คือเรื่องของเรื่องครับ ตอนนี้ลูกชายเรียนอยู่ชั้นอนุบาล1 เป็นแบบ 2 ภาษา ซึ่งแต่ก่อนจะมาเรียนที่นี่ ได้เรียนเนอสเซอรี่มาจากอีกที่นึง ซึ่งเป็นแนวบูรณาการ โรงเรียนเดิมเค้าจะเน้นกิจกรรม การละเล่นซะมากกว่า ไม่มีการหัดเขียน กขค. หรือหัดเขียน ABC เลย
ทีนี้ย้ายบ้านมาอีกที่นึง แล้วขึ้นอนุบาล1 ที่โรงเรียนปัจจุบัน โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่เน้นด้านวิชาการสุดๆ (ถ้าจะเรียนจบอนุบาล1 ได้ ต้องเขียน ก-ฮ, a-z, A-Z, 1-20 และวิชาภาษาอังกฤษต้องได้ศัพท์ที่ทางโรงเรียนสอนทั้งหมด) รวมถึงที่โรงเรียนจะสอนให้เด็กมีการช่วยเหลือตัวเองให้ได้ เช่น ต้องใส่เสื้อผ้าเองได้, ถอดถุงเท้า รองเท้า และใส่ได้ด้วยตัวเอง, และอื่นๆที่เด็กต้องทำในชีวิตประจำวันฯ (ซึ่งเด็กในห้อง 90% จะมาจากเตรียมอนุบาลที่นี่ด้วย หลักสูตรจะต่อเนื่องกันมาคือมีวิชาการสอดแทรกตั้งแต่ตอนเรียนเตรียมอนุบาลแล้ว)
ตอนที่เรียนไปประมาณ 1 สัปดาห์ คุณครูรายงานว่าลูกชาย ทำอะไรไม่ได้เลย (คือไม่ได้เรียนมาทางด้านวิชาการ เรียนแนวบูรณาการมา) จับดินสอไม่เป็น ท่อง กขค.ไม่ได้เลย ทำอะไรหลายๆอย่างก็ไม่ได้ เรียกได้ว่าแย่ที่สุดของห้องก็ว่าได้ ตอนนั้นเครียดมากเลยครับ ประกอบกับทุกวันก็จะมีเวลาดูแลลูกน้อยมาก ออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้า กลับถึงบ้านก็ 3-5 ทุ่มทุกวัน ลูกหลับไปแล้ว
ในห้องมีครูประจำประมาณ 4 คน มีครูประจำชั้น1 คน ,ผู้ช่วยครูประจำชั้น 1 คน และครูพี่เลี้ยงอีก 2 คน ยังไม่รวมครูสอนเฉพาะทางแล้วแต่วิชา ทีนี้ 1 ในครูที่สอนประจำห้องได้แจ้งมาทางผมว่าสนใจจะเรียนพิเศษแบบตัว/ตัวมั้ย ซึ่งครูจะเอาเวลาที่เลิกสอนจากที่โรงเรียนมาสอนที่บ้าน (ค่าใช้จ่ายก็เอาเรื่องอยู่) ก็คิดอยู่ราวๆ 2 วันก็ตัดสินใจว่าคงจะต้องใช้วิธีนี้แล้ว เพื่อให้ลูกมีพัฒนาการที่ทันเพื่อน ซึ่งตอนนั้นความคาดหวังคือแค่ให้ลูกเรียนได้พอๆกับเพื่อนๆ ไม่เบื่อชีวิตในการเรียนเป็นพอ และคุณครูก็แจ้งว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะผิดระเบียบที่โรงเรียน ก็จึงเก็บความลับอันนี้เอาไว้
สรุป...ก็คุณครูก็มาสอนที่บ้านครับ วันจันทร์-พฤหัส ช่วง 18.00-20.00 ก็จะสอนหลายอย่างมากครับ เช่น สอนตามหลักสูตรที่ในโรงเรียนสอน, สอนศิลปะ ระบายสีในกระดาษ ระบายสีตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ ปั้นดินน้ำมัน, สอนเรื่องการขับถ่าย สอนให้กินของบางอย่าง(ที่ปกติไม่ยอมกินเช่น กล้วยน้ำว้าฯลฯ) และอื่นๆ จนพอผ่านมาได้ประมาณ 1 เดือน ก็เริ่มรู้สึกว่า เออ..ดูดีขึ้นในระดับนึงเลย ค่อนข้างใจชื้นขึ้นมา
