โค้งสุดท้ายก่อนวันลงประชามติ สรุปเหตุผลส่วนตัวสั้นๆในการมองร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ครับ (The Mario)

เรียน WM และเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน กระทู้นี้ขอใช้สิทธิตามกฎหมายในการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญตามประกาศของ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ

ในฐานะประชาชนไทยคนหนึ่งที่มีสิทธิในการโหวตร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 นี้ ขออนุญาตสรุปเหตุผลส่วนตัวสั้นๆเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญบางมาตราที่มีปัญหาดังนี้ (หากสมาชิกท่านใดพบเห็นบางมาตราที่เพิ่มมากกว่านี้ก็สามารถนำมาเพิ่มเติมได้ครับ)

     มาตรา 5 ในกรณีที่ประเทศเกิดปัญหาทางการเมืองโดยให้องค์กรที่เกี่ยวข้องต้องพูดคุยและหาทางออกร่วมกัน หากเกิดกรณีที่ใช้มาตรา 5 เพื่อหาทางออกร่วมกัน เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญจัดให้มีการประชุมร่วมระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานองค์กรอิสระเพื่อวินิจฉัย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร+ประธานวุฒิสภา+ประธานศาลรัฐธรรมนูญ+ประธานองค์กรอิสระ ครึ่งหนึ่งของคณะประชุมมีโอกาสสูงมากที่จะออกความเห็นหรือลงมติมาในทิศทางเดียวกันครับ แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะได้ทางออกที่ถูกต้อง


     มาตรา 47 เรื่องสิทธิการรักษาพยาบาล บุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายบัญญัติ ทำไมต้องเป็นผู้ยากไร้หรือต้องไปลงทะเบียนผู้ยากไร้เท่านั้นเหรอครับถึงจะได้รับความคุ้มครองตรงนี้ ในขณะที่พยายามสื่อว่ากำลังลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม แต่นี่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแยกคำว่าบุคคลกับผู้ยากไร้ออกจากกันเพื่อแลกมาให้ได้ในสิทธินี้ ผมว่ามันไม่ควรครับ


     มาตรา 54 เรื่องเรียนฟรี ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนเอาไว้ชัดเจนว่าเรียนฟรีแค่ 12 ปี เป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนผู้มีกำลังทรัพย์น้อยในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนครับ


     มาตรา 80 ในกรณีที่ไม่มีประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภาได้ให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานรัฐสภาแทน นี่คือการก้าวข้ามหน้าที่จากฝ่ายนิติบัญญัติมาทำหน้าที่ควบคุมฝ่ายบริหารใช่หรือไม่ ทั้งๆที่ความเป็นจริงอำนาจสมควรที่จะถ่วงดุลกันและไม่ก้าวล่วงเข้ามาทำหน้าที่ทั้งๆที่รองประธานสภาฯก็ยังมี มิหนำซ้ำในระหว่างที่ประธานวุฒิสภาต้องทำหน้าที่ประธานรัฐสภาตามวรรคสอง แต่ไม่มีประธานวุฒิสภา และเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในระหว่างไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ให้รองประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานรัฐสภา ถ้าไม่มีรองประธานวุฒิสภา ให้สมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีอายุมากที่สุดในขณะนั้นทำหน้าที่ประธานรัฐสภา นี่คือการวางหมากเพื่อล้วงลูกก้าวข้ามอำนาจหน้าที่กันหรือไม่ แล้วคุณเอารองประธานสภาไปซุกไว้ที่ไหน?


     ย่อหน้านี้อาจจะมีหลายมาตราที่เกี่ยวเนื่องกันนะครับ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่มีเสถียรภาพพร้อมที่จะถูกล้มได้ทุกเมื่อหากเกิดกรณี 2 มาตรฐานขึ้นมาอีกครั้ง ในกรณีใช้อำนาจทางศาลรัฐธรรมนูญในการล้มรัฐบาลประชาชน หรือเกิดกรณี 2 มาตรฐานอีกครั้ง  (ไม่ไม่จำกัดนะครับว่าจะมาจากทางขั้วการเมืองไหน จะเป็นเพื่อไทยก็ได้ หรือประชาธิปัตย์ก็ได้) หรือแม้กระทั่งการรอการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคนนอกจึงจำเป็นที่จะต้องเอาผิดรัฐบาลประชาชนให้ได้เสียก่อน  ก็สามารถทำได้โดยใช้ มาตรา ๘๒ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งแห่งสภานั้นสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓)(๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) หรือ (๑๒) หรือมาตรา ๑๑๑ (๓) (๔) (๕) หรือ (๗) แล้วแต่กรณี และให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้อง ส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่


