สวัสดีค๊าาา ทุกๆคน เป็นกระทู้รีวิวแรกเลยนะคะ ที่ได้มารีวิว แต่ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะ ภาษาที่ใชเพื่อความสนุกในการอ่าน จึงอาจมีผิดบ้าง ต้องขออภัย ด้วยนะคะ ทริปเที่ยวยุโรปแบบไปกันเอง 2 คนคะ ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่าทริปนี้เราใช้เวลาเตรียมตัว 1 เดือนกว่า!!! ฟังไม่ผิดค่ะ เพราะแฟน จขกท ว่างเฉพาะช่วงวันหยุดราชการเท่านั้น!!! ใกล้ๆก็มีแค่ช่วงสงกรานต์เท่านั้นเอง เอาหล่ะสิจะไปไหนกันดี เนื่องจาก จขกท. เคยเดินทางไปเยอรมันตอนช่วงเดือน พ.ย 58 แต่ไปแบบทำงาน + เที่ยว แต่ไม่จุใจ เลยไปเองละกัน ทริปนี้เราเลย คิดว่างั้นไปเยอรมันอีกรอบ แต่ประเทศเดียวไม่คุ้มนะสิ จขกท.เลยเปิดรีวิวต่างๆ เปิดแผ่นที่ เดินทางไปไหนดีที่มันใกล้ๆ กันเพราะระยะเวลาเที่ยวน้อยมาก จขกท. ก็เลยคิดถึง Paris , หอไอเฟล ช้านนนนต้องไปยืนถ่ายรูปที่นั่นให้ได้!!! แล้วจะไปไหนต่อดีนะ ...
.ตอนนั้น จขกท นึกถึงของฝากที่เพื่อนของแฟน จขกท. เอามาฝาก แล้วแฟน จขกท. ก็นำไปไว้หน้ารถ ทำให้เห็นบ่อยมากๆ แล้วยังมีชื่อติดว่า " Hallstatt" อีก (มันเป็นแบบตั้งโชว์) มันอยู่ที่ไหนนะ หาเลยจ้าาาา และแล้วก็เจอรีวิวมากมาย ตอนนั้นคืดเลยว่า ทำไมมันสวยขนาดนี้ สวยเหมือนภาพวาดเลย มุมนั้นที่ตรงนั้น....Hallstatt รอช้านนนนนก่อนนะ
ในที่สุดก็ได้มาแล้วววว 3 ประเทศ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย แต่ๆ มีเวลากี่วันนะ 11-18 เมษายน ก็แค่ 8 วันรวมวันเดินทาง!!! วางแผนสิคร๊า รออะไร ทริปนี้แฟน จขกท.ให้จัดการเองหมดเลยคะ จะไปเที่ยวไหน นอนที่ไหน เดินทางยังไง เพราะเขาไม่เคยไปเอง ส่วนใหญ่ไปกับทางราชการตลอดเลยไม่ค่อยถนัด แต่เขาก็จะให้คำปรึกษาได้ดีตลอด แต่ที่แน่ๆ ตอนที่คิดทริปนี้ก็เดือน มีนาคม แล้วววววว!!!! เหลือเวลาอีกแค่ เดือนกว่าๆ เอง ตั๋วไม่มียังไม่เท่าไหร่ แต่ วีซ่ายังไม่ทำนี่สิ จะไปได้ไง!!! ตอนนั้นก็คิดละเอาไงดี จะทันมั๊ยจะจองตั๋วก็ไม่กล้ากลัววีซ่าไม่ผ่าน ถ้างั้นจองไปทำ visa ก่อนละกัน โดยเราเลือกทำ visa schengen ฝรั่งเศส เพราะน่าจะเร็วและง่ายสุดแล้ว เพราะทำผ่านตัวแทน (จขกท. เคยไปทำของเยอรมัน เอกสารเยอะมากๆ ตอนที่ไปเยอรมันครั้งแรก แต่ก็ผ่านได้ด้วยดีเพราะไปในนามของบริษัท) โดยเราต้องเขาไปจองวันที่จะเข้าไปทำ Visa คะผ่านตัวแทน แล้วเลือก วัน เวลา คะ โดย จขกท.