ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ High-functioning sociopath, น้องนุ้ย ณวลี, คุณ PuPaKae, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ อุรุเวลา, คุณลิ ลายลิขิต, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทแรก - บทที่ 1
http://pantip.com/topic/35638204
บทที่ 2 - บทที่ 3
http://pantip.com/topic/35648626
บทที่ 4
http://pantip.com/topic/35655325
บทที่ 5
http://pantip.com/topic/35665748
บทที่ 6
http://pantip.com/topic/35669708
บทที่ 7
http://pantip.com/topic/35673616
บทที่ 8
http://pantip.com/topic/35680516
บทที่ 9
http://pantip.com/topic/35683775
บทที่ 10
http://pantip.com/topic/35688063
บทที่ 11
http://pantip.com/topic/35695077
บทที่ 12
http://pantip.com/topic/35729742
บทที่ 13
http://pantip.com/topic/35740950
บทที่ 14
http://pantip.com/topic/35748347
บทที่ 15
รถคันเล็กรุ่นเกือบล่าสุดจอดอยู่หน้าประตูบ้าน หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของยืนอยู่ข้างๆ หล่อนอยู่ในชุดกระโปรงนิวลุค เสื้อแขนสั้นสีสดใส มีผ้าพันอยู่รอบคอ ไพล่ไปขมวดไว้เป็นปมที่ด้านข้างตามสมัยนิยม รองเท้าส้นสูงสีขาวมีหัวแหลม ดูแล้วไม่น่าจะเดินได้สบาย หากหล่อนก็แทบจะวิ่งมาหาเมื่อรถคันใหญ่ปรากฎให้เห็น
ไอรีนหมุนกระจกลง และหญิงสาวก็ประนมมือไหว้
“โอ้โฮ คุณหญิงขับรถเองหรือคะนี่” หล่อนทักทายมาก่อน สองมือเกาะกรอบประตูด้านคนขับ ตามองเลยไปทางชายหนุ่มซึ่งนั่งเคียงคู่มาด้วย หากเขากลับหันไปอีกทาง ทำท่าจะเปิดประตูรถด้านนั้น
“ไปไหนกันมาคะ”
“ไปแถววัดสุทัศน์มาค่ะ เมื่อเช้าไปส่งสุชัยกับอำไพขึ้นรถไฟ แล้วแวะไปหาคนรู้จักแถววัดสุทัศน์ค่ะ คุณนวลมานานแล้วหรือคะ ทำไมไม่เรียกให้ใครมาเปิดประตูให้”
นวลพรรณยิ้มขัดเขิน “เกรงใจค่ะ ไม่เห็นรถของคุณหญิง ก็เลยคิดว่าคงไม่อยู่บ้านกัน”
สายตาหล่อนยังคงจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มขณะเขาเปิดประตูรถแล้วก้าวลง ออกจะน้อยใจที่เขาไม่แสดงท่าทีรับรู้ว่าหล่อนอยู่ตรงนี้ ไม่เอ่ยทักแม้แต่คำเดียว กลับเดินเรียบเรื่อยไปเปิดประตูใหญ่
ไอรีนไม่พลาดแววหม่นมัวในดวงตาคนอ่อนวัยกว่า ทั้งสงสารและเห็นใจ เธอเองก็ไม่เข้าใจอากัปกิริยาของกริชเช่นกัน ปกติเขาสุภาพกว่านี้ เกิดอะไรกันขึ้นระหว่างหนุ่มสาวคู่นี้อย่างนั้นหรือ
“เชิญคุณนวลเข้าไปในบ้านก่อนสิคะ”
ดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตูก้าวลง คนซึ่งเกาะแจอยู่ข้างรถรีบถอยออกห่าง
