ครั้งแรกขอการตั้งใจสมัครสมาชิกพันทิป หลังจากที่เป็นติดตามเป็นผู้อ่านมาโดยตลอด
วันนี้มีคำถามที่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้รู้ หรือผู้ที่เคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันมาก่อน รบกวนด้วยนะคะ
ดิฉันและพี่สาว ได้วางจองเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง มูลค่าประมาณ 6-7MB ณ วันทำสัญญา เราได้อ่านสัญญาแล้วพบว่ามีบางข้อ
ที่ว่าด้วยเรื่อง
- ในกรณีที่เกิด
เหตุสุดวิสัย ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยรวมภาวะสงคราม นัดหยุดงานหรือคำสั่งราชการ... ผู้จะซื้อตกลงขยายเวลาการก่อสร้าง
ออกไป 12 เดือน โดยไม่ถือเอาความล่าช้าและเป็นเหตุผิดนัด
- ในกรณีมีอุปสรรค ด้านก่อสร้าง เช่น วัสดุขาดแคลน ... เป็นต้น
ผู้จะซื้อยินยอม ให้ผู้จะขายขยายเวลาออกไปอีก 120 วัน โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
- หรือเนื้อความอื่นๆ เช่น เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง แบบแปลน อาคาร โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
สัญญามีหลายหน้าและมีสัญญาแนบท้ายอีก มีการอธิบายเรื่องค่าชดเชยในกรณีล่าช้านะคะ แต่พอมาอ่านข้อเกิดเหตุสุดวิสัยข้างต้น ดิฉันก็คิดว่า
นี่ทางโครงการมีโอกาสล่าช้าไปอีก 12 เดือนโดยที่ให้เรายินยอมใช่หรือไม่ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยที่ล่าช้า (คำว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หมายรวมถึงอะไรได้บ้างหรือคะ) แถมมีข้อที่บอกว่า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกด้วย (เริ่มสงสัยจริงจัง)
ในวันที่อ่านสัญญา เราเห็นว่ามีบางข้อที่เรามองว่าเราไม่เห็นด้วย เราจึงขอยังไม่เซ็นสัญญา ซึ่งทางโครงการก็แจ้งว่า จะให้ฝ่ายกฎหมายติดต่อกลับ
ในอีกไม่กี่วันต่อมา เซลส์ก็โทรมาว่า
สัญญาเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะประเมินจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน (เง้ออ งั้นหมายความว่า โครงการประเมินไว้แล้วว่ามีโอกาสตกต่ำแน่ ใช่มั้ย?) ดิฉันสอบถามไปว่า ช่วยอะไรลูกค้าได้บ้าง เรายังยืนยันไม่เซ็น เพราะถ้าเซ็นมันหมายถึง เรายอมรับทุกข้อเลยนะ
ปรึกษาน้องทนายท่านหนึ่ง น้องบอกว่า โครงการส่วนใหญ่มักจะเอาว่า
ผู้จะซื้อไม่ได้อ่าน หรืออ่านไม่ละเอียด หรือภาษากฎหมาย เปิดกว้างๆๆ มาเป็นช่องโหว่ ให้ลูกค้าเซ็นๆ ไป (โอว้!! เพราะความอยากได้คอนโด เราต้องเซ็นทั้งๆ ที่ยังไม่เห็นชอบในสัญญางั้นรึ)
เค้าอาจเอาเรื่อง จะยึดมัดจำมาบังคับให้เราต้องเซ็น (T_T)
คำถามค่ะ
- ด้วยความเข้าใจและประสบการณ์น้อยเรื่องการซื้อคอนโด สัญญาโดยทั่วไปเค้าเป็นแบบนี้กันอยู่แล้วหรือเปล่าคะ
- โครงการอื่นๆ มีการชดเชยในความล่าช้าอย่างไร และ/อัตราการจ่ายค่าชดเชยล่าช้า เท่าไหร่กันหรือค่ะ (เล่าให้ฟังหน่อยค่า)
- หากเรายืนยันไม่เห็นด้วยกับเนื้อความในสัญญา แย่ที่สุดคือเรากับพี่สาวไม่โอเคกับโครงการนี้แล้ว โครงการคืนเงินจองเราหรือไม่
- เจ้าหน้าที่พยายามจะให้เราเซ็น โดยบอกว่า ทางโครงการ ไม่ยอมให้เสียชื่ออยู่แล้วครับ และยิ่งล่าช้า โครงการก็ยิ่งมีต้นทุนเพิ่ม โครงการไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นนะครับ (เอิ่มม!! วันนี้พูดได้ แต่อนาคตใครจะไปรู้ เซ็นไปแล้ว ก็จบสินะ!!)
