ระวัง "พัดลมเพดาน" อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด สูญเงินถึง 60,000 ภายในวันเดียว

http://hilight.kapook.com/view/140624

พ่อแม่ประกาศขายทรัพย์สิน หลังปู่เล่นโยนหลานหัวฟาดพัดลม เจอค่ารักษาอ่วม

  ปู่เล่นโยนหลาน ลอยคว้างกลางอากาศ หัวฟาดพัดลมเพดาน อาการสาหัส ด้านพ่อแม่ประกาศขายทรัพย์สินในบ้าน หลังค่ารักษาพุ่งอาน 6 หมื่นในคืนเดียว

          เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ปกครองรายหนึ่งประกาศขายทรัพย์สินภายในบ้าน เพื่อนำเงินไปรักษาน้องอ้อม ลูกสาววัย 3 ขวบ เนื่องจากถูกคุณปู่โยนเล่น แต่พลาดไปถูกพัดลมเพดาน ส่งผลให้ศีรษะกระแทกอย่างแรงจนบาดเจ็บสาหัส

          อย่างไรก็ตาม ล่าสุด อาการของน้องอ้อมดีขึ้นมาแล้ว และทางพ่อแม่ก็ได้นำตัวน้องออกจากโรงพยาบาลมาดูแลที่บ้าน เพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ได้ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 60,000 บาทในคืนเดียว
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ดูข่าวเมื่อเช้า คือพ่อของเด็กตัดสินใจพาลูกไป รพ เอกชน เพราะอาการลูกค่อนข้างหนัก เค้าบอกว่าถ้าไป รพ รัฐ
กว่าจะได้รับการรักษา อาจจะล่าช้าไป เลยตัดสินใจพาไป รพ เอกชนที่ดีที่สุดในจังหวัด โดยที่ตอนนั้นมีเงินเก็บอยู่เพียง 1 หมื่นบาท

คืออาการน้องค่อนข้างหนักใบพัดของพัดลมตัดเข้าไปบริเวณหน้าผาก จนถึงกระโหลกเลยค่ะ (ตามข่าว) น้องคงผ่าตัดอะไรด้วย
เพราะงั้นค่ารักษา 6 หมื่นสำหรับเคสแบบนี้เราว่าก็สมเหตุสมผล เพราะเป็นเอกชนด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ตั้งหัวข้อกระทู้  คลาดเคลื่อนนิดหน่อยครับ

ต้องตั้งว่า

1.ระวังคน      อย่าโยนอะไรขึ้น   ถ้ายืนอยู่ใต้พัดลมเพดาน

2.ระวังความไม่รู้เรื่องระบบบริการทางการแพทย์
เคสอุบัติเหตุฉุกเฉินไม่มีคำว่านั่งรอเป็นวันยังไม่ได้รักษา
...ไม่มีโรงพยาบาลไหนอยากโดนด่าแน่นอน...โดยเฉพาะในยุคที่แชร์ทั้งภาพและเสียงกันได้รวดเร็วในพริบตา
แต่คำว่าฉุกเฉินที่แท้จริงในทางการแพทย์   ไม่ตรงกับที่คนทั่วไปอาจเข้าใจ
emergency  คือ  ..เร่งด่วน..   เช่น   โดนยิงโดนแทงเข้าช่องท้อง  หัวใจ  ศีรษะ  ..  มีเวลาช่วยเหลือแค่เป็นนาที
urgency   คือ  ..รีบแต่ไม่เร่ง..   เช่น   โดนยิงเโดนแทงข้าแขนขา   ..  ห้ามเลือดได้แล้ว...ก็จะมีเวลาช่วยเหลือเป็นชั่วโมง

คำว่าฉุกเฉินที่คนทั่วไป  เข้าใจ    คือ   ..เร็วเท่าที่ใจฉันต้องการและสมองฉันกำลังกลัวหรือกังวล..

แพทย์และพยาบาล    จำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญของความหนักหน่วงในผู้ป่วยแต่ละราย   ในเวลาทีมีคนไข้รอหลายคน

ที่น่าตำหนิคือ   เดินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน..ที่ว่างๆ  ไม่มีคนไข้ ณ เวลานั้น ...  แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ใส่ใจ
ทุกคนก้มหน้าอยู๋กับโทรศัพท์



ข่าวนี้   จะสอนให้คนในสังคมรู้จักวิธีการับบริการที่เหมาะสมได้ดีขึ้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่