ตัวเราเองแต่งงานมาได้2ปีกว่า ยังไม่มีลูก ย้ายเข้ามาอยู่บ้านสามีตั้งแต่แต่งงาน (สามีซื้อเอง) มีแม่สามีและน้องสาวอยู่ด้วย
น้องสาวสามีอายุ32 อายุห่างจากสามีเรา 8ปี ทำงานมาจะ10 ปีแล้ว ตอนนี้ได้เงินเดือน ประมาณ 70,000 ต่อเดือน ไม่เคยช่วยออกค่าใช้จ่ายอะไรในบ้านเลย
บ้าน
บ้านที่อยู่ปัจจุบันเป็นบ้านสามี สามีผ่อนอยู่คนเดียว (ใกล้จะหมดแล้ว) ตั้งแต่ซื้อมา 10 ปี น้องสาวไม่เคยช่วยผ่อน บ้านปัจจุบันผ่อนเดือนละ 10,000 แต่น้องสาวสามีอยากซื้อบ้านใหม่เพราะอาจจะแต่งงานเร็วๆนี้เลยไปจองบ้านในเมืองมา แล้วมาบังคับให้สามีเราผ่อนให้ ทุกวันนี้สามีผ่อน 2 บ้าน บ้านใหม่ผ่อนเดือนละ 33,000 ส่วนเงินดาวน์บ้านหลังใหม่ก็ไปบังคับแม่สามีมาดาวน์ให้ 200,000
ตอนนี้น้องสาวสามีก็ขนพวกข้าวของเครื่องใช้ในบ้านไปบ้านใหม่บ้างแล้ว ประเด็นคือ เอาของที่จำเป็นต้องใช้ในบ้านนี้ไปใส่ในบ้านใหม่ที่ยังไม่มีคนอยู่ บ้านนี้ก็ต้องซื้อใหม่ เช่น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า แต่ยังไม่มีโครงการย้ายออกไปนะคะ
น้องสาวสามีบอกว่าถ้าย้ายออกไปจริงๆจะขอแอร์ในห้องนอนกับพัดลม ตู้เสื้อผ้าในห้องตัวเอง ย้ายไปบ้านใหม่ด้วย สามีก็บอกว่าโอเค เราก็คิดนะว่าคงตลกพิลึก ห้องคงเป็นรูโบ๋ๆแน่ๆถ้าถอดแอร์ไป
ค่าน้ำ-ค่าไฟ-อินเตอร์เนต
น้องสาวสามีจะกลับบ้านประมาณ 2 ทุ่มและไปทำงานตอน 7 โมงเช้า คืนวันจันทร์ถึงคืนวันศุกร์ น้องสาวสามีจะให้แม่มาเปิดแอร์ทิ้งไว้ในห้องก่อนตัวเองกลับบ้าน และไม่เคยปิดจนออกไปทำงานในตอนเช้า ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ก็จะเปิดค้างตั้งแต่เย็นวันศุกร์ จน ถึง 7 โมงเช้าวันจันทร์ ขนาดออกนอกบ้านเป็นวันๆในวันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ปิด เปิดทุกฤดู ไม่ว่าจะร้อน จะฝน จะหนาว – อันนี้เราไม่เข้าใจมากๆ
อีกเรื่องคือ น้องสาวสามีกลัวผี เลยเปิดไฟนอน ถ้ากลับบ้านหลังสุด ก็จะเปิดไฟทั้งบ้านตั้งแต่รั้วหน้าบ้าน เข้ามาในบ้านทิ้งไว้ทั้งคืน หรือ ถ้าออกจะบ้านหลังสุด ก็จะเปิดไฟทั้งบ้านทิ้งไว้ จนกว่าจะมีคนกลับมาปิด
