‘พรีออร์เดอร์’ (รับหิ้ว) งานไม่ประจำที่ทำเงินโคตรดี

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ผม 'นักศึกษาปี 4' (แค่นามปากกานะ จริง ๆ จบมานานแล้วครับ ><)
อันนี้เป็นกระทู้แรกที่ผมตั้งใจเขียนขึ้นในฐานะนักเขียนบทความเกี่ยวกับธุรกิจ
ซึ่งผมจะพยายามเขียนบทความประมาณนี้ให้ได้ 4 บทความใน 1 เดือน โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป
ซึ่งเนื้อหาของแต่ละเดือนก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องไหนมาแรง กระแสไหนที่คนเค้านิยม ธุรกิจไหนกำลังมา
หรือถ้าเพื่อน ๆ มีท็อปปิคอยู่ในใจ อยากให้ผมหาข้อมูลและลองเขียนดูก็หลังไมค์มาทักทายกันได้นะครับ

ปล. ถ้าชื่นชอบก็ช่วยแชร์ด้วยนะครับ

--------------------------------------------------------------------

ตั้งแต่ 5-6 ปีที่แล้วที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย ทุกบ้านทุกครัวเรือนเริ่มมีคอมพิวเตอร์มีอินเทอร์เน็ตใช้ ธุรกิจ ‘พรีออร์เดอร์’ ก็เริ่มเข้ามาเป็นที่รู้จักพร้อม ๆ กัน ซึ่งพรีออร์เดอร์นี้ก็คือ การขายสินค้าที่ต้องมีการสั่งล่วงหน้า นับจำนวน เช็กยอดที่แน่นอน แล้วค่อยไปซื้อ ไปสั่งทำ หรือไปหิ้วมาจากต่างประเทศ โดยเจ้าของธุรกิจตรงนี้ก็จะบวกเงินเพิ่มไปจากสินค้าแต่ละชิ้น เข้ามาเป็นกำไรให้ตัวเอง ซึ่งการพรีออร์เดอร์ก็มีหลายแบบ บางครั้งถ้ายอดการสั่งซื้อไม่ถึงตามที่กำหนดไว้ก็อาจไม่สามารถรับได้ เพราะไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยที่เสียไป ทำให้การทำธุรกิจตรงนี้ต้องจับสินค้าที่มีความต้องการสูง ต้องหมั่นดูตลาดและความชอบของผู้คนอยู่ตลอดเวลา สินค้าไหนมา ผลิตภัณฑ์ไหนปัง ยิ่งมองเห็นไวยิ่งทำเงินได้เร็วนั่นเองครับ

ซึ่งการทำธุรกิจตรงนี้ก็เหมือนจะง่ายและไม่มีความเสี่ยงอะไรเลยใช่มั้ยล่ะ แต่จริง ๆ แล้วก็มีเรื่องน่ากังวลใจอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะถ้ามีแต่คนสั่ง ๆๆๆๆๆ แต่สุดท้ายพอถึงวันรับของจริงกลับไม่มีใครมารับของเลย แล้วเงินที่เสียไปกับของที่กองอยู่กับเราจะทำยังไงล่ะ?!!! ดังนั้นการพรีออร์เดอร์แต่ละครั้งจึงต้องมีการวางมัดจำล่วงหน้า ถ้าสินค้าแพงหน่อยก็อาจจะต้องวางมัดจำเต็มจำนวน แต่ถ้าของทั่วไป รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า ก็อาจจะวางมัดจำแค่ครึ่งเดียว เป็นหลักประกันว่าคนสั่งจะเอาแน่  ทำให้การพรีออร์เดอร์เป็นไปอย่างมั่นใจ และสบายใจว่ายังไงคนขายก็จะไม่ถูกชิ่งแน่นอน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของธุรกิจพรีออร์เดอร์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากลงมาทำเองเลยทีเดียว

แต่กว่าจะเริ่มต้นทำธุรกิจที่ดูเหมือนจะง่ายแสนง่าย และสะดวกสบายแบบนี้ได้เนี่ย เราต้องมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้านเช่นกันนะครับ เรื่องแรกที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดของธุรกิจนี้เลยก็คือเรื่องของ ‘เวลา’ ครับ เพราะการคำนวณระยะเวลาที่เหมาะสมในการส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจนี้ บางทีอาจมีหลายขั้นตอนกว่าสินค้าจะถึงมือเรา หากผิดพลาดตรงไหนสักช่วงสินค้าที่สั่งก็อาจจะล่าช้า ทำให้สินค้าถึงมือลูกค้าช้าลง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระยะยาวอีก เพราะฉะนั้นต้องคำนวณกันให้ดีว่าสินค้าที่เราอยากรับ พรีออร์เดอร์ ควรใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ยังไง ก่อนตัดสินใจประกาศรับลงไปครับ

