สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ ใน Pantip ทุกๆคน
ที่ผมตั้งกระทู้นิ
ไม่ได้ต้องการบอกว่า ผมเก่ง หรือ ต้องการอะไรจากสังคม แต่เพียงแค่ต้องการแชร์ประสบการณ์การทำงาน แง่มุมหนึ่งให้เพื่อนๆ พี่ๆ และสังคมได้รับรู้อีกแง่มุมหนึงของการทำงานครับ...
ผมมีโอกาสใได้เข้าทำงาน ในบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่เป็น
ผู้นำในด้านๆหนึ่งของประเทศ ถ้าเอ่ยชื่อไปทุกๆคนต้องรู้จักแน่นอน
(ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อ)
ในตำแหน่ง "เจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายหนึ่ง" ซึ่งผมก็ดีใจมากๆ เพราะว่าเป็นเส้นทางที่ผมสามารถที่จะนำไปต่อยอด การเติบโตไปสู่อาชีพที่ผมใฝ่ฝันได้และผมก็หวังว่าจะทำงานกับบริษัทนี้ไปนานๆ เนื่องจากผมเปลี่ยนงานค่อนข้างบ่อย พอได้มีโอกาสทำกับบริษัทนี้แล้ว คิดว่าจะไม่เปลี่ยนงานอีกแล้ว... และคิดว่าเราต้องทำงานนี้ให้ดีที่สุด
พอวันแรก เข้าไปผมก็เริ่มที่จะเรียนรู้งานทันที โดยงานชิ้นแรก จะเป็นการบันทึกรายงานการประชุมจากหัวหน้างานลงคอมพิวเตอร์
(ค้างมากว่าครึ่งปี) ที่ไปประชุมมากับฝ่ายต่างๆ ประกอบกับเรียนรู้ งานเวรประจำวัน (ซึ่งเป็นงานที่ต้องทำงานล่วงเวลาและอยู่ดึก) ซึ่งก็สามารถทำได้
**ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะครับ**
หัวหน้างาน กับเพื่อนร่วมงานก็คอยที่จะสอนงานให้ผม แต่หัวหน้างานไม่ค่อยจะสอนงานเท่าไหร่ จะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ช่วยสอนงานเสียมากกว่า เมื่อหัวหน้าสั่งงานมา ก็ทำงานตามหัวหน้าที่ได้รับมอบหมาย
(หัวหน้างานของผมค่อนข้างที่จะเคร่งครัดในเรื่องการทำงานมากๆ เอกสารสำคัญห้ามยับแม้แต่นิดเดียว การตัดกระดาษต้องใช้ Cutter กรรไกรใช้มันจะไม่ตรง มีบ้างที่ผมโดนดุแต่ ผมก็พยายามพัฒนาตัวเองจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาตลอด)
หลังจากนั้นมา พยายามเรียนรู้งานต่างๆมากขึ้นอื่น เช่น การนำหนังสือต่างๆเสนอผู้จัดการฝ่าย การคัดแยกจดหมายให้ฝ่ายต่างๆ การสรุปยอดค่าใช้จ่ายต่างๆ การทำเอกสารอนุมัติเดินทางประเภทต่างๆ การทำใบเบิกเงินทดรองจ่าย ศึกษางานจากแฟ้มต่างๆที่อยู่ใน Office การจัดส่งเอกสารจากที่ผู้จัดการ Sign ลงมา แล้วมอบหมายให้กับส่วนงานต่างๆที่รับผิดชอบ
อีกทั้งเวลาที่มีคนมาติดต่อ โทรมาสอบถามเรื่องต่างๆ ผมก็จะถาม แล้วเรียนรู้จากงานชิ้นนั้น ว่ามีขั้นตอนในการทำงานอย่างไรบ้าง..? การติดต่อประสานงานจากฝ่ายต่างๆภายในบริษัท เวลาเพื่อนร่วมงานคุยงานกับหัวหน้างานก็จะพยายามฟังแล้วสอบถามเพื่อนร่วมงาน ว่างานชิ้นนี้ทำยังไง? เพื่อนร่วมงานก็มีน้ำใจช่วยเหลือเป็นอย่างดี (คือ Active มาก)
ประกอบกับการมีสัมมาคาราวะ จากผู้ที่เข้ามาติดต่อจากฝ่ายต่างๆ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานมาโดยตลอด เพื่อนร่วมงานผมก็ให้ความร่วมมือในการทำงาน ผมก็ดีใจ และก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานมากๆ คือ ตื่นเช้ามานิ อยากไปทำงานทุกวัน
อีกทั้งผมไม่เคยลาป่วย ลากิจ ขาดงาน มาสาย แม้แต่เพียงครั้งเดียว!!
