ต่อจาก
ตอนที่ 1 อารัมภบท
http://pantip.com/topic/35324228
ตอนที่ 2 แรกเลยที่รู้
http://pantip.com/topic/35337182
ก็เข้าสู่วันที่ลุ้น เพื่อพบหมอเฉพาะทางโรคไตจริงๆ และก่อนจะพบหมอในช่วงบ่าย
ต้องไปเจอะเลือดก่อน ซึ่งมีความหวังว่า ค่าเลือดต่างๆ มันต้องดีขึ้นกว่าที่ตรวจในครั้งก่อน
แม้จะห่างมาเพียงเวลา 7 วันก็ตาม จากสิ่งที่ผมทำมีอะไรบ้าง
๑. ออกกำลังกายหนักขึ้นกว่าเดิม
๒. ควบคุมอาหารอย่างหนัก ใน ๑ มื้อ จะกินข้าวเพียง ๑ ทัพพี กับกับข้าวคือ แตงกวาลวก ผักกาดขาวลวก ไข่ข้าวต้ม บวบลวก แค่นี้ หมุนเวียนกันไป
๓. ดื่มน้ำอย่างระมัดระวังขึ้น
ตามแต่ที่เราจะพอค้นข้อมูลกันได้จากเน็ต
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมระหว่างนั้น
หน้ามืดง่าย เหนื่อยง่าย มีอาการจะเป็นลม เหมือนหัวใจจะวาย
แต่ก็ยืนยันทำต่อ เพราะที่ผ่านมา ก็สามารถทำได้ เพิ่งจะมามีอาการก็อิตรวจเลือดเจอนี่เอง
อย่างที่เขาว่า "ถ้าจิตตกกายจะร่วงตาม" มันเป็นจริงๆ เลย แต่ผมเชื่อว่า นาทีนั้น ไม่มีหรอกใครจะไม่จิตตก!
จนถึงวันตรวจเลือด และพอได้ผลตรวจเลือดมา อ่านค่าเลือดแล้ว รู้สึกเลยว่า ค่ามันแย่ไปกว่าเดิม
Cr 5 ---> 7 กว่าๆ ในเวลา ๗ วัน จิตตกหนักกว่าเดิม
เครียดมาก ตอนนั่งรอพบคุณหมอ
และเมื่อถึงเวลา คุณหมอก็วิเคราะห์แล้วว่า คุณมีอาการไตเสื่อมแล้ว
คงจะอีกไม่นานแล้ว ให้คุณเตรียมตัวไว้ มีวิธีให้เลือก ๓ วิธี คือ ล้างไต ฟอกเลือด เปลี่ยนไต
ซึ่งหมอก็อธิบายไปเหอะ สมองผมตอนนั้น ไม่รับรู้อะไรแล้ว รู้สึกเหมือนทุกอย่างในชีวิตมันจบลง
... แฟนที่ไปด้วยเครียดกว่า เลยบอกหมอว่า คุณหมอลองช่วยพูดอะไรให้รู้สึกดีหน่อยได้ไหม
หมอก็พูดซื่อๆ ว่า ก็คิดว่ามันคงเป็นความโชคร้ายจริงๆ
... อาการหนักแย่กว่าเก่า ...
สุดท้ายก็เกิดกระบวนการขึ้นมาอีกวุ่นวาย จากชีวิตที่ไม่เคยคิดว่า รพ.จะเข้ามาสู่ชีวิตเราในวัยเท่านี้
แต่มันมาแล้ว ถามตัวเองว่า นี่เราไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ หรือนี่ ทำไมต้องเกิดกับเราด้วย เราทำอะไรผิดไปในที่ผ่านมา
เราพยายามรักษาสุขภาพ แต่ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับเรา
....
กลับมาถึงบ้าน แฟนก็ร้องไห้หนักมาก เราสองคนนั่งร้องไห้กัน เริ่มคิดกังวลถึงอนาคตของเรา
เราทั้งสองคนเป็นไกลบ้าน (ทำงานไกลบ้านเกิด) ญาติพี่น้องไม่มี จะทำยังไงดี คิดหมด กังวลสารพัด
ไม่อยากบอกให้ใครรู้ รับไม่ได้
สุดท้ายไม่ไหว บอกกับเพื่อนสนิท เพื่อนบอกว่า ลองไปหาหมอที่เคยรักษาคนที่เขารู้จักไหม เคยลดค่าไตจนลงมาปกติได้
หมอเก่งมาก
....
นาทีนั้น อะไรที่จะทำให้หายได้ ก็เอาหมด ไม่อยากมีชะตากรรมแบบนี้ ไปกัน
เพื่อไปลุ้นกับ ... ความหวังใหม่ ในตอนหน้าครับ
....
