[CR] Aurora Hunter ตอน ตามล่าเครื่องบินตก (ตอนจบ)


หลังจากขับล่าแสงเหนือไปสักพักผมก็ลองเดาดุว่าระหว่างทางมันจะเห็นที่น้ำตกนั้นไหมก็เลยลองขับย้อนไปเรื่อยแล้วกะจะว่าจะนอนที่ตรงน้ำตกนั้นเลย ก็ขับไปถ่ายรูปไปด้วยแล้วก็มาเจอแสงเหนือตรงน้ำตกจริงๆ ความแรงวันนี้อาจจะไม่เท่าไรแต่กแค่นี้ก็พอใจแล้ว



ผมก็เลยตั้งกล้องถ่ายยาวๆไป บริเวณที่ผมตั้งกล้องมีแผ่นน้ำแข็งตรงแม่น้ำที่ไหลลงเดินไปลื่นไป พอได้ภาพที่พอใจแล้ว ก็ไปนอนได้แล้วเพราะหนาวมากและง่วงมากจริงๆ แอบหวังว่าจะเห็นสายรุ้งตรงน้ำตกในตอนเช้า

ตื่นเช้ามาด้วยความคึกกินไส้กรอกสดๆแล้วออกมาถ่ายรูปต่อ รูปนี่ก็วิ่งไปมาอยู่หลายรอบกว่าจะได้รูปนี้ ผมเห็นคนขึ้นไปดูวิวจากด้านบนไหนๆก็ไม่รู้จะไปไหนละเลยคิดว่ามาทั้งทีลองขึ้นไปดูสักหน่อยละกันคงไม่เสียเที่ยวเดินไปครึ่งทางรู้สึกอยากลงแต่ก็มาครึ่งทางละเลยเดินต่อไป



วิวจากด้านบนก็ถือว่าใช้ได้แต่ถ้าเทียบกับมองจากโดรนละก็อย่าขึ้นมาเลยเหนื่อยเปล่าๆ เนื่องจากแผนเดินเปลี่ยนว่าจากเที่ยวรอบเกาะเป็นย้อนทางเดินเพราะ นางป่วยก็เลยลองหาที่เที่ยวดูแถวนี้ แล้วก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องบินที่ตกกลางหาดที่เราได้ยินคำบอกเล่ามาว่าเค้าปิดไม่ให้เข้าแล้ว และถึงแม้เข้าได้ทางไปก็สำหรับยกสูงซึ่งรถเรานี่ก็เตี้ยมาก ใจนึงก็กลัวจะโดนค่าปรับเพราะทำรถเค้าพัง อีกใจก็ไม่มีที่เที่ยวแล้วก็เลยเอาลองหาข้อมูลว่ามันเลี้ยวเข้าทางไหนเพราะเจ้าของที่เค้าเริ่มรู้สึกรำคาญที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวบ่อยเกินจนทำป้ายห้ามเข้า พอเจอทางเข้าปุ๊บก็เลี้ยวเข้าปั้บเกือบเลยแนะ พอวิ่งเข้าไปจะเห็นทางหลักแต่หินค่อนข้างเยอะเราก็เลยเลือกจะขับเลาะไปเรื่อยขึ้นเนินบ้าง ลงเนินบ้างเรียกว่าเหมือนมาล่าสมบัติเพราะไม่เห็นวี่แววของเครื่องบินเลยสักนิด ขับไปก็คิดไปว่าจะเจอไหมเนี่ยรู้งี้ขับทางหลักดีกว่าเนินนี่ก็สูงต่ำต่างกันเหลือเกินกลัวรถจะคว่ำก่อนถึง ไม่ก็ติดหล่ม พอขับไปสักพักก็เลยคิดว่าขับแบบนี้อีกนานแน่กว่าจะเจอเลยเอาโดรนไปบินหาน่าจะง่ายกว่า ว่าแล้วก็ติดเครื่องบินกันเลย (วีดีโอนี้จะเห็นในวีดีโอรวมตอนท้ายนะครับพอดีไม่ได้อัพแยก) บินไปสักพัก เจออะไรแปลกเป็นลายล้อรถวิ่งเป็นวงกลมสวยดี แต่ยังไม่เจอเครื่องบิน จนบินไปสักพักถึงจะเจอพอเจอแล้วก็เลยรู้ว่าเราต้องขับไปทางไหนต่อ เมื่อมาถึงเครื่องบินก็ปรากฏว่าเรามาจากทางไม่ปกติเลยขับไปจอดใกล้ๆไม่ได้เพราะมันอยู่บนเนินที่สูงกว่ามากเลยต้องจอดรถแล้วเดินถ่ายรูปแทน ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็ 11 โมงยังไม่มีใครมาเลยเราเป็นกลุ่มแรกของวัน



