(สายแค่วันเดียวคือวันที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ 21 มิ.ย. 2559 ซึ่งบริษัทก็ใจดี ถือว่ามาทำงานก็ไม่สาย)
เวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือนครึ่ง หัวหน้างานเรียกผมไปคุยในห้อง เรื่องการประเมินผลการทดลองการปฏบัติงานของผม
ผลออกมาปรากฏว่า ผมได้คะแนนในส่วนของการไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย ยอดเยี่ยม (5/5), การทำตามกฎระเบียบ เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา
ดีมาก (4/5) ความสามารถในการทำงาน พอใช้ (2/5), ความรู้ในการทำงาน พอใช้ (2/5), อีกอย่าง มองไม่ทัน : พอใช้ (2/5)
** มั่วแต่ อึ้ง + Shock!! **
คะแนนรวมเกินครึ่งก็จริง
แต่...
แต่...
แต่...
แต่คะแนนก็ไม่เพียงพอ ทำให้ผมไม่ผ่านการทดลองงาน !!!!!
ทางหัวหน้างาน ก็บอกว่า ที่ผมไม่ผ่านการทดลองงานนั้น เพราะว่า "ผมไม่สามารถทำงานได้ตามโจทย์ที่บริษัทได้ตั้งไว้ได้ ซึ่งผมก็คาดหวังกับอัตราสุดท้ายที่รับคุณเข้ามานี้ไว้เป็นอย่างมาก ที่จะต้องทำให้ได้
หมดทุกอย่าง ทั้งธุรการของที่นี้ไม่เหมือนธุรการที่อื่น จำเป็นที่จะต้องทำให้ได้หมด และผมก็ได้ขอให้ทาง HR ยื่นระยะเวลาการทดลองงานออกไปอีก แต่... HR ไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะติดขัดในเรื่องของกฏหมาย"
อึ้งไปรอบที่ 1
คืนนั้นผมกลับไปทบทวนถึงเรื่องงานต่างๆที่ผมได้ทำมา ว่ามีปัญหาตรงไหนบ้าง..? แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก
วันรุ่งขึ้นผมก็ขอคุยหัวหัวหน้างานในเรื่องนี้อีกครั้ง หัวหน้างานของผมก็บอกแนวเดิม คือ "ไม่สามารถทำงานตาม
โจทย์ของบริษัทที่ตั้งไว้ได้ ประกอบกับวาระที่รับผมเข้ามาทำงานนี้ เป็นวาระที่ต้องการเจ้าหน้าที่ธุรการที่มีความสามารถในการทำงานธุรการทั้งหมดที่อยู่ในฝ่าย ซึ่งผมก็ไม่สามารถทำงานทุกอย่างได้
ผมเลยให้คุณผ่านไม่ได้!!" ผมก็ขอให้หัวหน้ายกตัวอย่างขึ้นมา ว่าผมทำงานอะไรไม่ได้บ้าง และหัวหน้าต้องการให้ผมทำงานอะไร
แต่หัวหน้าก็ไม่สามารถบอกผมโดยการยกตัวอย่างได้
ผมก็ได้ขอโทษหัวหน้างานผมแล้ว ว่าถ้าผมทำอะไรไม่ดีไป ผมก็ต้องขอโทษพี่ด้วย และก็ขอโอกาส มีทางไหนบ้าง ที่ผมจะทำงานที่นี่ต่อไปได้
ผมของานเพิ่มเติม ทำหน้าที่เพิ่มให้มากกว่าเดิมได้มั้ย?
