั้นได้ยังไง ตอนนั้นคิดแค่ว่าแม่กดอะไรผิดหรือใครเอาโทรศัพท์แม่ไปเล่นหรือเปล่า แต่มาหาคำตอบเจอได้ว่าวันที่แม่ถือเครื่องฟรีนั้นกลับมาบ้านด้วยทางบูธได้ทำการเปลี่ยนเบอร์แม่ให้เป็นรายเดือนแล้ว ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบหรือกังวลอะไรมาก จนพี่ชายดิฉันไปหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเครื่องและแพคเกจนี้ พบว่ามันเป็นแพคเกจรายเดือน super non stop 599 บาท/เดือน ที่ตอนนี้เป็นโปรโมชั่นพร้อมเครื่องฟรี แต่คุณจะต้องใช้แพคเกจนี้เป็นระยะเวลา 1 ปี !!!!!!!!!!
**ขอบอกก่อนนะคะว่า วันที่ได้เครื่องมาพี่ชายเราเอาเครื่องไปใช้ส่วนเบอร์แม่ยังใช้กับเครื่อง 2G ธรรมดา เพราะท่านใช้แค่โทรเข้าออก แต่ตอนนี้เบอร์มันถูกเปลี่ยนเป็นรายเดือนพร้อมแพคเกจเน็ตที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย แม่ไม่เล่นเน็ตอยู่แล้วเพราะท่านใช้เป็นแค่โทรเข้าออก
ตอนเกิดเรื่องขอบอกว่ารู้สึกแย่เลยค่ะ เพราะเราไม่โอเคกับราคาแพคเกจจริงๆ เนื่องจากทางบ้านเราฐานะค่อนข้างไม่ดี ไม่ได้มีเงินมากมายเพื่อมาจ่ายทุกเดือน 620 บาท แถมจ่ายเปล่าโดยไม่ได้ใช้งาน จึงต้องการที่จะ
ยกเลิกแพคเกจ
คืนนั้นเครียดมากค่ะ พยายามคิดกับพี่ชายว่าจะเอายังไงบ้านเราไม่ได้มีเงินเพื่อจ่ายค่าโทรศัพท์มากขนาดนั้น ก็ตัดสินใจได้ว่าพรุ่งนี้จะลองไปคุยกับศูนย์ใกล้บ้านว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
วันรุ่งขี้น วันที่ 8 พย. ไปคุยกับทางศูนย์ดีแทคใกล้บ้าน ตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกแย่มากๆค่ะ ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาในหัวมากมายทั้งเขาจะคิดค่าเสียหายเท่าไหร่ ทำไมแม่ถึงยอมเอาอะไรมาง่ายๆ ตอนนั้นพูดกับแม่ไปร้องไห้ไปว่า
ของฟรีมันไม่มีในโลก
พอถึงศูนย์พยายามจะเก็บอาการแย่ๆทั้งหมดแล้วถามเขาว่าเราสามารถทำอะไรได้ไหม เพราะแม่เอามาโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ขนาดโดนเปลี่ยนเป็นรายเดือนแม่ยังไม่เข้าใจ พนักงานถามว่าเอามาจากศูนย์ไหนให้ไปถามศูนย์นั้น ด้วยที่ความว่าเรารู้อยู้แล้วว่ายังไงแม่ก็ไม่รู้แน่ๆ เขาเลยบอกให้เราไปศูนย์ใหญ่ เราโอเคเดินออกมา ยอมรับรู้สึกแย่เพิ่มขึ้นอีก
