GHost Detective File 4-1 ผู้สัมผัสวิญญาณ

เวลาประมาณทุ่มกว่าที่ร้านสุกี้สาขาในห้างดังใจกลางเมือง ภู ดาว หมอเจี๊ยบและผู้กองต้อม มาตามการขอร้องของแอ๊ด เพื่อนเก่าอดีตประธานชมรมถ่ายรูปสมัยที่ภูกับหมอเจี๊ยบยังเรียนอยู่ และแม้ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานแต่ แอ๊ดก็ยังคงหางานทั้งเรื่องฟ้องร้องทางกฏหมายไปจนถึงเรื่องลี้ลับมาให้ภูช่วยเสมอๆ และคราวนี้ก็เช่นกัน

"แอ๊ด นายถึงขนาดมาบรีฟงานด้วยตัวเองแบบนี้ต้องมีอะไรพิเศาใช่มั้ย" ผู้กองต้อมถาม จริงๆแล้วเขายังคงหมั่นไส้แอ๊ดอยู่เสมอ

"เรื่องงานเอาไว้ก่อน มากินกันก่อนเถอะ ยัยเจี๊ยบมันบังคับให้ฉันเลี้ยงนี่" แอ๊ดพูด เมื่อทุกคนหันไปทางหมอเจี๊ยบที่สั่งเอาๆจนอาหารมาเต็มโต๊ะ ก็สรุปเป็นเสียงเดียวกันว่าหหมอเจี๊ยบกะเบี้ยวสัญญาโดยให้แอ๊ดรับหน้าแทน

เมื่ออาหารทยอยเสิร์ฟ ทุกคนก็ต่างทานกันอย่างสนุกสนาน จนบางที่ดาวก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนส่วนเกินในวงสนทนาเพราะการคุยกันอย่างสนิทสนมของ ภู หมอเจี๊ยบ ผู้กองต้อม และแอ๊ดนั่นเอง

"นี่น้องดาวที่นายพูดถึงใช่มั้ยภู น่ารักดีนี่นา" แอ๊ดทักขึ้นมาเมื่อเห็นเด็กสาวที่ดูเงียบๆไม่ค่อยพูดเท่าไหร่

แต่เมื่อแอ๊ดชมดาวว่าน่ารักภูก็ถึงกับสำลัก

"อย่างยัยเนี้ยนะที่ว่าน่ารัก"ภูรีบพูดขัดประมาณว่าแก้เขิน

"ก็จริงนะ ถ้าทำงานกับนายได้ก็แสดงว่ามีฝีมือพอตัว แล้วรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ไปเป็นนางแบบนิตยสารวัยรุ่นได้สบายๆเลย" คำพูดของแอ๊ดเหมือนปั้นหัวภูจนเดาทางไม่ถูกเพราะเขาเป็นตากล้องนิตยสาร ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะเอาดาวไปถ่ายแบบจริงๆ

"พวกนายก้อย่ามัวพูดเล่นสิรีบๆกิน ดูสิภูหน้าแดงใหญ่แล้ว" หมอเจี๊ยบผสมโรงหยอกภูอีกคน จนภูต้องกระแอมเตือน

ท่าทางเฮฮาของแอ๊ดทำให้ดาวสามารถคุยด้วยได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับภูสมัยเรียนที่ตลกๆไม่ว่าจะเป็นรับจ๊อบแต่งรูปจนไม่ได้อาบน้ำไปเรียนเกือบอาทิตย์เป็นต้น

เมื่อทุกคนเริ่มอิ่มก็ถึงคราวที่จะต้องคุยเรื่องงานบรรยากาศในโต๊ะเริ่มเครียดไปถนัดตา น้ำเสียงของแอ๊ดที่เปลี่ยนไป มันดูจริงจังแปลกๆ

"ฉันอยากให้พวกนายช่วยตรวจปรากฏการวิญญาณที่สตูดิโอของเพื่อนฉันหน่อย" แอ๊ดพูดเข้าเรื่อง พร้อมกับเอารูปถ่ายให้ทุกคนดู มันเป็นรูปถ่ายจากฟิล์มที่แอ๊ดเป็นคนถ่าย ซึ่งแอ๊ดเป็นผู้สัมผัสวิญยาณที่สามารถถ่ายติดวิญญาณด้วยกล้องฟิล์มได้

แต่เมื่อทุกคนดูรูปทั้งหมดก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า มันคือรูปปกติ ที่ไม่มีอะไรแปลกปลอมเข้ามาเลย

"รูปพวกนี้มันก็ปกติไม่เห็นมีอะไรแปลกเลยนี่พี่แอ๊ด" ภูที่ดูรรูปอย่างพิจารณานานกว่าคนอื่นก็ยอมแพ้เมื่อไม่เห็นอะไรแปลกเลย