อินเตอร์เนตเนี๊ย ก็ต้องใช้กันทั้งบ้านแบ่งๆกัน แต่แค่น้องสาวสามีคนเดียวก็ต่อ มือถือ 2 เครือง laptop 1 เครื่อง ipad อีก 1เครื่อง แถมโหลดซีรี่เกาหลีตลอดเวลา เรากับสามีถ้าจะใช้เนตก็ต้องคิดก่อนว่า ต่อเครื่องไหนดี ถ้าจะทำงานก็ต่อกับ laptop เอาแล้วกัน มือถือก็ 3G4Gกันไป
รถ
รถที่น้องสาวสามีขับอยู่สามีก็ยังผ่อนให้ ซ่อมให้ เสียภาษีให้ เปลี่ยนยาง และแบตเตอรี่ บางทีก็เติมน้ำมันให้ด้วย
ปัจจุบันน้องสาวจะซื้อคันใหม่ จะให้คืนรถคันที่สามีซื้อให้ บอกให้เราใช้ แล้วบอกว่าจะเอารถของเราที่เราซื้อเองผ่อนเองซ่อมเองไปขายมาดาวน์คันใหม่เพราะรถใหม่และใหญ่กว่าจะขายได้ราคากว่า --อันนี้เราไม่ยอมแน่นอน แต่ทำไมถึงมีความเห็นแก่ตัวแบบนี้
อาหารในบ้าน
เราเป็นคนจ่ายตลาดเข้าบ้านด้วยรายได้ของเราเองเข้าที่บ้าน สัปดาห์ละประมาณ 1,500 แต่เราไม่เคยได้กินข้าวที่บ้าน เพราะน้องสาวสามีมักจะทำใส่กล่องไปกินที่ทำงานและพาแฟนมากินข้าวที่บ้านในวันเสาร์อาทิตย์ โดยที่น้องสาวไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายอะไรเลย ส่วนที่เหลือจากน้องสาวทำไปกินที่ทำงานก็เหลือไว้ให้แม่ทำกิน ทำให้เราไม่กล้าทำกับข้าวกิน ทุกวันนี้เราและสามีต้องกินข้าวนอกบ้านทุกมื้อ หากวันไหนน้องสาวจะทำกับข้าวอะไรกินแล้วของไม่พอก็จะสั่งให้สามีเราซื้อมาให้เพิ่ม หรืออยากกินโค้กหรือขนมหวานก็จะสั่ง แล้วสามีเราก็บ้าจี้ซื้อให้ด้วย
บ้านเราจะจ่ายตลาดทุกวันศุกร์ เพราะกะกันไว้ว่าจะได้ทำกินกันในวันเสาร์ตอนเช้า แต่น้องสาวสามีชอบโพสขึ้นเฟสบุ๊คตอนกลางคืนวันศุกร์-เช้าวันเสาร์ว่า “กับข้าวเก่าค้างตู้ต้องรีบเอามาทำๆกินให้หมด เดี๋ยวจะเสียซะหมด” หรือ แล้วเวลาแฟนของน้องสาวสามีมากก็มักจะโพสว่า “เนี๊ย ต้องขอให้พี่xxxกินนะ ซื้อมาตั้งแต่วันก่อน จะเน่าแล้ว”
เงินเก็บให้แม่
น้องสาวสามี มาบังคับให้สามีเราร่วมกันเก็บเงินให้แม่ คนละ 500 ต่อเดือนละ รวมกันแล้วก็เดือนละ 1,000 แล้วก็จะให้เราเข้าร่วมด้วย เราก็ถามว่า ทำไมเราต้องเข้าร่วมเก็บด้วย เค้าบอกว่าเราเป็นลูกสะใภ้แม่ ก็ต้องร่วมเก็บด้วย เราก็ได้แต่บอกไปว่า เราก็ต้องเก็บส่วนของเราให้พ่อให้แม่เราด้วย เราเป็นลูกคนเดียว พ่อกับแม่เรายังอยู่ทั้งคู่ แถมเราย้ายมาอยู่บ้านนี้เราไม่ได้ดูแลพ่อแม่เราเลยด้วย ปกติเราก็เก็บเดือนละ 10,000 ให้พ่อให้แม่เรา ถ้าเราช่วยทางบ้านนี้เก็บ งั้นขอให้สามีเราช่วยเก็บในฐานะลูกเขยบ้านพ่อแม่เราเหมือนกันได้ใหม่ แค่เดือนละ 500 เหมือนกันก็ได้ --- เราไม่ได้รับคำตอบในส่วนนี้คะ