ได้วันที่ 22 มีนาคม !!! แต่ต้องเดินทาง 11 เมษายน จะทันมั๊ย ถามใจตัวเองดู55555 พอถึงวันเราก็ไปตามเวลาที่เลือกไว้คะ ก็เตรียมพวกเอกสาร การจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม หนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร หนังสือรับรองเงินเดือน และการลางาน statement ย้อนหลัง 6 เดือน รูปถ่าย และ passport ของเราค่ะ แต่พอยื่น จนท. ก็ไม่เอาตั๋วเครื่องบิน และที่เราตองห้องพักนะคะ จากนั้นก็ไปชำระเงินคะ และถ่ายรูปกับสแกนลายนิ้วมือกัน(ตอนแรกนึกว่าไม่ต้องสแกนลายนิ้วมือ เพราะทำมาแล้วที่สถานฑูตเยอรมัน แต่ก็ทำใหม่คะ) ใช้เวลาไม่นานนะคะ แปปเดียวเอง จากนั้นก็รอไปคะ รอจนสิ้นเดือนก็แล้วสถานะก็ยังไม่ขึ้นว่าส่ง Passport กลับมาซะที จนวันที่ 5 เมษาคะ มี email เข้ามาว่าส่งกลับมสที่ TLS แล้วให้ไปรับได้เลย จริงๆตอนนั้นคืดแล้วนะคะว่าถ้าส่งกลับมาวันที่ 8-9-10 เมษาคงไม่ไปละ แต่เมื่อส่งมาแล้วก็รีบไปรับแล้วลุ้นสิคะ ว่าผ่านหรือป่าว ในที่สุดก็ได้มาแล้ว Visa schengen รอบนี้ได้มา 30 วันคะ แต่แฟน จขกท. ได้มา 90 วัน !!! ทำไมได้มาไม่เท่ากัน ทั้งที่แฟน จขกท. เดินทางไปยุโรปครั้งแรก!!! แต่ จขกท.เคยไปเยอรมันมาแล้วนะ แต่ก็ได้แค่บ่นค่ะ เพราะคงไม่มีเวลาไปบ่อยขนาดนั้น 55555
เมื่อได้ Visa แล้วก็ต้องจองตั๋วสิค่ะ .....อีก 6 วันเดินทาง อย่าถามถึงตั๋วถูกนะคะ เพราะจองขาไปฝรั่งเศส โดยสายการบินที่ถูกสุดตอนนั้น คือ Jet airway แต่ต้อง transit mumbai ค่ะ เอาอันนี้แหละถูกสุด เวลาได้ ใช้เวลาน้อยสุดแล้ววววว กดจองเลยค่ะก่อนราคาเปลี่ยน โดยจองไปราคาประมาณ 11,000 กว่าบาทค่ะ จากนั้นก็จองขากลับค่ะ เราเลือกเดินทางกลับจาก Austria คะ และ
จองตั๋วเที่ยว Paris => จองตั๋ว Big Bus tour โดยได้จอง 1 day bus & Cruise 2 Audlts ไป ราคา 75.6€/2คน ก็ประมาณ 1,475 บาท/คน ค่ะ โดยเราสามารถขึ้นรถบัสซึ่งจะพาเราทัวร์รอบๆ ปารีส ค่ะ
จองตั๋วเที่ยว Viena Austria คะ โดยจองแบบ 48 hr. คะซึ่งเป็นแบบ Premium Tour คะ ราคา 60 €/2 คน หรือถ้าใครมีเสลาหน่อยก็มีแบบจองเดินทางไปเที่ยว Viena-Budapest แบบไปกลับหรือ ค้างคืนก็มีนะคะ