หัวหน้างานบอก "ไม่มีทางอื่นแล้ว เพราะระยะเวลาได้เลยมาแล้ว" แล้วก็แนะนำให้ผมเขียน
ใบลาออก ไปก่อนดีกว่า ดีกว่าที่ทำไป แล้วมีประวัติว่า
ไม่ผ่านการทดลองงาน
อึ้งไปรอบที่ 2
สุดท้ายผมก็ต้องยอมเขียนใบลาออกครับ เพราะว่าไม่รู้ทางที่ดีกว่านี้แล้ว พอเขียนใบลาออกเสร็จจะนำไปให้ผู้จัดการเซ็น ผู้จัดการก็ให้ความกรุณากับผมครับ บอกผมว่า "ผมไม่ใช่ ทำงานไม่ได้ เพียงแต่ว่าผมไปอยู่
ผิดที่ ผิดเวลา" ถ้ามีตำแหน่งที่เหมาะกับผม จะสนับสนุนเต็มที่ ผมนี่น้ำตาแทบกระเด็นเลยครับ เดินออกมาแบบรู้จุดจบของตัวเอง
ผมรู้สึกเสียดายมากที่ไม่สามารถไปต่อได้ แต่มันก็ไม่มีทางไหนที่ดีไปกว่าการเลือกเส้นทางแบบนี้แล้ว...
ผมอยากจะแชร์ไว้เป็นประสบการณ์ให้ทุกๆคน และสังคมได้ทราบครับ ว่ากรณีของผมแบบนี้ก็มีอยู่ด้วย!!
และ ขอสอบถามความคิดเห็นจาก เพื่อนๆ พี่ๆ ครับ สำหรับเรื่องนี้ครับ ว่า...
- ผมมีข้อบกพร่อง อะไร ที่ควรปรับปรุงแก้ไขบ้าง..?
- ผมควรที่จะพัฒนา ความสามารถ ของตนเอง ในด้านใดบ้าง..?
- ผมควรที่จะใช้สิทธิ์ลาป่วย ให้เต็มที่ (ไม่เคยลาเลยสักครั้ง) เพื่อที่จะเตรียมตัวไปสมัครงานที่ใหม่ มั้ยครับ..?
เพื่อนๆ พี่ๆ มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับ สามารถติชม เสนอแนะได้อย่างเต็มที่ครับ ขอบพระคุณครับ...
ทำงานมาประมาณ 3 เดือน ไม่เคยขาดงาน ขาดลา มาสาย... แต่ไม่สามารถทำงานตามโจทย์ที่บริษัทตั้งไว้ได้ ทำให้ไม่ผ่านการทดลองงาน!!
ที่ผมตั้งกระทู้นิ ไม่ได้ต้องการบอกว่า ผมเก่ง หรือ ต้องการอะไรจากสังคม แต่เพียงแค่ต้องการแชร์ประสบการณ์การทำงาน แง่มุมหนึ่งให้เพื่อนๆ พี่ๆ และสังคมได้รับรู้อีกแง่มุมหนึงของการทำงานครับ...
ผมมีโอกาสใได้เข้าทำงาน ในบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่เป็นผู้นำในด้านๆหนึ่งของประเทศ ถ้าเอ่ยชื่อไปทุกๆคนต้องรู้จักแน่นอน
(ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อ)
ในตำแหน่ง "เจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายหนึ่ง" ซึ่งผมก็ดีใจมากๆ เพราะว่าเป็นเส้นทางที่ผมสามารถที่จะนำไปต่อยอด การเติบโตไปสู่อาชีพที่ผมใฝ่ฝันได้และผมก็หวังว่าจะทำงานกับบริษัทนี้ไปนานๆ เนื่องจากผมเปลี่ยนงานค่อนข้างบ่อย พอได้มีโอกาสทำกับบริษัทนี้แล้ว คิดว่าจะไม่เปลี่ยนงานอีกแล้ว... และคิดว่าเราต้องทำงานนี้ให้ดีที่สุด
พอวันแรก เข้าไปผมก็เริ่มที่จะเรียนรู้งานทันที โดยงานชิ้นแรก จะเป็นการบันทึกรายงานการประชุมจากหัวหน้างานลงคอมพิวเตอร์
(ค้างมากว่าครึ่งปี) ที่ไปประชุมมากับฝ่ายต่างๆ ประกอบกับเรียนรู้ งานเวรประจำวัน (ซึ่งเป็นงานที่ต้องทำงานล่วงเวลาและอยู่ดึก) ซึ่งก็สามารถทำได้
