วันนี้จะขอมาแบ่งปันประสบการณ์ของการทำงานใน Supercentre ของประเทศอังกฤษนะคะ
ต่อจาก กระทู้แรก
http://pantip.com/topic/35680603/desktop
ซึ่งเราได้เล่าไปแล้วว่า มีบางบริษัท ในต่างประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ ยังต้อนรับคนสูงวัยเข้าทำงาน รวมทั้งคนพิการ คนไม่มีประสบการณ์การทำงานเลย เช่น นักเรียนที่ต้องการทำงาน Part time หลังเลิกเรียน
https://www.asda.jobs/ways-to-join/#students หรือ คนที่เป็นพ่อแม่ที่ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกมานาน
https://www.asda.jobs/ways-to-join/#returning-parents ก็สามารถมาสมัครงานได้
ที่นี่ มีสิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่า คนทำงานทุกคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นฝ่ายเลือกอะไรซักอย่างบ้างในการเข้าไปทำงาน ไม่ใช่ให้นายจ้าง หรือ บริษัทเลือกเราเพียงอย่างเดียว ในวันที่ จขกท สมัครงานนี้นั้น เราก็ไม่เคยนึกถึงจริงๆว่า บริษัทนี้เค้ามีระบบแบบนี้ด้วย คือ ตอนสมัครไม่รู้อะไรซักอย่างเกี่ยวกับบริษัทนี้ อย่างที่บอกไว้ในกระทู้แรกคือ จับผลัดจับผลู บังเอิญสมัครโดยไม่ได้ตั้งใจ แค่เห็นว่ามันใกล้บ้านแค่นั้น แม้แต่ตำแหน่ง เนื้องาน คือ ทำอะไรเราเองก็ยังไม่รู้เลย เอาแค่ใกล้บ้านเป็นพอ เพราะการทำงานในต่างประเทศ ใครได้ทำงานใกล้บ้านถือว่า โชคดีเป็นที่สุดเพราะค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางนั้นค่อนข้างแพง
มาถึงเรื่องที่บริษัท ให้โอกาสเราได้เลือก ก็คือ เค้าให้เราเลือก " เวลาทำงานที่เราอยากทำ และ แผนกที่เราอยากทำ " อันนี้จะอยู่ ในวาระการประเมินครั้งที่ 2 ที่ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจากใบสมัคร Online ครั้งแรก เข้ารอบมาได้ ถึงจะได้มีโอกาสนี้ ทุกๆคนพอเห็นแผ่นกระดาษ ก็ ว๊าววว กันเลยทีเดียว
ทางฝ่ายบุคคลที่เป็นผู้ควบคุมการประเมินก็จะบอก เอ้า ทุกคน อยากทำแผนกไหนก็ใส่อันดับ 1-2 ลงไปนะ (มีแค่ 2 ที่ให้เราเลือก) จขกท ก็เลือกแผนกที่เราสมัครใน Online นั่นแหละ คือ Home & Leisure (หรือ ในบริษัทเราเองจะรู้จักในนาม GM คือ General Merchandise นั่นเอง ไม่ใช่ General Manager นะคะ 555 สำหรับบริษัทนี้ มันมีความหมายแบบนั้นน่ะ)
และ ใส่เวลาที่สามารถมาทำงานได้ลงไปด้วยใน 7 วัน ว่าอยากทำเวลาไหน หรือ สะดวกทำงานเวลาไหน ก็ใส่เวลาที่ตัวเองชอบลงไปเลย เราก็ใส่มันลงไป ทำได้ ตั้งแต่เวลา ลูกไปโรงเรียน คือ ช่วงเวลา 0800-1700 ได้หมด พอเสร็จจากการประเมินครั้งที่ 2 ก็รอ เรียกสัมภาษณ์ตัวต่อตัว ครั้งที่ 3 ซึ่ง ทางบริษัท ก็โทรมาตามให้ไปสัมภาษณ์ในวันรุ่งขึ้นทันที ซึ่งรวดเร็วมากๆ ระบบการ Recruit คนของที่นี่
พอได้ไปสัมภาษณ์เสร็จ เค้าก็ให้ลงพื้นที่จริงเลย ให้เราดูว่าเราจะชอบงานที่นี่มั๊ย จะทำได้มั๊ย ซึ่งตอนนั้นเราเองยัง งง อยู่ด้วยซ้ำว่า ตกลงจะต้องทำอะไร ยังไง เรา ณ เวลานั้นก็ Go as it flow คือ ไงก็ได้ไม่เรื่องมาก สรุป วันต่อมา ทาง HR ก็โทรมาแสดงความยินดีว่า เราอยากให้คุณมาทำงานกับเรา และ ขอเชิญมาร่วม the best welcome day! (คือ induction นั่นเอง แต่ได้จ่ายเงินด้วยนะ) และ ถามว่าเราใส่เสื้อผ้าไซด์อะไร จะจัด Uniform ให้ เย้!!! ได้งานแล้ว แต่ๆ ยังคง งง อยู่เหมือนเดิม อะไรวะเร็วจัง 555
และแล้ว เราก็ได้เวลาทำงาน ตามที่เราเลือกไป คือ ได้ทำ เที่ยงตรง เลิก 5 โมงเย็น วันละ 5 ชม. เท่านั้น และ ทำวัน จ พ ศ ส
โอ้วว คือ ดีอ่ะ !!!
