สวัสดีครับ มาพบกับ TOEIC SERIES กันอีกครั้งนะครับ วันนี้ผมจะขอนำเสนอ
การวิเคราะห์ความยาก-ง่ายของทั้ง 7 พาร์ท เพื่อให้เราได้รู้ว่าจุดแข็ง-อ่อนของข้อสอบ TOEIC ในแต่ละพาร์ทมีอะไรบ้างนะครับ
ปล.เทคนิคเหล่านี้เป็นเทคนิคที่กลั่นกรองทั้งจากหนังสือและประสบการณ์ในการสอบ ที่ผมใช้ในการทำข้อสอบ TOEIC รวมทั้งประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์เล็กๆน้อยๆ หากท่านสมาชิกมีเทคนิคไหนสามารถแนะนำกันเข้ามาได้เลยครับ
-------------------------------------------------------
ติดตามเทคนิคเด็ดๆและกลเม็ดการเตรียมสอบและการใช้ภาษาอังกฤษได้ก่อนใครที่ Xpert English, the home of Business and Academic English learners with an expert and professional development,
https://www.facebook.com/expertenglishlearners/
------------------------------------------------------
ว่าแล้วเราก็เริ่มที่ ในส่วนของ Listening กันเลยดีกว่าครับ
Listening ทั้งหมดจะมีด้วยกัน 4 พาร์ท
Part 1: Photographs
ใน Part นี้เราจะได้เห็นรูปภาพมากันครบ คือคน สิ่งของ วัตถุ สถานที่มีหมด แล้วผู้บรรยายก็จะบรรยายประโยคมา 4 ประโยค A,B,C,D แล้วให้เราเลือกประโยคที่ใกล้เคียงกับภาพมากที่สุด ซึ่งตรงนี้จะมีอยู่ 10 ข้อด้วยกัน
ระดับความยาก: 25% (ไม่ยาก ทำได้สบายๆ)
ในพาร์ทนี้ถือว่าผู้สอบสามารถทำได้สบายๆ แต่มีข้อควรระวังคือการเลือกตัวเลือกที่มีลักษณะบอกเป็นนัย (inferring) โดยที่ไม่มีตัวเลือกที่ตรงกับภาพแบบตรงๆ อาจทำให้ผู้สอบไขว้เขวได้เช่นกัน
---------------------------------------------------------
Part 2: Question-Response
พาร์ทนี้จะเป็นส่วนที่ใครหลายๆคนมีความเห็นแตกต่างกันมากที่สุด บางคนก็บอกว่าง่ายบางคนก็บอกว่าพาร์ทนี้แหละ ยากสุดใน Listening แล้ว เนื่องจากในพาร์ทนี้จะไม่มีโจทย์หรือช้อยส์อะไรให้เราดูเลย มีแต่การฟังและเลือกคำตอบล้วนๆ ถึง 30 ข้อยาวพรวด แต่ก็โชคดีตรงที่ว่าในส่วนนี้จะมีอยู่สามตัวเลือกคือ A,B,C เท่านั้น ซึ่งในพาร์ทนี้เราจะได้ฟังประโยคคำถาม ซึ่งก็จะมาในหลากหลายรูปแบบเช่นแนว Request (Could..., would...), หรือขึ้นต้นด้วย Interrogative pronouns ต่างๆ (Wh-questions) แล้วเราจะต้องเลือกคำตอบที่สามารถตอบคำถามหรือตอบสนองโจทย์ข้อนั้นๆได้ถูกต้องที่สุด
ระดับความยาก: 75% (ยากปานกลางถึงค่อนข้างยาก)
ผู้สอบหลายคนบอกว่าการทำพาร์ทนี้คือส่วนที่ยากที่สุด เพราะมันยาวและไม่มีโจทย์หรือคำตอบที่จะพอไกด์ให้ตอบได้เลย ต้องอาศัยการฟังล้วนๆ แต่เนื่องจากพาร์ทนี้มีแค่ 3 ตัวเลือก และ 1 ใน 3 ตัวเลือกนั้นมักจะไม่เกี่ยวข้องกับโจทย์ (Dummy choice) ดังนั้นโอกาสทำข้อสอบถูกในพาร์ทนี้จึงมีมากขึ้นนั้นเอง สำคัญคือต้องตั้งสติให้มั่น ก็อาจจะทำได้ไม่ยากนักนั่นเองครับ
---------------------------------------------------------
Part 3 & 4: Conversations, Talks
สำหรับพาร์ท 3 และ พาร์ท 4 จริงๆแล้วรูปแบบข้อสอบเหมือนกัน นั่นคือ มีโจทย์และตัวเลือก A,B,C,D ให้เลือก โดยพาร์ท 3 จะเป็น บทสนทนา (Conversation) ส่วนพาร์ท 4 จะเป็น ผู้พูดคนเดียวพูดให้ฟัง (Monologue) ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับ โฆษณา (Advertising) ประกาศ (Announcement) จะมีพาร์ทละ 30 ข้อ รวมเป็น 60 ข้อ โดยแต่ละ บทสนทนา จะมีโจทย์สามข้อ และมีช้อยส์ A,B,C,D ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องในแต่ละคำถาม