จองที่พัก Paris 2 คืน ,Munich 1 คืน ,Hallstatt 1 คืน,Viena 1 คืน ปล.ที่พัก Hallstatt ได้แบบไม่ตั้งใจแต่สวยและคุ้มมากๆ
แลกเงิน euro ตอนนั้น 1 €= 38.85 THB คะ
เตรียมเสื้อผ้า กางเกง เสื้อกันหนาว อุณหภูมิ ตอนนั้นก็ประมาณ 10 กว่าองศาเซลเซียสค่ะ
เมื่อพร้อมแล้ววววว. เราออกเดินทางกันเลย
พาหมีน้อยชาเขียวไปเที่ยวยุโรปกัน
วันเดินทางมาถึง จขกท. กลับมีงานด่วนเข้ามา ไปสนามบินทั้งชุดทำงานกันเลยทีเดียว แล้วไปเปลี่ยนชุดที่สนามบินเอา เมื่อไปถึงสนามบิน ก็ไป Check in กันก่อนเลยค่ะ ตอนแรกกะจะเข้าไปนั่งเล่นที่ เล้าท์ king power แต่ไม่มีเวลาแล้ว ไปรอขึ้นเครื่องเลยละกัน โดย จขกท. ได้เลือกที่นั่งไว้ก่อนแล้ว ขึ้นเครื่องแล้วออกเดินทางไปหลงด้วยกันเนอะ (บอกแฟนก่อนจะขึ้นเครื่องเพื่อเพิ่มความแน่ใจ ว่าหลงแน่ๆ 55)
เมื่อถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องกันเลยค๊า จะบอกว่าสายการบิน Jet airway ก็ดีนะคะ บริการอาการ เครื่องดื่ม โอเคเลยน๊า มีหนังให้ดูจะได้ไม่เบื่อ และที่นั่งกว้างเลยหล่ะ เพราะ จขกท. เลือกที่นั่งไว้แล้ว เลือกฟรีด้วยนะเทอ และก็โชคดีที่มีที่นั่งข้างหน้าเหลือ เลยได้ที่นั่งกว้างขวางสุดๆ แฟน จขกท เป็นคนขายาวมาก ยิ่งชอบเข้าไปอีก เพราะนั่งนานไง ได้ที่แบบนี้เลยสบาย อาหารที่เสริฟก็ Full option กันเลยค๊า มีไอศกรีมตบท้ายอีกด้วยนะ ฟินไปอี๊ก
ชาเขียว ดูหนัง กินไอศกรีม ฟินหล่ะสิ
หลังจากนั่งๆ นอนๆ กินๆ ก็ถึง Mumbai ,India ที่ที่ เราต้องไป Transit เพื่อต่อเครื่องไป Paris ค่ะ ใช้เวลา 2 ชม. ผ่านด่านตรวจเอกสาร ความปลอดภัย นั่งรอแปปเดียวก็ขึ้นเครื่องเตรียมบินกันเลยค๊า
[CR] หนีร้อนสงกรานต์ไปฟินยุโรป
.ตอนนั้น จขกท นึกถึงของฝากที่เพื่อนของแฟน จขกท. เอามาฝาก แล้วแฟน จขกท. ก็นำไปไว้หน้ารถ ทำให้เห็นบ่อยมากๆ แล้วยังมีชื่อติดว่า " Hallstatt" อีก (มันเป็นแบบตั้งโชว์) มันอยู่ที่ไหนนะ หาเลยจ้าาาา และแล้วก็เจอรีวิวมากมาย ตอนนั้นคืดเลยว่า ทำไมมันสวยขนาดนี้ สวยเหมือนภาพวาดเลย มุมนั้นที่ตรงนั้น....Hallstatt รอช้านนนนนก่อนนะ