“ไม่เป็นไรกระมังคะคุณหญิง นวลมาเชิญคุณหญิงกับพี่กริชไปลอยกระทงที่ศาลาสุขใจค่ะ เห็นว่าจะจุดดอกไม้ไฟกันด้วย คุณพ่ออยากให้คุณหญิงไปดู นวลก็เลยเอารถมารับคุณหญิงกับพี่กริชค่ะ”
ไอรีนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันลอยกระทง มัวแต่ยุ่งกับงานศพสามีจนลืมวันลืมคืนเสียสิ้น เธอพอรู้เรื่องศาลาสุขใจที่หญิงสาวเอ่ยถึงมาบ้าง แม้ไม่เคยไปเห็นกับตาตัวเองเลยก็ตาม ที่นั่นเป็นสถานพักตากอากาศสำหรับประชาชนและใช้เป็นที่พักฟื้นของทหารซึ่งได้รับบาดเจ็บ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ให้กระทรวงมหาดไทยซื้อที่ดินบริเวณบางปูแล้วสร้างสะพานสุขตาขึ้น สะพานขนาดใหญ่นั้นทอดยาวไปในทะเลบริเวณปากอ่าวไทย ปลายสะพานเป็นอาคารสร้างในทะเล เรียกว่า ศาลาสุขใจ ที่นั่นเปิดขายอาหารทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ทั้งทุกวันเสาร์และอาทิตย์ยังมีลีลาศอีกด้วย
“ขอถามกริชดูก่อนนะคะคุณนวล ไม่รู้ว่าวันนี้กริชมีธุระต้องไปไหนอีกหรือเปล่า คุณนวลคงทราบว่ากริชต้องกลับชะอำพรุ่งนี้แล้ว”
นายอำเภอหนุ่มกำลังพูดอะไรบางอย่างกับลูกชายนางนาบที่ข้างประตูใหญ่ เธอจึงเป็นฝ่ายเดินไปหา
“คุณนวลเชิญไปบางปูแน่ะจ้ะกริช เห็นว่ามีงานลอยกระทงกันที่นั่น”
กริชทอดสายตาหนักอกหนักใจไปทางคนมาเชิญ และหล่อนก็กระพุ่มมือไหว้ ยิ้มหวานที่มีให้ค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของฝ่ายนั้น
“บ่ายนี้กระผมตั้งใจจะพาคุณหญิงไปสอบใบอนุญาตขับขี่รถขอรับ” อ้างไปเสียอย่างนั้นทั้งๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าเขาจะพาเธอไปสอบใบอนุญาตที่ว่าเมื่อมีโอกาสขึ้นมาพระนครอีกครั้ง
“ไปเถอะจ้ะกริช เกรงใจเจ้าคุณท่าน เรื่องสอบใบอนุญาตนั่นเมื่อไรก็ได้ ช่วงที่กริชไม่อยู่ก็คงไม่ค่อยได้ไปไหน คงไม่ได้ใช้รถอีกหรอกจ้ะ ไปเถอะนะกริช ถ้าเกรงใจว่าจะต้องนั่งรถคุณนวลไป ก็เอารถเราไปเอง ขากลับคุณนวลจะได้ไม่ต้องลำบากมาส่ง”
กริชอุ่นวาบไปถึงไหนๆ กับคำว่า 'เรา' ที่หญิงสาวใช้ พรายยิ้มบางๆ ผุดที่มุมปากโดยเขาเองก็ไม่รู้ตัว ทั้งแววตาและน้ำเสียงในประโยคต่อมาจึงอ่อนโยนลึกซึ้งตามไปด้วย
“คุณหญิงล่ะขอรับ”
“บ่ายนี้ว่าจะเข้าไปดูในสวนเสียหน่อย” เธอเองก็ยกข้ออ้างเท่าที่พอคิดได้ขึ้นมาว่าเหมือนกัน
วันนี้เป็นวันเสาร์ อาจมีลีลาศที่นั่นด้วย แค่คิดก็ขยาดเสียแล้ว เกิดมาเคยเต้นรำกับใครเขาเสียที่ไหน เรื่องเต้นรำเป็นเรื่องซึ่งคุณรามไม่เคยนิยมชมชอบมาแต่ไหนแต่ไร เธอเองก็ไม่นิยมเช่นกัน ยิ่งในเวลาโศกเศร้าอย่างนี้ยิ่งรู้สึกผิดที่จะไปสนุกสนานที่ไหนไกลๆ