ระดับความยาก: 50-75% (ยากปานกลางถึงค่อนข้างยาก)
การทำพาร์ทที่ 3-4 จริงๆแล้วไม่ยากมาก เพราะเราได้ฟังบทสนทนาต่างๆพวกนี้ซึ่งอยู่ในแบบเรียนมาโดยตลอด แต่สิ่งที่จะยากคือการจับคีย์เวิร์ด การจัดสรรเวลา และที่สำคัญคือ ส่วนใหญ่เมื่อผู้สอบทำมาถึงข้อประมาณ 60-70 จะเกิดอาการล้าเพราะต้องฟังตลอดไม่หยุด 45 นาที และตรงนี้อาจจะเป็นจุดที่ทำให้สมาธิของผู้สอบหลุดได้ และจะทำให้เสียคะแนนในส่วนนี้ไป
---------------------------------------------------------
สรุป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยเฉลี่ยแล้ว ความยากของข้อสอบ Listening จะอยู่ที่ประมาณ 50 - 75% โดยเฉลี่ย ข้อสอบ Listening ใน TOEIC เน้นการจับคีย์เวิร์ด ความอดทน และการตั้งสติในการฟัง ที่สำคัญคือ การที่เราขยาย Corpus (คลังคำศัพท์) ของเราให้มากเข้าไว้ เพื่อเพิ่มคะแนนของเราในส่วนของพาร์ทการฟังนั่นเองครับ"
ต่อไปก็เป็นในส่วนของ Reading นะครับ
และพอหลังจากนำเสนอเนื้อหาในกระทู้นี้หมดแล้ว กระทู้หน้า ผมจะขอแบ่งปันประสบการณ์การใช้เทคนิคการสอบ TOEIC ให้ได้ 800+ โดยอาศัยการเตรียมตัวและรวมถึงทริกเล็กๆน้อยที่ผมได้ลองทำมาดูครับ
---------------------------------------------------------
รวมกระทู้ใน TOEIC SERIES หรือติดตามได้ที่
https://expertenglishlearners.wordpress.com/
-----------------------------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้5 หนังสือเตรียมสอบ TOEIC ที่คุณต้องไม่พลาดก่อนไปสอบ
http://pantip.com/topic/35562520
(TOEIC SERIES) 5 กลเม็ดเด็ดเตรียมสอบ TOEIC อย่างมั่นใจ (ภาคต่อ 5 หนังสือเตรียมสอบ TOEIC )
http://pantip.com/topic/35589713
Accept or Agree ? Glad or Happy? เลือกใช้คำไหนดี กระทู้นี้มีคำตอบ
http://pantip.com/topic/35599903
เบื่อ Very เหรอ ลองใช้ Adverb พวกนี้แทนสิ!
http://pantip.com/topic/35651926
(TOEIC SERIES) เจาะ 7 พาร์ทข้อสอบ TOEIC พาร์ทไหนยาก-ง่ายยังไง มาดูกัน
การวิเคราะห์ความยาก-ง่ายของทั้ง 7 พาร์ท เพื่อให้เราได้รู้ว่าจุดแข็ง-อ่อนของข้อสอบ TOEIC ในแต่ละพาร์ทมีอะไรบ้างนะครับ
ปล.เทคนิคเหล่านี้เป็นเทคนิคที่กลั่นกรองทั้งจากหนังสือและประสบการณ์ในการสอบ ที่ผมใช้ในการทำข้อสอบ TOEIC รวมทั้งประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์เล็กๆน้อยๆ หากท่านสมาชิกมีเทคนิคไหนสามารถแนะนำกันเข้ามาได้เลยครับ
-------------------------------------------------------
ติดตามเทคนิคเด็ดๆและกลเม็ดการเตรียมสอบและการใช้ภาษาอังกฤษได้ก่อนใครที่ Xpert English, the home of Business and Academic English learners with an expert and professional development, https://www.facebook.com/expertenglishlearners/
------------------------------------------------------
ว่าแล้วเราก็เริ่มที่ ในส่วนของ Listening กันเลยดีกว่าครับ
Listening ทั้งหมดจะมีด้วยกัน 4 พาร์ท
Part 1: Photographs
ใน Part นี้เราจะได้เห็นรูปภาพมากันครบ คือคน สิ่งของ วัตถุ สถานที่มีหมด แล้วผู้บรรยายก็จะบรรยายประโยคมา 4 ประโยค A,B,C,D แล้วให้เราเลือกประโยคที่ใกล้เคียงกับภาพมากที่สุด ซึ่งตรงนี้จะมีอยู่ 10 ข้อด้วยกัน