กลับบ้านมาเราโทรหาคอลเซ็นเตอร์ เพื่อจะสอบถามว่ามันทำอะไรได้มั้ย ตอนนั้นเรายินดีที่จะจ่ายบิลของรอบนี้และค่าเสียหายอื่นได้อีกเล็กน้อย ทำไงก็ได้ให้เรื่องนี้จบ พอเราบอกรายละเอียดกับทาง cc ทางนั้นบอกแค่ว่ามันไม่สามารถยกเลิกได้ จนกว่าจะครบ 12 รอบบิล เราก็บอกตรงๆว่าแม่ไม่ได้ใช้เน็ตเลย และเราก็หาเงินมาจ่ายแบบนี้ทุกเดือนไม่ไหว ทาง cc ก็บอกกับเราว่า แต่มันสามารถโทรฟรีได้ 600 นาทีเลยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือพี่คะ หนูรู้สึกใจชื้นขึ้นมากเลยมันดีจังเลยค่ะ โทรฟรีตั้ง 600 นาทีแน่ะ.. นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ เราอยากยกเลิก เราไม่ได้ประโยชน์จากตรงนี้เลย แล้วยังต้องมาจ่ายค่าเน็ตที่เกินตัวขนาดนี้ เราก็บอกแค่ว่าต้องการจะยกเลิกได้มั้ย ทาง cc ก็ให้เราไปติดต่อที่ศูนย์ใหญ่
วันนั้นจนนี้เราพยายามหาทางติดต่อกับดีแทคทุกช่องทาง เราก็บอกรายละเอียดที่กล่าวมาไป
สิ่งที่เราต้องการคือยกเลิกแพคเกจนี้และเปลี่ยนเบอร์ให้เป็นเติมเงินเหมือนเดิม เรายินดีที่จะจ่ายค่าบิลรอบนี้ให้ หรือจะให้เอาเครื่องไปคืนหรืออะไร เราบอกเขาไป เราแค่ต้องการยกเลิกแพคนี้และเบอร์ที่เป็นรายเดือนเราไม่โอเคจริงๆ ตอนนั้นเราคิดได้แค่ว่าเราจะหาเงินจากไหนมาจ่ายให้เขาทุกเดือน เราอยากยกเลิก
จนเราได้การตอบกลับทางเมล์จากศูนย์บริการว่าเราสามารถยกเลิกได้แต่เราต้องจ่ายค่าเครื่อง เพราะไม่มีนโยบายเอาเครื่องคืน และอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่ม (เดาว่าค่าบิลรอบนี้) ตอนนี้เรายอมหมดอะไรก็ได้เรายอมจ่ายค่าเครื่องหรือค่าบิลรอบนี้ แต่เราขอยกเลิกแพคเกจ และยกเลิกเบอร์แบบรายเดือน ตอนนั้นใจชื้นขึ้นจริงๆ คิดแค่ว่าเราผิดทีเราเอาของเขามาแล้ว ก็ต้องยอมที่จะจ่ายสามพันกว่าบาทค่าเครื่องกับบิลรอบนี้ ตอนนี้คิดแค่ว่าต้องหาเงินสามพันให้ได้ แต่ก่อนที่จะคิดถึงเราตอบกลับเมล์นั้นไปว่าเราสามารถไปชำระได้ที่ไหน ดีใจไม่ทันได้ถึงชั่วโมงทางดีแทคตอบกลับมาว่า "คุณไม่สามารถยกเลิกบริการได้นะคะ แต่ต้องใช้บริการให้ครบ 90 วันในกรณีที่จ่ายค่าเครื่องแล้ว แต่ท่านสามารถเปลี่ยนโปรเป็นโปรที่ถูกลงได้"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เอิ่บ..
