★ การลงทุนที่ได้รับอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อเนื่องเท่ากันทุกปีนี่ มีจริงๆเหรอครับ? ★

ผมอ่านข้อมูลเกี่ยวกับพวกแนะนำการลงทุน มักจะให้คำแนะนำโดยยกตัวอย่างแบบกว้างๆ อย่างล่าสุด ไปอ่านที่ facebook แห่งหนึ่ง ยกตัวอย่างคน 3 คน ลงทุนในช่วงอายุที่ต่างกัน แล้วสรุปว่า ออมก่อนรวยเร็วกว่า อันนี้ก็พอเข้าใจได้ครับ แต่สมมุติฐานที่ว่า ได้รับอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี เท่ากันทุกปี มันมีปรากฏ ณ ปัจจุบันด้วยเหรอครับ? จริงแล้วไม่ที่ facebook นี้อย่างเดียว แต่เวลามีการอบรมทางการเงินก็มักจะมีการยกตัวอย่างในลักษณะแบบนี้



ซึ่งการที่จะได้ผลตอบแทนแบบคงที่ เท่ากันทุกๆปีเนี่ย มันก็มีแต่เงินฝากออมทรัพย์ หรือ ฝากประจำไม่ใช่เหรอครับ? ซึ่งอัตราดอกเบี้ยก็ต่ำมากๆ หรือถ้าไปลงในกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำอย่าง MMF อัตราผลตอบแทนก็อยู่ในระดับเต็มที่คือ 1% ปลายๆ เท่านั้น ไม่ได้ไปใกล้เคียงถึง 3% เลย กองทุนหุ้นผลตอบแทนสูงแต่ก็น่าจะมีความเสี่ยงสูง จะบอกว่าได้ 3% แน่ๆทุกปีก็ไม่น่าเป็นไปได้อีก

คือที่ผมบอกที่ไม่ใช่อะไรครับ เห็นเวลาเราสอนเรื่องการเงิน เราเหมือนยกตัวอย่างที่ดูแล้วมันไม่มีอยู่จริง ปัญหาของชาวบ้านธรรมดาๆที่ไม่ได้เรียนการเงิน ไม่ได้มีความรู้แบบ advance ก็มักจะถามแบบเดียวกันว่า "แล้วผมจะลงทุนอะไรแบบไหนให้มันได้เงื่อนไขอย่างที่ว่านั่น?"

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
อันนี้เรียกว่า financial literacy
คนไทย 99% ไม่มี  โรงเรียนไม่สอน
คนจบปริญญาเอก ถ้าไม่ตรงสายก็ไม่รู้
พ่อแม่ผม เรื่องพวกนี้ไม่เคยรู้เลย ดูแต่ละครมากไป พูดถึงหุ้นก็นึกถึงการพนัน มีเงินก็นึกถึงแต่ซื้อที่ซื้อทอง
ชนชั้นกลาง อ่านดูในพันทิปนี่ พอมีคนถามว่าเอาเงินไปทำอะไรดี เห็นมีแต่พวกยังเชียร์พวกสลากออมสินอยู่เลย ทั้งๆที่ผลตอบแทนต่ำเตี้ยติดดิน


คนจะรวยได้ต้องมีความรู้เรื่อง financial literacy รู้ตราสารหนี้ ตราสารทุน การจัดการความเสี่ยง

การลงทุนที่ผลตอบแทนเยอะๆนั้นมี แต่ต้องรู้จักความเสี่ยง
3% นี่พันธบัตรก็ได้แล้ว ความเสี่ยงต่ำมาก
5-6% ก็หุ้นกู้เอกชน เสี่ยงนิดนึง กรณีบริษัทมันเบี้ยว
7-8% กว่าก็กองอสังหา กองอินฟรา
10+ ก็ต้องหุ้น กองทุนรวมไรก็ว่าไป

แน่นอนว่าหุ้นมันไม่ได้กำไรทุกปี แต่ถ้าหาความรู้จะรู้ว่า ตราสารทุนมันผลตอบแทนระยะยาวดีที่สุดแล้ว
ตั้งแต่คิดค้นตลาดหุ้นมา 100 กว่าปี ระยะยาว ยังไงหุ้นก็ผลตอบแทนดีสุด โดยเฉลี่ย
คราวนี้จะจัดการความเสี่ยงยังไงก็แล้วแต่ เรา จะ diversify จะจัดพอร์ต แนวไหน blue chip, growth อะไรก็ว่าไป
เสี่ยงน้อยก็จัด index fund

นี่แหละเรียกว่า financial literacy
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่