มรณานุสติกรรมฐาน น่าเสียใจจังฉันตายซะแล้ว

ก่อนจะฝึกมรณานุสติกรรมฐาน คิดว่าถ้าเราใจถึงและเลิกยึดติดกายสังขาร การฝึกจิตคงจะเป็นเรื่อง่าย
จากนั้นก็เลยตัดสินใจเริ่มพิจารณ์สังขาร ตั้งแต่มีชีวิต > ถูกทำร้าย > เลือดออก > ส้มลง > เริ่มตัวแข็ง > เริ่มขึ้นอืด  > > > ไปเรื่อยๆจนถึงกระดูกย่อยสลายกลายเป็นธาตุ

   แต่ในทันใดนั้นน้ำตาก็ไหล ข้างในมันรู้สึกเสียใจมากๆ เสียดายที่ตอนมีชีวิตอยู่ไม่ได้ทำ (มีความรู้สึกพวกนี้อีกเยอะแยะครับ)
ก็เลยออกจากสมาธิ ระหว่างการใช้ชีวิตก็พิจารณ์ว่า กายนี้ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ของใคร / ร่างนี้ไม่สะอาด จึงต้องอาบน้ำทุกวัน

   แล้วสิ่งที่ไม่อยากประสบก็เกิดขึ้น คือเรามองคนเป็นคนปกติ แต่จะคิดว่าผู้หญิงคนนี้สวย ผิวพรรดี แต่ไม่นานคงต้องเหลือเพียงโครงกระดูก ซึ่งโครงกระดูกนั้นไม่สวย สุดท้ายก็คืนสู่ธาตุ  ที่สมองคิดแบบนี้ทำให้จิตตก เบื่อชีวิต เบื่อผู้คน เบื่องาน สุดท้ายเอาแต่อยู่คนเดียว

ที่กระทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ผู้รู้ท่านใดที่พอรู้วิธิแก้ แนะนำด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
มรณานุสติกรรมฐานขั้นต้นท่านให้เราคิดอยู่เสมอว่าตัวเรานี้ต้องตายเอาแค่นี้ก่อน
ส่วนที่คุณจขกท พิจารณาไปมันไปเข้าอสุภกรรมฐานแล้วครับแต่ก็ดีแต่ที่คุณมีแต่เบื่อเพราะคุณมีแต่นิพพิทาญาณคุณควรมีสังขารุเปกขาญาณด้วย(สังขารุเปกขาญาณ=ความวางเฉยคิดว่ามันเป็นธรมดาของโลกและวางเฉยในขันธ์๕) หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานีท่านเทศน์ไว้ว่าถ้าปฏิบัติธรรมแล้วมีแต่ความเบื่อหน่ายในสังสารวัฏนี้เบื่อหน่ายโลกใบนี้เพียงอย่างเดียว(มีแต่นิพพิทาญาณ)แต่ขาดสังขารุเปกขาญาณ(ความวางเฉยในโลกนี้คิดว่าเป็นธรรมดา)มันก็มีแต่อยากจะฆ่าตัวตายฉะนั้นวิปัสสนาญาณสองตัวที่ผมได้บอกไปหลวงพ่อท่านแนะนำให้พิจารณาคู่กัน
สาธุ  .....เจริญในธรรม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่