เถอะค่ะ ต้องเสียค่าโทรศัพท์แล้วยังต้องมาจ่ายค่าเน็ตทีไม่ได้ใช้ตลอดสามเดือนโดยที่ไม่มีหลักประกันว่าหลังจากนี้จะไม่ดึงเช็งอะไรเราอีก หลังจากนี้ก็ตอบกลับกันไปมาอีกสองสามเมล์ค่ะ ว่ายังไง เราพยายามมากเลยที่จะไม่พ่นคำหยาบหรือกิริยาที่ดูไม่ดีออกไป แต่ยอมรับว่าตอนนั้นอารมณ์ขึ้นมากน้ำตาไหลตลอดเวลาพิมพ์ เนื่องจากเราก็ไม่ชอบที่จะมีปัญหากับใครอะไรพอยอมไหวก็ยอม แต่เรื่องครั้งนี้เรารู้สึกว่าเกินตัวเราไป ค่าใช้จ่ายที่งอกเงยแต่กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ตอนนี้สิ่งที่เรากำลังคิดคือ
- ทางศูนย์บริการหรือพนักงานที่ให้การบริการสามารถทำอะไรได้บ้างคะ ศูนย์ย่อย หรือคอลเซ็นเตอร์มีไว้ทำไมคะ ในเมื่อสุดท้ายอะไรๆก็โบ้ยให้ไปศูนย์ใหญ่
- พนักงานระดับไหนถึงจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับหลายๆเรื่อง หรือเรื่องที่เป็นปัญหาแบบนี้ได้คะ ต้องการคนที่คุยได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และช่วยเหลือเราได้ค่ะ
- ศูนย์บริการมีไว้ช่วยเหลือลูกค้าหรือเปล่าคะ หรือมีไว้ทำอะไร
- ถ้าเรื่องทั้งหมดต้องยื่นเรื่องหรือติดต่อกับแค่ศูนย์ใหญ่จะมีศูนย์อื่นๆไว้ทำไมคะ
- ในกรณีของเรา เรายอมที่จะซื้อเครื่องแล้วทำไมถึงยังต้องใช้บริการแบบรายเดือนต่ออีกถึง 3 เดือน ในเมื่อครั้งแรกคุณบอกว่า สามารถยกเลิกได้ พร้อมจ่ายค่าเครื่อง
- ทางศูนย์บริการที่ตอบกลับเราในเมล์บอกขอโทษในความไม่สะดวกตลอด จะรับเรื่องเพื่อไปเป็นการปรับปรุง จริงหรือเปล่าคะ?
- คุณบอกว่าถ้าจ่ายค่าเครื่องแล้วคุณลูกค้าสามารถเปลี่ยนแพคให้ถูกลงได้ มันจะต่างกันยังไงคะถ้าดิฉันจะต้องใช้ต่อโดยไม่จ่ายเครื่องแล้วใช้ไปตลอด 1 ปี
- คุณกำลังทำทุกวิถีทางเลยใช่มั้ยคะ ที่จะให้ดิฉันจ่ายให้ใกล้เคียงราคาปกติมากที่สุด ถ้าดิฉันมีเงินมากขนาดนั้นดิฉันจะร้องเรียนไปให้เสียเวลาหรอคะ
- ดิฉันสู้คุณไม่ไหวในทุกๆเรื่อง ถ้าคุณไม่ยอมให้ยกเลิกฉันทำอะไรได้หรอคะ
- ไหนว่าศูนย์บริการสามรถช่วยเหลือได้คะ
กับสิ่งที่อยากจะบอกและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆนะคะ
- ใครเคยเจอเรื่องคล้ายๆแบบนี้บ้างคะ แล้วจัดการยังไง หรือยอมๆปล่อยมันไป เราอยากยอมนะ แต่ระยะเวลา 1 ปีมันนานไปอ่ะ
- ใครพอมีความรู้หรือมีแนวทางแก้ไขที่ดีๆได้บ้างคะ
- เราสามารถร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลืออะไรจากเรื่องนี้ได้บ้างหรือเปล่าคะ
