พอดีเพื่อนเห็นว่าเป็นประสบการณ์ที่มีประโยชน์ และ pantip ก็ให้ประโยชน์กับผมและเพื่อนมามาก เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การเรียกคืนเงินชดเชย กรณีรถชน ที่เพิ่งทำผ่านมาเร็วๆนี้ให้กับเพื่อนๆบ้าง ตามนี้ครับ



ขอไม่เล่ารายละเอียดขณะรถเกิดอุบัติเหตุนะคะ อยากแชร์ขั้นตอนการทำเรื่อง เรียกเงินชดเชยกรณีขาดประโยชน์จากการไม่มีรถใช้ระหว่างซ่อม (ซึ่งจะเรียกร้องได้เฉพาะกรณีที่เราเป็นฝ่ายถูกเท่านั้นนะคะ) เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่อาจจะยังไม่ทราบว่า เราสามารถเรียกร้องในส่วนนี้ได้ค่ะ

ย้อนไปตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2559 รถเราเกิดอุบัติเหตุ ชนกับรถแท็กซี่ ซึ่งเราเป็นฝ่ายถูก พอประกันทั้ง 2 ฝ่ายมาถึง ตัวแทนก็ทำเอกสารกันไป จนเสร็จแล้วเจ้าของรถ หรือคนขับจะต้องเซ็นต์เอกสารเคลมของตนเอง

* อันดับแรก ห้ามลืม!! : เราต้องขอถ่ายรูปใบเคลมของคู่กรณีไว้นะคะ โดยถ่ายให้เห็นเลขที่เคลม และทะเบียนรถให้ชัดเจน... เวลานั้นเราอาจจะตกใจ ตื่นเต้น ถ่ายรูปมือสั่น แนะนำให้ถ่ายไว้หลายๆช็อต กันพลาด ^^ (ส่วนเอกสารเคลมของฝั่งเรา ทางตัวแทนจะมีสำเนาให้อยู่แล้ว เก็บไว้ด้วยนะคะ)

* หลังจากนั้น เราส่งรถซ่อมศูนย์ตามปกติ รอๆๆๆ จนซ่อมเสร็จ (ของเราซ่อมไป 14 วัน) วันไปรับรถ สำคัญ ห้ามลืม!! ขอเอกสารแจ้งรายละเอียดการซ่อม โดยต้องระบุวันที่นำรถเข้าซ่อม และวันรับรถให้ชัดเจน (ถ้าไม่แน่ใจ ให้ถามเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ซ่อมเลยค่ะ)

หลังจากรถซ่อมเสร็จแล้ว เรามาเตรียมเอกสารทั้งหมดกันค่ะ เอกสารมีดังนี้

1. สำเนาใบเคลมของคู่กรณี (ที่เราถ่ายเอกไว้ในวันเกิดเหตุ ปริ้นออกมาเลยค่ะ)

2. สำเนาใบเคลมของเรา (ที่ประกันให้ไว้ในวันที่เกิดเหตุค่ะ)

3. ใบแจ้งซ่อม และรายละเอียดการซ่อม ที่ระบุวันนำรถเข้า และวันรับรถอย่างชัดเจน

4. จดหมายขอเรียกเงินชดเชยกรณีขาดประโยชน์จากการใช้รถ **เดี๋ยวจะมีตัวอย่างให้ค่ะ**

5. สำเนาทะเบียนรถ

6. สำเนาหน้ากรมธรรม์

7. สำเนาใบขับขี่

8. สำเนาบัตรประชาชน

ด้วยความวิตกจริตของเรา เอกสารทั้งหมด เราถ่ายเอกสารเก็บไว้อีกชุดนึงค่ะ (เผื่อๆๆๆ ^^”)

เตรียมเอกสารครบแล้ว โทรหาบริษัทประกันของคู่กรณีเลยค่ะ บางบริษัทให้แฟกซ์เอกสารไป บางบริษัทให้นำเอกสารไปยื่นด้วยตัวเองที่บริษัทเขา โดยของเรา คู่กรณีเป็นประกันของ บริษัท กมล ค่ะ ทางกมล ให้เราไปยื่นเอกสารเอง ที่เมืองทอง (เราอยู่สาทร ฮือออ TT แต่ก็ต้องไป)