นวลพรรณทันได้ยินประโยคท้ายๆ ของคนทั้งคู่ พอบอกได้ว่าถ้า 'คุณหญิง' ของเขาไม่ไปด้วย กริชก็คงไม่ไป หล่อนสังเกตตลอดสามวันที่มาร่วมงานสวดพระอภิธรรม สายตาเขาแทบไม่เคยละจากคุณหญิงของเขาเลยแม้ชั่วขณะจิต แรกๆ เข้าใจไปว่าคงเป็นเพราะห่วงสภาพจิตใจของภรรยาผู้มีพระคุณ ในเมื่อบางขณะดูเหมือนหญิงสาวแทบประคองตัวเองให้ฟังสวดจนจบไม่ไหว
หากพอพิจารณาดูดีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เขาเผลอ หล่อนแน่ใจว่าสายตาระวังระไวนั้นมีอะไรมากกว่าเท่าที่เห็นเพียงผ่านๆ แต่จะเป็นอะไร หล่อนไม่อยากคิด ทั้งเพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจตัวเอง และทั้งแน่ใจว่าเป็นเรื่องซึ่งเป็นไปไม่ได้
“ที่จริงคุณพ่อเชิญคุณหญิงด้วยค่ะ” หล่อนย้ำคำเชิญเมื่อครู่อีกรอบ คว้าข้อมือบอบบางของคนสูงวัยกว่ามากุมไว้อย่างสนิทสนม “คุณหญิงไปด้วยนะคะ ขับรถไปมาไม่ไกลหรอกค่ะ”
ไอรีนยังคงลังเล หันมองคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างชั่งใจ กริชจึงเป็นฝ่ายคะยั้นคะยอเสียเอง
“เจ้าคุณท่านคงอยากให้คุณหญิงไปด้วยขอรับ ท่านเคยบอกว่าอยากให้คุณหญิงออกไปไหนไกลๆ บ้างระยะนี้”
พอเขายกเรื่องนั้นขึ้นมาอ้าง เธอก็แย้งอะไรไม่ได้อีก เจ้าคุณพิชัยฯ เคยบอกเธอว่าอย่างนั้นจริงๆ
“แล้วกระทงล่ะคะคุณนวล ต้องเตรียมไปด้วยหรือเปล่า”
“ไปหาเอาที่โน่นได้ค่ะ คุณหญิงไปนะคะ คุณพ่อรออยู่แล้ว”
คราวนี้พอเห็นหญิงสาวเงียบไป กริชฉวยโอกาสสรุปเสียเอง
“ผมขับรถคุณหญิงตามหลังไปก็แล้วกันครับคุณนวล”
ในฝั่งฝัน (บทที่ 15)
ขอบคุณ คุณ High-functioning sociopath, น้องนุ้ย ณวลี, คุณ PuPaKae, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ อุรุเวลา, คุณลิ ลายลิขิต, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทแรก - บทที่ 1 http://pantip.com/topic/35638204
บทที่ 2 - บทที่ 3 http://pantip.com/topic/35648626
บทที่ 4 http://pantip.com/topic/35655325
บทที่ 5 http://pantip.com/topic/35665748
บทที่ 6 http://pantip.com/topic/35669708
บทที่ 7 http://pantip.com/topic/35673616
บทที่ 8 http://pantip.com/topic/35680516
บทที่ 9 http://pantip.com/topic/35683775
บทที่ 10 http://pantip.com/topic/35688063
บทที่ 11 http://pantip.com/topic/35695077
บทที่ 12 http://pantip.com/topic/35729742
บทที่ 13 http://pantip.com/topic/35740950
บทที่ 14 http://pantip.com/topic/35748347
รถคันเล็กรุ่นเกือบล่าสุดจอดอยู่หน้าประตูบ้าน หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของยืนอยู่ข้างๆ หล่อนอยู่ในชุดกระโปรงนิวลุค เสื้อแขนสั้นสีสดใส มีผ้าพันอยู่รอบคอ ไพล่ไปขมวดไว้เป็นปมที่ด้านข้างตามสมัยนิยม รองเท้าส้นสูงสีขาวมีหัวแหลม ดูแล้วไม่น่าจะเดินได้สบาย หากหล่อนก็แทบจะวิ่งมาหาเมื่อรถคันใหญ่ปรากฎให้เห็น