- เรายอมรับในส่วนของตัวเองมากนะคะ เพราะหนึ่งเราก็ผิดที่เอาของเขามาแล้ว มันผิดที่แม่เรารู้น้อยเกินไปจนไม่ทันการตลาดขององค์กรณ์ใหญ่ๆได้
- เราแค่อยากแนะนำว่าเราเข้าใจในส่วนของเขาที่ต้องการจะขายของ เพราะเราก็ครอบครัวค้าขายเช่นกัน แต่เราแค่อยากให้เขาคิดนิดนึงว่าการที่เขามาตั้งบูธตามตลาดนั้นกลุ่มเป้าหมายที่เขาต้องการมันอาจจะน้อยมาก เพราะส่วนมากก็แค่แม่ๆป้าๆที่ไปซื้อของมาทำกับข้าวกินที่บ้าน
- การที่มีป้าคนนึงเดินเข้าไปหา ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถรับข้อมูลที่คนขายจะให้ได้หมด และสิ่งที่คุณทำคือให้โทรศัพท์แกมาฟรีๆมาเครื่องนึงแล้วบอกแกว่าแกมีสิทธิ์ แกคิดอะไรไม่ทันหรอกค่ะ แกก็แค่ดีใจที่ได้ของฟรี
- การที่คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายๆมันดีค่ะแต่คุณก็ควรที่จะให้ลูกค้าเข้าถึงคุณง่ายๆด้วยเช่นกัน
- ถ้าศูนย์ใกล้บ้านหรืออะไรก็แล้วแต่ถ้ามันไม่สามารถช่วยอะไรลูกค้าได้ ก็ปิดๆไปเถอะค่ะ ลูกค้าจะได้รู้ว่ามีปัญหาอะไรศูนย์ใหญ่ช่วยได้มากกว่า
- หากจะมีโปรโมชั่นแบบนี้ มีบอกแยกสำหรับคนไม่เอาโปรด้วยก็ดีนะคะ บอกไปเลยตัวเครื่อง 2490 บาท
- หากป้าแก่ๆคนอื่นเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อสาร บอกเขาเป็นภาษาชาวบ้านไปเลยค่ะ "อ่อป้า มันได้เครื่องฟรีนะ แต่ป้าต้องจ่ายเดือนละ 600 1 ปีอ่ะป้า ก็ประมาณ 7000 กว่าบาท" พูดไปเลยค่ะ ป้าแกเข้าใจ ไม่ใช่ไปบอกแกมีสิทธิ์แล้วให้แกมาแบบมึนๆ หรือไม่ก็ถามแกมากับใครพาลูกมาด้วยมั้ยก็ว่าไปเนาะ หรือถ้ามันกลัวขายไม่ออกขนาดนั้นไม่ต้องทำมาเนาะ มีจรรญาบรรณนิดนึงเนาะ
เริ่มจะยาวเกินไปแล้ว ใครพอมีข้อมูลหรือมันสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้รบกวนด้วยนะคะ ตอนนี้ค่อนข้างเหนื่อยกับการที่มาตามเรื่องที่หนทางดูริบหรี่มากกกกกกก เราก็ไม่มีความรู้ทางนี้มากนัก เราก็เป็นลูกค้าค่ายนี้มาทั้งชีวิตที่เราใช้เพราะเข้าถีงได้กับหลายๆอย่าง แต่พอเกิดเรื่องครั้งนี้ทำให้เราอยากคิดใหม่ จริงๆเราอยากแทรกรูปที่คุยกับทางศูนย์ด้วยแต่มันแทรกไม่ได้อ่ะ อีกอย่างหลายคำพูดบางอย่างของเราอาจดูไม่เหมาะสม หรือส่วนตรงไหนที่มีการกำกวม ขอโทษไว้ก่อนเลย คิดได้ก็พิมพ์เลย พยายามประมวลคำพูดได้เท่าที่จะทำได้แล้ว รบกวนทุกคนด้วยนะคะ
เมื่อแม่ฉันได้โทรศัพท์ดีแทคมาฟรี..
