สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ปิดตาข้างหนึ่งครับ
เป็นเรื่องปกติ ทุกบริษัทก็ทำแบบนี้กัน
ปกครองคนส่วนมาก เจ้านายต้องใจกว้าง ปิดตาบ้าง ซื้อใจลูกน้อง การซื้อใจมันสำคัญ ถ้าจ่ายเงินซื้องานก็จะได้แค่งาน ถ้ามีที่ใหม่จ่ายเยอะกว่าเค้าอาจจะไป แต่ถ้าซื้อใจเค้าได้ คุณจะได้มากกว่างาน และนแน่นอน มันไม่ได้กระทบงานหลัก คุณแค่อาจจะหมั่นใส้ว่าใช้ไฟ ใช้เวลา ใช้คอมคุณในการทำมาหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ลองเข้าไปถามเค้าดีๆ แบบสนใจ ว่าขายอะไร มีสินค้าอะไรบ้าง ทำไมถึงต้องขาย ที่บ้านใครป่วย ขาดเงินอะไรยังไง ก็ต้องถามดีๆ บางทีอาจจะเข้าใจเค้ามากขึ้นว่าทำไมต้องหารายได้เสริม ถ้าพูดคุยกันได้ระดับหนึ่งค่อยบอกเค้าว่าควรขายเวลาไหน ไม่ควรขายเวลาไหน มันคุยกันได้ถ้าเราคุยด้วยความเมตตา ผมว่า
เป็นเรื่องปกติ ทุกบริษัทก็ทำแบบนี้กัน
ปกครองคนส่วนมาก เจ้านายต้องใจกว้าง ปิดตาบ้าง ซื้อใจลูกน้อง การซื้อใจมันสำคัญ ถ้าจ่ายเงินซื้องานก็จะได้แค่งาน ถ้ามีที่ใหม่จ่ายเยอะกว่าเค้าอาจจะไป แต่ถ้าซื้อใจเค้าได้ คุณจะได้มากกว่างาน และนแน่นอน มันไม่ได้กระทบงานหลัก คุณแค่อาจจะหมั่นใส้ว่าใช้ไฟ ใช้เวลา ใช้คอมคุณในการทำมาหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ลองเข้าไปถามเค้าดีๆ แบบสนใจ ว่าขายอะไร มีสินค้าอะไรบ้าง ทำไมถึงต้องขาย ที่บ้านใครป่วย ขาดเงินอะไรยังไง ก็ต้องถามดีๆ บางทีอาจจะเข้าใจเค้ามากขึ้นว่าทำไมต้องหารายได้เสริม ถ้าพูดคุยกันได้ระดับหนึ่งค่อยบอกเค้าว่าควรขายเวลาไหน ไม่ควรขายเวลาไหน มันคุยกันได้ถ้าเราคุยด้วยความเมตตา ผมว่า
ความคิดเห็นที่ 9
เสียเค้าไปกระทบกับ performance ทีมมั้ย?
ถ้าไม่ เป็นเราจะจัดการตามนี้
1. คุยตรงๆ ว่ารู้เรื่องการขายของและขอให้เลิกทำในเวลางาน มันอาจกระทบกับการคุมทีม (คนอื่นจะคอยมองคุณอยู่ ถ้าคนนี้เอาเวลางานไปทำอย่างอื่นแล้วคุณไม่มี action คนอื่นจะทำบ้าง แล้วทีมจะเละเทะ)
2. ขยับ KPI ของเขาขึ้น แสดงว่าเราอาจจะตั้ง KPI เค้าง่ายไป ทำบ้างไม่ทำบ้างยังถึงเป้า
3. ถ้าดูเค้ายังแอบขายเหมือนเดิม เตรียมตัวเอกออกแล้วหาคนใหม่
4. แต่ถ้าเค้ายอมทำตาม กลับมาทำงานเต็มที่ ถึงเวลาที่ต้อง review รายได้ของเค้าแล้วว่าน้อยเกินไปหรือเปล่า ทำไมต้องหางานเสริม ถ้าน้อยไปก็หาทางปรับให้
ถ้าไม่ เป็นเราจะจัดการตามนี้
1. คุยตรงๆ ว่ารู้เรื่องการขายของและขอให้เลิกทำในเวลางาน มันอาจกระทบกับการคุมทีม (คนอื่นจะคอยมองคุณอยู่ ถ้าคนนี้เอาเวลางานไปทำอย่างอื่นแล้วคุณไม่มี action คนอื่นจะทำบ้าง แล้วทีมจะเละเทะ)
2. ขยับ KPI ของเขาขึ้น แสดงว่าเราอาจจะตั้ง KPI เค้าง่ายไป ทำบ้างไม่ทำบ้างยังถึงเป้า
3. ถ้าดูเค้ายังแอบขายเหมือนเดิม เตรียมตัวเอกออกแล้วหาคนใหม่
4. แต่ถ้าเค้ายอมทำตาม กลับมาทำงานเต็มที่ ถึงเวลาที่ต้อง review รายได้ของเค้าแล้วว่าน้อยเกินไปหรือเปล่า ทำไมต้องหางานเสริม ถ้าน้อยไปก็หาทางปรับให้
ความคิดเห็นที่ 19
ปิดตา ถ้าคนอื่นเอาเยี่ยงอย่าง คุณจะไร้ Power ในการปกครองลูกน้อง
ปิดตา ก็ต้องปิดกับคนอื่นด้วย ไม่ใช่ปิดแค่เค้าคนเดียว เพราะไม่อย่างนั้น จะโดนคนอื่นครหาว่าให้ท้าย
จริงๆ ควรจะเตือนไปก่อน ว่าควรทำเวลาพัก ไม่ใช่เวลางาน
ถ้าเตือนแล้ว ยังมีพฤติกรรมอยู่ ก็ต้องแจกใบเตือน หรือลงโทษอะไรตามกฏ
ปล. อีกอย่าง ถ้ากิจการเค้ารุ่ง เค้าก็คงไม่มานั่งเป็นลูกน้องคุณต่อแน่นอน
แล้วคุณจะมาสำนึกเสียใจ ที่ปล่อยปะละเลย ให้โอกาสเค้าสร้างธุรกิจของตัวเอง
แทนที่จะสร้างธุรกิจของบริษัท แล้วจะเสียดายค่าจ้างที่เสียไป
เป็นผมคงคุยกับเค้า ว่าจะทำการหักเงินเดือน เพื่อให้เค้าหาทางเลือกเอา
ว่าจะทำงานประจำ หรือทำธุรกิจส่วนตัว
เป็นนาย คุณต้องแยกให้ได้ว่า กำลังทำธุรกิจกินเงินเดือนบริษัทฯ
หรือทำธุรกิจเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเอง
ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นานนะ
ปิดตา ก็ต้องปิดกับคนอื่นด้วย ไม่ใช่ปิดแค่เค้าคนเดียว เพราะไม่อย่างนั้น จะโดนคนอื่นครหาว่าให้ท้าย
จริงๆ ควรจะเตือนไปก่อน ว่าควรทำเวลาพัก ไม่ใช่เวลางาน
ถ้าเตือนแล้ว ยังมีพฤติกรรมอยู่ ก็ต้องแจกใบเตือน หรือลงโทษอะไรตามกฏ
ปล. อีกอย่าง ถ้ากิจการเค้ารุ่ง เค้าก็คงไม่มานั่งเป็นลูกน้องคุณต่อแน่นอน
แล้วคุณจะมาสำนึกเสียใจ ที่ปล่อยปะละเลย ให้โอกาสเค้าสร้างธุรกิจของตัวเอง
แทนที่จะสร้างธุรกิจของบริษัท แล้วจะเสียดายค่าจ้างที่เสียไป
เป็นผมคงคุยกับเค้า ว่าจะทำการหักเงินเดือน เพื่อให้เค้าหาทางเลือกเอา
ว่าจะทำงานประจำ หรือทำธุรกิจส่วนตัว
เป็นนาย คุณต้องแยกให้ได้ว่า กำลังทำธุรกิจกินเงินเดือนบริษัทฯ
หรือทำธุรกิจเพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเอง
ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นานนะ
แสดงความคิดเห็น
ลูกน้องแอบขายของออนไลน์ในเวลางาน ลังเลใจในการจัดการครับ ?
2.เตือนด้วยวาจาและให้หยุดขายในเวลางาน
3.แจ้งฝ่ายบุคคลให้ช่วยจัดการ
4.พิจารณาให้ออกและหาคนใหม่
คุณว่าทางเลือกไหนดีสุดครับ