ระดับความยาก: 25% (ไม่ยาก ทำได้สบายๆ)
ในพาร์ทนี้ถือว่าผู้สอบสามารถทำได้สบายๆ แต่มีข้อควรระวังคือการเลือกตัวเลือกที่มีลักษณะบอกเป็นนัย (inferring) โดยที่ไม่มีตัวเลือกที่ตรงกับภาพแบบตรงๆ อาจทำให้ผู้สอบไขว้เขวได้เช่นกัน
---------------------------------------------------------
Part 2: Question-Response
พาร์ทนี้จะเป็นส่วนที่ใครหลายๆคนมีความเห็นแตกต่างกันมากที่สุด บางคนก็บอกว่าง่ายบางคนก็บอกว่าพาร์ทนี้แหละ ยากสุดใน Listening แล้ว เนื่องจากในพาร์ทนี้จะไม่มีโจทย์หรือช้อยส์อะไรให้เราดูเลย มีแต่การฟังและเลือกคำตอบล้วนๆ ถึง 30 ข้อยาวพรวด แต่ก็โชคดีตรงที่ว่าในส่วนนี้จะมีอยู่สามตัวเลือกคือ A,B,C เท่านั้น ซึ่งในพาร์ทนี้เราจะได้ฟังประโยคคำถาม ซึ่งก็จะมาในหลากหลายรูปแบบเช่นแนว Request (Could..., would...), หรือขึ้นต้นด้วย Interrogative pronouns ต่างๆ (Wh-questions) แล้วเราจะต้องเลือกคำตอบที่สามารถตอบคำถามหรือตอบสนองโจทย์ข้อนั้นๆได้ถูกต้องที่สุด
ระดับความยาก: 75% (ยากปานกลางถึงค่อนข้างยาก)
ผู้สอบหลายคนบอกว่าการทำพาร์ทนี้คือส่วนที่ยากที่สุด เพราะมันยาวและไม่มีโจทย์หรือคำตอบที่จะพอไกด์ให้ตอบได้เลย ต้องอาศัยการฟังล้วนๆ แต่เนื่องจากพาร์ทนี้มีแค่ 3 ตัวเลือก และ 1 ใน 3 ตัวเลือกนั้นมักจะไม่เกี่ยวข้องกับโจทย์ (Dummy choice) ดังนั้นโอกาสทำข้อสอบถูกในพาร์ทนี้จึงมีมากขึ้นนั้นเอง สำคัญคือต้องตั้งสติให้มั่น ก็อาจจะทำได้ไม่ยากนักนั่นเองครับ
---------------------------------------------------------
Part 3 & 4: Conversations, Talks
สำหรับพาร์ท 3 และ พาร์ท 4 จริงๆแล้วรูปแบบข้อสอบเหมือนกัน นั่นคือ มีโจทย์และตัวเลือก A,B,C,D ให้เลือก โดยพาร์ท 3 จะเป็น บทสนทนา (Conversation) ส่วนพาร์ท 4 จะเป็น ผู้พูดคนเดียวพูดให้ฟัง (Monologue) ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับ โฆษณา (Advertising) ประกาศ (Announcement) จะมีพาร์ทละ 30 ข้อ รวมเป็น 60 ข้อ โดยแต่ละ บทสนทนา จะมีโจทย์สามข้อ และมีช้อยส์ A,B,C,D ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องในแต่ละคำถาม
ระดับความยาก: 50-75% (ยากปานกลางถึงค่อนข้างยาก)
การทำพาร์ทที่ 3-4 จริงๆแล้วไม่ยากมาก เพราะเราได้ฟังบทสนทนาต่างๆพวกนี้ซึ่งอยู่ในแบบเรียนมาโดยตลอด แต่สิ่งที่จะยากคือการจับคีย์เวิร์ด การจัดสรรเวลา และที่สำคัญคือ ส่วนใหญ่เมื่อผู้สอบทำมาถึงข้อประมาณ 60-70 จะเกิดอาการล้าเพราะต้องฟังตลอดไม่หยุด 45 นาที และตรงนี้อาจจะเป็นจุดที่ทำให้สมาธิของผู้สอบหลุดได้ และจะทำให้เสียคะแนนในส่วนนี้ไป
---------------------------------------------------------
สรุป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ต่อไปก็เป็นในส่วนของ Reading นะครับ
และพอหลังจากนำเสนอเนื้อหาในกระทู้นี้หมดแล้ว กระทู้หน้า ผมจะขอแบ่งปันประสบการณ์การใช้เทคนิคการสอบ TOEIC ให้ได้ 800+ โดยอาศัยการเตรียมตัวและรวมถึงทริกเล็กๆน้อยที่ผมได้ลองทำมาดูครับ
---------------------------------------------------------
รวมกระทู้ใน TOEIC SERIES หรือติดตามได้ที่ https://expertenglishlearners.wordpress.com/
-----------------------------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้