ก่อนอื่น ขออนุญาตงดการพูดถึง วัดนาป่าพง นะครับ จะได้ไม่ทำให้บรรยากาศของข้อซักถามในกระทู้นี้เสียไป
เป็นข้อสงสัยของผมจริงๆครับ ว่าในปัจจุบันนี้ ยังคงมีวัดใดบ้างในประเทศไทย ที่นำเอาพระสูตรในพระไตรปิฎกมาบอกสอนแก่ญาติโยม
โดยไม่ได้นำเอาความคิดเห็นส่วนตัว หรือคำสอนของครูบาอาจารย์ของภิกษุท่านนั้นๆ มาปนเลย
เนื่องจาก ผมได้ไปหลายต่อหลายวัด ได้ฟังคำเทศนาสอนของภิกษุหลายรูป
ส่วนใหญ่ ก็นำหลักธรรมอันดีงามมาเทศนา แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักจะไม่ได้บอกว่า คำสอนนี้มาจากพระสูตรบทใด
อ้างอิงจากคัมภีร์ใดในพระไตรปิฎก หรือไม่ได้สังเคราะห์ อรรถะและนัยยะของพระสูตรนั้นๆ
ตัวอย่างหนึ่งที่คลาสสิคมากคือ
คำเทศนาเกี่ยวกับ บาป-บุญ เปรียบกับเกลือในแก้ว และแม่น้ำ (บางรูปเปรียบกับโอ่ง)
ซึ่งเนื้อหานั้น คล้ายๆกัน แต่อันที่จริงแล้ว พระสูตรบทนี้คือ "โลณกสูตร"
จาก พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต (๒๐/๒๓๗/๕๔๐)
ส่วนหนึ่งของพระสูตรบทนี้กล่าวไว้ว่า
-----
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในขันใบน้อย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
น้ำในขันเพียงเล็กน้อยนั้น พึงเค็มดื่มกินไม่ได้ เพราะก้อนเกลือโน้นใช่ไหม ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่าใช่พระเจ้าข้า ฯ
พ. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ฯ
ภิ. เพราะในขันน้ำมีน้ำนิดหน่อย ฉะนั้นน้ำนั้นจึงเค็ม ดื่มไม่ได้ เพราะก้อนเกลือนี้พระเจ้าข้า ฯ
พ. เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในแม่น้ำคงคา เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
แม่น้ำคงคาพึงเค็ม ดื่มไม่ได้ เพราะก้อนเกลือโน้นหรือไม่ ฯ
ภิ. หามิได้ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ฯ
ภิ. เพราะในแม่น้ำคงคานั้น มีห้วงน้ำใหญ่ ฉะนั้น ห้วงน้ำใหญ่นั้นจึงไม่เค็ม ดื่มได้เพราะก้อนเกลือโน้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก
ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ทำบาปกรรมเล็กน้อยเช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏแต่เฉพาะส่วนมาก ... ฯ
-----
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ
ปัจจุบันมีวัดใดบ้างที่นำพระสูตรในพระไตรปิฎกมาถ่ายทอดให้ประชาชนฟังกัน?
เป็นข้อสงสัยของผมจริงๆครับ ว่าในปัจจุบันนี้ ยังคงมีวัดใดบ้างในประเทศไทย ที่นำเอาพระสูตรในพระไตรปิฎกมาบอกสอนแก่ญาติโยม
โดยไม่ได้นำเอาความคิดเห็นส่วนตัว หรือคำสอนของครูบาอาจารย์ของภิกษุท่านนั้นๆ มาปนเลย
เนื่องจาก ผมได้ไปหลายต่อหลายวัด ได้ฟังคำเทศนาสอนของภิกษุหลายรูป
ส่วนใหญ่ ก็นำหลักธรรมอันดีงามมาเทศนา แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักจะไม่ได้บอกว่า คำสอนนี้มาจากพระสูตรบทใด
อ้างอิงจากคัมภีร์ใดในพระไตรปิฎก หรือไม่ได้สังเคราะห์ อรรถะและนัยยะของพระสูตรนั้นๆ
ตัวอย่างหนึ่งที่คลาสสิคมากคือ
คำเทศนาเกี่ยวกับ บาป-บุญ เปรียบกับเกลือในแก้ว และแม่น้ำ (บางรูปเปรียบกับโอ่ง)
ซึ่งเนื้อหานั้น คล้ายๆกัน แต่อันที่จริงแล้ว พระสูตรบทนี้คือ "โลณกสูตร"
จาก พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต (๒๐/๒๓๗/๕๔๐)
ส่วนหนึ่งของพระสูตรบทนี้กล่าวไว้ว่า
-----
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในขันใบน้อย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
น้ำในขันเพียงเล็กน้อยนั้น พึงเค็มดื่มกินไม่ได้ เพราะก้อนเกลือโน้นใช่ไหม ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่าใช่พระเจ้าข้า ฯ
พ. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ฯ
ภิ. เพราะในขันน้ำมีน้ำนิดหน่อย ฉะนั้นน้ำนั้นจึงเค็ม ดื่มไม่ได้ เพราะก้อนเกลือนี้พระเจ้าข้า ฯ
พ. เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในแม่น้ำคงคา เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
แม่น้ำคงคาพึงเค็ม ดื่มไม่ได้ เพราะก้อนเกลือโน้นหรือไม่ ฯ
ภิ. หามิได้ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ฯ
ภิ. เพราะในแม่น้ำคงคานั้น มีห้วงน้ำใหญ่ ฉะนั้น ห้วงน้ำใหญ่นั้นจึงไม่เค็ม ดื่มได้เพราะก้อนเกลือโน้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก
ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ทำบาปกรรมเล็กน้อยเช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏแต่เฉพาะส่วนมาก ... ฯ
-----
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