ในที่สุดก็ได้มาแล้วววว 3 ประเทศ ฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย แต่ๆ มีเวลากี่วันนะ 11-18 เมษายน ก็แค่ 8 วันรวมวันเดินทาง!!! วางแผนสิคร๊า รออะไร ทริปนี้แฟน จขกท.ให้จัดการเองหมดเลยคะ จะไปเที่ยวไหน นอนที่ไหน เดินทางยังไง เพราะเขาไม่เคยไปเอง ส่วนใหญ่ไปกับทางราชการตลอดเลยไม่ค่อยถนัด แต่เขาก็จะให้คำปรึกษาได้ดีตลอด แต่ที่แน่ๆ ตอนที่คิดทริปนี้ก็เดือน มีนาคม แล้วววววว!!!! เหลือเวลาอีกแค่ เดือนกว่าๆ เอง ตั๋วไม่มียังไม่เท่าไหร่ แต่ วีซ่ายังไม่ทำนี่สิ จะไปได้ไง!!! ตอนนั้นก็คิดละเอาไงดี จะทันมั๊ยจะจองตั๋วก็ไม่กล้ากลัววีซ่าไม่ผ่าน ถ้างั้นจองไปทำ visa ก่อนละกัน โดยเราเลือกทำ visa schengen ฝรั่งเศส เพราะน่าจะเร็วและง่ายสุดแล้ว เพราะทำผ่านตัวแทน (จขกท. เคยไปทำของเยอรมัน เอกสารเยอะมากๆ ตอนที่ไปเยอรมันครั้งแรก แต่ก็ผ่านได้ด้วยดีเพราะไปในนามของบริษัท) โดยเราต้องเขาไปจองวันที่จะเข้าไปทำ Visa คะผ่านตัวแทน แล้วเลือก วัน เวลา คะ โดย จขกท.ได้วันที่ 22 มีนาคม !!! แต่ต้องเดินทาง 11 เมษายน จะทันมั๊ย ถามใจตัวเองดู55555 พอถึงวันเราก็ไปตามเวลาที่เลือกไว้คะ ก็เตรียมพวกเอกสาร การจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม หนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร หนังสือรับรองเงินเดือน และการลางาน statement ย้อนหลัง 6 เดือน รูปถ่าย และ passport ของเราค่ะ แต่พอยื่น จนท. ก็ไม่เอาตั๋วเครื่องบิน และที่เราตองห้องพักนะคะ จากนั้นก็ไปชำระเงินคะ และถ่ายรูปกับสแกนลายนิ้วมือกัน(ตอนแรกนึกว่าไม่ต้องสแกนลายนิ้วมือ เพราะทำมาแล้วที่สถานฑูตเยอรมัน แต่ก็ทำใหม่คะ) ใช้เวลาไม่นานนะคะ แปปเดียวเอง จากนั้นก็รอไปคะ รอจนสิ้นเดือนก็แล้วสถานะก็ยังไม่ขึ้นว่าส่ง Passport กลับมาซะที จนวันที่ 5 เมษาคะ มี email เข้ามาว่าส่งกลับมสที่ TLS แล้วให้ไปรับได้เลย จริงๆตอนนั้นคืดแล้วนะคะว่าถ้าส่งกลับมาวันที่ 8-9-10 เมษาคงไม่ไปละ แต่เมื่อส่งมาแล้วก็รีบไปรับแล้วลุ้นสิคะ ว่าผ่านหรือป่าว ในที่สุดก็ได้มาแล้ว Visa schengen รอบนี้ได้มา 30 วันคะ แต่แฟน จขกท. ได้มา 90 วัน !!! ทำไมได้มาไม่เท่ากัน ทั้งที่แฟน จขกท. เดินทางไปยุโรปครั้งแรก!!! แต่ จขกท.เคยไปเยอรมันมาแล้วนะ แต่ก็ได้แค่บ่นค่ะ เพราะคงไม่มีเวลาไปบ่อยขนาดนั้น 55555
เมื่อได้ Visa แล้วก็ต้องจองตั๋วสิค่ะ .....อีก 6 วันเดินทาง อย่าถามถึงตั๋วถูกนะคะ เพราะจองขาไปฝรั่งเศส โดยสายการบินที่ถูกสุดตอนนั้น คือ Jet airway แต่ต้อง transit mumbai ค่ะ เอาอันนี้แหละถูกสุด เวลาได้ ใช้เวลาน้อยสุดแล้ววววว กดจองเลยค่ะก่อนราคาเปลี่ยน โดยจองไปราคาประมาณ 11,000 กว่าบาทค่ะ จากนั้นก็จองขากลับค่ะ เราเลือกเดินทางกลับจาก Austria คะ และ