ไอรีนหมุนกระจกลง และหญิงสาวก็ประนมมือไหว้
“โอ้โฮ คุณหญิงขับรถเองหรือคะนี่” หล่อนทักทายมาก่อน สองมือเกาะกรอบประตูด้านคนขับ ตามองเลยไปทางชายหนุ่มซึ่งนั่งเคียงคู่มาด้วย หากเขากลับหันไปอีกทาง ทำท่าจะเปิดประตูรถด้านนั้น
“ไปไหนกันมาคะ”
“ไปแถววัดสุทัศน์มาค่ะ เมื่อเช้าไปส่งสุชัยกับอำไพขึ้นรถไฟ แล้วแวะไปหาคนรู้จักแถววัดสุทัศน์ค่ะ คุณนวลมานานแล้วหรือคะ ทำไมไม่เรียกให้ใครมาเปิดประตูให้”
นวลพรรณยิ้มขัดเขิน “เกรงใจค่ะ ไม่เห็นรถของคุณหญิง ก็เลยคิดว่าคงไม่อยู่บ้านกัน”
สายตาหล่อนยังคงจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มขณะเขาเปิดประตูรถแล้วก้าวลง ออกจะน้อยใจที่เขาไม่แสดงท่าทีรับรู้ว่าหล่อนอยู่ตรงนี้ ไม่เอ่ยทักแม้แต่คำเดียว กลับเดินเรียบเรื่อยไปเปิดประตูใหญ่
ไอรีนไม่พลาดแววหม่นมัวในดวงตาคนอ่อนวัยกว่า ทั้งสงสารและเห็นใจ เธอเองก็ไม่เข้าใจอากัปกิริยาของกริชเช่นกัน ปกติเขาสุภาพกว่านี้ เกิดอะไรกันขึ้นระหว่างหนุ่มสาวคู่นี้อย่างนั้นหรือ
“เชิญคุณนวลเข้าไปในบ้านก่อนสิคะ”
ดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตูก้าวลง คนซึ่งเกาะแจอยู่ข้างรถรีบถอยออกห่าง
“ไม่เป็นไรกระมังคะคุณหญิง นวลมาเชิญคุณหญิงกับพี่กริชไปลอยกระทงที่ศาลาสุขใจค่ะ เห็นว่าจะจุดดอกไม้ไฟกันด้วย คุณพ่ออยากให้คุณหญิงไปดู นวลก็เลยเอารถมารับคุณหญิงกับพี่กริชค่ะ”
ไอรีนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันลอยกระทง มัวแต่ยุ่งกับงานศพสามีจนลืมวันลืมคืนเสียสิ้น เธอพอรู้เรื่องศาลาสุขใจที่หญิงสาวเอ่ยถึงมาบ้าง แม้ไม่เคยไปเห็นกับตาตัวเองเลยก็ตาม ที่นั่นเป็นสถานพักตากอากาศสำหรับประชาชนและใช้เป็นที่พักฟื้นของทหารซึ่งได้รับบาดเจ็บ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ให้กระทรวงมหาดไทยซื้อที่ดินบริเวณบางปูแล้วสร้างสะพานสุขตาขึ้น สะพานขนาดใหญ่นั้นทอดยาวไปในทะเลบริเวณปากอ่าวไทย ปลายสะพานเป็นอาคารสร้างในทะเล เรียกว่า ศาลาสุขใจ ที่นั่นเปิดขายอาหารทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ทั้งทุกวันเสาร์และอาทิตย์ยังมีลีลาศอีกด้วย
“ขอถามกริชดูก่อนนะคะคุณนวล ไม่รู้ว่าวันนี้กริชมีธุระต้องไปไหนอีกหรือเปล่า คุณนวลคงทราบว่ากริชต้องกลับชะอำพรุ่งนี้แล้ว”
นายอำเภอหนุ่มกำลังพูดอะไรบางอย่างกับลูกชายนางนาบที่ข้างประตูใหญ่ เธอจึงเป็นฝ่ายเดินไปหา
“คุณนวลเชิญไปบางปูแน่ะจ้ะกริช เห็นว่ามีงานลอยกระทงกันที่นั่น”
กริชทอดสายตาหนักอกหนักใจไปทางคนมาเชิญ และหล่อนก็กระพุ่มมือไหว้ ยิ้มหวานที่มีให้ค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของฝ่ายนั้น
