JJNY : นักวิชาการ วิพากษ์ ม.44 ยึดทรัพย์”บุญทรง-พวก”

กระทู้คำถาม
หมายเหตุ – นักวิชาการให้ความเห็นต่อกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ออกคำสั่งที่ 56/2559 ใช้อำนาจทางปกครองเรียกค่าเสียหายจากการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 6 คน มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท โดยนายบุญทรงยืนยันที่จะฟ้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน

ยอดพล เทพสิทธา
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร


ถ้าจะฟ้องนายบุญทรง ตามหลักการควรใช้กระบวนการตามกฎหมายคือส่งฟ้องศาล ไปสู้กันในศาล การใช้มาตรา 44 เหมือนเบ็ดเสร็จไปแล้วตอนนี้ คนใช้มาตรา 44 พิจารณาไปแล้วว่านายบุญทรงผิดจริง

หากถามว่าทำไมเลือกที่จะไม่ฟ้องหรือดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายนั้น คงตอบไม่ได้เลย อาจเพราะว่าต้องใช้เวลานาน หรือศาลอาจพิพากษาในทางที่ผู้ฟ้องไม่ต้องการก็เป็นได้ ทั้งนี้อาจเพราะมาตรา 44 คุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐก็เป็นไปได้เช่นกัน คือคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่ใช้อำนาจด้วย

ทั้งนี้ ตามกฎหมายแล้วต้องเลือกว่าจะดำเนินคดีอาญาหรือคดีแพ่ง ถ้าคดีอาญาคือเอาไปลงโทษ จำคุก ยึดทรัพย์ แต่ถ้าคดีแพ่ง ให้ชดใช้ค่าเสียหายกันไป

ถ้าดูท่าทีแล้วคงเป็นการฟ้องคดีอาญาเพราะฟ้องโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ต้องการให้นายบุญทรงถูกจำคุกและริบทรัพย์สิน ซึ่งก็ทำได้ในกระบวนการปกติ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมใช้มาตรา 44

ทวิสันต์ โลณานุรักษ์
อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา


ทราบมาว่านายบุญทรงเตรียมที่จะร้องศาลปกครองเพื่อให้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และจะฟ้องกลับทั้งทางแพ่ง และอาญากับทุกคนที่เกี่ยวข้องนั้น ผมมองนายบุญทรง ไม่ควรที่จะไปมองถึงเรื่องการยึดทรัพย์ แต่ควรที่จะต่อสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าถูกหรือผิดก่อน

หากมั่นใจว่าบริสุทธิ์จริงก็ไปหาหลักฐานและพยานต่างๆ มายืนยันความบริสุทธิ์ต่อศาลและสาธารณชนให้ชัดเจน เนื่องจากว่าคดีนี้มีคนติดคุกมาแล้ว อีกทั้งที่ผ่านมาการทำจีทูจี ไม่สามารถชี้แจงว่าเป็นการทำระหว่างรัฐต่อรัฐจริงหรือไม่

กรณีที่รัฐบาลใช้ มาตรา 44 ออกคำสั่งเรียกร้องค่าเสียหายจากนายบุญทรง แต่นายบุญทรงอ้างว่าคดีอยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว จึงไม่ยอมรับข้อนี้นั้น ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ชอบธรรมของรัฐบาล

เพราะยุคนี้อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาล คสช.ที่สามารถใช้ มาตรา 44 ได้อย่างชอบธรรม ฉะนั้นจึงเป็นยุคใครยุคมัน

สมชาย ปรีชาศิลปกุล
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


มาตรา 44 ไม่ควรถูกใช้ไม่ว่าในกรณีไหนก็ตาม มาตรา 44 เป็นการใช้อำนาจของผู้นำ ซึ่งไม่มีความรับผิด การประกาศใช้มาตรา 44 นำมาซึ่งผลต่างๆ จะเห็นว่ามีเนื้อหาของมาตรา 44 จำนวนมากเป็นเนื้อหาที่ขัดต่อหลักการ กรณีที่เกิดกับนายบุญทรง หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกดำเนินการฟ้องร้องอยู่ คิดว่ายังไงก็รอให้กระบวนการดำเนินไป ถ้ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำให้เรื่องนี้ถูกต้องทั้งหมด ควรรอให้กระบวนการดำเนินไปให้สิ้นสุด

มาตรา 44 คุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็จริง แต่กรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการโดยไม่สุจริตถูกต้อง มาตรา 44 คงอาจคุ้มครองได้ยาก ในอนาคตถ้ากลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมีการพิสูจน์อย่างชัดเจน โดยกฎหมายคุ้มครองอยู่แล้วถ้าเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการอย่างถูกต้องมีกฎหมายรองรับ การมีคำสั่งมาตรา 44 ให้เจ้าหน้าที่รัฐทำไปโดยไม่ต้องรับผิด ทั้งที่หลักการทั่วไปเจ้าหน้าที่รัฐทำอะไรหากไม่ถูกต้องจะต้องรับผิด

กรณีที่ก่อนหน้านี้ที่มีการใช้มาตรา 44 แล้ว แต่เจ้าหน้าที่รัฐยังไม่ยอมเซ็น เข้าใจว่ารัฐมนตรีหรือเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งตระหนักว่าการใช้มาตรา 44 ในอนาคต ถ้าสังคมเดินกลับสู่การใช้ระบบกฎหมายตามปกติ คนที่เซ็นจะตกเป็นผู้ต้องหาได้ ทุกคนก็รู้ว่าวันหนึ่งที่ คสช.จะไม่อยู่ ถ้าวันนั้นถูกฟ้องคดีก็เป็นเรื่องที่ต้องไปเผชิญชะตากรรมเอง ก็ไม่แปลกที่อยากจะโยนไปให้คนโน้นคนนี้

