คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
การอโหสิกรรมให้ได้ผลจริง โจทก์และจำเลยต้องอยู่ต่อหน้ากัน แล้วขอขมากัน อีกฝ่ายตั้งใจอภัย บอกว่าอโหสิให้ ก็จบ
ถ้าใจเขาไม่อโหสิให้ เราก็ช่างเขา เราอภัยแล้วเราจบแล้ว เหมือนพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัต สมัยเป็นพ่อค้าเหมือนกัน
พระเทวทัตตั้งใจจองเวรทุกชาติ ตั้งแต่ชาตินั้น ก็ตามจองเวรมาเรื่อยๆ พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้โกรธอะไร ตามได้ก็ตาม
สุดท้ายคนจองเวรอยู่ฝ่ายเดียวตอนนี้อยู่อเวจีมหานรก ส่วนคนไม่ได้จองเวรด้วยเป็นพระพุทธเจ้า อยู่ที่นิพพานแล้ว ฉะนั้นเราอโหสิได้
เราไม่โกรธก็พอ ส่วนเขาจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขา จองเวรได้ก็ตามใจ เราทำกำลังความดีของเราให้สูงเข้าไว้ก็พอ
ถ้าใจเขาไม่อโหสิให้ เราก็ช่างเขา เราอภัยแล้วเราจบแล้ว เหมือนพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัต สมัยเป็นพ่อค้าเหมือนกัน
พระเทวทัตตั้งใจจองเวรทุกชาติ ตั้งแต่ชาตินั้น ก็ตามจองเวรมาเรื่อยๆ พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้โกรธอะไร ตามได้ก็ตาม
สุดท้ายคนจองเวรอยู่ฝ่ายเดียวตอนนี้อยู่อเวจีมหานรก ส่วนคนไม่ได้จองเวรด้วยเป็นพระพุทธเจ้า อยู่ที่นิพพานแล้ว ฉะนั้นเราอโหสิได้
เราไม่โกรธก็พอ ส่วนเขาจะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเขา จองเวรได้ก็ตามใจ เราทำกำลังความดีของเราให้สูงเข้าไว้ก็พอ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าเราอโหสิกรรมให้คนๆหนึ่ง แต่เค้าไม่อโหสิกรรมให้เรา ชาติหน้าจะต้องกลับมาจองเวรกันไหม