** ระหว่างการชดเชยที่ถูกต้อง ชัดเจนเป็นธรรม กับการทำให้สัญญาเปิดกว้างๆ ไว้ เพื่อไม่ต้องชำระค่าชดเชยลูกค้า อย่างไหนจะได้ชื่อเสียงที่ดีมากกว่ากัน**
ทั้งหมดนี้ที่ตั้งใจเข้ามาแชร์และสอบถามเพื่อ
- รบกวนผู้รู้ช่วยตอบเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
- เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ เพราะเห็นลูกค้าหลายท่านที่เซ็นไป ทั้งที่ไม่ได้อ่านสัญญา (ในวันที่เกิดเหตุการณ้มีบางท่านที่เห็นด้วยกับเราไม่เซ็นเหมือนกัน)
อยากให้ทุกท่าน
อ่านก่อนเซ็น เห็นก่อนดม!! ^^
** มิได้มีเจตนาเพื่อโจมตี หรือหมิ่นประมาทตัวโครงการหรือบริษัทแต่อย่างใด**
ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้านะคะ
----------------------------------------
อัพเดทค่ะ (14.12.16)
จากเรื่องที่เคยตั้งกระทู้ถามไว้นะคะ อัพเดทความคืบหน้าจากโครงการค่ะ เรายืนยันไม่เซ็นสัญญานะคะ ทางเราได้รับคำแนะนำจาก สคบ. ให้ส่งหนังสือเข้าทางอีเมลของบริษัทค่ะ เพื่อดูการตอบกลับ
มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาเพื่อให้เซ็นสัญญา คืนเงินมัดจำ โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 30 วันค่ะ
และเรื่องก็ยาวนานมากกกกกก ผ่านไป 30 วันตามหน้าสัญญา เราก็ยังไม่ได้รับเงิน และไม่ได้รับการติดต่อใดๆ
เราต้องโทรตามตลอด
ครั้งที่ 1 เจ้าหน้าที่บอกเราว่าชื่อตกหล่น ให้รอ
ครั้งที่ 2 เคสทางบริษัทเยอะมากจึงหล่นไป จะรีบดำเนินการให้ ให้รอ
ครั้งที่ 3 ให้รออีกไม่เกิน 30 วัน
ครั้งที่ 4 เราเร่งบอก ทางบริษัทคุณผิดสัญญา คุณให้รออีก 30 วัน มันไม่ถูกต้อง
ครั้งที่ 5 เร่งให้ไม่เกิน 13 วัน และจะให้ฝ่ายบัญชีติดต่อกลับ
จนมาวันที่ 13 ก็ยังไม่ได้รับเงินอะไร
คืออยากบอกว่า ติดต่อไปหลายครั้งมากค่ะ ความรู้สึกเหมือนต้องคอยทวง เราโทรเข้า call center ก็ไม่มีใครรับสาย
จนกระทั่งครั้งสุดท้ายโทรไปบอกว่า ....พี่ยังไม่รับการติดต่อจากใครเลย และเราส่งเรื่องเข้าสคบ.แล้ว ไม่เป็นไร เริ่มรอได้และ!
.... ฝ่ายบัญชีติดต่อมา บอกว่า ยอดเงินคุณจะโอนเข้าวันที่ 15 (พรุ่งนี้) แต่เนื่องจากต่างธนาคาร ต้องรออีก 2 วัน (ค่าธรรมเนียม!!!)