เรื่องต่อมาคือเรื่อง ‘คุณภาพ’ ถ้าสินค้ามาถึงมือไว แต่คุณภาพกลับแย่กว่าที่โฆษณา แบบนี้ลูกค้าคนไหนมันจะอยากกลับมาใช้บริการซ้ำใช่มั้ยครับ สินค้าที่เรารับพรีออร์เดอร์เราต้องมั่นใจว่าตรงตามที่เราโฆษณาจริง ๆ ทั้งขนาด สี น้ำหนัก ความทนทาน ทุกอย่างที่ถูกระบุลงไปต้องเหมือนกันเป๊ะ เพราะโลกออนไลน์ หากเราทำอะไรผิดพลาดเพียงนิดเดียว เค้าเอาเรื่องของเราไปตั้งกระทู้ลงพันทิป เพจดัง ๆ เอาไปแชร์ซักหน่อย ธุรกิจเราถึงคราวเจ๊งแน่นอน ดังนั้นเซฟตัวเองไว้ก่อนดีที่สุดครับ อย่าใจเร็วด่วนได้หากินแค่เพียงระยะเวลาสั้น ๆ แบบนั้นไม่คุ้มแน่นอน

และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับธุรกิจพรีออร์เดอร์ที่ต้องสั่งของผ่านทางออนไลน์ไม่มีหน้าร้านจริง ๆ ก็คือเรื่องของ ‘การชำระเงิน’ เราควรต้องเปิดบัญชีธนาคารไว้หลายเจ้าหน่อยเพื่อที่ลูกค้าของเราจะได้สะดวกในการชำระเงิน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงินต่างธนาคาร เพราะสมัยนี้สินค้าแต่ละชิ้นที่ขายกันดี ๆ มักจะมีคู่แข่งมาคอยตัดราคาหรือแย่งลูกค้าอยู่เสมอ ถ้าบริการของเราไม่ดีจริง ไม่ครอบคลุมทั่วถึงลูกค้าก็พร้อมจะชิ่งไปหาอีกเจ้าที่เค้าครบกว่า ทีนี้จะมาพัฒนาทีหลังก็คงไม่ทันแล้วล่ะครับ

และอย่างสุดท้ายก็คือเรื่องของ ‘การขนส่ง’ เพราะอย่าลืมนะครับว่าเราเป็นธุรกิจพรีออร์เดอร์ เราต้องไปเอาสินค้ามาจากที่ที่หนึ่ง ซึ่งกว่าเราจะได้สินค้ามาเนี่ย กินระยะเวลาไปเท่าไหร่แล้ว และกว่าเราจะส่งของให้ถึงมือลูกค้าอีกมันต้องใช้เวลาเพิ่มไปเท่าไหร่ ตรงนี้คือสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนวณให้ดีเลยล่ะ นอกจากนั้นยังมีเรื่องราคาค่าขนส่งต่าง ๆ อีกนะครับ ที่เราต้องบวกเข้าไปให้ลูกค้าทราบ เพื่อให้การทำธุรกิจเข้าใจอย่างตรงกัน ไม่เสียความรู้สึกที่ถูกบวกเงินเพิ่มในภายหลัง

อ่านถึงตรงนี้เพื่อน ๆ ก็คงได้ความรู้ แนวคิดในการทำธุรกิจพรีออร์เดอร์กันแล้วใช่มั้ยครับ เริ่มต้นกันไม่ยากอย่างที่คิดเนอะ ผมว่าสิ่งสำคัญคงเป็นเรื่องของการลงมือทำมากกว่า ถ้าเราคิดว่าโอกาสมันมี คนอื่นเค้าทำกันได้ ตัวเราเองก็ย่อมทำได้เหมือนกันครับ ดังนั้นหากเพื่อน ๆ อยากจะลองพรีออร์เดอร์สินค้าอะไรสักอย่างล่ะก็ อย่าลืมแวะกลับมาอ่านบทความนี้และนำไปปรับใช้กันด้วยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่