ประตูบ้าน
ปกติเรากับสามีจะออกไปกินข้าวเย็นประมาณช่วง 6 โมง – 1 ทุ่ม ก็จะบอกแม่สามีไว้ตลอดว่าไม่ต้องปิดบ้านนะ แป๊ปเดียวเดี๋ยวก็กลับ พอเรากลับบ้านมา 2 ทุ่ม บ้านก็จะล็อกตั้งแต่ รั้วบ้านด้วยแม่กุญแจใหญ่ ประตูบ้าน แล้วก็ล็อกประตูมุ้งลวดอีกที โอเค ถ้าล็อคเราก็ไข ไม่เป็นไรถือว่าเพื่อความปลอดภัย (แต่ก็หงุดหงิดอ่ะ)
พีคกว่าคือ น้องสาวสามีก็เดินอยู่ในบ้านแต่ไม่เคยเปิดประตูให้ ต้องไขกันเอง
แต่เวลาตัวเองกลับบ้าน ถ้าบ้านล็อคนี่คือเรื่องใหญ่ มาถามทุกคนในบ้านทำไมต้องล็อคบ้าน หรือบางทีถ้ากลับดึกจะต้องโทรให้แม่มาคอยเปิดประตูไว้ให้ กุญแจของตัวเองนี่ไม่เคยหยิบลงมาจากรถเลย
แมว-หมา
ที่บ้านมีแมว 4 ตัว หมา 2 เป็นพันธุ์ฝรั่งทั้งหมด น้องสาวสามีขอให้สามีเราซื้อให้ทั้งหมด ตอนซื้อก็สัญญาว่า จะจ่ายค่าอาหาร กรง ทราย วัคซีนและค่าหมอ เองทั้งหมดให้เพียงซื้อให้เท่านั้น แต่สรุปแล้วสามีเราออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แถมต้องมานั่งใช้กระบวยกรองขี้แมวออกจากทรายเองด้วย
เราเคยขอสามีว่าให้แบ่งไปให้คนอื่นบ้าง เพราะเราแพ้มากทั้งผิวและทางเดินหายใจ แต่สามีก็ไม่สนใจ อีกทั้งแมวที่ได้มา น่าจะได้จากฟาร์มที่ดูแลไม่ดี แมวเลยเป็นลูคีเมียทั้ง 4 ตัว มีบางตัวที่เป็นไต เลยต้องกินอาหารพิเศษ+ให้น้ำเกลือวันเว้นวัน
จนกระทั่งเราท้องครั้งนึง แต่แท้งตอนสัปดาห์ที่ 8 หมอบอกว่า ปกติแล้ว 5 ใน 10 ของหญิงตั้งครรภ์มีโอกาสแท้ง และมีหลายสาเหตุ เช่นกระเทือน, ดื่มเหล้า, นอนดึก, เครียด, เชื้อจากอาหารทะเลไม่สุก และอีกเยอะแยะมากมาย แต่เราดูแลตัวเองดีไม่มีพวกนั้นเลย แล้วหมอก็ถามว่าที่บ้านเลี้ยงแมวหรือเปล่า เราว่า 4 ตัวคะ หมอเลยแนะนำให้เอาแมวไปเพาะเชื้อ หาโปรโตชัวในแมว ก็โดนไป เกือบ 50,000 ซึ่งก็พบว่าเจอในทุกๆตัวเลย ทำให้คิดได้ว่า เคยไปช่วยเก็บอึแมวอยู่ครั้งนึง
ตอนนี้เราอยากมีลูกมากๆ แต่กลัวเจอแหตุการณ์เดิม ก็เลยบอกสามีว่า สร้างห้องให้แมวอยู่เฉพาะได้มั้ย แยกส่วนต่างหากไม่มาเดินปะปนกับคน แต่น้องสาวสามีไม่ยอม บอกว่ากลัวแมวจะเครียด