"งั้นพวกนายดูนี่ก่อน" แอ๊ดยื่นแทปเลตให้ทุกคนดู ในนั้นมีทั้งรูปและคลิปวีดีโอ ซึ่งเมื่อทุกคนเห็นแล้วต่างตกใจไปตามๆกัน

"นี่มันโพโตไกส์ไม่ใช่เหรอ" หมอเจี๊ยบที่ดูคนแรกร้องขึ้นมา

ในนั้นมีรูปนางแบบที่จู่ๆผมก็ตั้งขึ้นบนฟ้าเหมือนมีไฟฟ้าสถิต น้ำที่พุ่งออกมาจากแก้วเหมือนโดนระเบิด ไปจนคลิปวีดีโอที่เหมือนจะบรรยายเหตุการณ์ได้ดีที่สุด นางแบบเหมือนถุกอะไรกระชากจนขาทั้งสองลอยอยู่เหนือพื้นก่อนจะตกลงมา ไฟส่องสว่างที่จู่ๆหลอดก็ระเบิดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ  หรือรอยช้ำที่จู่ๆก็ปรากฏบนร่างของนางแบบชุดว่ายน้ำ เรื่องทั้งหมดถูกบันทึกไว้โดยหลายๆคน ที่แอ๊ดรวบรวมมา แต่เมื่อเขาถ่ายรูปส่วนต่างๆในสตูดิโอด้วยกล้องฟิล์ม กลับไม่เจออะไรเลย

"ตอนนี้ก้ได้แต่ขอร้องให้นิตยสารที่สนิทๆกันปิดข่าวไว้ เพื่อรอหาสาเหตุ แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ ทางเจ้าของสตูดิโอก็คงต้องปิด"แอ๊ดพูดด้วยร้ำเสียงเศร้าๆ จนทำให้เพื่อนที่รู้จักกันมานานอย่างภูและหมอเจี๊ยบรู้สึกเห็นใจ

"แต่เหตุผลที่นายต้องมาขอร้องเองคงไม่ใช่แค่นั้นใช่มั้ย"ผู้กองต้อมพูด และมันก้เหมือนแทงใจแอ๊ด เขาเงียบและไม่พูดอะไรออกมาอีก เหมือนน้ำตาจะไหลออกมาจากดวงตาของเขา ภู หมอเจี๊ยบและผู้กองต้อม พอจะเดาออกว่าเป็นเพราะอะไร มีแต่ดาวที่ไม่เข้าใจแต่ก็ไม่อยากถามอะไรมากมาย

..................................

หลังจากนั้นผู้กองต้อมต้องไปส่งดาวที่บ้าน เพราะเขาต้องไปเข้าเวรที่ สถานีตำรวจที่อยู่ใกล้บ้านของดาว ส่วนทาง ภูกับหมอเจี๊ยบ ก็คุยกับแอ๊ดต่อ

ในรถ ทั้งสองคนไม่พูดอะไกันเลย จนดาวทนความเงียบไม่ได้จนต้องเอ่ยปากถาม จริงเธอก็ไม่ได้หวังว่าผู้กองต้อมจะตอบ เพียงแต่อย่างน้อยก็อยากให้ความเงียบนี้หมดไป

"เกิดอะไรขึ้นกับพี่แอ๊ดเค้าเหรอคะ" ดาวหลุดปากถาม ผู้กองต้อมนิ่งเงียบอยู่ซักพักจึงถอนหายใจ

"ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ แต่เค้าใจว่าสตุดิโอนั่นคงเป็นที่แรกที่แอ๊ดเค้าได้เจอกับแฟนเค้าที่เสียไปเมื่อสองเดือนก่อนน่ะ" คำตอบของผู้กองต้อมทำให้ดาวอึ้ง เพราะไม่คิดว่าคำตอบจะเป็นแบบนี้ เธอได้แต่โล่งใจที่ไม่ได้ถามไปตอนที่อยู่ที่ร้าน

"ถ้าอย่างนั้นเค้าคงไม่อยากให้สถานที่แห่งความทรงจำนั้นถุกปิดใช่มั้ยคะ พี่เค้าถึงได้มาขอร้องด้วยตัวเอง" ดาวถาม

"ก้อาจจะใช่ แต่พูดก็พูดนะ แต่รายละเอียดที่ได้ แม้ประสบการณ์ของฉันจะไม่มากเท่าภุหรือเจี๊ยบ แต่เคสนี้น่าจะหนักอยู่"ผู้กองต้อมพูดอย่างไม่มั่นใจ ซึ่งดาวก็คิดแบบเดียวกัน

"แต่ก้เป็นไปได้ไม่ใช่เหรอคะว่าความสามารถของพี่เค้าอาจจะพลาดก็ได้" ดาวถามอีกครั้งในกรณีที่ความสามารถของแอ๊ดอาจจะหายไปแล้ว แต่คำตอบของต้อมก็มีแค่การส่ายหน้า

"ไม่หรอก เห็นว่าความสามารถแบบนี้มันก็เหมือนว่ายน้ำนั่นแหละ ถ้าว่ายเป็นแล้วมันก็จะว่ายเป็นตลอดไป และถ้าต่อให้เป็นแบบนั้นจริง ภูมันคงทักไปแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว" คำพูดของต้อมทำให้ดาวถึงกับท้อไปเลย คงเพราะขนาดพวกภูยังหนักใจ แสดงว่างานนี้คงหินจริงๆและหมายความว่าที่สตูดิโอก็คงจะถูกปิดไปด้วย

....................................