จองตั๋วเที่ยว Paris => จองตั๋ว Big Bus tour โดยได้จอง 1 day bus & Cruise 2 Audlts ไป ราคา 75.6€/2คน ก็ประมาณ 1,475 บาท/คน ค่ะ โดยเราสามารถขึ้นรถบัสซึ่งจะพาเราทัวร์รอบๆ ปารีส ค่ะ
จองตั๋วเที่ยว Viena Austria คะ โดยจองแบบ 48 hr. คะซึ่งเป็นแบบ Premium Tour คะ ราคา 60 €/2 คน หรือถ้าใครมีเสลาหน่อยก็มีแบบจองเดินทางไปเที่ยว Viena-Budapest แบบไปกลับหรือ ค้างคืนก็มีนะคะ
จองที่พัก Paris 2 คืน ,Munich 1 คืน ,Hallstatt 1 คืน,Viena 1 คืน ปล.ที่พัก Hallstatt ได้แบบไม่ตั้งใจแต่สวยและคุ้มมากๆ
แลกเงิน euro ตอนนั้น 1 €= 38.85 THB คะ
เตรียมเสื้อผ้า กางเกง เสื้อกันหนาว อุณหภูมิ ตอนนั้นก็ประมาณ 10 กว่าองศาเซลเซียสค่ะ
เมื่อพร้อมแล้ววววว. เราออกเดินทางกันเลย
พาหมีน้อยชาเขียวไปเที่ยวยุโรปกัน
วันเดินทางมาถึง จขกท. กลับมีงานด่วนเข้ามา ไปสนามบินทั้งชุดทำงานกันเลยทีเดียว แล้วไปเปลี่ยนชุดที่สนามบินเอา เมื่อไปถึงสนามบิน ก็ไป Check in กันก่อนเลยค่ะ ตอนแรกกะจะเข้าไปนั่งเล่นที่ เล้าท์ king power แต่ไม่มีเวลาแล้ว ไปรอขึ้นเครื่องเลยละกัน โดย จขกท. ได้เลือกที่นั่งไว้ก่อนแล้ว ขึ้นเครื่องแล้วออกเดินทางไปหลงด้วยกันเนอะ (บอกแฟนก่อนจะขึ้นเครื่องเพื่อเพิ่มความแน่ใจ ว่าหลงแน่ๆ 55)
เมื่อถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องกันเลยค๊า จะบอกว่าสายการบิน Jet airway ก็ดีนะคะ บริการอาการ เครื่องดื่ม โอเคเลยน๊า มีหนังให้ดูจะได้ไม่เบื่อ และที่นั่งกว้างเลยหล่ะ เพราะ จขกท. เลือกที่นั่งไว้แล้ว เลือกฟรีด้วยนะเทอ และก็โชคดีที่มีที่นั่งข้างหน้าเหลือ เลยได้ที่นั่งกว้างขวางสุดๆ แฟน จขกท เป็นคนขายาวมาก ยิ่งชอบเข้าไปอีก เพราะนั่งนานไง ได้ที่แบบนี้เลยสบาย อาหารที่เสริฟก็ Full option กันเลยค๊า มีไอศกรีมตบท้ายอีกด้วยนะ ฟินไปอี๊ก
ชาเขียว ดูหนัง กินไอศกรีม ฟินหล่ะสิ
หลังจากนั่งๆ นอนๆ กินๆ ก็ถึง Mumbai ,India ที่ที่ เราต้องไป Transit เพื่อต่อเครื่องไป Paris ค่ะ ใช้เวลา 2 ชม. ผ่านด่านตรวจเอกสาร ความปลอดภัย นั่งรอแปปเดียวก็ขึ้นเครื่องเตรียมบินกันเลยค๊า