เรียกว่าถ่ายกันจนจุใจเพราะไม่มีคนเลย (ปีนขึ้นไปบนเครื่องบินนี่ต้องระวังหน่อยนะครับ เพราะมันคมมากพวกรอยขาดของเครื่องอาจจะทำลายเสื้อผ้าเราหรือบาดเราจนเป็นแผลได้) จนสักพักเริ่มมีคนมาเป็นฝรั่งเอาสเกตบอร์ดมาเล่นตรงปีกเครื่องบิน ตินแรกแบบ เออ เท่อะพกมาเล่น สักพักคนเริ่มมาเพิ่มเยอะละ เลยชิ่งหนีออกก่อนดีกว่า ขากลับขี้เกียจหาทางเลาะเนินเลยยอมหาทางลงไปเชื่อมทางหลักระหว่างทางแล้วค่อยๆวิ่งออกมา แล้วก็มุ่งหน้าตรงกลับเข้าเมือง ในใจก็กลัวเหมือนกันว่าจะโดนค่าปรับทำช่วงล่างรถเค้าพังรึเปล่า


มาถึงเมืองก็ดึกแล้ววันนี้ก้ไปตายรังจอดรถนอนในศูนย์การค้าอีกเช่นเคยเพราะลมแรงมากจริงๆจอดในอาคารก็ยังดี เปิดฮีทเตอร์นอกหลับๆตื่นๆพอเช้าเลยลองหาที่เที่ยวในเมืองก็เจอร้านอาหารนี้อยู่บนเขา เลยลองมาดูจอดรถเข้ามาปุ้บรู้เรื่องเลยเจอคนทำท่าเหมือนแขนเจ็บเข้ามาทักว่าช่วยพาไปส่งโรงพยาบาลหน่อย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าเค้าเป็นจริงหรือหลอก เพราะมีคนแถวนั้นหลายคนแล้วผมก็ไม่รู้ว่าโรงพยาบาลอยู่ที่ไหนด้วย เลยบอกเค้าว่าลองถามคนท้องถิ่นดู เข้ามาเช้าวันนี้ก็หมอกลงมองได้ไม่ไกลมานักลมแรง ด้านบนมีทางให้ออกไปเดินชมวิวได้ฟรีนะครับตึกนี้



ไหนๆก็มาชมวิวละเลยของลองกินอะไรที่นี่หน่อย เลยจัดชากับชีสเค้กมากินรสชาตใช้ได้เลยนะอร่อยดี

นี่คือหน้าตึกลมแรงมากหิมะนี่ตีหน้าจนเจ็บถ่ายไปสองรูปก็พอละขึ้นรถเถอะ

ไปหาที่เที่ยวในเมืองต่อคือไปเก็บโบรชัวในตึกมาเปิดดูว่ามีที่เที่ยวไหนบ้างที่เจอเลยคือพิพิธภัณฑ์แสงเหนือ กับ สัตว์น้ำ ก้เลยเปิดแมพขับไปอันแรกสัตว์น้ำดูยิ่งใหญ่จนกลับค่าเข้า ก็เลยขับมาดูแสงเหนือก็อารมณ์น่าจะเป็นแบบท้องฟ้าจำลองแต่เปิดแสงเหนือให้ดูอันนี้เดานะ




จอดแปปเดียวนี่หิมะเกาะรถขนาดนี้ แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้องเที่ยวไรไม่ได้แน่บรรยากาศแบบนี้ หาร้านกินข้าว ก่อนอื่นขับไปวนหาที่จอดรถที่นี่ก็เหมือนทั่วไปคือเอารถไปจอดแล้วเอาตังไปกดตู้แล้วเอากระดาษมาแปะหน้ารถจะจอดกี่ชมก็จ่ายไปตามนั้นแต่ต้องกะเอาเองนะซึ่งนี่ละยากสุดก็เลยกะว่าสักสองชมน่าจะกลับมาละ ไปร้านแรกอาหารดีน่ากินและแพง เดินไปถึงร้านเรียบร้อยลืมดูเวลาเปิดเค้าเปิดตอนเย็นนี่มาตั้งแต่เที่ยง เลยได้แค่ถ่ายหน้าร้านมา ไปร้านสองก็เช่นกัน