ทั้งหมดนี้ไม่ทราบเลยว่า ทางบริษัท Origins รับทราบเรื่องมากน้อยแค่ไหนถึงกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นความผิดพลาดของพนักงานหรือความตั้งใจจากบริษัทเอง
******สิ่งที่มาบอกเล่า เพื่อเป็นข้อคิดในการซื้อคอนโดให้เพื่อนๆ ทุกครั้งควรอ่านสัญญาเสมอ ถ้าสัญญามันอยู่ในระดับที่คุณโอเค รับได้ก็เซ็น แต่ถ้ารับไม่ได้ คุณยังมีทางเลือกมันเป็นสิทธิของคุณ และถ้าทางบริษัทรับทราบปัญหา ก็ควรพิจารณาสัญญาที่เป็นธรรมและการทำงานของพนักงานมากขึ้นด้วย******
ผู้รู้ช่วยตอบที ว่าด้วยเรื่อง สัญญาคอนโดที่ไม่ชัดเจน เป็นธรรม เราควรทำอย่างไร
วันนี้มีคำถามที่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้รู้ หรือผู้ที่เคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันมาก่อน รบกวนด้วยนะคะ
ดิฉันและพี่สาว ได้วางจองเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง มูลค่าประมาณ 6-7MB ณ วันทำสัญญา เราได้อ่านสัญญาแล้วพบว่ามีบางข้อ
ที่ว่าด้วยเรื่อง
- ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยรวมภาวะสงคราม นัดหยุดงานหรือคำสั่งราชการ... ผู้จะซื้อตกลงขยายเวลาการก่อสร้าง
ออกไป 12 เดือน โดยไม่ถือเอาความล่าช้าและเป็นเหตุผิดนัด
- ในกรณีมีอุปสรรค ด้านก่อสร้าง เช่น วัสดุขาดแคลน ... เป็นต้น ผู้จะซื้อยินยอม ให้ผู้จะขายขยายเวลาออกไปอีก 120 วัน โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
- หรือเนื้อความอื่นๆ เช่น เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง แบบแปลน อาคาร โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
สัญญามีหลายหน้าและมีสัญญาแนบท้ายอีก มีการอธิบายเรื่องค่าชดเชยในกรณีล่าช้านะคะ แต่พอมาอ่านข้อเกิดเหตุสุดวิสัยข้างต้น ดิฉันก็คิดว่า
นี่ทางโครงการมีโอกาสล่าช้าไปอีก 12 เดือนโดยที่ให้เรายินยอมใช่หรือไม่ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยที่ล่าช้า (คำว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หมายรวมถึงอะไรได้บ้างหรือคะ) แถมมีข้อที่บอกว่า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกด้วย (เริ่มสงสัยจริงจัง)
ในวันที่อ่านสัญญา เราเห็นว่ามีบางข้อที่เรามองว่าเราไม่เห็นด้วย เราจึงขอยังไม่เซ็นสัญญา ซึ่งทางโครงการก็แจ้งว่า จะให้ฝ่ายกฎหมายติดต่อกลับ
ในอีกไม่กี่วันต่อมา เซลส์ก็โทรมาว่า สัญญาเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะประเมินจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน (เง้ออ งั้นหมายความว่า โครงการประเมินไว้แล้วว่ามีโอกาสตกต่ำแน่ ใช่มั้ย?) ดิฉันสอบถามไปว่า ช่วยอะไรลูกค้าได้บ้าง เรายังยืนยันไม่เซ็น เพราะถ้าเซ็นมันหมายถึง เรายอมรับทุกข้อเลยนะ
ปรึกษาน้องทนายท่านหนึ่ง น้องบอกว่า โครงการส่วนใหญ่มักจะเอาว่า ผู้จะซื้อไม่ได้อ่าน หรืออ่านไม่ละเอียด หรือภาษากฎหมาย เปิดกว้างๆๆ มาเป็นช่องโหว่ ให้ลูกค้าเซ็นๆ ไป (โอว้!! เพราะความอยากได้คอนโด เราต้องเซ็นทั้งๆ ที่ยังไม่เห็นชอบในสัญญางั้นรึ) เค้าอาจเอาเรื่อง จะยึดมัดจำมาบังคับให้เราต้องเซ็น (T_T)
คำถามค่ะ
- ด้วยความเข้าใจและประสบการณ์น้อยเรื่องการซื้อคอนโด สัญญาโดยทั่วไปเค้าเป็นแบบนี้กันอยู่แล้วหรือเปล่าคะ
- โครงการอื่นๆ มีการชดเชยในความล่าช้าอย่างไร และ/อัตราการจ่ายค่าชดเชยล่าช้า เท่าไหร่กันหรือค่ะ (เล่าให้ฟังหน่อยค่า)
- หากเรายืนยันไม่เห็นด้วยกับเนื้อความในสัญญา แย่ที่สุดคือเรากับพี่สาวไม่โอเคกับโครงการนี้แล้ว โครงการคืนเงินจองเราหรือไม่
- เจ้าหน้าที่พยายามจะให้เราเซ็น โดยบอกว่า ทางโครงการ ไม่ยอมให้เสียชื่ออยู่แล้วครับ และยิ่งล่าช้า โครงการก็ยิ่งมีต้นทุนเพิ่ม โครงการไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นนะครับ (เอิ่มม!! วันนี้พูดได้ แต่อนาคตใครจะไปรู้ เซ็นไปแล้ว ก็จบสินะ!!)