ตอนนี้เราเครียดกว่า เราอยากย้ายออกกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่เรา แต่สามีไม่ยอมลูกเดียว เพราะเค้าบอกว่าเค้าอยู่บ้านพ่อแม่เราอึดอัด แต่ทำไมเค้าไม่คิดว่าเราอึดอัดที่จะอยู่บ้านนี้ พอเราจะซื้อบ้านใหม่อยู่กัน 2 คน เค้าก็บอกว่า บ้านก็มีแล้วจะสร้างหนี้ทำไมอีก แถมตอนนี้จะให้เก็บเงินกระเป๋าเดียวกันอีก เรากลัวว่าจะเอาเงินเราไปแล้วเราจะไม่ได้ใช้เอง
สามีเราดีทุกอย่างนี่คือสาเหตุที่เราไม่เลิกหรือทิ้งเค้าไปดื้อๆไม่ได้ แต่เค้าก็ดีเกินไป ยอมกับทุกๆคน เราไม่รู้จะทำอย่างไรดี อยากขอคำแนะนำหน่อยคะ
เพิ่มเติมคะ เพราะอาจจะแจ้งไม่ครบ
จาก ความคิดเห็นที่ 1
ตัวสามีเราทำงานธุรกิจส่วนตัว รายได้มีตั้งแต่ติดลบไปยันหลักแสนแล้วแต่เดือนแล้วแต่งาน ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้เงินเก็บก็ร่อยหรอคะ ช่วงนี้ติดลบทุกเดือน ถ้าถามว่าที่น้องมาเอาเปรียบแบบนี้เดือนร้อนมั้ย เราเดือนร้อนคะ เพราะแฟนมาใช้เงินเรา ส่วนเงินส่วนที่เค้าหามาได้เอาไปจ่ายค่าผ่อนบ้านให้น้องสาวเค้าคะ
ขอคำแนะนำกับการต้องอยู่กับคนเห็นแก่ตัวในบ้านเดียวกัน
น้องสาวสามีอายุ32 อายุห่างจากสามีเรา 8ปี ทำงานมาจะ10 ปีแล้ว ตอนนี้ได้เงินเดือน ประมาณ 70,000 ต่อเดือน ไม่เคยช่วยออกค่าใช้จ่ายอะไรในบ้านเลย
บ้าน
บ้านที่อยู่ปัจจุบันเป็นบ้านสามี สามีผ่อนอยู่คนเดียว (ใกล้จะหมดแล้ว) ตั้งแต่ซื้อมา 10 ปี น้องสาวไม่เคยช่วยผ่อน บ้านปัจจุบันผ่อนเดือนละ 10,000 แต่น้องสาวสามีอยากซื้อบ้านใหม่เพราะอาจจะแต่งงานเร็วๆนี้เลยไปจองบ้านในเมืองมา แล้วมาบังคับให้สามีเราผ่อนให้ ทุกวันนี้สามีผ่อน 2 บ้าน บ้านใหม่ผ่อนเดือนละ 33,000 ส่วนเงินดาวน์บ้านหลังใหม่ก็ไปบังคับแม่สามีมาดาวน์ให้ 200,000
ตอนนี้น้องสาวสามีก็ขนพวกข้าวของเครื่องใช้ในบ้านไปบ้านใหม่บ้างแล้ว ประเด็นคือ เอาของที่จำเป็นต้องใช้ในบ้านนี้ไปใส่ในบ้านใหม่ที่ยังไม่มีคนอยู่ บ้านนี้ก็ต้องซื้อใหม่ เช่น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า แต่ยังไม่มีโครงการย้ายออกไปนะคะ