ในอนาคตโอกาสที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีจากการปฏิบัติตามมาตรา 44 คิดว่าเป็นไปได้ มาตรา 44 ตอนนี้กระบวนการทั้งหมดเหมือนว่าจะสอดรับ รับรองให้ใช้บังคับได้ แต่อย่าลืมว่าเป็นภาวะที่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่รัฐทั้งในและนอกกระบวนการยุติธรรมจะไม่กล้าฝืนคำสั่ง แต่ถ้าวันหนึ่งกลับไปสู่กระบวนการปกติ ผมคิดว่าอาจเกิดปรากฏการณ์ล้มล้างหรือปฏิเสธความชอบธรรมของมาตรา 44 ได้ เมื่อนั้นเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากที่บังคับใช้ คงต้องมีความรับผิดตามมา

การให้ชดใช้ค่าเสียหาย ปกติต้องพิสูจน์ความเสียหายให้ได้ชัดเจนก่อน 1.มีความผิดจริง เจ้าหน้าที่รัฐมีความผิดจริง 2.มีความเสียหายเท่าใด

กรณีนี้ในข้อแรกว่ามีความผิดจริงไหม ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการสู้กันอยู่ แล้วความเสียหายมากน้อยแค่ไหนต้องกำหนดอีก จะเห็นได้ว่ายังไม่ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนที่มีอยู่

เข้าใจว่าการใช้อำนาจของ คสช. ผ่านมาตรา 44 คงมีคดีที่เขาอยากจัดการให้เรียบร้อยก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะถ้าประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วยังมีการใช้มาตรา 44 อยู่ อาจถูกมองได้ว่าถึงมีรัฐธรรมนูญแต่ คสช. ยังคงทำตัวเป็นผู้มีอำนาจเหนืออยู่ดี

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คิดว่าวันที่ 10 ธันวาคม อาจมีหลายคดีที่เป็นเรื่องสำคัญ อาจมีการแสดงอำนาจให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

หากนายบุญทรงฟ้องกลับ คิดว่าได้ เพราะมีเอกสารจำนวนมากที่หลุดออกมา ที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนหรือกระบวนการที่ตรงไปตรงมา

ธีรวิทย์ ภิญโญณัฐกานต์
อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา


ที่นายบุญทรงบอกว่าจะไปร้องต่อศาลปกครองกรณีที่รัฐบาลใช้ มาตรา 44 ออกคำสั่งเรียกร้องค่าเสียหายคดีขายข้าวแบบจีทูจีเป็นสิทธิที่สามารถทำได้นั้น แต่มองว่าจะไม่มีผลอะไร เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ มาตรา 44 ครอบคลุมทุกอย่างแล้ว เพราะขณะนี้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังไม่ได้ประกาศใช้ ยังใช้ฉบับเดิมอยู่ซึ่ง มาตรา 44 ตรงนี้เป็นความเด็ดขาดและความน่ากลัวของ มาตรา 44 แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจตาม มาตรา 44 แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้เราต้องยอมรับแต่โดยดี

ซึ่ง มาตรา 44 เป็นอำนาจสูงสุดที่รัฐบาล คสช.จะนำมาใช้แก้ปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งไม่สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายปกติมาแก้ปัญหาได้นั่นเอง

ดังนั้นเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์คงจะคิดอย่างรอบคอบแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อน ไม่สามารถใช้กฎหมายปกติเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ จึงได้ตัดสินใจใช้ มาตรา 44 เข้ามาใช้แก้ปัญหาแทน

สีดา สอนศรี
คณบดีวิทยาลัยการเมืองการปกครอง ม.มหาสารคาม


เมื่อเซ็นคำสั่งออกมาแล้วก็ต้องยอมรับ เพราะอยู่ภายในอำนาจในมาตรา 44 เป็นเรื่องธรรมดาก็ต้องรับผิดไป ในฐานะที่นายบุญทรงเป็นรัฐมนตรีในขณะนั้น เหมือนดิฉันที่เป็นคณบดี หากเกิดอะไรขึ้นมาก็ต้องยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม

หากดูแล้วเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นต้องทำตามกฎหมาย มาตรา 44 ถือเป็นกฎหมายสูงสุดในช่วงเวลาแบบนี้ เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งรัฏฐาธิปัตย์ คือเป็นอำนาจที่ทางทหารมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการปกครองประเทศในสภาวะไม่ปกติ มีอำนาจที่จะทำ

หากต้องการกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชั่นสามารถทำได้ ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจะฟ้องกลับไม่ได้ เพราะมีพระราชบัญญัติคุ้มครองอยู่ ช่วงเวลานี้ไม่ใช่สภาวะปกติ เหมือนสมัยก่อนที่มีการฟ้องร้องกันไปมามีการยื่นอุทธรณ์เรียกร้องค่าเสียหาย

ดิฉันมองว่าเป็นข้อดีของมาตรา 44 ที่รัฐบาลทหารสามารถทำได้ แต่หากคนที่ไม่ชอบทหารก็อาจจะว่าไม่ดีก็ได้ ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้ชอบหรือชอบทหาร เพียงแต่ว่ารัฐบาลทหารสามารถดำเนินการบางอย่างได้ในขณะที่รัฐบาลปกติไม่สามารถทำได้ แต่อาจจะไปจำกัดสิทธิประชาชนบ้างในเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมืองอันนี้ก็เป็นที่รู้กัน แต่การปราบปรามคอร์รัปชั่นก็เรื่องหนึ่ง

ส่วนการมีส่วนร่วมก็อีกเรื่องหนึ่งต้องแยกกัน ประชาชนอาจจะอึดอัดบ้าง อยากมีส่วนร่วมแต่ทำอะไรไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่