เกิดมาไม่เคยเจอ บริษัทไหน ให้เลือกเวลาทำงานเองตามใจชอบแบบนี้ และ ได้ทำแผนกที่เลือกเป็นอันดับ 1 อีกด้วย อะไรมันจะสะดวกขนาดนี้
จากคนที่เคยเป็นลูกค้าของบริษัทนี้ ตอนนี้กลับกลายมาเป็นพนักงานซะเอง
จากคนที่ไม่เคยมีความรู้ และไม่เคยทำงาน Retail , Warehouse , Stock , Replenish , sale etc., อยู่ๆ ชีวิตเปลี่ยน
จากที่คิดว่า เราอายุมาก (เกือบ 50) คงไม่มีใครอยากจ้างเรา เค้ากลับต้องการเรา
จากคนที่เคยทำงานอยู่แต่หน้าคอมฯ ก็กลายเป็น ได้เดินตลอดเวลา ปีนป่าย จัดของบนชั้น ลากเคสใส่ของเอามาจัดวางบนชั้น สแกนสินค้า เปลี่ยนป้ายราคา ได้แนะนำลูกค้า ยามที่ลูกค้ามาขอความเห็น หรือ หาสินค้าไม่เจอ พนักงานบริษัทเรา จะไม่แค่ชี้มือไป หรือ บอกทาง แต่พนักงานทุกคนของบริษัทนี้ ต้องเดินพาลูกค้าไปหาสินค้าที่เค้าต้องการ
จากคนที่มีปัญหาปวดเมื่อยตามร่างกายเพราะออกกำลังกายไม่พอ การออกมาทำงานอะไรที่ใช้แรงงานบ้าง มันช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นจริงๆ
ชีวิตคนอายุใกล้ 50 มีความหมายขึ้นมากทีเดียวค่ะ
ขอฝากลิงค์นี้ ให้ทุกคนที่ยังไม่เคยลุกขึ้นมาทำอะไรแปลกใหม่
http://www.sumrej.com/40-things-u-should-do-before-50/#
เราเข้าใจว่า สังคมไทยนั้นการจะเปลี่ยนงานหรือหางานใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เราอยากส่งกำลังใจให้คนที่รักการทำงานทุกคน อย่าท้อแท้ ท้อถอย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิต มันทำได้ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
ไว้ว่างๆอีกจะมาเล่าถึง วิถีการทำงานของฝรั่งในอาชีพนี้ โดยเฉพาะในบริษัทนี้ ( Asda Walmart ) , ทัศนคติ ความคิดที่พวกเค้ามีต่อคน ต่อเพื่อนร่วมงาน ในการทำงานร่วมกันของคนที่แตกต่างแบกกราวด์ เช่น อายุ เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา ในอังกฤษเรามีหมดค่ะ และ เราสามารถทำงานร่วมกันได้ดี
เพื่อนๆสมาขิกท่านใดอยากแชร์ประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกันบ้างในแต่ละประเทศ ก็ขอเชิญนะคะ เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองของงานหลายๆแบบค่ะ
มีบริษัทไหนในโลกบ้างที่ให้คนทำงาน (อายุ 16-70) เลือกเวลาทำงานตามใจชอบ เรามีคำตอบให้ค่ะ
ต่อจาก กระทู้แรก http://pantip.com/topic/35680603/desktop
ซึ่งเราได้เล่าไปแล้วว่า มีบางบริษัท ในต่างประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ ยังต้อนรับคนสูงวัยเข้าทำงาน รวมทั้งคนพิการ คนไม่มีประสบการณ์การทำงานเลย เช่น นักเรียนที่ต้องการทำงาน Part time หลังเลิกเรียน https://www.asda.jobs/ways-to-join/#students หรือ คนที่เป็นพ่อแม่ที่ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกมานาน https://www.asda.jobs/ways-to-join/#returning-parents ก็สามารถมาสมัครงานได้