“บ่ายนี้กระผมตั้งใจจะพาคุณหญิงไปสอบใบอนุญาตขับขี่รถขอรับ” อ้างไปเสียอย่างนั้นทั้งๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าเขาจะพาเธอไปสอบใบอนุญาตที่ว่าเมื่อมีโอกาสขึ้นมาพระนครอีกครั้ง
“ไปเถอะจ้ะกริช เกรงใจเจ้าคุณท่าน เรื่องสอบใบอนุญาตนั่นเมื่อไรก็ได้ ช่วงที่กริชไม่อยู่ก็คงไม่ค่อยได้ไปไหน คงไม่ได้ใช้รถอีกหรอกจ้ะ ไปเถอะนะกริช ถ้าเกรงใจว่าจะต้องนั่งรถคุณนวลไป ก็เอารถเราไปเอง ขากลับคุณนวลจะได้ไม่ต้องลำบากมาส่ง”
กริชอุ่นวาบไปถึงไหนๆ กับคำว่า 'เรา' ที่หญิงสาวใช้ พรายยิ้มบางๆ ผุดที่มุมปากโดยเขาเองก็ไม่รู้ตัว ทั้งแววตาและน้ำเสียงในประโยคต่อมาจึงอ่อนโยนลึกซึ้งตามไปด้วย
“คุณหญิงล่ะขอรับ”
“บ่ายนี้ว่าจะเข้าไปดูในสวนเสียหน่อย” เธอเองก็ยกข้ออ้างเท่าที่พอคิดได้ขึ้นมาว่าเหมือนกัน
วันนี้เป็นวันเสาร์ อาจมีลีลาศที่นั่นด้วย แค่คิดก็ขยาดเสียแล้ว เกิดมาเคยเต้นรำกับใครเขาเสียที่ไหน เรื่องเต้นรำเป็นเรื่องซึ่งคุณรามไม่เคยนิยมชมชอบมาแต่ไหนแต่ไร เธอเองก็ไม่นิยมเช่นกัน ยิ่งในเวลาโศกเศร้าอย่างนี้ยิ่งรู้สึกผิดที่จะไปสนุกสนานที่ไหนไกลๆ
นวลพรรณทันได้ยินประโยคท้ายๆ ของคนทั้งคู่ พอบอกได้ว่าถ้า 'คุณหญิง' ของเขาไม่ไปด้วย กริชก็คงไม่ไป หล่อนสังเกตตลอดสามวันที่มาร่วมงานสวดพระอภิธรรม สายตาเขาแทบไม่เคยละจากคุณหญิงของเขาเลยแม้ชั่วขณะจิต แรกๆ เข้าใจไปว่าคงเป็นเพราะห่วงสภาพจิตใจของภรรยาผู้มีพระคุณ ในเมื่อบางขณะดูเหมือนหญิงสาวแทบประคองตัวเองให้ฟังสวดจนจบไม่ไหว
หากพอพิจารณาดูดีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เขาเผลอ หล่อนแน่ใจว่าสายตาระวังระไวนั้นมีอะไรมากกว่าเท่าที่เห็นเพียงผ่านๆ แต่จะเป็นอะไร หล่อนไม่อยากคิด ทั้งเพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจตัวเอง และทั้งแน่ใจว่าเป็นเรื่องซึ่งเป็นไปไม่ได้
“ที่จริงคุณพ่อเชิญคุณหญิงด้วยค่ะ” หล่อนย้ำคำเชิญเมื่อครู่อีกรอบ คว้าข้อมือบอบบางของคนสูงวัยกว่ามากุมไว้อย่างสนิทสนม “คุณหญิงไปด้วยนะคะ ขับรถไปมาไม่ไกลหรอกค่ะ”
ไอรีนยังคงลังเล หันมองคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างชั่งใจ กริชจึงเป็นฝ่ายคะยั้นคะยอเสียเอง
“เจ้าคุณท่านคงอยากให้คุณหญิงไปด้วยขอรับ ท่านเคยบอกว่าอยากให้คุณหญิงออกไปไหนไกลๆ บ้างระยะนี้”
พอเขายกเรื่องนั้นขึ้นมาอ้าง เธอก็แย้งอะไรไม่ได้อีก เจ้าคุณพิชัยฯ เคยบอกเธอว่าอย่างนั้นจริงๆ
“แล้วกระทงล่ะคะคุณนวล ต้องเตรียมไปด้วยหรือเปล่า”
“ไปหาเอาที่โน่นได้ค่ะ คุณหญิงไปนะคะ คุณพ่อรออยู่แล้ว”
คราวนี้พอเห็นหญิงสาวเงียบไป กริชฉวยโอกาสสรุปเสียเอง
“ผมขับรถคุณหญิงตามหลังไปก็แล้วกันครับคุณนวล”