อยากย้อนความทรงจำ ใครมีเทคนิคบ้างค่ะ

สวัสดีคะ กระทู้แรกเลยตื่นเต้น เริ่มเลยนะค่ะ เราอยากมีเทคนิค ย้อนความทรงจำกลับไปตอนนั้น เมื่อตอนกลางวัน เรื่องมันมีอยู่ว่าเราต้องการแต่งเนื้อเรื่องทำการ์ตูนแอนิเมชั่น เพื่อทำโปรเจค ซึ่งมันก็ยากพอตัวเลย ไหนจะเป็นเนื้อเรื่อง บทพูด บทบรรยาย ในขณะบรรยายภาพตอนนั้นเป็นยังไง คืออยากทำให้มันออกมาดีที่สุดอ่ะคะ และเมื่อตอนกลางวันสมองฉันแล่นปรี๊ด คิดได้เป็นฉาก ๆ แต่ละฉากนี่แบบโดนใจสุด แต่ไม่ได้จดไว้ไม่ได้อะไรทั้งสิ้น เพราะถ้าเราจดปุ๊ปอินเนอร์ก็จะหมด เพราะเราต้องทำท่าทางประกอบ เป็นทั้งผู้บรรยาย เป็นทั้งตัวละคร คิดว่าแค่จะลองทำดูเล่น ๆ แต่แบบโอ๊ยโค_ตดีงามพระรามแปดเลย ชอบมาก แต่พอหมดแรงก็นอนพักแปปนึง ตอนนั้นก็ยังพอจำได้คิดว่าน่ะ ขึ้นไปหาน้อง เพื่อที่เราจะได้สร้างอินเนอร์จัดเต็มแบบไม่ขัดจังหวะ เพราะถ้าเรากำลังอินอยู่แล้วไปจดมันจะสดุดเอาได้ เลยจะให้น้องช่วยโน๊ตให้ เราเริ่มไปได้นิดหน่อย อินเนอร์ก็ยังไม่มา มีอาการเครียดเกืดขึ้นขอไม่เล่า แต่บอกไว้ประโยคนึงที่เหมือนเสี้ยนฝังใจเลยคะ พ่อเราพูดว่า เก่งนักก็เอาตัวเองให้รอด นี่มันประโยคตัดหางปล่อยวัดเลยใช่ไหมเนี่ย ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากเขา แต่จะว่าไปบางครั้งก็เอือมตัวเองอยู่เหมือนกันอะค่ะ เจอประโยคนี้ไปร้องไห้เบา ๆ แต่ไม่เป็นไร เขียนเนื้อเรื่องต่อ คือแบบมันเครียดมันตื่อ สมองคิดไรไม่ออกแล้วค่ะ ทำไงก็คิดไม่ได้ ไปไม่เป็นเลยทีนี้ เหมือนกับว่าสมองของเรากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่แล้วเราก็พยายามเอาอีกเรื่องเข้ามาแทรกซึ่งมันไม่ได้คะ ทำไม่ได้ อยากรู้ว่าถ้าเราไปนอนแล้ว ตื่นมาหายเครียด มันจะคิดออกจริง ๆ หรอคะ เสริตดูในผู้รู้มา G แล้วใครพอมีเทคนิคย้อนความทรงจำไหมคะ เทคนิคอะไรก็ได้ที่ช่วยให้สมองโปร่ง ไม่เครียด ไม่เอาปลงนะคะทำแล้วไม่ได้ผล ซึ่งปัญหานี้มันก็เหมือนกับการคิดนิยายไม่ออกใช่ไหมคะ ใครมีเทคนิคช่วยแชร์กันกน่อยน่ะคะ ไม่รู้ว่าแท็กผิดห้องหรือป่าวขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
สวัสดีครับกระผมศาสตราจารย์ X จากมหาวิทยาลัยแคบบริดแห่งกรุงอิงแลนด์
ขอนำความรู้งานวิจัยทางด้านจิตวิทยา มาอธิบายว่าความทรงจำหรือส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึกนั้น หากเราพยายามนึกมันจะยิ่งทำให้นึกไม่ออก ก็เหมือนลิงที่ยิ่งตามมันยิ่งหนี เพราะฉนั้นเราควรจะไม่คาดหวังว่าเราจะย้อนความทรงจำกลับไปได้  

วิธีที่ดีที่สุดนั้นวิจัยมาแล้วว่า ถ้านึกเนื้อเรื่องเก่าไม่ออกคุณไม่ต้องนึก แต่ให้คุณแต่งเนื้อเรื่องใหม่ขึ้นมาเลย โดยต้องยึดในความเชื่อมั่นในตนเอง    พอทำแบบนี้แล้วเราจะหายเครียดเพราะเราไม่พยายามไปไล่ตามมัน ในบางเคสนั้นความทรงจำเก่าจะกลับมาหาเค้าเองด้วยซ้ำ  
และก็อย่าพยายามที่จะหายเครียดอย่าไปคาดหวังว่าตัวเองจะต้องหายเครียดด้วยวิธีการใดๆก็ตาม เพราะการหายเครียดมันไม่มีเทคนิค บทจะหายมันก็หายเครียดเอง ไม่ต้องไปหาเทคนิคใดๆทั้งสิ้น เพราะการหาเทคนิคมันก็คือการคาดหวังยิ่งเราคาดหวังมันก็ยิ่งกดดัน  

เค้าค้นพบมาแล้วว่าวิธีการดึงความทรงจำที่ดีที่สุดคือ การก้าวเดินไปข้างหน้า คิดค้นวิธีการใหม่ๆโดยไม่ต้องพึ่งของเก่า
ความทรงจำใหม่มีประสิทธิ์ภาพดีกว่าของเก่า 40%  เพราะความคิดใหม่นั้นสดกว่าของเก่าเสมอ
และบทละครที่ดีนั้นไม่ได้ฟิกอยู่แค่บทเดียว ยังมีอีกหลายร้อยพันล้านบทที่รอให้เราไปค้นพบมันอยู่
วิธีนี้จะทำให้เราเดินไปข้างหน้าแล้วแรงบันดาลใจมันจะพุ่งมาหาเราเองโดยไม่จำเป็นต้องไปเค้นมันเลย
เหมือนกับพระเจ้าประทานบทละครให้เราโดยที่เราแทบไม่ต้องพยายามคิดให้เสียเวลา

ขอให้โชคดีกับระบบความทรงจำนะครับ

ศาสตราจารย์ X แคบบริด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่