ปัจจุบันนี้สอนมาได้ประมาณ 4 เดือนแล้วครับ ซึ่งครูที่เหลือ(ซึ่งไม่ทราบเรื่องการสอนตัวนี้) ก็มีแจ้งมาบ่อยๆ ชมว่าเดี๋ยวนี้ลูกชายคุณพ่อเก่งขึ้นมากเลยนะคะ ทำอะไรหลายๆอย่างได้ดีขึ้น น่าพอใจมาก ยิ่งในเดือนล่าสุดนี่ชมกันเยอะมากว่าเจ้าตัวแสบเปลี่ยนไปจากหลังมือเป็นหน้ามือเลย ทำอะไรได้เร็วกว่าเพื่อนทุกคน กล้าพูด กล้าถาม กล้าที่จะเผชิญหน้าในการเรียนการสอนกับครูทุกคน และที่โดดเด่นคือเรื่องวิชาภาษาอังกฤษกับครูฝรั่ง และวิชาในด้านเชาว์ ทางผมก็รุ้สึกว่ามันเป็นการแก้ไขที่ดีมาก
มาเมื่อเช้านี้ (ปกติมีรถโรงเรียนรับ-ส่ง แต่วันนี้ตื่นสาย เลยต้องไปส่งที่โรงเรียนเอง) แล้วพอไปส่งลูกชายหน้าห้อง ก็มีคุณแม่ท่านนึงเดินเข้ามาหา แล้วบอกว่า อันนี้เป็นคุณพ่อน้อง....รึป่าวคะ ผมก็ทำหน้างงๆ แล้วตอบไปว่าใช่ครับ เค้าบอกว่าอยากเจอคุณพ่อหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยได้เจอเลย เค้าบอกว่าตอนแรกที่เค้าเห็นลูกชายผม เค้าบอกว่าเด็กคนนี้น่าสงสารจัง ดูหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา เพราะทำอะไรเหมือนเพื่อนๆไม่ได้ แต่มาตอนนี้เค้าดูว่าลูกชายผม น่าจะเป็นอันดับต้นๆ ของห้องเลยทีเดียว (จากที่เค้ามายืนรอลูกชายเค้าทุกวัน รวมถึงมีครูที่ชมลูกผมให้เค้าได้ฟัง) ยืนคุยกันอยู่พักนึง เค้าก็ชมลูกชายผมมากทีเดียว รวมทั้งตอนนี้ลูกชายเค้าก็เป็นคู่ซี้กับลูกชายผมด้วยอีก
แล้วคุณครูประจำชั้นก็เดินมาคุยด้วย แล้วบอกว่าตอนนี้ลูกชาย เก่งสุดๆ ทำอะไรเสร็จเร็วกว่าเพื่อนทุกคน ทำได้ดี เพื่อนสนิทก็เยอะ อยู่โรงเรียนมีแก๊งเค้าอยู่ 4-5 คน แสบๆทั้งนั้น แต่ครูบอกว่าแก๊งนี้แม้จะแสบ แต่ก็เป็นเด็กดี มีการแชร์ของเล่น ขนม ต่างๆร่วมกันทุกวัน (ปกติอยู่บ้านแทบไม่ให้ใครกินขนมเลย จะกินคนเดียวและเด็กกลุ่มอื่น พอเวลากินขนมก็จะต่างคนต่างกินของตัวเอง)
คือจะบอกว่าค่อนข้างกระอักกระอ่วนพอสมควรเลยครับ ไม่รู้จะตอบทั้งคุณแม่ และคุณครูยังไงดี เพราะเรื่องนี้มันต้องเป็นความลับ เลยได้แต่ยิ้มๆแล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน
โดยรวมตอนนี้ต้องบอกว่าดีใจสุดๆ แต่ก็มีประเด็นจะรบกวนสอบถามคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆครับ
1. ตอนนี้จะหมดเทอม1 แล้ว แบบนี้เทอมหน้าควรจะเรียนแบบนี้เหมือนเดิมอีกมั้ยครับ หรือว่าควรจะเลิกเรียนเสริมตัว/ตัวได้แล้ว