ขออนุญาติเล่าเหตุการณ์ที่เจอก่อนนะคะ
ขอเล่าย้อนไปเมื่อสิ้นเดือนที่แล้วนะคะ ประมาณวันที่ 27 ตุลา แม่เราไปได้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนของดีแทคมาฟรีจากตลาดนัดไกลบ้าน ดีแทคมาตั้งบูธค่ะ แม่ก็ถือเครื่องฟรีนั้นกลับมา วันนั้นที่เราเข้าใจว่าแม่คงไปซื้อมาในราคาถูก คิดแค่ว่ามันเป็นโปรโมชั่นราคาถูกอะไรก็ว่าไป
แต่เมื่อ 2-3 วันก่อน (วันที่ 7 พย.) ด้วยความที่แม่ดิฉันเป็นคนแก่ทั่วๆไปที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ ท่านสงสัยว่าช่วงนี้ตัวเองไม่ได้เติมตังค์โทรศัพท์ ท่านเลยขอให้ดิฉันเช็คยอดเงินให้ ปรากฏว่ามันไม่สามารถเช็คยอดด้วย *101# ได้ตามปกติแล้ว ในข้อคามบอกว่าให้เช็คที่ *121# แทน ดิฉันทำตามและพบข้อความบอกประมาณว่าคุณมีค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระบิล 599 บาท [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ตอนนั้นดิฉันตกใจมาก ว่าเบอร์แม่ไปมียอดค่าใช้จ่ายขนาดนั้นได้ยังไง ตอนนั้นคิดแค่ว่าแม่กดอะไรผิดหรือใครเอาโทรศัพท์แม่ไปเล่นหรือเปล่า แต่มาหาคำตอบเจอได้ว่าวันที่แม่ถือเครื่องฟรีนั้นกลับมาบ้านด้วยทางบูธได้ทำการเปลี่ยนเบอร์แม่ให้เป็นรายเดือนแล้ว ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบหรือกังวลอะไรมาก จนพี่ชายดิฉันไปหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเครื่องและแพคเกจนี้ พบว่ามันเป็นแพคเกจรายเดือน super non stop 599 บาท/เดือน ที่ตอนนี้เป็นโปรโมชั่นพร้อมเครื่องฟรี แต่คุณจะต้องใช้แพคเกจนี้เป็นระยะเวลา 1 ปี !!!!!!!!!!
**ขอบอกก่อนนะคะว่า วันที่ได้เครื่องมาพี่ชายเราเอาเครื่องไปใช้ส่วนเบอร์แม่ยังใช้กับเครื่อง 2G ธรรมดา เพราะท่านใช้แค่โทรเข้าออก แต่ตอนนี้เบอร์มันถูกเปลี่ยนเป็นรายเดือนพร้อมแพคเกจเน็ตที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย แม่ไม่เล่นเน็ตอยู่แล้วเพราะท่านใช้เป็นแค่โทรเข้าออก
ตอนเกิดเรื่องขอบอกว่ารู้สึกแย่เลยค่ะ เพราะเราไม่โอเคกับราคาแพคเกจจริงๆ เนื่องจากทางบ้านเราฐานะค่อนข้างไม่ดี ไม่ได้มีเงินมากมายเพื่อมาจ่ายทุกเดือน 620 บาท แถมจ่ายเปล่าโดยไม่ได้ใช้งาน จึงต้องการที่จะยกเลิกแพคเกจ
คืนนั้นเครียดมากค่ะ พยายามคิดกับพี่ชายว่าจะเอายังไงบ้านเราไม่ได้มีเงินเพื่อจ่ายค่าโทรศัพท์มากขนาดนั้น ก็ตัดสินใจได้ว่าพรุ่งนี้จะลองไปคุยกับศูนย์ใกล้บ้านว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
