คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
สวัสดีครับกระผมศาสตราจารย์ X จากมหาวิทยาลัยแคบบริดแห่งกรุงอิงแลนด์
ขอนำความรู้งานวิจัยทางด้านจิตวิทยา มาอธิบายว่าความทรงจำหรือส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึกนั้น หากเราพยายามนึกมันจะยิ่งทำให้นึกไม่ออก ก็เหมือนลิงที่ยิ่งตามมันยิ่งหนี เพราะฉนั้นเราควรจะไม่คาดหวังว่าเราจะย้อนความทรงจำกลับไปได้
วิธีที่ดีที่สุดนั้นวิจัยมาแล้วว่า ถ้านึกเนื้อเรื่องเก่าไม่ออกคุณไม่ต้องนึก แต่ให้คุณแต่งเนื้อเรื่องใหม่ขึ้นมาเลย โดยต้องยึดในความเชื่อมั่นในตนเอง พอทำแบบนี้แล้วเราจะหายเครียดเพราะเราไม่พยายามไปไล่ตามมัน ในบางเคสนั้นความทรงจำเก่าจะกลับมาหาเค้าเองด้วยซ้ำ
และก็อย่าพยายามที่จะหายเครียดอย่าไปคาดหวังว่าตัวเองจะต้องหายเครียดด้วยวิธีการใดๆก็ตาม เพราะการหายเครียดมันไม่มีเทคนิค บทจะหายมันก็หายเครียดเอง ไม่ต้องไปหาเทคนิคใดๆทั้งสิ้น เพราะการหาเทคนิคมันก็คือการคาดหวังยิ่งเราคาดหวังมันก็ยิ่งกดดัน
เค้าค้นพบมาแล้วว่าวิธีการดึงความทรงจำที่ดีที่สุดคือ การก้าวเดินไปข้างหน้า คิดค้นวิธีการใหม่ๆโดยไม่ต้องพึ่งของเก่า
ความทรงจำใหม่มีประสิทธิ์ภาพดีกว่าของเก่า 40% เพราะความคิดใหม่นั้นสดกว่าของเก่าเสมอ
และบทละครที่ดีนั้นไม่ได้ฟิกอยู่แค่บทเดียว ยังมีอีกหลายร้อยพันล้านบทที่รอให้เราไปค้นพบมันอยู่
วิธีนี้จะทำให้เราเดินไปข้างหน้าแล้วแรงบันดาลใจมันจะพุ่งมาหาเราเองโดยไม่จำเป็นต้องไปเค้นมันเลย
เหมือนกับพระเจ้าประทานบทละครให้เราโดยที่เราแทบไม่ต้องพยายามคิดให้เสียเวลา
ขอให้โชคดีกับระบบความทรงจำนะครับ
ศาสตราจารย์ X แคบบริด
ขอนำความรู้งานวิจัยทางด้านจิตวิทยา มาอธิบายว่าความทรงจำหรือส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึกนั้น หากเราพยายามนึกมันจะยิ่งทำให้นึกไม่ออก ก็เหมือนลิงที่ยิ่งตามมันยิ่งหนี เพราะฉนั้นเราควรจะไม่คาดหวังว่าเราจะย้อนความทรงจำกลับไปได้
วิธีที่ดีที่สุดนั้นวิจัยมาแล้วว่า ถ้านึกเนื้อเรื่องเก่าไม่ออกคุณไม่ต้องนึก แต่ให้คุณแต่งเนื้อเรื่องใหม่ขึ้นมาเลย โดยต้องยึดในความเชื่อมั่นในตนเอง พอทำแบบนี้แล้วเราจะหายเครียดเพราะเราไม่พยายามไปไล่ตามมัน ในบางเคสนั้นความทรงจำเก่าจะกลับมาหาเค้าเองด้วยซ้ำ
และก็อย่าพยายามที่จะหายเครียดอย่าไปคาดหวังว่าตัวเองจะต้องหายเครียดด้วยวิธีการใดๆก็ตาม เพราะการหายเครียดมันไม่มีเทคนิค บทจะหายมันก็หายเครียดเอง ไม่ต้องไปหาเทคนิคใดๆทั้งสิ้น เพราะการหาเทคนิคมันก็คือการคาดหวังยิ่งเราคาดหวังมันก็ยิ่งกดดัน
เค้าค้นพบมาแล้วว่าวิธีการดึงความทรงจำที่ดีที่สุดคือ การก้าวเดินไปข้างหน้า คิดค้นวิธีการใหม่ๆโดยไม่ต้องพึ่งของเก่า
ความทรงจำใหม่มีประสิทธิ์ภาพดีกว่าของเก่า 40% เพราะความคิดใหม่นั้นสดกว่าของเก่าเสมอ
และบทละครที่ดีนั้นไม่ได้ฟิกอยู่แค่บทเดียว ยังมีอีกหลายร้อยพันล้านบทที่รอให้เราไปค้นพบมันอยู่
วิธีนี้จะทำให้เราเดินไปข้างหน้าแล้วแรงบันดาลใจมันจะพุ่งมาหาเราเองโดยไม่จำเป็นต้องไปเค้นมันเลย
เหมือนกับพระเจ้าประทานบทละครให้เราโดยที่เราแทบไม่ต้องพยายามคิดให้เสียเวลา
ขอให้โชคดีกับระบบความทรงจำนะครับ
ศาสตราจารย์ X แคบบริด
แสดงความคิดเห็น
อยากย้อนความทรงจำ ใครมีเทคนิคบ้างค่ะ