น้องสาวสามีบอกว่าถ้าย้ายออกไปจริงๆจะขอแอร์ในห้องนอนกับพัดลม ตู้เสื้อผ้าในห้องตัวเอง ย้ายไปบ้านใหม่ด้วย สามีก็บอกว่าโอเค เราก็คิดนะว่าคงตลกพิลึก ห้องคงเป็นรูโบ๋ๆแน่ๆถ้าถอดแอร์ไป
ค่าน้ำ-ค่าไฟ-อินเตอร์เนต
น้องสาวสามีจะกลับบ้านประมาณ 2 ทุ่มและไปทำงานตอน 7 โมงเช้า คืนวันจันทร์ถึงคืนวันศุกร์ น้องสาวสามีจะให้แม่มาเปิดแอร์ทิ้งไว้ในห้องก่อนตัวเองกลับบ้าน และไม่เคยปิดจนออกไปทำงานในตอนเช้า ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ก็จะเปิดค้างตั้งแต่เย็นวันศุกร์ จน ถึง 7 โมงเช้าวันจันทร์ ขนาดออกนอกบ้านเป็นวันๆในวันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ปิด เปิดทุกฤดู ไม่ว่าจะร้อน จะฝน จะหนาว – อันนี้เราไม่เข้าใจมากๆ
อีกเรื่องคือ น้องสาวสามีกลัวผี เลยเปิดไฟนอน ถ้ากลับบ้านหลังสุด ก็จะเปิดไฟทั้งบ้านตั้งแต่รั้วหน้าบ้าน เข้ามาในบ้านทิ้งไว้ทั้งคืน หรือ ถ้าออกจะบ้านหลังสุด ก็จะเปิดไฟทั้งบ้านทิ้งไว้ จนกว่าจะมีคนกลับมาปิด
อินเตอร์เนตเนี๊ย ก็ต้องใช้กันทั้งบ้านแบ่งๆกัน แต่แค่น้องสาวสามีคนเดียวก็ต่อ มือถือ 2 เครือง laptop 1 เครื่อง ipad อีก 1เครื่อง แถมโหลดซีรี่เกาหลีตลอดเวลา เรากับสามีถ้าจะใช้เนตก็ต้องคิดก่อนว่า ต่อเครื่องไหนดี ถ้าจะทำงานก็ต่อกับ laptop เอาแล้วกัน มือถือก็ 3G4Gกันไป
รถ
รถที่น้องสาวสามีขับอยู่สามีก็ยังผ่อนให้ ซ่อมให้ เสียภาษีให้ เปลี่ยนยาง และแบตเตอรี่ บางทีก็เติมน้ำมันให้ด้วย
ปัจจุบันน้องสาวจะซื้อคันใหม่ จะให้คืนรถคันที่สามีซื้อให้ บอกให้เราใช้ แล้วบอกว่าจะเอารถของเราที่เราซื้อเองผ่อนเองซ่อมเองไปขายมาดาวน์คันใหม่เพราะรถใหม่และใหญ่กว่าจะขายได้ราคากว่า --อันนี้เราไม่ยอมแน่นอน แต่ทำไมถึงมีความเห็นแก่ตัวแบบนี้
อาหารในบ้าน
เราเป็นคนจ่ายตลาดเข้าบ้านด้วยรายได้ของเราเองเข้าที่บ้าน สัปดาห์ละประมาณ 1,500 แต่เราไม่เคยได้กินข้าวที่บ้าน เพราะน้องสาวสามีมักจะทำใส่กล่องไปกินที่ทำงานและพาแฟนมากินข้าวที่บ้านในวันเสาร์อาทิตย์ โดยที่น้องสาวไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายอะไรเลย ส่วนที่เหลือจากน้องสาวทำไปกินที่ทำงานก็เหลือไว้ให้แม่ทำกิน ทำให้เราไม่กล้าทำกับข้าวกิน ทุกวันนี้เราและสามีต้องกินข้าวนอกบ้านทุกมื้อ หากวันไหนน้องสาวจะทำกับข้าวอะไรกินแล้วของไม่พอก็จะสั่งให้สามีเราซื้อมาให้เพิ่ม หรืออยากกินโค้กหรือขนมหวานก็จะสั่ง แล้วสามีเราก็บ้าจี้ซื้อให้ด้วย