นำเอกสารทั้งหมด ไปติดต่อ แจ้งว่าจะเรียกเงินชดเชย บลาๆๆ เขาก็จะประเมินราคามาให้ ซึ่งตรงนี้เราไม่แน่ใจว่า แต่ละบริษัทมี standard ในการจ่ายเงินชดเชยกันเท่าไร แต่เขาจะประเมินมาให้เราต่ำสุดๆ เราต้องเจรจาต่อรองเอาเองค่ะ

ของเรา ตอนแรกทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า จ่ายให้ได้วันละ 300 บาท คิดให้ 7 วัน โดยไม่นับวันหยุด และวันรออะไหล่ (รถเราซ่อมทั้งหมด 14 วัน / เราเป็นเซลล์ที่จำเป็นต้องใช้รถไปพบลูกค้าทุกวัน วิ่งว่อนทั่ว กทม. เลยค่ะ - -“)

ทางเราก็ไม่ยอมๆ เนื่องจากเราเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อทำงานเยอะมาก ทางนั้นก็จะมีท่าทีกวนๆนิดนึง บอกว่าถ้าไม่พอใจก็ยื่นเรื่องขึ้นศาลได้นะ บลาๆๆ ต่อรองกันไปมา จบที่ วันละ 300 บาท คิดให้ 10 วัน ... โอเค พอใจแล้วก็ไปเซ็นต์เอกสาร รอเช็คอนุมัติ 30 วัน แล้วค่อยไปรับเช็คอีกครั้งที่เมืองทองสิ้นเดือนนี้ค่ะ (ไกล๊ไกลลลลล) .... จอ บอ ....

ตัวอย่างจดหมายที่เราใช้ เราอ่านมาจากเว็บนี้ค่ะ ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ (Credit : http://www.lancer-exclusive.com/forums/showthread.php?t=5019)

ข้าพเจ้า น.ส. …………. เจ้าของรถ ……. รุ่น ……. ทะเบียน ……. ถูกรถยนต์ที่ขับโดยคุณ ……. ยี่ห้อ ……. ทะเบียน ……. ขับสวนเลนมาชนด้านหน้าฝั่งขวาที่ ……. เมื่อวันที่ ……. เวลาประมาณ ……. ทำให้รถข้าพเจ้ามีความเสียหายคือ 1. …….…….…… 2. …….…….…… 3. …….…….…… 4. …….…….……

ข้าพเจ้าได้จึงได้นำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ ……. สาขา ……. ในวันที่ ……. ซ่อมเสร็จ วันที่ ……. เป็นเวลา …… วัน ข้าพเจ้าทำงานเป็น ……. ทั่วกรุงเทพปริมณฑล ต้องใช้รถทุกวันราวๆ …… กม./วัน ต้องนั่งแท๊กซี่ไปทำงานแทน ประกอบกับความไม่สะดวกในการเดินทางอย่างมาก จึงขอเรียกสินไหมดังนี้ 1. ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ ……. บาทต่อวัน เป็นระยะเวลา …….วัน รวม ……. บาท รวมทั้งสิ้น ……. บาท

ด้วยความเคารพ

…….…(ลงชื่อ)….…….

** หมายเหตุ : ในจดหมายที่ต้องระบุจำนวนเงินที่เราจะเรียก ให้ระบุไปค่อนข้างสูงเลยนะคะ แต่ไม่ได้ตามที่ใส่ไปหรอกค่ะ เขาจะกดเงินลงอีก ลงจนใจหาย (สุดท้าย final ได้ไม่ถึง 50% ของที่เรียกไปอีกค่ะ ^^)

จบแล้ววววว... หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ เผื่อใครเกิดเหตุแบบเรา จะได้สามารถไปเรียกร้องสิทธิ์ของเราได้ ^^ ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยนะคะ

สุดท้าย ขับรถกันดีๆ ไม่ประมาทจะดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมาเสียทรัพย์สิน เสียเวลากันนะค้าาาาาา....