2. ถือว่าเป็นการเอาเปรียบเด็กคนอื่นหรือป่าวครับ
อนุบาล1 เรียนเสริมพิเศษ ตัว/ตัว ถือเป็นการเอาเปรียบเด็กคนอื่นป่าวครับ
ทีนี้ย้ายบ้านมาอีกที่นึง แล้วขึ้นอนุบาล1 ที่โรงเรียนปัจจุบัน โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่เน้นด้านวิชาการสุดๆ (ถ้าจะเรียนจบอนุบาล1 ได้ ต้องเขียน ก-ฮ, a-z, A-Z, 1-20 และวิชาภาษาอังกฤษต้องได้ศัพท์ที่ทางโรงเรียนสอนทั้งหมด) รวมถึงที่โรงเรียนจะสอนให้เด็กมีการช่วยเหลือตัวเองให้ได้ เช่น ต้องใส่เสื้อผ้าเองได้, ถอดถุงเท้า รองเท้า และใส่ได้ด้วยตัวเอง, และอื่นๆที่เด็กต้องทำในชีวิตประจำวันฯ (ซึ่งเด็กในห้อง 90% จะมาจากเตรียมอนุบาลที่นี่ด้วย หลักสูตรจะต่อเนื่องกันมาคือมีวิชาการสอดแทรกตั้งแต่ตอนเรียนเตรียมอนุบาลแล้ว)
ตอนที่เรียนไปประมาณ 1 สัปดาห์ คุณครูรายงานว่าลูกชาย ทำอะไรไม่ได้เลย (คือไม่ได้เรียนมาทางด้านวิชาการ เรียนแนวบูรณาการมา) จับดินสอไม่เป็น ท่อง กขค.ไม่ได้เลย ทำอะไรหลายๆอย่างก็ไม่ได้ เรียกได้ว่าแย่ที่สุดของห้องก็ว่าได้ ตอนนั้นเครียดมากเลยครับ ประกอบกับทุกวันก็จะมีเวลาดูแลลูกน้อยมาก ออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้า กลับถึงบ้านก็ 3-5 ทุ่มทุกวัน ลูกหลับไปแล้ว
ในห้องมีครูประจำประมาณ 4 คน มีครูประจำชั้น1 คน ,ผู้ช่วยครูประจำชั้น 1 คน และครูพี่เลี้ยงอีก 2 คน ยังไม่รวมครูสอนเฉพาะทางแล้วแต่วิชา ทีนี้ 1 ในครูที่สอนประจำห้องได้แจ้งมาทางผมว่าสนใจจะเรียนพิเศษแบบตัว/ตัวมั้ย ซึ่งครูจะเอาเวลาที่เลิกสอนจากที่โรงเรียนมาสอนที่บ้าน (ค่าใช้จ่ายก็เอาเรื่องอยู่) ก็คิดอยู่ราวๆ 2 วันก็ตัดสินใจว่าคงจะต้องใช้วิธีนี้แล้ว เพื่อให้ลูกมีพัฒนาการที่ทันเพื่อน ซึ่งตอนนั้นความคาดหวังคือแค่ให้ลูกเรียนได้พอๆกับเพื่อนๆ ไม่เบื่อชีวิตในการเรียนเป็นพอ และคุณครูก็แจ้งว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะผิดระเบียบที่โรงเรียน ก็จึงเก็บความลับอันนี้เอาไว้
สรุป...ก็คุณครูก็มาสอนที่บ้านครับ วันจันทร์-พฤหัส ช่วง 18.00-20.00 ก็จะสอนหลายอย่างมากครับ เช่น สอนตามหลักสูตรที่ในโรงเรียนสอน, สอนศิลปะ ระบายสีในกระดาษ ระบายสีตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ ปั้นดินน้ำมัน, สอนเรื่องการขับถ่าย สอนให้กินของบางอย่าง(ที่ปกติไม่ยอมกินเช่น กล้วยน้ำว้าฯลฯ) และอื่นๆ จนพอผ่านมาได้ประมาณ 1 เดือน ก็เริ่มรู้สึกว่า เออ..ดูดีขึ้นในระดับนึงเลย ค่อนข้างใจชื้นขึ้นมา