บ้านเราจะจ่ายตลาดทุกวันศุกร์ เพราะกะกันไว้ว่าจะได้ทำกินกันในวันเสาร์ตอนเช้า แต่น้องสาวสามีชอบโพสขึ้นเฟสบุ๊คตอนกลางคืนวันศุกร์-เช้าวันเสาร์ว่า “กับข้าวเก่าค้างตู้ต้องรีบเอามาทำๆกินให้หมด เดี๋ยวจะเสียซะหมด” หรือ แล้วเวลาแฟนของน้องสาวสามีมากก็มักจะโพสว่า “เนี๊ย ต้องขอให้พี่xxxกินนะ ซื้อมาตั้งแต่วันก่อน จะเน่าแล้ว”
เงินเก็บให้แม่
น้องสาวสามี มาบังคับให้สามีเราร่วมกันเก็บเงินให้แม่ คนละ 500 ต่อเดือนละ รวมกันแล้วก็เดือนละ 1,000 แล้วก็จะให้เราเข้าร่วมด้วย เราก็ถามว่า ทำไมเราต้องเข้าร่วมเก็บด้วย เค้าบอกว่าเราเป็นลูกสะใภ้แม่ ก็ต้องร่วมเก็บด้วย เราก็ได้แต่บอกไปว่า เราก็ต้องเก็บส่วนของเราให้พ่อให้แม่เราด้วย เราเป็นลูกคนเดียว พ่อกับแม่เรายังอยู่ทั้งคู่ แถมเราย้ายมาอยู่บ้านนี้เราไม่ได้ดูแลพ่อแม่เราเลยด้วย ปกติเราก็เก็บเดือนละ 10,000 ให้พ่อให้แม่เรา ถ้าเราช่วยทางบ้านนี้เก็บ งั้นขอให้สามีเราช่วยเก็บในฐานะลูกเขยบ้านพ่อแม่เราเหมือนกันได้ใหม่ แค่เดือนละ 500 เหมือนกันก็ได้ --- เราไม่ได้รับคำตอบในส่วนนี้คะ
ประตูบ้าน
ปกติเรากับสามีจะออกไปกินข้าวเย็นประมาณช่วง 6 โมง – 1 ทุ่ม ก็จะบอกแม่สามีไว้ตลอดว่าไม่ต้องปิดบ้านนะ แป๊ปเดียวเดี๋ยวก็กลับ พอเรากลับบ้านมา 2 ทุ่ม บ้านก็จะล็อกตั้งแต่ รั้วบ้านด้วยแม่กุญแจใหญ่ ประตูบ้าน แล้วก็ล็อกประตูมุ้งลวดอีกที โอเค ถ้าล็อคเราก็ไข ไม่เป็นไรถือว่าเพื่อความปลอดภัย (แต่ก็หงุดหงิดอ่ะ)
พีคกว่าคือ น้องสาวสามีก็เดินอยู่ในบ้านแต่ไม่เคยเปิดประตูให้ ต้องไขกันเอง
แต่เวลาตัวเองกลับบ้าน ถ้าบ้านล็อคนี่คือเรื่องใหญ่ มาถามทุกคนในบ้านทำไมต้องล็อคบ้าน หรือบางทีถ้ากลับดึกจะต้องโทรให้แม่มาคอยเปิดประตูไว้ให้ กุญแจของตัวเองนี่ไม่เคยหยิบลงมาจากรถเลย
แมว-หมา
ที่บ้านมีแมว 4 ตัว หมา 2 เป็นพันธุ์ฝรั่งทั้งหมด น้องสาวสามีขอให้สามีเราซื้อให้ทั้งหมด ตอนซื้อก็สัญญาว่า จะจ่ายค่าอาหาร กรง ทราย วัคซีนและค่าหมอ เองทั้งหมดให้เพียงซื้อให้เท่านั้น แต่สรุปแล้วสามีเราออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แถมต้องมานั่งใช้กระบวยกรองขี้แมวออกจากทรายเองด้วย