ที่เดอะวันสตุดิโอ เอกเจ้าของสตูดิโอกกำลังยุ่งอยู่กับเอกสารทั้งหลายแหล่ ยิ่งประกอบกับเหตุการณ์แปลกๆในสตูดิโอของเขาเอง จนต้องปิดปรับปรุงไป ทำให้รายได้น้อยลง เพราะนอกจากจะเอาไว้ถ่ายนิตยสารแล้วยังสามารถถ่ายทำรายการขนาดเล็กหรือเอ็มวีเพลงได้ด้วย

"คุณเอกยังไม่กลับเหรอครับ"ยามที่ดูแลเดินเข้ามาถามเอกที่ออฟฟิสเพราะเกือบสี่ทั่มแล้ว แต่ยังเห็นไฟที่ห้องทำงานเปิดอยู่

"คงอีกซักพักนะครับ เดียวผมจะปิดไฟในห้องนี้เอง ลุงไปดูตรงส่วนอื่นเถอะ" เอกซึ่งบอกไปแบบนั้น ยามของสตูดิโอจึงรับคำแล้วออกไปตรวจยังส่วนอื่น

ยามเดินตรวจดูรอบๆตามหน้าที่ โดยไม่รู้เลยว่าสตูดิโอนี้เกิดอะไรขึ้นเพียงแต่รู้ว่าปิดปรับปรุง ทำให้สวนที่เป็นห้องถ่ายเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ เพราะกลัวจะไปทำอะไรเค้าเสียหาย

"ฮือ.......ฮือ......." เสียงร้องไห้ของผู้หญิง ลอยมาอย่างเงียบๆจากห้องถ่าย ด้วยความที่ตัวเองผ่านโลกมามาก ยามคนนี้จึงตัดสินใจเดินเข้าไปยังห้องถ่ายเพื่อตามหาต้นตอของเสียง

แต่เมื่อเดินเข้าไปเขาก็พบแต่ความมืด จนเข้าเกือบจะเหลียวหลังกลับ แต่เสียงร้องไห้นั้นก็ดังขึ้นอีก เขาจึงสาดไฟฉายไปที่ต้นตอของเสียงนั้น

มีร่างผู้หยิงวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ที่บริเวณสเตจสำหรับถ่าย เธอดูไม่เหมือนกับผี อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของยามเฒ่า เธอใส่ชุดเหมือนนางแบบวัยรุ่นทั่วไป ที่ยามเห็นจากโปสเตอร์ที่ติดในสตูดิโอนี้ เพียงแต่เสื้อผ้าของเธอดูจะไม่เรียบร้อย ยามเฒ่าจึงตัดสินใจเดินเข้าไปถาม เพราะสตูดิโอนี้ก็ปิดปรับปรุงมาได้เป็นสัปดาห์แล้ว บางทีอาจจะเป็นสาววัยรุ่ยที่มีใครซักคนลากมาข่มขืนในนี้ก็ได้

"เป็นอะไรรึเปล่าหนู" ยามแก่เดินเข้าไปถาม หญิงสาวคนนั้นค่อยหยุดร้อง ใบหน้านั้นทำให้หัวใจยามเฒ่าแทบจะหยุดเต้น

สาวคนนั้นมีใบหน้าซีดเผือดมีเลือดไหลออกมาจากตา ดวงตานั้นมาแต่ตาขาว ปากสีนั้นอ้าปากแปล่งเสียงกรีดร้องจนคางถึงต้นคอ เพียงแค่นั้นสติของยามเคราะห์ร้ายก็เลือนลางและเมื่อร่างกายจะล้มลง คานเห,้กที่ติดกับโคมไฟด้านบนเพดานก็ตกลงมาทั้งยวงเฉียดร่างของยามเคราะห์ร้ายนั้ไปนิดเดียว

จากนั้นร่างของผีสาวก็ละลายหายไปกับความมืด เหลือเพียงรอยยิ้มอันสยดสยองที่ยิ้มเยาะให้กับผลงานอันน่ากลัวของตัวเอง

...........................................

ขอโทษที่หายไปนานครับ พอดีไอดีเก่าโดนยึดมาเกือบเดือน กลัวคนอ่านละลืมกันเลยเอามาลงไอดีสำรองก่อน ไว้ได้ไอดีคืนเมื่อไหร่ จะก๊อปไปลงอันเดิมนะครับ

ตอนต่อไป http://pantip.com/topic/35517645
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่