วันรุ่งขี้น วันที่ 8 พย. ไปคุยกับทางศูนย์ดีแทคใกล้บ้าน ตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกแย่มากๆค่ะ ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาในหัวมากมายทั้งเขาจะคิดค่าเสียหายเท่าไหร่ ทำไมแม่ถึงยอมเอาอะไรมาง่ายๆ ตอนนั้นพูดกับแม่ไปร้องไห้ไปว่า ของฟรีมันไม่มีในโลก
พอถึงศูนย์พยายามจะเก็บอาการแย่ๆทั้งหมดแล้วถามเขาว่าเราสามารถทำอะไรได้ไหม เพราะแม่เอามาโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ขนาดโดนเปลี่ยนเป็นรายเดือนแม่ยังไม่เข้าใจ พนักงานถามว่าเอามาจากศูนย์ไหนให้ไปถามศูนย์นั้น ด้วยที่ความว่าเรารู้อยู้แล้วว่ายังไงแม่ก็ไม่รู้แน่ๆ เขาเลยบอกให้เราไปศูนย์ใหญ่ เราโอเคเดินออกมา ยอมรับรู้สึกแย่เพิ่มขึ้นอีก
กลับบ้านมาเราโทรหาคอลเซ็นเตอร์ เพื่อจะสอบถามว่ามันทำอะไรได้มั้ย ตอนนั้นเรายินดีที่จะจ่ายบิลของรอบนี้และค่าเสียหายอื่นได้อีกเล็กน้อย ทำไงก็ได้ให้เรื่องนี้จบ พอเราบอกรายละเอียดกับทาง cc ทางนั้นบอกแค่ว่ามันไม่สามารถยกเลิกได้ จนกว่าจะครบ 12 รอบบิล เราก็บอกตรงๆว่าแม่ไม่ได้ใช้เน็ตเลย และเราก็หาเงินมาจ่ายแบบนี้ทุกเดือนไม่ไหว ทาง cc ก็บอกกับเราว่า แต่มันสามารถโทรฟรีได้ 600 นาทีเลยนะคะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เราก็บอกแค่ว่าต้องการจะยกเลิกได้มั้ย ทาง cc ก็ให้เราไปติดต่อที่ศูนย์ใหญ่
วันนั้นจนนี้เราพยายามหาทางติดต่อกับดีแทคทุกช่องทาง เราก็บอกรายละเอียดที่กล่าวมาไป สิ่งที่เราต้องการคือยกเลิกแพคเกจนี้และเปลี่ยนเบอร์ให้เป็นเติมเงินเหมือนเดิม เรายินดีที่จะจ่ายค่าบิลรอบนี้ให้ หรือจะให้เอาเครื่องไปคืนหรืออะไร เราบอกเขาไป เราแค่ต้องการยกเลิกแพคนี้และเบอร์ที่เป็นรายเดือนเราไม่โอเคจริงๆ ตอนนั้นเราคิดได้แค่ว่าเราจะหาเงินจากไหนมาจ่ายให้เขาทุกเดือน เราอยากยกเลิก
จนเราได้การตอบกลับทางเมล์จากศูนย์บริการว่าเราสามารถยกเลิกได้แต่เราต้องจ่ายค่าเครื่อง เพราะไม่มีนโยบายเอาเครื่องคืน และอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่ม (เดาว่าค่าบิลรอบนี้) ตอนนี้เรายอมหมดอะไรก็ได้เรายอมจ่ายค่าเครื่องหรือค่าบิลรอบนี้ แต่เราขอยกเลิกแพคเกจ และยกเลิกเบอร์แบบรายเดือน ตอนนั้นใจชื้นขึ้นจริงๆ คิดแค่ว่าเราผิดทีเราเอาของเขามาแล้ว ก็ต้องยอมที่จะจ่ายสามพันกว่าบาทค่าเครื่องกับบิลรอบนี้ ตอนนี้คิดแค่ว่าต้องหาเงินสามพันให้ได้ แต่ก่อนที่จะคิดถึงเราตอบกลับเมล์นั้นไปว่าเราสามารถไปชำระได้ที่ไหน ดีใจไม่ทันได้ถึงชั่วโมงทางดีแทคตอบกลับมาว่า "คุณไม่สามารถยกเลิกบริการได้นะคะ แต่ต้องใช้บริการให้ครบ 90 วันในกรณีที่จ่ายค่าเครื่องแล้ว แต่ท่านสามารถเปลี่ยนโปรเป็นโปรที่ถูกลงได้" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ หลังจากนี้ก็ตอบกลับกันไปมาอีกสองสามเมล์ค่ะ ว่ายังไง เราพยายามมากเลยที่จะไม่พ่นคำหยาบหรือกิริยาที่ดูไม่ดีออกไป แต่ยอมรับว่าตอนนั้นอารมณ์ขึ้นมากน้ำตาไหลตลอดเวลาพิมพ์ เนื่องจากเราก็ไม่ชอบที่จะมีปัญหากับใครอะไรพอยอมไหวก็ยอม แต่เรื่องครั้งนี้เรารู้สึกว่าเกินตัวเราไป ค่าใช้จ่ายที่งอกเงยแต่กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ตอนนี้สิ่งที่เรากำลังคิดคือ
- ทางศูนย์บริการหรือพนักงานที่ให้การบริการสามารถทำอะไรได้บ้างคะ ศูนย์ย่อย หรือคอลเซ็นเตอร์มีไว้ทำไมคะ ในเมื่อสุดท้ายอะไรๆก็โบ้ยให้ไปศูนย์ใหญ่
- พนักงานระดับไหนถึงจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับหลายๆเรื่อง หรือเรื่องที่เป็นปัญหาแบบนี้ได้คะ ต้องการคนที่คุยได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และช่วยเหลือเราได้ค่ะ
- ศูนย์บริการมีไว้ช่วยเหลือลูกค้าหรือเปล่าคะ หรือมีไว้ทำอะไร
- ถ้าเรื่องทั้งหมดต้องยื่นเรื่องหรือติดต่อกับแค่ศูนย์ใหญ่จะมีศูนย์อื่นๆไว้ทำไมคะ
- ในกรณีของเรา เรายอมที่จะซื้อเครื่องแล้วทำไมถึงยังต้องใช้บริการแบบรายเดือนต่ออีกถึง 3 เดือน ในเมื่อครั้งแรกคุณบอกว่า สามารถยกเลิกได้ พร้อมจ่ายค่าเครื่อง
- ทางศูนย์บริการที่ตอบกลับเราในเมล์บอกขอโทษในความไม่สะดวกตลอด จะรับเรื่องเพื่อไปเป็นการปรับปรุง จริงหรือเปล่าคะ?
- คุณบอกว่าถ้าจ่ายค่าเครื่องแล้วคุณลูกค้าสามารถเปลี่ยนแพคให้ถูกลงได้ มันจะต่างกันยังไงคะถ้าดิฉันจะต้องใช้ต่อโดยไม่จ่ายเครื่องแล้วใช้ไปตลอด 1 ปี
- คุณกำลังทำทุกวิถีทางเลยใช่มั้ยคะ ที่จะให้ดิฉันจ่ายให้ใกล้เคียงราคาปกติมากที่สุด ถ้าดิฉันมีเงินมากขนาดนั้นดิฉันจะร้องเรียนไปให้เสียเวลาหรอคะ
- ดิฉันสู้คุณไม่ไหวในทุกๆเรื่อง ถ้าคุณไม่ยอมให้ยกเลิกฉันทำอะไรได้หรอคะ
- ไหนว่าศูนย์บริการสามรถช่วยเหลือได้คะ
กับสิ่งที่อยากจะบอกและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆนะคะ
- ใครเคยเจอเรื่องคล้ายๆแบบนี้บ้างคะ แล้วจัดการยังไง หรือยอมๆปล่อยมันไป เราอยากยอมนะ แต่ระยะเวลา 1 ปีมันนานไปอ่ะ
- ใครพอมีความรู้หรือมีแนวทางแก้ไขที่ดีๆได้บ้างคะ