ที่นี่ มีสิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่า คนทำงานทุกคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นฝ่ายเลือกอะไรซักอย่างบ้างในการเข้าไปทำงาน ไม่ใช่ให้นายจ้าง หรือ บริษัทเลือกเราเพียงอย่างเดียว ในวันที่ จขกท สมัครงานนี้นั้น เราก็ไม่เคยนึกถึงจริงๆว่า บริษัทนี้เค้ามีระบบแบบนี้ด้วย คือ ตอนสมัครไม่รู้อะไรซักอย่างเกี่ยวกับบริษัทนี้ อย่างที่บอกไว้ในกระทู้แรกคือ จับผลัดจับผลู บังเอิญสมัครโดยไม่ได้ตั้งใจ แค่เห็นว่ามันใกล้บ้านแค่นั้น แม้แต่ตำแหน่ง เนื้องาน คือ ทำอะไรเราเองก็ยังไม่รู้เลย เอาแค่ใกล้บ้านเป็นพอ เพราะการทำงานในต่างประเทศ ใครได้ทำงานใกล้บ้านถือว่า โชคดีเป็นที่สุดเพราะค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางนั้นค่อนข้างแพง
มาถึงเรื่องที่บริษัท ให้โอกาสเราได้เลือก ก็คือ เค้าให้เราเลือก " เวลาทำงานที่เราอยากทำ และ แผนกที่เราอยากทำ " อันนี้จะอยู่ ในวาระการประเมินครั้งที่ 2 ที่ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจากใบสมัคร Online ครั้งแรก เข้ารอบมาได้ ถึงจะได้มีโอกาสนี้ ทุกๆคนพอเห็นแผ่นกระดาษ ก็ ว๊าววว กันเลยทีเดียว
ทางฝ่ายบุคคลที่เป็นผู้ควบคุมการประเมินก็จะบอก เอ้า ทุกคน อยากทำแผนกไหนก็ใส่อันดับ 1-2 ลงไปนะ (มีแค่ 2 ที่ให้เราเลือก) จขกท ก็เลือกแผนกที่เราสมัครใน Online นั่นแหละ คือ Home & Leisure (หรือ ในบริษัทเราเองจะรู้จักในนาม GM คือ General Merchandise นั่นเอง ไม่ใช่ General Manager นะคะ 555 สำหรับบริษัทนี้ มันมีความหมายแบบนั้นน่ะ)
และ ใส่เวลาที่สามารถมาทำงานได้ลงไปด้วยใน 7 วัน ว่าอยากทำเวลาไหน หรือ สะดวกทำงานเวลาไหน ก็ใส่เวลาที่ตัวเองชอบลงไปเลย เราก็ใส่มันลงไป ทำได้ ตั้งแต่เวลา ลูกไปโรงเรียน คือ ช่วงเวลา 0800-1700 ได้หมด พอเสร็จจากการประเมินครั้งที่ 2 ก็รอ เรียกสัมภาษณ์ตัวต่อตัว ครั้งที่ 3 ซึ่ง ทางบริษัท ก็โทรมาตามให้ไปสัมภาษณ์ในวันรุ่งขึ้นทันที ซึ่งรวดเร็วมากๆ ระบบการ Recruit คนของที่นี่
พอได้ไปสัมภาษณ์เสร็จ เค้าก็ให้ลงพื้นที่จริงเลย ให้เราดูว่าเราจะชอบงานที่นี่มั๊ย จะทำได้มั๊ย ซึ่งตอนนั้นเราเองยัง งง อยู่ด้วยซ้ำว่า ตกลงจะต้องทำอะไร ยังไง เรา ณ เวลานั้นก็ Go as it flow คือ ไงก็ได้ไม่เรื่องมาก สรุป วันต่อมา ทาง HR ก็โทรมาแสดงความยินดีว่า เราอยากให้คุณมาทำงานกับเรา และ ขอเชิญมาร่วม the best welcome day! (คือ induction นั่นเอง แต่ได้จ่ายเงินด้วยนะ) และ ถามว่าเราใส่เสื้อผ้าไซด์อะไร จะจัด Uniform ให้ เย้!!! ได้งานแล้ว แต่ๆ ยังคง งง อยู่เหมือนเดิม อะไรวะเร็วจัง 555
และแล้ว เราก็ได้เวลาทำงาน ตามที่เราเลือกไป คือ ได้ทำ เที่ยงตรง เลิก 5 โมงเย็น วันละ 5 ชม. เท่านั้น และ ทำวัน จ พ ศ ส
โอ้วว คือ ดีอ่ะ !!!
