จิตขณะหนึ่ง ต่างกับจิตอีกขณะหนึ่ง เมื่อจิตเห็นได้อย่างนี้ จิตจะเห็นอะไรในตัวจิตเอง 1.เห็นความไม่เที่ยง 2.เห็นความตั้งอยู่ไม่ได้ 3.เห็นความไม่ใช่ตัวตน การจะเข้าถึง3ลักษณะนี้ได้ เบิ้องต้นจิตจะต้องรู้ค

ผมฝึกสมาธิแบบนี้ เพื่อนๆว่าถูกต้องไหมครับ?

การปฏิบัติธรรมสำหรับคฤหัสถ์ ตอนที่ ๑๐ (มี ๑๓ ตอน) "มีหลักฐานที่จะพึงกล่าวยืนยันในพระไตรปิฏก คนถากไม้นั่งถากไม้อยู่ เอาการถากไม้เป็นอารมณ์พิจารณาพระกรรมฐาน พิจารณาแล้วได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ คน

ในภาวะที่พ้นกองขันธ์ไป ขันธ์ก็เป็นแค่วิบาก อวิชชา งั้นแสดงว่า อรหันต์ก็ยังทำอะไรที่เป็นเดียรถีย์ได้อยู่น่ะสิครับ อีกอย่าง คนที่บูชาผี ไม่นับถือพุทธ ก็สามารถเป็นอรหันได้เหมือนกัน

พอกำหนดรู้ไป อาศัย อนุโลมตามไก็เห็นว่าธรรมทั้งหลายมันเป็นสภาพคู่ ต่อกันไปเรื่อยๆเป็นอนัตตา ก็กำหนดรู้ กำหนดรู้ยิ่ง กำหนดรู้ กำหนดรู้ยิ่ง จิตจึงเห็นว่าการกำหนดรู้เองก็เป็นตัวทุกข์ ต่อให้กำหนดรู้แค่ไห

หรอครับ

ในมหาสติปัฏฐานสูตร กล่าวถึงเรื่อง ฌาน ไว้ไหมครับ ในวรรคต้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมถะ ช่ายป่าวครับ แล้วท่อนกลางถึงท่อนท้าย เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิปัสสนา ช่ายป่าวครับ แล้วในพระสูตรนี้ส่วนสมถะมีสอนเกี่ยวกับ

ในวัตถุ จะมีอนุภาคมูลฐาน ที่แบ่งย่อยต่อไม่ได้ แล้วกสิณล่ะ

สติปัฐฐาน เห็นจิตเป็นขั้นๆ จึงกระจ่างในจิต 1.เห็นตัวรู้ที่ไปรู้อารมณ์ มีการเกิดดับเปลี่ยนแปลง แยกจิตกับอารมณ์ได้ เป็นปัญญาขั้นที่1 2.ตัวรู้ที่ไปรู้อารมณ์นั้นละเอียดขึ้น อารมณ์ที่เกิดขึ้นมาเพิกบัญญัต

1. ถ้าจะแยกตามมรรค 8...สติ กับ สมาธิ...เป็นคนละอย่างกัน ดังนั้น การฝึกสติ กับ การฝึกสมาธิ เป็นคนละวิธีกันใช่มั้ยครับ? ****************************** 2. ผมลองแยกประเภทของสำนักปฏิบัติธรรมในไทย ออกเป็น