- เราสามารถร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลืออะไรจากเรื่องนี้ได้บ้างหรือเปล่าคะ
- เรายอมรับในส่วนของตัวเองมากนะคะ เพราะหนึ่งเราก็ผิดที่เอาของเขามาแล้ว มันผิดที่แม่เรารู้น้อยเกินไปจนไม่ทันการตลาดขององค์กรณ์ใหญ่ๆได้
- เราแค่อยากแนะนำว่าเราเข้าใจในส่วนของเขาที่ต้องการจะขายของ เพราะเราก็ครอบครัวค้าขายเช่นกัน แต่เราแค่อยากให้เขาคิดนิดนึงว่าการที่เขามาตั้งบูธตามตลาดนั้นกลุ่มเป้าหมายที่เขาต้องการมันอาจจะน้อยมาก เพราะส่วนมากก็แค่แม่ๆป้าๆที่ไปซื้อของมาทำกับข้าวกินที่บ้าน
- การที่มีป้าคนนึงเดินเข้าไปหา ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถรับข้อมูลที่คนขายจะให้ได้หมด และสิ่งที่คุณทำคือให้โทรศัพท์แกมาฟรีๆมาเครื่องนึงแล้วบอกแกว่าแกมีสิทธิ์ แกคิดอะไรไม่ทันหรอกค่ะ แกก็แค่ดีใจที่ได้ของฟรี
- การที่คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายๆมันดีค่ะแต่คุณก็ควรที่จะให้ลูกค้าเข้าถึงคุณง่ายๆด้วยเช่นกัน
- ถ้าศูนย์ใกล้บ้านหรืออะไรก็แล้วแต่ถ้ามันไม่สามารถช่วยอะไรลูกค้าได้ ก็ปิดๆไปเถอะค่ะ ลูกค้าจะได้รู้ว่ามีปัญหาอะไรศูนย์ใหญ่ช่วยได้มากกว่า
- หากจะมีโปรโมชั่นแบบนี้ มีบอกแยกสำหรับคนไม่เอาโปรด้วยก็ดีนะคะ บอกไปเลยตัวเครื่อง 2490 บาท
- หากป้าแก่ๆคนอื่นเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อสาร บอกเขาเป็นภาษาชาวบ้านไปเลยค่ะ "อ่อป้า มันได้เครื่องฟรีนะ แต่ป้าต้องจ่ายเดือนละ 600 1 ปีอ่ะป้า ก็ประมาณ 7000 กว่าบาท" พูดไปเลยค่ะ ป้าแกเข้าใจ ไม่ใช่ไปบอกแกมีสิทธิ์แล้วให้แกมาแบบมึนๆ หรือไม่ก็ถามแกมากับใครพาลูกมาด้วยมั้ยก็ว่าไปเนาะ หรือถ้ามันกลัวขายไม่ออกขนาดนั้นไม่ต้องทำมาเนาะ มีจรรญาบรรณนิดนึงเนาะ
เริ่มจะยาวเกินไปแล้ว ใครพอมีข้อมูลหรือมันสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้รบกวนด้วยนะคะ ตอนนี้ค่อนข้างเหนื่อยกับการที่มาตามเรื่องที่หนทางดูริบหรี่มากกกกกกก เราก็ไม่มีความรู้ทางนี้มากนัก เราก็เป็นลูกค้าค่ายนี้มาทั้งชีวิตที่เราใช้เพราะเข้าถีงได้กับหลายๆอย่าง แต่พอเกิดเรื่องครั้งนี้ทำให้เราอยากคิดใหม่ จริงๆเราอยากแทรกรูปที่คุยกับทางศูนย์ด้วยแต่มันแทรกไม่ได้อ่ะ อีกอย่างหลายคำพูดบางอย่างของเราอาจดูไม่เหมาะสม หรือส่วนตรงไหนที่มีการกำกวม ขอโทษไว้ก่อนเลย คิดได้ก็พิมพ์เลย พยายามประมวลคำพูดได้เท่าที่จะทำได้แล้ว รบกวนทุกคนด้วยนะคะ