จากมาตรา 82 มีสิ่งที่สามารถเชื่อมต่อเพื่อเอาผิดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตามมาตรา 101 ข้อที่ 7 กระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๑๘๔ หรือมาตรา ๑๘๕

ภาพแสดงมาตรา 101 ข้อที่ 7


ภาพแสดงมาตรา 185

มาตรา ๑๘๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภากระทำการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
(๒) กระทำการในลักษณะที่ทำให้ตนมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ หรือให้ความเห็นชอบในการจัดทำโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่เป็นการดำเนินการในกิจการของรัฐสภา
(๓) การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตำแหน่งของข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำและมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น

จากทั้ง 3 ข้อในมาตรา 185 นี้ หากเกิดกรณี 2 มาตรฐานขึ้นมาในการตัดสินความของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็สามารถกระทำการได้โดยง่ายเช่นในอดีตที่ผ่านมา เพราะสามารถตีความออกไปได้กว้างและออกได้ทุกทางว่าผิดจริงหรือไม่ผิด ฉะนั้นแล้วเราจะมีความเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดกรณีนี้ขึ้น การตีความเพื่อเอาผิดจากกรณีทางการเมืองต่างๆก็มีให้เห็นดังเช่นอดีต เช่นทำกับข้าวออกทีวียังผิด สั่งย้ายข้าราชการที่ทำหน้าที่ไม่ได้ก็ยังผิด เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทำอะไรแล้วจะไม่ผิด ในเมื่อทำหน้าที่รัฐบาลก็คงหลีกเลี่ยงที่จะมีภารกิจต่างๆมากมายที่จะทำ หากจะตีความเอาผิดโดยคณะ ตลก ที่ถูกแต่งตั้งมาจาก สว. สรรหา ที่ถูกแต่งตั้งมาจากบุคคลคณะเดียว ก็สามารถดำเนินการได้ทุกเมื่อ

     กติกาการเลือกตั้งตามร่าง รธน. ฉบับนี้ปิดโอกาสของคำว่าเลือกคนที่รักเลือกพรรคที่ชอบออกไป โดยในส่วนของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อมีหลักการคำนวนที่พึงได้มาตามมาตรา 91



ซึ่งกติการการเลือกตั้งใหม่นี้ไม่ทราบว่ามีการคำนวนและวิเคราะห์เชิงตัวเลขมาก่อนหรือไม่ว่ามีโอกาสสูงที่จะทำให้พรรคใดพรรคหนึ่งมีคะแนนลดลงมาไม่ถึงครึ่ง ส่วนพรรครองลงมาได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาเพื่อบีบคะแนนให้ใกล้เคียงกันขึ้นมา และพรรคอันดับสองมีโอกาสเสียมารยาททางการเมืองในการจับมือร่วมกับพรรคอื่นที่เหลือเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยปล่อยให้พรรคที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเลือกเข้ามาเป็นอันดับหนึ่งต้องกลายไปเป็นฝ่ายค้านเดี่ยว หรือในกรณีที่คะแนนรวมสูสีใกล้เคียงกัน จึงเป็นการยากที่จะหาข้อสรุปในการแต่งตั้งนายกฯที่มาจากการนำเสนอตามมาตรา 88


จึงเป็นการเปิดช่องให้เกิดมาตรา 272 กรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา ๘๘ ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อ ที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา ๘๘


และสิ่งนี้หรือไม่ที่เป็นที่มาของคำถามพ่วงท้ายการโหวตร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องการโหวตรับ-ไม่รับนายกรัฐมนตรีของ สว. สรรหาทั้ง 250 คน เพื่อปูทางให้เกิดนายกฯคนนอกที่ไม่ได้ผ่านการเลือกตั้งจากเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ


     มาตรา 269 ที่มาของ สว. จะเห็นได้ว่า สว. ทั้งหมดในวาระเริ่มต้น 250 คน ถูกแต่งตั้งมาจาก คสช. ทั้งหมด เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการส่งกลุ่ม สว.เหล่านี้มาเพื่อต่อท่ออำนาจให้กับกลุ่มคณะใดคณะหนึ่ง หรือมาทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติเพื่อประชาชนไทยจริงๆ ทุกอย่างยังเป็นปริศนาเพราะอำนาจ สว. มีมากมายเพียงพอที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนไทยได้ทุกเมื่อ โดยใช้อำนาจของคณะทำงานศาลรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเป็นฝ่ายแต่งตั้งขึ้นมาจัดการกับรัฐบาลได้ทุกเมื่อ


     มาตรา ๒๐๐ ศาลรัฐธรรมนูญประกอบด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำนวนเก้าคน มาตรา ๒๐๔ ผู้ได้รับการคัดเลือกหรือสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา สรุปแล้วคือ สว. ที่มาจาก คสช. แต่งตั้ง คณะ ตลก ผู้ที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายให้กับรัฐบาลมาอีกที ผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะตัดสินโดยไม่เอนเอียงในการตัดสินความหรือเกิดกรณี 2 มาตรฐานค้านสายตาประชาชนมาหลายคดีอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต


     เพื่อนสมาชิกท่านใดมีความเห็นหรือมาตราใดๆเพิ่มเติมก็แสดงความเห็นกันได้ครับ อยากให้การปฏิรูปประเทศไทยในครั้งนี้เป็นการปฏิรูปประเทศไทยสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนจริงๆดังคำที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ ส่วนร่าง รธน. ฉบับนี้จะนำพาไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนหรือประชาธิปไตยที่อ่อนแอก็แล้วแต่วิจารญาณส่วนบุคคล อยากเรียนเชิญเพื่อนสมาชิกและประชาชนไทยทุกท่านร่วมกันไปใช้สิทธิกันให้มากๆในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคมนี้นะครับ จะรับหรือไม่รับเป็นสิทธิส่วนบุคคลของท่าน ยังคงเคารพในการออกสิทธิของทุกท่านแม้จะโหวตในทางตรงกันข้ามกันก็ตาม แล้วเจอกัน ณ คูหาประชามติครับผม

The Mario : 3 สิงหาคม 2559 12.12 น.
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
+1 ขอบคุณค่ะพี่โอ้ สำหรับกระทู้ดีๆ

ป่านนี้ที่บ้านยังไม่ได้รับเอกสารอะไรที่ส่งมาเลยค่ะ ดีที่ได้หาอ่านจากเพื่อนๆ ที่มาลงในบอร์ดนี้

รธน.ของประเทศต่างๆ ก็มีเอกลักษณ์ มีที่มา มีจุดเด่น ฯลฯ ที่แตกต่างกันไป เช่น

- อังกฤษ ไม่มี รธน.ที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่อยู่ตามกฎหมาย คำพิพากษาต่างๆ และธรรมเนียมที่สืบต่อมา
กลายเป็นจารีตประเพณี ทำให้มีความยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงได้ และเขาเป็นประเทศที่ยึดมั่นกับระบอบปชต.มาก
โดยค่อยๆ ลดอำนาจจากกลุ่มขุนนาง ลงมาสู่ชนชั้นกลาง และเป็นแบบประชาธิปไตยให้ประชาชนมากขึ้นในที่สุด

- สหรัฐอเมริกา ต้องการปลดแอกตัวเองจากอังกฤษ ต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ประเทศเขาจึงเน้นเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ
ความยุติธรรมในประเทศมากๆ โดยเขียนแบบเรียบง่าย
แค่เป็นหลักการพื้นฐานกว้างๆ ให้มีความยืดหยุ่น
ปรับปรุงแก้ไขได้ รธน.อเมริกาจึงถือว่าเก่าแก่ที่สุดของโลกคือใช้มายาวนานถึง 200 กว่าปี ไม่ต้องฉีกทิ้ง
เพียงแค่ปรับปรุงแก้ไขไปประมาณ 27 ครั้ง