** ระหว่างการชดเชยที่ถูกต้อง ชัดเจนเป็นธรรม กับการทำให้สัญญาเปิดกว้างๆ ไว้ เพื่อไม่ต้องชำระค่าชดเชยลูกค้า อย่างไหนจะได้ชื่อเสียงที่ดีมากกว่ากัน**
ทั้งหมดนี้ที่ตั้งใจเข้ามาแชร์และสอบถามเพื่อ
- รบกวนผู้รู้ช่วยตอบเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
- เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ เพราะเห็นลูกค้าหลายท่านที่เซ็นไป ทั้งที่ไม่ได้อ่านสัญญา (ในวันที่เกิดเหตุการณ้มีบางท่านที่เห็นด้วยกับเราไม่เซ็นเหมือนกัน)
อยากให้ทุกท่าน อ่านก่อนเซ็น เห็นก่อนดม!! ^^
** มิได้มีเจตนาเพื่อโจมตี หรือหมิ่นประมาทตัวโครงการหรือบริษัทแต่อย่างใด**
ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้านะคะ
----------------------------------------
อัพเดทค่ะ (14.12.16)
จากเรื่องที่เคยตั้งกระทู้ถามไว้นะคะ อัพเดทความคืบหน้าจากโครงการค่ะ เรายืนยันไม่เซ็นสัญญานะคะ ทางเราได้รับคำแนะนำจาก สคบ. ให้ส่งหนังสือเข้าทางอีเมลของบริษัทค่ะ เพื่อดูการตอบกลับ
มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาเพื่อให้เซ็นสัญญา คืนเงินมัดจำ โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 30 วันค่ะ
และเรื่องก็ยาวนานมากกกกกก ผ่านไป 30 วันตามหน้าสัญญา เราก็ยังไม่ได้รับเงิน และไม่ได้รับการติดต่อใดๆ
เราต้องโทรตามตลอด
ครั้งที่ 1 เจ้าหน้าที่บอกเราว่าชื่อตกหล่น ให้รอ
ครั้งที่ 2 เคสทางบริษัทเยอะมากจึงหล่นไป จะรีบดำเนินการให้ ให้รอ
ครั้งที่ 3 ให้รออีกไม่เกิน 30 วัน
ครั้งที่ 4 เราเร่งบอก ทางบริษัทคุณผิดสัญญา คุณให้รออีก 30 วัน มันไม่ถูกต้อง
ครั้งที่ 5 เร่งให้ไม่เกิน 13 วัน และจะให้ฝ่ายบัญชีติดต่อกลับ
จนมาวันที่ 13 ก็ยังไม่ได้รับเงินอะไร
คืออยากบอกว่า ติดต่อไปหลายครั้งมากค่ะ ความรู้สึกเหมือนต้องคอยทวง เราโทรเข้า call center ก็ไม่มีใครรับสาย
จนกระทั่งครั้งสุดท้ายโทรไปบอกว่า ....พี่ยังไม่รับการติดต่อจากใครเลย และเราส่งเรื่องเข้าสคบ.แล้ว ไม่เป็นไร เริ่มรอได้และ!
.... ฝ่ายบัญชีติดต่อมา บอกว่า ยอดเงินคุณจะโอนเข้าวันที่ 15 (พรุ่งนี้) แต่เนื่องจากต่างธนาคาร ต้องรออีก 2 วัน (ค่าธรรมเนียม!!!)
ทั้งหมดนี้ไม่ทราบเลยว่า ทางบริษัท Origins รับทราบเรื่องมากน้อยแค่ไหนถึงกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นความผิดพลาดของพนักงานหรือความตั้งใจจากบริษัทเอง
******สิ่งที่มาบอกเล่า เพื่อเป็นข้อคิดในการซื้อคอนโดให้เพื่อนๆ ทุกครั้งควรอ่านสัญญาเสมอ ถ้าสัญญามันอยู่ในระดับที่คุณโอเค รับได้ก็เซ็น แต่ถ้ารับไม่ได้ คุณยังมีทางเลือกมันเป็นสิทธิของคุณ และถ้าทางบริษัทรับทราบปัญหา ก็ควรพิจารณาสัญญาที่เป็นธรรมและการทำงานของพนักงานมากขึ้นด้วย******