พ่อไม่รู้ว่าเป็นโรคหัวใจ แต่ต้องมากำเริบเพราะคนที่เป็นญาติ

พ่อรู้สึกว่าหัวใจแปลกๆ มา 4-5 ปี เค้าก็รักษาสุขภาพมากขึ้นเลิกดื่มกาแฟ ออกกำลังกายเบาๆ ทุกเช้ามาตลอดมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับคอลเลตเตอรอล ไปหาหมอตามที่หมอนัดตลอดทุกๆ เดือนไม่พบอาการผิดปกติอะไรนอกจากไขมันในเลือดสูง พ่อก็คอยคุมเรื่องอาหาร ทุกๆ วันพ่อจะร่าเริง แจ่มใสไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้คิดมาก (พ่อเกษียรแล้ว อยู่บ้านเลี้ยงหลาน) จู่ๆ ก็มีคนที่เรียกตัวเองว่าญาติ(สะใภ้ของลูกพี่ชายแม่) มีอาชีพขายประกันบ้านอยู่ใกล้กันแต่ไม่ค่อยไปมาหาสู่ ช่วงนี้เข้ามาที่บ้านบ่อยมากง่ายๆ เลยคือเข้ามาตีสนิท สักพักมาเสนอตรวจโรคหัวใจฟรีที่ รพ. พ่อกับแม่จึงไปตรวจ แม่ปกติ ส่วนพ่อหัวใจเต้นแปลกๆ หมอเลยให้ไปตรวจเพิ่มญาติคนนี้ร้อนรนกระวนกระวายมากเสมือนว่ามันคือเรื่องใหญ่ราวกับพ่อเค้าตาย อาสาจะพาตรวจเพิ่มรับเป็นธุระทุกอย่างบอกกับพ่อว่ามันอันตรายมีความเสี่ยงที่จะเกิดอะไรขึ้นได้ทุกเมื่อ ครั้งแรกเค้าไปตรวจกับพ่อ 2 คนผมไม่รู้ว่าเค้าพูดอะไรกับพ่อบ้างหมอตรวจความดันพ่อไม่ลดตรวจหลายรอบมาก ยังไงความดันก็ไม่ลดหมอจึงนัดวันเข้ามาตรวจใหม่พอกลับมาบ้านพ่อมีอาการไม่สดใสดูท้อแท้ไปหมดวันรุ่งขึ้นถึงกับหน้ามืดล้มทั้งยืน พอญาติคนนี้รู้เรื่องก็รีบโทรหาผมบอกว่าพ่อไม่ไหวแล้วจะต้องรีบพาไป รพ. ด่วนรีบลางานกับมาเลยนะ(ผมทำงานอยู่ ตจว) ผมจึงโทรหาแม่ แม่บอกว่าพ่อไม่เป็นอะไรแล้วแค่หน้ามืดเวียนหัวเฉยๆ แม่เล่าว่าพ่อเค้านั่งมองหน้าหลานแล้วพูดว่า "ต่อไปนี้ ปู่จะไม่ได้อุ้มหลานไม่ได้แล้วนะ" ผมปวดใจมาก   วันรุ่งขึ้นแม่กับญาติพาพ่อไป รพ. คราวนี้ทุกอย่างหมอตรวจดูปกติหมด หมอนัดฟังผลอย่างละเอียดอีกที จึงทำให้ผมคิดว่าที่อาการของพ่อกำเริบเพราะญาติคนนี้เค้าพูดจนคนแก่กังวลและคิดมาก พอบอกกับพ่อและแม่เรื่องญาติคนนี้เข้ามาหวังอะไรบางอย่างกับครอบครัวของเราเค้าก็บอกว่าผมคิดมากเกินไปเค้ามาเพราะหวังดี

อยากถามว่าจะมีวิธีพูดยังไงบ้างที่จะทำให้พ่อหายคิดมากกลับมาสดใสเหมือนเดิม ปกติพ่อจะเป็นคนสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่ทุกวัน จริงๆ รายละเอียดมีเยอะกว่านี้แต่ผมอยากจะโฟกัสแค่พ่ออย่างเดียวไม่อยากยุ่งกับญาติคนนี้