เราเคยขอสามีว่าให้แบ่งไปให้คนอื่นบ้าง เพราะเราแพ้มากทั้งผิวและทางเดินหายใจ แต่สามีก็ไม่สนใจ อีกทั้งแมวที่ได้มา น่าจะได้จากฟาร์มที่ดูแลไม่ดี แมวเลยเป็นลูคีเมียทั้ง 4 ตัว มีบางตัวที่เป็นไต เลยต้องกินอาหารพิเศษ+ให้น้ำเกลือวันเว้นวัน
จนกระทั่งเราท้องครั้งนึง แต่แท้งตอนสัปดาห์ที่ 8 หมอบอกว่า ปกติแล้ว 5 ใน 10 ของหญิงตั้งครรภ์มีโอกาสแท้ง และมีหลายสาเหตุ เช่นกระเทือน, ดื่มเหล้า, นอนดึก, เครียด, เชื้อจากอาหารทะเลไม่สุก และอีกเยอะแยะมากมาย แต่เราดูแลตัวเองดีไม่มีพวกนั้นเลย แล้วหมอก็ถามว่าที่บ้านเลี้ยงแมวหรือเปล่า เราว่า 4 ตัวคะ หมอเลยแนะนำให้เอาแมวไปเพาะเชื้อ หาโปรโตชัวในแมว ก็โดนไป เกือบ 50,000 ซึ่งก็พบว่าเจอในทุกๆตัวเลย ทำให้คิดได้ว่า เคยไปช่วยเก็บอึแมวอยู่ครั้งนึง
ตอนนี้เราอยากมีลูกมากๆ แต่กลัวเจอแหตุการณ์เดิม ก็เลยบอกสามีว่า สร้างห้องให้แมวอยู่เฉพาะได้มั้ย แยกส่วนต่างหากไม่มาเดินปะปนกับคน แต่น้องสาวสามีไม่ยอม บอกว่ากลัวแมวจะเครียด
ตอนนี้เราเครียดกว่า เราอยากย้ายออกกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่เรา แต่สามีไม่ยอมลูกเดียว เพราะเค้าบอกว่าเค้าอยู่บ้านพ่อแม่เราอึดอัด แต่ทำไมเค้าไม่คิดว่าเราอึดอัดที่จะอยู่บ้านนี้ พอเราจะซื้อบ้านใหม่อยู่กัน 2 คน เค้าก็บอกว่า บ้านก็มีแล้วจะสร้างหนี้ทำไมอีก แถมตอนนี้จะให้เก็บเงินกระเป๋าเดียวกันอีก เรากลัวว่าจะเอาเงินเราไปแล้วเราจะไม่ได้ใช้เอง
สามีเราดีทุกอย่างนี่คือสาเหตุที่เราไม่เลิกหรือทิ้งเค้าไปดื้อๆไม่ได้ แต่เค้าก็ดีเกินไป ยอมกับทุกๆคน เราไม่รู้จะทำอย่างไรดี อยากขอคำแนะนำหน่อยคะ
เพิ่มเติมคะ เพราะอาจจะแจ้งไม่ครบ
จาก ความคิดเห็นที่ 1
ตัวสามีเราทำงานธุรกิจส่วนตัว รายได้มีตั้งแต่ติดลบไปยันหลักแสนแล้วแต่เดือนแล้วแต่งาน ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้เงินเก็บก็ร่อยหรอคะ ช่วงนี้ติดลบทุกเดือน ถ้าถามว่าที่น้องมาเอาเปรียบแบบนี้เดือนร้อนมั้ย เราเดือนร้อนคะ เพราะแฟนมาใช้เงินเรา ส่วนเงินส่วนที่เค้าหามาได้เอาไปจ่ายค่าผ่อนบ้านให้น้องสาวเค้าคะ