ปัจจุบันนี้สอนมาได้ประมาณ 4 เดือนแล้วครับ ซึ่งครูที่เหลือ(ซึ่งไม่ทราบเรื่องการสอนตัวนี้) ก็มีแจ้งมาบ่อยๆ ชมว่าเดี๋ยวนี้ลูกชายคุณพ่อเก่งขึ้นมากเลยนะคะ ทำอะไรหลายๆอย่างได้ดีขึ้น น่าพอใจมาก ยิ่งในเดือนล่าสุดนี่ชมกันเยอะมากว่าเจ้าตัวแสบเปลี่ยนไปจากหลังมือเป็นหน้ามือเลย ทำอะไรได้เร็วกว่าเพื่อนทุกคน กล้าพูด กล้าถาม กล้าที่จะเผชิญหน้าในการเรียนการสอนกับครูทุกคน และที่โดดเด่นคือเรื่องวิชาภาษาอังกฤษกับครูฝรั่ง และวิชาในด้านเชาว์ ทางผมก็รุ้สึกว่ามันเป็นการแก้ไขที่ดีมาก
มาเมื่อเช้านี้ (ปกติมีรถโรงเรียนรับ-ส่ง แต่วันนี้ตื่นสาย เลยต้องไปส่งที่โรงเรียนเอง) แล้วพอไปส่งลูกชายหน้าห้อง ก็มีคุณแม่ท่านนึงเดินเข้ามาหา แล้วบอกว่า อันนี้เป็นคุณพ่อน้อง....รึป่าวคะ ผมก็ทำหน้างงๆ แล้วตอบไปว่าใช่ครับ เค้าบอกว่าอยากเจอคุณพ่อหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยได้เจอเลย เค้าบอกว่าตอนแรกที่เค้าเห็นลูกชายผม เค้าบอกว่าเด็กคนนี้น่าสงสารจัง ดูหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา เพราะทำอะไรเหมือนเพื่อนๆไม่ได้ แต่มาตอนนี้เค้าดูว่าลูกชายผม น่าจะเป็นอันดับต้นๆ ของห้องเลยทีเดียว (จากที่เค้ามายืนรอลูกชายเค้าทุกวัน รวมถึงมีครูที่ชมลูกผมให้เค้าได้ฟัง) ยืนคุยกันอยู่พักนึง เค้าก็ชมลูกชายผมมากทีเดียว รวมทั้งตอนนี้ลูกชายเค้าก็เป็นคู่ซี้กับลูกชายผมด้วยอีก
แล้วคุณครูประจำชั้นก็เดินมาคุยด้วย แล้วบอกว่าตอนนี้ลูกชาย เก่งสุดๆ ทำอะไรเสร็จเร็วกว่าเพื่อนทุกคน ทำได้ดี เพื่อนสนิทก็เยอะ อยู่โรงเรียนมีแก๊งเค้าอยู่ 4-5 คน แสบๆทั้งนั้น แต่ครูบอกว่าแก๊งนี้แม้จะแสบ แต่ก็เป็นเด็กดี มีการแชร์ของเล่น ขนม ต่างๆร่วมกันทุกวัน (ปกติอยู่บ้านแทบไม่ให้ใครกินขนมเลย จะกินคนเดียวและเด็กกลุ่มอื่น พอเวลากินขนมก็จะต่างคนต่างกินของตัวเอง)
คือจะบอกว่าค่อนข้างกระอักกระอ่วนพอสมควรเลยครับ ไม่รู้จะตอบทั้งคุณแม่ และคุณครูยังไงดี เพราะเรื่องนี้มันต้องเป็นความลับ เลยได้แต่ยิ้มๆแล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน
โดยรวมตอนนี้ต้องบอกว่าดีใจสุดๆ แต่ก็มีประเด็นจะรบกวนสอบถามคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆครับ
1. ตอนนี้จะหมดเทอม1 แล้ว แบบนี้เทอมหน้าควรจะเรียนแบบนี้เหมือนเดิมอีกมั้ยครับ หรือว่าควรจะเลิกเรียนเสริมตัว/ตัวได้แล้ว
2. ถือว่าเป็นการเอาเปรียบเด็กคนอื่นหรือป่าวครับ