เกิดมาไม่เคยเจอ บริษัทไหน ให้เลือกเวลาทำงานเองตามใจชอบแบบนี้ และ ได้ทำแผนกที่เลือกเป็นอันดับ 1 อีกด้วย อะไรมันจะสะดวกขนาดนี้
จากคนที่เคยเป็นลูกค้าของบริษัทนี้ ตอนนี้กลับกลายมาเป็นพนักงานซะเอง
จากคนที่ไม่เคยมีความรู้ และไม่เคยทำงาน Retail , Warehouse , Stock , Replenish , sale etc., อยู่ๆ ชีวิตเปลี่ยน
จากที่คิดว่า เราอายุมาก (เกือบ 50) คงไม่มีใครอยากจ้างเรา เค้ากลับต้องการเรา
จากคนที่เคยทำงานอยู่แต่หน้าคอมฯ ก็กลายเป็น ได้เดินตลอดเวลา ปีนป่าย จัดของบนชั้น ลากเคสใส่ของเอามาจัดวางบนชั้น สแกนสินค้า เปลี่ยนป้ายราคา ได้แนะนำลูกค้า ยามที่ลูกค้ามาขอความเห็น หรือ หาสินค้าไม่เจอ พนักงานบริษัทเรา จะไม่แค่ชี้มือไป หรือ บอกทาง แต่พนักงานทุกคนของบริษัทนี้ ต้องเดินพาลูกค้าไปหาสินค้าที่เค้าต้องการ
จากคนที่มีปัญหาปวดเมื่อยตามร่างกายเพราะออกกำลังกายไม่พอ การออกมาทำงานอะไรที่ใช้แรงงานบ้าง มันช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นจริงๆ
ชีวิตคนอายุใกล้ 50 มีความหมายขึ้นมากทีเดียวค่ะ
ขอฝากลิงค์นี้ ให้ทุกคนที่ยังไม่เคยลุกขึ้นมาทำอะไรแปลกใหม่ http://www.sumrej.com/40-things-u-should-do-before-50/#
เราเข้าใจว่า สังคมไทยนั้นการจะเปลี่ยนงานหรือหางานใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เราอยากส่งกำลังใจให้คนที่รักการทำงานทุกคน อย่าท้อแท้ ท้อถอย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิต มันทำได้ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
ไว้ว่างๆอีกจะมาเล่าถึง วิถีการทำงานของฝรั่งในอาชีพนี้ โดยเฉพาะในบริษัทนี้ ( Asda Walmart ) , ทัศนคติ ความคิดที่พวกเค้ามีต่อคน ต่อเพื่อนร่วมงาน ในการทำงานร่วมกันของคนที่แตกต่างแบกกราวด์ เช่น อายุ เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา ในอังกฤษเรามีหมดค่ะ และ เราสามารถทำงานร่วมกันได้ดี
เพื่อนๆสมาขิกท่านใดอยากแชร์ประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกันบ้างในแต่ละประเทศ ก็ขอเชิญนะคะ เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองของงานหลายๆแบบค่ะ