สวัสดีครับ เพื่อนชาว บลูแพล็นเน็ต ทุกท่าน
เรามาจาก เพจบันทึกน่าเที่ยวนะ (เปลี่ยนมาหลายชื่อมาก อิอิ) อันนี้เป็นกระทู้ที่ 2ของเพจละ
https://www.facebook.com/groups/971113542960345/1189892674415763/?notif_t=like¬if_id=1473345746793878
อันนี้กระทู้แรกครับ
http://pantip.com/topic/34767605 จริงๆเราออกกันอีกหลายทริปมากๆแต่ แอดมินเพจอินดี้จัด นานๆจะเขียนรีวิวซะทีต้องบิวอารมณ์ อาถรรพ์ และอาฆาต 555 ok เข้าเรื่องดีกว่า
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับประตูสวรรค์ "จางเจียเจี๊ยเมืองไทย" พร้อมแล้วลุย
ทริปนี้เริ่มจากขึ้นรถครับ เรานัดกันที่ จตุจักร กะ BTSอุดมสุข ตอน ตี5ครับ ใครสะดวกที่ไหนก็ขึ้นที่นั้นเลย พอขึ้นรถมาได้สิ่งที่ทุกคนทำกันคือ นอน อิอิ ชอบมากๆกิจกรรมนี้

เนี่ยนอนกันยาวๆ เช้าแล้วก็ยังไม่ตื่น ตื่นอีกทีก็นั้นแหละครับ ตอนกินข้าวที่แวะข้างทาง พอกินเสร็จขึ้นมาก็ หึหึ นอนต่อ จนถึงเวลาประมาณ 9.00 เราก็มาถึง อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี

นะนั้นแหละครับ ท่าแต่ละคน
จากจุดนี้ครับเราต้องเดินไปประมาณ 800 เมตรเพื่อเข้าสู้ปากถ้ำธารลอดน้อยครับ

บรรยากาศร่มรื่นมากๆเดินชิวอากาศเย็นๆกลิ่นฝนอ่อนๆ ฟินอะ
พอเดินชิวๆซักพักก็ถึงจุดตรวจและเก็บค่าเข้าครับ แต่ถ้าชำระแล้วต้องแต่หน้าทางเข้าก็แจ้งพี่ๆเจ้าหน้าที่ไปนะครับจะได้ไม่เสียอีกรอบนึง

ซักหน่อยก่อนเข้า ป้ายที่นี่คล้ายๆป้ายลำคลองงูเลย

นี่หน้าทางเข้าครับเราต้องเดินผ่านถ้ำธารลอดน้อยก่อนครับ ภายในถ้ำสวยงาม มีทางเดินและไฟส่องสว่างตลอดทาง เดินง่ายเดินสะดวก

สายถ่ายรูปถ่ายตั้งกระปากถ้ำจนโดนคนอื่นเค้าทิ้ง ตะเตือนไตจริมๆแอดมินเพจนี้แต่ละคน

ก้มๆนิดๆไม่ถึงกะต้องคลานนะ

บรรยากาศภายในถ้ำครับ เราคิดว่าเหมือนเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์นะจากการจัดไฟของทางอุทยาน

บางทีก็แอบหลอนๆนิดๆตอนเดินคนเดียว ถ้ามีคนมากวักมือเรียกนี่ไม่ต้องพูดครับ วิ่งได้เลย

นี่ขนาดวันเสาร์นะที่นี่ยังไม่ค่อยมีคนเลย หรือเรามาเช้าเกินไป

มีไฟส่องสว่างตลอดทางไม่ต้องพกไฟฉายมานะครับ

ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่

จุดนี้เป็นไฮไลท์ของถ้ำธารลอดน้อยแห่งนี้ครับ

เดินผ่านจุดนี้ไปก็ใกล้ถึงทางออกละครับ

เย้ถึงทางออกแล้ว

ออกมาได้ก็ซนเลยแอดมินเพจนี้นิ แย่มากๆครับ
สรุปแล้วในถ้ำอากาศเย็นสบาย มีไฟติดตลอดทาง ทางเดิน ok ใช้เวลาเดินชมประมาณ 30 นาที อาจจะมีกลิ่นมูลค้างคาวนิดๆ
หลังจากออกมาจาถ้ำธารลอดน้อยแล้ว เราต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 2.5 กิโล เพื่อไปยัง ถ้ำธารลอดใหญ่ จางเจียเจี๊ยเมืองไทยของเรา (จริงๆรถสามารถเข้าถึงถ้ำธารลอดใหญ่ได้เหมือนกันครับ แต่ถนนจะเป็นป่าไผ่รถหลังคาสูงๆไม่แนะนำครับ อาจได้ลอยขูดไปตามระเบียบ)
มาพร้อมละไปต่อ โย่ๆ

สภาพทางเดินตอนแรกๆครับ เป็นหินๆหน่อยๆเดินระวังสะดุดนะครับ

ทางเดินช่วงต่อมาจะเดินสบายหน่อยครับจะเป็นทางราบ สลับป่าไผ่

เจอมดกำลังย้ายรังด้วย ตัวใหญ่มากมดอะไรไม่รู้ สงสัยเมื่อคืนฝนตกหนัก

ไม่ต้องกลัวร้อนนะครับมีน้ำตกเล็กๆ อยู่ตลอดทางน้ำเย็นมากล้างหน้าแล้วสดชื่น

น้ำตกระหว่างทางครับ น้ำตกนี้แนะนำเลยน้ำตกเล็กๆที่สวยมากๆ (น้ำตกนี้จะเป็นจุดเดินชิวจุดสุดท้ายนะครับ พักให้เต็มที่ เพราะทางต่อไปจะเป็นทางชัน บันไดล้วนๆไม่มีทางราบผสมเลย)

นี่ๆเราเอามุมนี้นะ เอานะเอานะ 123...

พวกเธอทำอย่างนี้ได้ไงนี่มาดูแอดมิน 123...

ต้องแบบนี้แอดมินเพจอย่าไปยอมแพ้ลูกเพจ อิอิแต่ทำไมนึกถึงเพลงรักในสายลมหนาวไม่รู้555ตอนแอดวัตถ่ายภาพที่ 2ให้ยั่งกะพระเอกเกาหลี

อะมาตาแอดวัตละ 123...

ok เข้าใจละว่าหน้าชัดหลังเบลอเป็นไง YWY

หลังจากพักจนพอละก็เดินต่อ จากนี้ทางจะชันขึ้นเรื่อยๆครับช่วงแรกยังเป็นป่าๆหน่อย

ต่อไปจะเป็น บันไดแบบในรูปครับ "ไหวมั้ยถามใจดู โย่ๆ"

มีจุดให้พักถ่ายภาพเรื่อยๆครับเดินชิวๆ(แต่เหนื่อยอิบอ้าย แอดมินคนไหนบอกเป็นทริป Slow Life ฟะ)

เดินไปเรื่อยๆครับ พอถึงจุดชมวิวนี้ดีใจได้เลย ใกล้ถึงแล้วครับ

แต่กว่าจะถึงก็หอบเหมือนกันครับสำหรับคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่แอดวัตสายฟิตเนตครับเดินชิวๆไม่เหนื่อยมาก

พอเลยจุดชมวิวมานิดนึงทางจะเป็นสะพานไม้เรียบๆเดินชมวิวสวยมากๆครับ

อั้นเนาะ มีความติส เดินชิมความสวยงามของธรรมชาติซักพัก เราก็มาถึงครับ "จางเจียเจี๊ยเมืองไทย"

เห็นขอบประตูยัง ที่สูงๆนั้นแหละครับ

คุ้มค่าเหนื่อยจริงๆที่เดินขึ้นมา ดูยิ่งใหญ่มากๆ

ความสวยงามของธรรมชาติ

เสียดายไม่ได้เอาเลนส์วายไปเก็บได้เท่านี้เอง

หึหึ ณเดช หมาก มาริโอ ฮาๆๆๆ
ภายในจะถ้ำธารลอดใหญ่จะเป็นที่ ประดิษฐานของลอยพระพุทธบาท และองค์พระพุทธรูป ให้ได้สักการะบูชา ขอพรด้วยครับ
และภายในจะมีภาพวาดพญานาคที่ชาวกระเหรี่ยงที่เคยอาศัยสมัยก่อนวาดไว้ที่ผนังถ้ำครับ พอพักกันหายเหนื่อยแล้วเดินออกมาเรื่อยๆจะเป็นสำนักสงฆ์ครับ ที่นี่เงียบสงบมากๆ และเป็นจุดจอดรถที่ เราบอกไปตอนแรกๆว่ามีทางรถที่สามารถเข้าถึงได้ แต่ทางเป็นป่าไผ่บางจุดต้องอาศัยคนยกก่อไผ่ที่ตกลงมาเพื่อให้รถที่หลังคาสูงๆผ่านไปได้
สรุป ถ้ำธารลอดใหญ่ จางเจียเจี๊ยเมืองไทย มีทางรถสามารถเข้าถึงได้(เดินนิดหน่อย) เหมาะกับคนไม่อยากเหนื่อย
สำหรับคนที่ชอบเดินป่า แนะนำเส้นทางศึกษาธรรมชาติครับ ได้เดินกันพอเหนื่อยวิวสวยตลอดทาง ทางเดินไม่โหดลื่นเล็กน้อยตามจุดใกล้ๆน้ำตก
แต่ครับทริปเราวันแรกยังไม่จบแค่นี้ หลังจากออกมาจากถ้ำเราได้เดินทางไปถ่ายรูปเล่นที่ ปางอุ๋งสุพรรณครับ (อ่างเก็บน้ำเขาวง)

งดงามมากๆชอบ เสียดายไม่ได้ปักเต้นท์ที่นี่

ลมเย็นสบาย

อย่างเท่อะ

แอดมินบ้าง ทำไมไม่ดูดีเหมือนข้างบนฟะ ไหนอีกคนลองถ่ายซิ

ก็ดูดีนิ มันต้องเป็นที่กล้องแน่ๆ ที่ถ่ายแอดมินแล้วดูไม่หล่อ อิอิ
ก็จบแล้วครับสำหรับทริปวันแรก วันต่อไป แอดจะพาไปชม น้ำตกไซเบอร์ อะชื่อนี้คุ้นหูกันมั้ยเอ่ย แอดยังไม่คุ้นเลย YWY รอติดตามนะครับ
ผมขอขอบคุณเพื่อนๆ ชาวบลูทุกท่านที่อ่านมาจนจบนะครับ เขียนหรือสะกดอะไรผิดไปต้องขอโทษด้วยครับ เจ้าของกระทู้มีความบกพร่องด้านการเขียนอย่างรุนแรง แฮะๆ
สุดท้ายครับ อย่ากลัวที่จะไปเที่ยวเพียงลำพัง มาเจอเพื่อนและเปิดประสบการณ์เที่ยวใหม่ๆไปกับเรา "บันทึกน่าเที่ยว"
https://www.facebook.com/groups/971113542960345/1189892674415763/?notif_t=like¬if_id=1473345746793878
ขอบคุณครับ
[SR] ธารลอดใหญ่ "จางเจียเจี๊ยเมืองไทย"
เรามาจาก เพจบันทึกน่าเที่ยวนะ (เปลี่ยนมาหลายชื่อมาก อิอิ) อันนี้เป็นกระทู้ที่ 2ของเพจละ https://www.facebook.com/groups/971113542960345/1189892674415763/?notif_t=like¬if_id=1473345746793878
อันนี้กระทู้แรกครับ http://pantip.com/topic/34767605 จริงๆเราออกกันอีกหลายทริปมากๆแต่ แอดมินเพจอินดี้จัด นานๆจะเขียนรีวิวซะทีต้องบิวอารมณ์ อาถรรพ์ และอาฆาต 555 ok เข้าเรื่องดีกว่า
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับประตูสวรรค์ "จางเจียเจี๊ยเมืองไทย" พร้อมแล้วลุย
ทริปนี้เริ่มจากขึ้นรถครับ เรานัดกันที่ จตุจักร กะ BTSอุดมสุข ตอน ตี5ครับ ใครสะดวกที่ไหนก็ขึ้นที่นั้นเลย พอขึ้นรถมาได้สิ่งที่ทุกคนทำกันคือ นอน อิอิ ชอบมากๆกิจกรรมนี้
เนี่ยนอนกันยาวๆ เช้าแล้วก็ยังไม่ตื่น ตื่นอีกทีก็นั้นแหละครับ ตอนกินข้าวที่แวะข้างทาง พอกินเสร็จขึ้นมาก็ หึหึ นอนต่อ จนถึงเวลาประมาณ 9.00 เราก็มาถึง อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี
นะนั้นแหละครับ ท่าแต่ละคน
จากจุดนี้ครับเราต้องเดินไปประมาณ 800 เมตรเพื่อเข้าสู้ปากถ้ำธารลอดน้อยครับ
บรรยากาศร่มรื่นมากๆเดินชิวอากาศเย็นๆกลิ่นฝนอ่อนๆ ฟินอะ
พอเดินชิวๆซักพักก็ถึงจุดตรวจและเก็บค่าเข้าครับ แต่ถ้าชำระแล้วต้องแต่หน้าทางเข้าก็แจ้งพี่ๆเจ้าหน้าที่ไปนะครับจะได้ไม่เสียอีกรอบนึง
ซักหน่อยก่อนเข้า ป้ายที่นี่คล้ายๆป้ายลำคลองงูเลย
นี่หน้าทางเข้าครับเราต้องเดินผ่านถ้ำธารลอดน้อยก่อนครับ ภายในถ้ำสวยงาม มีทางเดินและไฟส่องสว่างตลอดทาง เดินง่ายเดินสะดวก
สายถ่ายรูปถ่ายตั้งกระปากถ้ำจนโดนคนอื่นเค้าทิ้ง ตะเตือนไตจริมๆแอดมินเพจนี้แต่ละคน
ก้มๆนิดๆไม่ถึงกะต้องคลานนะ
บรรยากาศภายในถ้ำครับ เราคิดว่าเหมือนเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์นะจากการจัดไฟของทางอุทยาน
บางทีก็แอบหลอนๆนิดๆตอนเดินคนเดียว ถ้ามีคนมากวักมือเรียกนี่ไม่ต้องพูดครับ วิ่งได้เลย
นี่ขนาดวันเสาร์นะที่นี่ยังไม่ค่อยมีคนเลย หรือเรามาเช้าเกินไป
มีไฟส่องสว่างตลอดทางไม่ต้องพกไฟฉายมานะครับ
ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่
จุดนี้เป็นไฮไลท์ของถ้ำธารลอดน้อยแห่งนี้ครับ
เดินผ่านจุดนี้ไปก็ใกล้ถึงทางออกละครับ
เย้ถึงทางออกแล้ว
ออกมาได้ก็ซนเลยแอดมินเพจนี้นิ แย่มากๆครับ
สรุปแล้วในถ้ำอากาศเย็นสบาย มีไฟติดตลอดทาง ทางเดิน ok ใช้เวลาเดินชมประมาณ 30 นาที อาจจะมีกลิ่นมูลค้างคาวนิดๆ
หลังจากออกมาจาถ้ำธารลอดน้อยแล้ว เราต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 2.5 กิโล เพื่อไปยัง ถ้ำธารลอดใหญ่ จางเจียเจี๊ยเมืองไทยของเรา (จริงๆรถสามารถเข้าถึงถ้ำธารลอดใหญ่ได้เหมือนกันครับ แต่ถนนจะเป็นป่าไผ่รถหลังคาสูงๆไม่แนะนำครับ อาจได้ลอยขูดไปตามระเบียบ)
มาพร้อมละไปต่อ โย่ๆ
สภาพทางเดินตอนแรกๆครับ เป็นหินๆหน่อยๆเดินระวังสะดุดนะครับ
ทางเดินช่วงต่อมาจะเดินสบายหน่อยครับจะเป็นทางราบ สลับป่าไผ่
เจอมดกำลังย้ายรังด้วย ตัวใหญ่มากมดอะไรไม่รู้ สงสัยเมื่อคืนฝนตกหนัก
ไม่ต้องกลัวร้อนนะครับมีน้ำตกเล็กๆ อยู่ตลอดทางน้ำเย็นมากล้างหน้าแล้วสดชื่น
น้ำตกระหว่างทางครับ น้ำตกนี้แนะนำเลยน้ำตกเล็กๆที่สวยมากๆ (น้ำตกนี้จะเป็นจุดเดินชิวจุดสุดท้ายนะครับ พักให้เต็มที่ เพราะทางต่อไปจะเป็นทางชัน บันไดล้วนๆไม่มีทางราบผสมเลย)
นี่ๆเราเอามุมนี้นะ เอานะเอานะ 123...
พวกเธอทำอย่างนี้ได้ไงนี่มาดูแอดมิน 123...
ต้องแบบนี้แอดมินเพจอย่าไปยอมแพ้ลูกเพจ อิอิแต่ทำไมนึกถึงเพลงรักในสายลมหนาวไม่รู้555ตอนแอดวัตถ่ายภาพที่ 2ให้ยั่งกะพระเอกเกาหลี
อะมาตาแอดวัตละ 123...
ok เข้าใจละว่าหน้าชัดหลังเบลอเป็นไง YWY
หลังจากพักจนพอละก็เดินต่อ จากนี้ทางจะชันขึ้นเรื่อยๆครับช่วงแรกยังเป็นป่าๆหน่อย
ต่อไปจะเป็น บันไดแบบในรูปครับ "ไหวมั้ยถามใจดู โย่ๆ"
มีจุดให้พักถ่ายภาพเรื่อยๆครับเดินชิวๆ(แต่เหนื่อยอิบอ้าย แอดมินคนไหนบอกเป็นทริป Slow Life ฟะ)
เดินไปเรื่อยๆครับ พอถึงจุดชมวิวนี้ดีใจได้เลย ใกล้ถึงแล้วครับ
แต่กว่าจะถึงก็หอบเหมือนกันครับสำหรับคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่แอดวัตสายฟิตเนตครับเดินชิวๆไม่เหนื่อยมาก
พอเลยจุดชมวิวมานิดนึงทางจะเป็นสะพานไม้เรียบๆเดินชมวิวสวยมากๆครับ
อั้นเนาะ มีความติส เดินชิมความสวยงามของธรรมชาติซักพัก เราก็มาถึงครับ "จางเจียเจี๊ยเมืองไทย"
เห็นขอบประตูยัง ที่สูงๆนั้นแหละครับ
คุ้มค่าเหนื่อยจริงๆที่เดินขึ้นมา ดูยิ่งใหญ่มากๆ
ความสวยงามของธรรมชาติ
เสียดายไม่ได้เอาเลนส์วายไปเก็บได้เท่านี้เอง
หึหึ ณเดช หมาก มาริโอ ฮาๆๆๆ
ภายในจะถ้ำธารลอดใหญ่จะเป็นที่ ประดิษฐานของลอยพระพุทธบาท และองค์พระพุทธรูป ให้ได้สักการะบูชา ขอพรด้วยครับ
และภายในจะมีภาพวาดพญานาคที่ชาวกระเหรี่ยงที่เคยอาศัยสมัยก่อนวาดไว้ที่ผนังถ้ำครับ พอพักกันหายเหนื่อยแล้วเดินออกมาเรื่อยๆจะเป็นสำนักสงฆ์ครับ ที่นี่เงียบสงบมากๆ และเป็นจุดจอดรถที่ เราบอกไปตอนแรกๆว่ามีทางรถที่สามารถเข้าถึงได้ แต่ทางเป็นป่าไผ่บางจุดต้องอาศัยคนยกก่อไผ่ที่ตกลงมาเพื่อให้รถที่หลังคาสูงๆผ่านไปได้
สรุป ถ้ำธารลอดใหญ่ จางเจียเจี๊ยเมืองไทย มีทางรถสามารถเข้าถึงได้(เดินนิดหน่อย) เหมาะกับคนไม่อยากเหนื่อย
สำหรับคนที่ชอบเดินป่า แนะนำเส้นทางศึกษาธรรมชาติครับ ได้เดินกันพอเหนื่อยวิวสวยตลอดทาง ทางเดินไม่โหดลื่นเล็กน้อยตามจุดใกล้ๆน้ำตก
แต่ครับทริปเราวันแรกยังไม่จบแค่นี้ หลังจากออกมาจากถ้ำเราได้เดินทางไปถ่ายรูปเล่นที่ ปางอุ๋งสุพรรณครับ (อ่างเก็บน้ำเขาวง)
งดงามมากๆชอบ เสียดายไม่ได้ปักเต้นท์ที่นี่
ลมเย็นสบาย
อย่างเท่อะ
แอดมินบ้าง ทำไมไม่ดูดีเหมือนข้างบนฟะ ไหนอีกคนลองถ่ายซิ
ก็ดูดีนิ มันต้องเป็นที่กล้องแน่ๆ ที่ถ่ายแอดมินแล้วดูไม่หล่อ อิอิ
ก็จบแล้วครับสำหรับทริปวันแรก วันต่อไป แอดจะพาไปชม น้ำตกไซเบอร์ อะชื่อนี้คุ้นหูกันมั้ยเอ่ย แอดยังไม่คุ้นเลย YWY รอติดตามนะครับ
ผมขอขอบคุณเพื่อนๆ ชาวบลูทุกท่านที่อ่านมาจนจบนะครับ เขียนหรือสะกดอะไรผิดไปต้องขอโทษด้วยครับ เจ้าของกระทู้มีความบกพร่องด้านการเขียนอย่างรุนแรง แฮะๆ
สุดท้ายครับ อย่ากลัวที่จะไปเที่ยวเพียงลำพัง มาเจอเพื่อนและเปิดประสบการณ์เที่ยวใหม่ๆไปกับเรา "บันทึกน่าเที่ยว"
https://www.facebook.com/groups/971113542960345/1189892674415763/?notif_t=like¬if_id=1473345746793878
ขอบคุณครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น