หัวหน้างาน กับเพื่อนร่วมงานก็คอยที่จะสอนงานให้ผม แต่หัวหน้างานไม่ค่อยจะสอนงานเท่าไหร่ จะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ช่วยสอนงานเสียมากกว่า เมื่อหัวหน้าสั่งงานมา ก็ทำงานตามหัวหน้าที่ได้รับมอบหมาย
(หัวหน้างานของผมค่อนข้างที่จะเคร่งครัดในเรื่องการทำงานมากๆ เอกสารสำคัญห้ามยับแม้แต่นิดเดียว การตัดกระดาษต้องใช้ Cutter กรรไกรใช้มันจะไม่ตรง มีบ้างที่ผมโดนดุแต่ ผมก็พยายามพัฒนาตัวเองจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาตลอด)
หลังจากนั้นมา พยายามเรียนรู้งานต่างๆมากขึ้นอื่น เช่น การนำหนังสือต่างๆเสนอผู้จัดการฝ่าย การคัดแยกจดหมายให้ฝ่ายต่างๆ การสรุปยอดค่าใช้จ่ายต่างๆ การทำเอกสารอนุมัติเดินทางประเภทต่างๆ การทำใบเบิกเงินทดรองจ่าย ศึกษางานจากแฟ้มต่างๆที่อยู่ใน Office การจัดส่งเอกสารจากที่ผู้จัดการ Sign ลงมา แล้วมอบหมายให้กับส่วนงานต่างๆที่รับผิดชอบ
อีกทั้งเวลาที่มีคนมาติดต่อ โทรมาสอบถามเรื่องต่างๆ ผมก็จะถาม แล้วเรียนรู้จากงานชิ้นนั้น ว่ามีขั้นตอนในการทำงานอย่างไรบ้าง..? การติดต่อประสานงานจากฝ่ายต่างๆภายในบริษัท เวลาเพื่อนร่วมงานคุยงานกับหัวหน้างานก็จะพยายามฟังแล้วสอบถามเพื่อนร่วมงาน ว่างานชิ้นนี้ทำยังไง? เพื่อนร่วมงานก็มีน้ำใจช่วยเหลือเป็นอย่างดี (คือ Active มาก)
ประกอบกับการมีสัมมาคาราวะ จากผู้ที่เข้ามาติดต่อจากฝ่ายต่างๆ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานมาโดยตลอด เพื่อนร่วมงานผมก็ให้ความร่วมมือในการทำงาน ผมก็ดีใจ และก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานมากๆ คือ ตื่นเช้ามานิ อยากไปทำงานทุกวัน
อีกทั้งผมไม่เคยลาป่วย ลากิจ ขาดงาน มาสาย แม้แต่เพียงครั้งเดียว!!
(สายแค่วันเดียวคือวันที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ 21 มิ.ย. 2559 ซึ่งบริษัทก็ใจดี ถือว่ามาทำงานก็ไม่สาย)
เวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือนครึ่ง หัวหน้างานเรียกผมไปคุยในห้อง เรื่องการประเมินผลการทดลองการปฏบัติงานของผม
ผลออกมาปรากฏว่า ผมได้คะแนนในส่วนของการไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย ยอดเยี่ยม (5/5), การทำตามกฎระเบียบ เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา
ดีมาก (4/5) ความสามารถในการทำงาน พอใช้ (2/5), ความรู้ในการทำงาน พอใช้ (2/5), อีกอย่าง มองไม่ทัน : พอใช้ (2/5)
** มั่วแต่ อึ้ง + Shock!! **
คะแนนรวมเกินครึ่งก็จริง
แต่...
แต่...
แต่...
แต่คะแนนก็ไม่เพียงพอ ทำให้ผมไม่ผ่านการทดลองงาน !!!!!