- อินเดีย กับ แอฟริกาใต้ มีปัญหาเรื่องเคยเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก เรื่องปัญหาชนชั้น สีผิว
แต่เชื่อหรือไม่ รธน.ที่เป็น กฎหมายสูงสุดของเขา มีหัวใจหลักคือปกป้องประชาชนที่ต่ำต้อยที่สุดของประเทศ

- ประเทศไทย บ้านเราตั้งแต่ปี 2475 ผ่านมา 84 ปี มาดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง (หากข้อมูลผิดพลาดตรงไหน รบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ)

ปฏิวัติ 1 ครั้ง คือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
กบฏ 11 ครั้ง (การรัฐประหาร/ปฏิวัติ ไม่สำเร็จ)
รัฐประหาร 13 ครั้ง (การรัฐประหารสำเร็จ)
รัฐธรรมนูญ 19 ฉบับ


แปลว่า

มีการล้มรัฐบาลสำเร็จทุกๆ  6.5 ปี
ถ้ารวมแบบสำเร็จและไม่สำเร็จแปลว่าจะเกิดความวุ่นวายทุกๆ 3.5 ปี
มีการเขียน รธน. ใหม่ทุกๆ 4.4 ปี


ตอนนี้เราติดอันดับประเทศที่มี รธน.มากที่สุดในโลกอันดับต้นๆ วนลูปมาหลายสิบปี และที่เราไม่ไปไหนมาไหนสักที
ส่วนหนึ่งก็เพราะเราไม่สร้างความตระหนักการหวงแหนรัฐธรรมนูญให้ประชาชน

รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ หลักการพื้นฐานเลยก็ต้องให้สิทธิกับประชาชนเต็มที่
หากเริ่มต้นประชาชนก็วิพากษ์วิจารณ์โดยเสรีไม่ได้แล้วก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีสิทธิมีเสียงแค่ไหน
ตัวแทนบริหารประเทศควรต้องมาจากประชาชนทั้งหมด ไม่อย่างนั้นพรรคการเมืองที่มีนโยบายดีๆ
มีผลงานดีๆ กลับไม่สามารถเข้ามาทำงานให้ประชาชนได้ นั่นคือเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนไม่มีความหมาย
และยังทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะอยู่ภายใต้องค์กรอิสระที่มีอำนาจล้นฟ้า


สิ่งใดที่ได้มาโดยประชาชนมีส่วนร่วม เขาย่อมต้องเห็นคุณค่า มีความรักและหวงแหน
ดังนั้นพื้นฐานที่ทำให้ รธน.เป็นรากฐานที่ถูกต้องคือต้องมาจากการตอบโจทย์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
ให้เขามีส่วนร่วม มีสิทธิ เสรีภาพ ปกป้องผลประโยชน์คนยากจน สร้างระบบการเมืองที่เข้มแข็ง

ทุกวันนี้เราเสียเวลา งบประมาณ และที่สำคัญคือโอกาสไปมากมายแล้ว
ขอให้ทุกคนไตร่ตรองด้วยตัวเอง อย่าให้ใครชี้นำ นานแค่ไหนเราก็รอได้ ขอให้ได้สิ่งที่จะเป็นพื้นฐานความถูกต้องเสียที
จะได้พ้นจากวังวนเก่าๆ ที่รีเซตไม่จบสิ้น




วันที่ 7 สิงหาคม ใครตัดสินใจอย่างไร ขอให้ออกไปแสดงพลังค่ะเพื่อลูกหลานวันข้างหน้าจะได้มี รธน. ที่เป็นของประชาชนที่แท้จริง


ความคิดเห็นที่ 9
เราก้าวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
การที่ใครจะบอกว่า ตนเอง เลือกอะไร ในสิ่งที่มีผลต่อชีวิตตัวเอง กลายเป็นความผิดตั้งแต่เมื่อไร

ผมไม่ได้บิดเบือนรัฐธรรมนูญ ผมไม่ได้ชักจูงใคร
ผมแค่บอกสิ่งที่ผมจะทำตามสิทธิของผม และเป็นหน้าที่ด้วย

ดังนั้นผมไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้

เราไม่ควรถูกความกลัวครอบงำในการใช้ชีวิต
ความคิดเห็นที่ 2
ส่วนตัวไม่เอาลากตั้งครับ

ถ้าอยากลากตั้งจริงๆ ก็ลดอำนาจลงให้เหมือนสภาขุนนาง UK ไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่