ธนาคารแห่งประเทศไทย และ ธนาคารพาณิชย์ พร้อมรึยัง ที่จะแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าที่เกิดจากระบบอีเล็คโทรนิก ผมว่าไม่พร้อม

จริงๆแล้ว ผมว่า ระบบพร้อมเพย์ และ อีแบงค์กิ้ง รวมถึง ตู้ฝากเงิน ตู้ปรับบุ๊ค และ ระบบแบบไม่ต้องใช้คนในการ

ทำธุระกรรมทางการเงิน กับธนาคาร เป็นสิ่งที่ดี สะดวกมากๆ สำหรับผม

ส่วนตัวก็เคยใช้บริการ มาบ้างแล้ว ไม่ว่า จะปรับสมุด ตู้ฝากเงิน ถอนเงิน หรือแม้แต่ อีแบงค์กิ้ง ซึ่งก็ไม่เคยเจอปัญหา

ตอนนี้ ธนาคาร ก็ผลักดัน มาให้ทุกคนต้องใช้ระบบแบบนี้

แต่สิ่งที่ผมเห็นและเจอ คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย และ ธนาคารพาณิชย์ มีความพร้อมในด้านเทคโนโลยี และเครื่องมือ

แต่ไม่มีความพร้อม ในด้าน บุคลากร และ การแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภค

ธนาคาแห่งประเทศไทย ไม่เคย ออกกฎหมายเฉพาะ ว่า

ธนาคารพาณิชย์ ต้องแก้ปัญหา ต่างๆ ให้กับ ผู้บริโภค ภายในกี่วัน เช่น

ถ้าตู้ฝากเงิน เกิดข้อพิพาทย์ กับลูกค้า เช่น นับเงินแล้วได้จำนวนไม่ครบ ตามที่ลูกค้านับไว้ หรือ ตู้ฝากเงิน เกิด ขัดข้อง ขึ้นมา

แล้วลูกค้าไม่ได้รับการฝากเงิน เข้าบัญชี ปัญหานี้ต้องแก้ไขภายในกี่วัน ถ้าแก้ไขไม่ได้ ภายในกำหนด ต้องชดเชยอะไรบ้าง

ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่เคยกำหนดว่า คอลล์เซ็นเตอร์ ของแต่ละธนาคาร ต้องมีจำนวนเท่าไหร่

และถ้ามีการร้องเรียน เรื่อง โทรแล้ว คอลล์เซ็นเตอร์ ไม่รับสาย ติดต่อไปเป็นวัน ก็ไม่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่

ธนาคารพาณิชย์ ต้องทำอย่างไร แก้ปัญหาแบบไหน

ทั้งปัญหา การขายประกัน บัตรเครดิต โดนแฮ็ก และอื่นๆอีกมาก

ยิ่งธนาคารกรุงเทพ ทหารไทย ไม่มีตัวแทน ในพันทิป ลูกค้าที่เดือดร้อน ไม่รู้ต้องไปพึ่งใครเพื่อได้รับความเป็นธรรม

การที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องการ ให้ลูกค้าใช้ พร้อมเพย์ ก็นับเป็นสิ่งที่ดี

แต่ ถ้า ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังไมมีกฎหมาย หรือ มารตการ เยียวยา ลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบจากระบบ ที่เป็นแบบแผนชัดเจน

อยากถามว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย จะให้คนไทย ใช้ระบบอีเล็คโทรนิก หรือ พร้อมเพย์ ได้อย่างสบายใจได้อย่างไร

เรื่อง ง่ายๆ แค่ ธนาคารแห่งประเทศไทย เอาปัญหา ที่พวกผม โทรแจ้งไป

เอามาแจกแจง แล้ว ออกกฎหมายมาเลย ว่า ถ้า ตู้ฝากเงิน มีปัญหา ธนาคารพาณิชย์ต้องแก้ปัญหาแบบนี้ แบบนี้

ภายใน กี่วัน ถ้าเกินจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายดอกเบี้ย จ่ายค่าเสียเวลา และ อื่นๆ ให้กับลูกค้า

ถ้า คุณได้ ขนาดนี้ ผมว่า คนไทยก็คงไม่ต้องกลัว ว่า ถ้าใช้แล้วเกิดปัญหา จะไม่มีใครรับผิดชอบ