ที่นี่เลยลองไปเดินในเมืองละร้านไหนเปิดก็ร้านนั้นละเลยได้ร้านนี้มากิน









ร้านนี้สั่งเป็นเซทมาอาหารก็อาจจะไม่ถูกปากคนไทยเท่าไรนัก แต่ที่แนะนำว่าต้องมาโดนร้านนี้คือจานของหวานอันนี้อร่อยแบบฟินไปเลย กินเสร็จก็ไม่ค่อยอิ่มนัก เลยออกมาเดินย่อยเล่นๆ ถนนตอนนี้คือลื่นมาก คนเดินไปมาล้มกันตลอดแล้วก็มาเจอร้านฮอตดอกเรียกว่าเป็นอาหารที่เหมาะกับบรรยากาศแบบนี้ที่สุดแล้ว ร้านขึ้นชื่อคนมากินกันเต็มไปหมดเลยจัดไปชิ้นนึง

แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ารถเราเกินเวลาไปแล้วนี่นาเลยรีบกลับมาที่รถกลับโดนค่าปรับแต่พอมาถึงไม่โดนแต่หอมะเกาะใต้ท้องรถเต็มไปหมดจะขุดเพื่อเอารถออกเลยทีเดียว มาคิดๆดอากาศแบบนี้คงไม่มีใครขยันมาแจกใบสั่งมั่ง แต่บ้านที่เราจองไว้เป็นเมืองเดียวกับสนามบินห่างจากเมืองหลวงไปครึ่งชม ก็เลยเอายำยำสุกี้กินเป็นมื้อเย็นแทน ยังเหลืออีกวันนึง ที่จะเที่ยวใจก็อยากไปเข้านั้นอีกทีนึงแต่ไกลใช้ได้ขับเต็มที่ก็ 6 ชม. ก็เลยตัดสินใจว่าให้นางนอนพักให้หายป่วยแล้วกันแล้วขับไปคนเดียว เรียกว่ารีบยิ่งกว่ารีบเพราะอย่างที่บอกคือมันสว่างแค่ 4 ชม เพราะฉะนั้นถ้าจะทันคือพระอาทิตย์ตกแต่ก็ไม่รู้ว่าฟ้าจะเปิดไหมอีก ต้องวัดดวง







ขับไปก็ถ่ายไปแต่พอถ่ายรูปนี้จบปุ๊บเป็นทางลงเนินซึ่งเราก็รีบอยู่แล้วแต่จัดก็ว่าเอาอยู่ข้างหน้าเป็นสามแยกเราต้องเลี้ยวขวา เท่านั้นละพอเลี้ยวปุ๊บดังครื้ดๆๆๆๆๆๆๆ รู้เลยว่าลงไปจมหิมะแน่แต่เพราะเราลงหลายรอบละเลยไม่ค่อยกลัวพอรถนิ่งนี่ขำซะอีกเพราะมันนิ่มจนไม่น่ากลัวเลย

สภาพก็อย่างนี้ละครับแถวนั้นก็ยังไม่มีรถผ่านมาฟ้าก็จะมืด รอจนมีรถใหญ่ผ่านมาพร้อมรถเล็ก คนขับรถใหญ่บอกผมลากเองเพราะเค้าน่าจะลากง่ายกว่ารถเล็ก

เรียกว่าลากทีเดียวหลุดออกมาเลยสุดยอดจริงๆ ต้องขอบคุณมากๆทีนี้เลยขับระวังขึ้นเพราะลงรอบหน้ากลัวไม่มีใครลากขึ้นมา มาถึงมุมที่จะถ่ายก็เรียกว่าผิดหวังกันไป เพราะไม่เห็นพระอาทิตย์ ก็เลยถ่ายมานิดหน่อยละรีบกลับ


ชื่อสินค้า:   Iceland Aurora
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่