ทางหัวหน้างาน ก็บอกว่า ที่ผมไม่ผ่านการทดลองงานนั้น เพราะว่า "ผมไม่สามารถทำงานได้ตามโจทย์ที่บริษัทได้ตั้งไว้ได้ ซึ่งผมก็คาดหวังกับอัตราสุดท้ายที่รับคุณเข้ามานี้ไว้เป็นอย่างมาก ที่จะต้องทำให้ได้หมดทุกอย่าง ทั้งธุรการของที่นี้ไม่เหมือนธุรการที่อื่น จำเป็นที่จะต้องทำให้ได้หมด และผมก็ได้ขอให้ทาง HR ยื่นระยะเวลาการทดลองงานออกไปอีก แต่... HR ไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะติดขัดในเรื่องของกฏหมาย"
อึ้งไปรอบที่ 1
คืนนั้นผมกลับไปทบทวนถึงเรื่องงานต่างๆที่ผมได้ทำมา ว่ามีปัญหาตรงไหนบ้าง..? แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก
วันรุ่งขึ้นผมก็ขอคุยหัวหัวหน้างานในเรื่องนี้อีกครั้ง หัวหน้างานของผมก็บอกแนวเดิม คือ "ไม่สามารถทำงานตามโจทย์ของบริษัทที่ตั้งไว้ได้ ประกอบกับวาระที่รับผมเข้ามาทำงานนี้ เป็นวาระที่ต้องการเจ้าหน้าที่ธุรการที่มีความสามารถในการทำงานธุรการทั้งหมดที่อยู่ในฝ่าย ซึ่งผมก็ไม่สามารถทำงานทุกอย่างได้ ผมเลยให้คุณผ่านไม่ได้!!" ผมก็ขอให้หัวหน้ายกตัวอย่างขึ้นมา ว่าผมทำงานอะไรไม่ได้บ้าง และหัวหน้าต้องการให้ผมทำงานอะไร
แต่หัวหน้าก็ไม่สามารถบอกผมโดยการยกตัวอย่างได้
ผมก็ได้ขอโทษหัวหน้างานผมแล้ว ว่าถ้าผมทำอะไรไม่ดีไป ผมก็ต้องขอโทษพี่ด้วย และก็ขอโอกาส มีทางไหนบ้าง ที่ผมจะทำงานที่นี่ต่อไปได้ ผมของานเพิ่มเติม ทำหน้าที่เพิ่มให้มากกว่าเดิมได้มั้ย?
หัวหน้างานบอก "ไม่มีทางอื่นแล้ว เพราะระยะเวลาได้เลยมาแล้ว" แล้วก็แนะนำให้ผมเขียน ใบลาออก ไปก่อนดีกว่า ดีกว่าที่ทำไป แล้วมีประวัติว่า ไม่ผ่านการทดลองงาน
อึ้งไปรอบที่ 2
สุดท้ายผมก็ต้องยอมเขียนใบลาออกครับ เพราะว่าไม่รู้ทางที่ดีกว่านี้แล้ว พอเขียนใบลาออกเสร็จจะนำไปให้ผู้จัดการเซ็น ผู้จัดการก็ให้ความกรุณากับผมครับ บอกผมว่า "ผมไม่ใช่ ทำงานไม่ได้ เพียงแต่ว่าผมไปอยู่ผิดที่ ผิดเวลา" ถ้ามีตำแหน่งที่เหมาะกับผม จะสนับสนุนเต็มที่ ผมนี่น้ำตาแทบกระเด็นเลยครับ เดินออกมาแบบรู้จุดจบของตัวเอง
ผมรู้สึกเสียดายมากที่ไม่สามารถไปต่อได้ แต่มันก็ไม่มีทางไหนที่ดีไปกว่าการเลือกเส้นทางแบบนี้แล้ว...
ผมอยากจะแชร์ไว้เป็นประสบการณ์ให้ทุกๆคน และสังคมได้ทราบครับ ว่ากรณีของผมแบบนี้ก็มีอยู่ด้วย!!
และ ขอสอบถามความคิดเห็นจาก เพื่อนๆ พี่ๆ ครับ สำหรับเรื่องนี้ครับ ว่า...
- ผมมีข้อบกพร่อง อะไร ที่ควรปรับปรุงแก้ไขบ้าง..?
- ผมควรที่จะพัฒนา ความสามารถ ของตนเอง ในด้านใดบ้าง..?
- ผมควรที่จะใช้สิทธิ์ลาป่วย ให้เต็มที่ (ไม่เคยลาเลยสักครั้ง) เพื่อที่จะเตรียมตัวไปสมัครงานที่ใหม่ มั้ยครับ..?
เพื่อนๆ พี่ๆ มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับ สามารถติชม เสนอแนะได้อย่างเต็มที่ครับ ขอบพระคุณครับ...