ปล.หากมีพิมพ์ผิด ขออภัย
ปล.2 หากเรื่องราวของผมจะสามารถนำไปเร้าใจให้ใครต่อใครระมัดระวังตัวเรื่องสุขภาพมากขึ้นได้ ก็ยินดีครับ
เสียงเล็กๆ จากคนป่วยไต ตอนที่ 3 วันวิเคราะห์ผล
ตอนที่ 1 อารัมภบท
http://pantip.com/topic/35324228
ตอนที่ 2 แรกเลยที่รู้
http://pantip.com/topic/35337182
ก็เข้าสู่วันที่ลุ้น เพื่อพบหมอเฉพาะทางโรคไตจริงๆ และก่อนจะพบหมอในช่วงบ่าย
ต้องไปเจอะเลือดก่อน ซึ่งมีความหวังว่า ค่าเลือดต่างๆ มันต้องดีขึ้นกว่าที่ตรวจในครั้งก่อน
แม้จะห่างมาเพียงเวลา 7 วันก็ตาม จากสิ่งที่ผมทำมีอะไรบ้าง
๑. ออกกำลังกายหนักขึ้นกว่าเดิม
๒. ควบคุมอาหารอย่างหนัก ใน ๑ มื้อ จะกินข้าวเพียง ๑ ทัพพี กับกับข้าวคือ แตงกวาลวก ผักกาดขาวลวก ไข่ข้าวต้ม บวบลวก แค่นี้ หมุนเวียนกันไป
๓. ดื่มน้ำอย่างระมัดระวังขึ้น
ตามแต่ที่เราจะพอค้นข้อมูลกันได้จากเน็ต
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมระหว่างนั้น
หน้ามืดง่าย เหนื่อยง่าย มีอาการจะเป็นลม เหมือนหัวใจจะวาย
แต่ก็ยืนยันทำต่อ เพราะที่ผ่านมา ก็สามารถทำได้ เพิ่งจะมามีอาการก็อิตรวจเลือดเจอนี่เอง
อย่างที่เขาว่า "ถ้าจิตตกกายจะร่วงตาม" มันเป็นจริงๆ เลย แต่ผมเชื่อว่า นาทีนั้น ไม่มีหรอกใครจะไม่จิตตก!
จนถึงวันตรวจเลือด และพอได้ผลตรวจเลือดมา อ่านค่าเลือดแล้ว รู้สึกเลยว่า ค่ามันแย่ไปกว่าเดิม
Cr 5 ---> 7 กว่าๆ ในเวลา ๗ วัน จิตตกหนักกว่าเดิม
เครียดมาก ตอนนั่งรอพบคุณหมอ
และเมื่อถึงเวลา คุณหมอก็วิเคราะห์แล้วว่า คุณมีอาการไตเสื่อมแล้ว
คงจะอีกไม่นานแล้ว ให้คุณเตรียมตัวไว้ มีวิธีให้เลือก ๓ วิธี คือ ล้างไต ฟอกเลือด เปลี่ยนไต
ซึ่งหมอก็อธิบายไปเหอะ สมองผมตอนนั้น ไม่รับรู้อะไรแล้ว รู้สึกเหมือนทุกอย่างในชีวิตมันจบลง
... แฟนที่ไปด้วยเครียดกว่า เลยบอกหมอว่า คุณหมอลองช่วยพูดอะไรให้รู้สึกดีหน่อยได้ไหม
หมอก็พูดซื่อๆ ว่า ก็คิดว่ามันคงเป็นความโชคร้ายจริงๆ
... อาการหนักแย่กว่าเก่า ...
สุดท้ายก็เกิดกระบวนการขึ้นมาอีกวุ่นวาย จากชีวิตที่ไม่เคยคิดว่า รพ.จะเข้ามาสู่ชีวิตเราในวัยเท่านี้
แต่มันมาแล้ว ถามตัวเองว่า นี่เราไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ หรือนี่ ทำไมต้องเกิดกับเราด้วย เราทำอะไรผิดไปในที่ผ่านมา
เราพยายามรักษาสุขภาพ แต่ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับเรา
....
กลับมาถึงบ้าน แฟนก็ร้องไห้หนักมาก เราสองคนนั่งร้องไห้กัน เริ่มคิดกังวลถึงอนาคตของเรา
เราทั้งสองคนเป็นไกลบ้าน (ทำงานไกลบ้านเกิด) ญาติพี่น้องไม่มี จะทำยังไงดี คิดหมด กังวลสารพัด
ไม่อยากบอกให้ใครรู้ รับไม่ได้
สุดท้ายไม่ไหว บอกกับเพื่อนสนิท เพื่อนบอกว่า ลองไปหาหมอที่เคยรักษาคนที่เขารู้จักไหม เคยลดค่าไตจนลงมาปกติได้
หมอเก่งมาก
....
นาทีนั้น อะไรที่จะทำให้หายได้ ก็เอาหมด ไม่อยากมีชะตากรรมแบบนี้ ไปกัน
เพื่อไปลุ้นกับ ... ความหวังใหม่ ในตอนหน้าครับ
....
ปล.หากมีพิมพ์ผิด ขออภัย
ปล.2 หากเรื่องราวของผมจะสามารถนำไปเร้าใจให้ใครต่อใครระมัดระวังตัวเรื่องสุขภาพมากขึ้นได้ ก็ยินดีครับ